ฮาร์วีย์มองดูสีหน้าเศร้าสร้อยของเอลเลนแล้วพยักหน้าเรื่องนี้ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับเขาอยู่แล้วเอลเลนถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากได้รับคำตอบจากฮาร์วีย์“ฉันดีใจที่ได้รู้จักคุณนะฮาร์วีย์" เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ฉันต้องขอบคุณที่อยู่เคียงข้างฉันด้วย"“แต่ถึงกระนั้นฉันก็ยังอยากอยู่กับอีเดน"จากนั้นเธอก็เดินไปหาอีเดนก่อนจะสวมแหวนไข่นกพิราบวงนั้น พร้อมเผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า“จากนี้ไปถ้าคุณทำอะไรนอกลู่นอกทางอีกล่ะก็อีเดน ก็อย่ามาโทษฉันในเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไปล่ะ!”จากนั้นเธอก็เอนกายเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยสีหน้าสมหวัง“ผมรู้แล้วครับ!” อีเดนร้องไห้“ผมจะทำตามคำสั่งของเจ้าหญิงของผมทุกอย่าง!”“อีเดนไม่ได้ใส่ใจต่อความเจ็บปวดบนใบหน้าเลย ก่อนจะอุ้มเอลเลนขึ้นมาจากพื้นแล้วหอมแก้มเธอจากนั้นเขาก็จ้องมองฮาร์วีย์ราวกับเป็นผู้ชนะ'ทำไมคนที่เกาะผู้หญิงกินอย่างเขาถึงได้พยายามปีนเกลียวกับนายน้อยแห่งตระกูลคอบบ์ด้วยล่ะ?''ช่างตลกสิ้นดี!''เขาไม่รู้ขีดจำกัดของตัวเองหรอกเหรอ?'อีเดนวางแผนจะตบหน้าฮาร์วีย์เพื่อระบายความโกรธหลังจากส่งเอลเลนกลับไปแล้วในทางกลับกันเอลเลนก็มองฮาร์ว
"ออกไปซะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”อีเดนมีสีหน้าภาคภูมิใจเมื่อเห็นสีหน้าที่ดู 'น่าเวทนา' ของฮาร์วีย์“เพื่อเห็นแก่เอลเลน วันนี้ฉันจะปล่อยแกไป!“แต่อย่ามาโทษฉันล่ะ สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้!”ฮาร์วีย์เหลือบมองเอลเลนโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเดียว เขาจะไม่ไล่บี้อีเดนเพื่อเห็นแก่เธอด้วย แต่...ถ้าอีเดนก่อปัญหาขึ้นมามากกว่านี้ ฮาร์วีย์ก็คงไม่ปล่อยอีเดนเอาไว้แน่“เดี๋ยวก่อนฮาร์วีย์!”เมื่อฮาร์วีย์กำลังจะเดินจากไป เอลเลนก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้เธอโบกมือให้ฝูงชนเข้ามารวมตัวกัน เธอมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย แต่ในไม่ใช้สีหน้านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น“อีเดนเป็นแฟนของฉัน คุณเป็นเพื่อนที่ดีของฉันรวมทั้งเคทีด้วย!“ฉันรู้ว่าคุณกับเคทีไม่ได้ไยดีต่อตระกูลคอบบ์นัก ฉันรู้ว่าคุณกำลังวางแผนที่จะเปิดธุรกิจขึ้นมาเพื่อต่อต้านพวกเขาในวันฉลองครบรอบ “ฉันรู้ว่าคุณได้มอบสูตรน้ำอมฤตสีเงินสูตรดั้งเดิมของตระกูลคอบบ์ให้แก่เคทีด้วย...“แต่เพื่อเห็นแก่ฉันคุณช่วยยุติเรื่องนี้อย่างสันติได้ไหมคะ?“กรุณามอบสูตรยานั้นให้กับอีเดนเถอะค่ะฮาร์วีย์“เขาจะให้เงินในจำนวนที่คุณไม่มีวันหามาได้ในตลอดชีวิ
ฮาร์วีย์ปฏิเสธข้อเสนอของอีเดนอย่างใจเย็นหลังจากได้ยินผู้ชายที่ว่านอนสอนง่ายกล้าที่ตอบโต้...ใบหน้าที่งดงามของเอลเลนก็ดูมืดมนลงทันที แล้วเธอก็ขมวดคิ้วเธอกันฟันกรอดแล้วตะโกนใส่หน้าฮาร์วีย์“ในเมื่อคุณเป็นคนไร้หัวใจถึงขนาดนี้นะฮาร์วีย์! ก็ได้… ในเมื่อคุณไม่ให้ความเคารพฉันเลย ฉะนั้นก็อย่าโทษฉันในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปล่ะ“คุณจะไม่ได้ใช้อาคารสำนักงานของฉัน รวมทั้งไม่ได้ความช่วยเหลือจากบริษัทของฉันอีกต่อไป!“บอกคนของคุณให้ขนทุกสิ่งทุกอย่างออกไปในวันพรุ่งนี้...ไม่สิ...เดี๋ยวนี้เลย!“ฉันจะทำลายสถานที่แห่งนั้นให้ย่อยยับด้วย! คุณจะไม่ได้อะไรจากฉันเลย!“ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องช่วยแฟนและครอบครัวในอนาคตของฉันก่อน ฉันไม่สามารถไปอยู่ฝ่ายเดียวกับศัตรูได้!”“เอาทุกสิ่งทุกอย่างออกไปเหรอ?'“ทำลายสถานที่แห่งนั้นเหรอ?'ฮาร์วีย์หยุดชะงักทันที แล้วมองเอลเลนด้วยสีหน้าตกตะลึงหลังจากที่ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเธอแล้ว เขาก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้...แต่ทันทีที่เธอกลับมาคบกับอีเดน เธอก็พูดออกมาหมดโดยไม่ลังเลอะไรเลยฮาร์วีย์ยิ้มให้เธอเล็กน้อย "คุณแน่ใจเหรอว่าอยากให้ผมทำแบบนั้น?”“คุณแน่ใจเหรอว่าอยาก
ฮาร์วีย์ถอนหายใจในสายตาของเขานั้นเอลเลนเป็นคนมีเหตุผลดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าเธอจะกลายเป็นแบบนี้เพื่อนคนอย่างอีเดนได้เธอกำลังพยามจะใช้ประโยชน์จากฮาร์วีย์ แต่เธอทำตัวราวกับว่าเธอกำลังดุด่าเขาด้วยความมีคุณธรรมสูงส่งฮาร์วีย์พูดไม่ออกเลยด้วยซ้ำไป“ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ ฉันรู้ดีว่าสูตรยานั้นมีมูลค่าขนาดไหน!”เอเลนมีความภาคภูมิใจเพิ่มมากขึ้นหลังจากโดนฮาร์วีย์ดูหมิ่นดูแคลน เธอทำสีหน้าที่ดูแย่มาก“แต่ถึงกระนั้นคุณก็ควรจะรู้ว่าสูตรยาที่อยู่ในมือคุณนั้นยังคงเป็นของตระกูลคอบบ์!“คุณไม่เข้าใจเหรอว่าคุณช่างเป็นคนหน้าด้านขนาดไหนที่ขโมยสูตรยานั้นไป แล้วมาเรียกร้องเงินทองเพื่อสิ่งนั้น?!“ใช่แล้ว!” อีเดนร้องบอกอย่างเย็นชา“สูตรยาของเราถูกขโมยไปเมื่อสี่สิบปีก่อน! ฉันสงสัยว่าแกจะเป็นคนขโมยไปในตอนนั้น!“ถ้าแกไม่มอบสูตรยานั้นให้กับเรา ฉันจะทำให้แกต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในห้องขัง!“คุณได้ยินไหมฮาร์วีย? เขาจะโทรหาตำรวจได้ทุกเมื่อ!” เอลเลนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“คุณเป็นแค่ผู้ชายที่มาจากประเทศ H คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลคอบบ์หรอก!“มอบสูตรยาให้เราซะ แล้วคุณจะได้รับเงินไปแบบไม่มีอ
"ฉันให้เวลาคุณสองชั่วโมง! ทำความสะอาดทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย!”“ถึงแม้ว่าฉันจะพังร้านทั้งร้านให้พินาศ แต่ฉันก็จะไม่ยอมให้คุณใช้มันหรอก!” เอลเลนร้องบอกในขณะกัดฟันแน่นอีเดนระเบิดหัวเราะออกมา“อย่าทำอะไรสุรุ่ยสุร่ายไปหน่อยเลยเอลเลน!“แค่มอบร้านนั้นให้กับตระกูลเราก็ได้ เราวางแผนที่จะเปิดร้านสัญลักษณ์ของแบรนด์ขนาดใหญ่อยู่แล้ว“เมื่อวันนั้นมาถึงคุณก็ควรมาเป็นเจ้าภาพในวันครบรอบของร้านเราด้วย เราจะแสดงให้คนทั้งเมืองเห็นว่าเราเป็นคู่รักที่มีความสุขมากที่สุดที่นี่!อีเดนจ้องมองฮาร์วีย์อย่างภาคภูมิใจ'คนบ้านนอกจากประเทศ H กล้าดียังไงมาต่อสู้กับฉัน?!' เขาคิดอยู่ในใจอย่างโกรธเกรี้ยว 'เขาอยากจะตายหรือยังไง?'เอลเลนจ้องมองฮาร์วีย์ เธออยากจะดูว่าเขาจะตอบโต้ยังไง เธออยากจะดูว่าเขาจะโกรธเกรี้ยวหรือไม่พอใจกับเรื่องนี้หรือเปล่า“ก็ได้" ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นเขาหันหลังกลับและเดินจากไปทันทีเขาไม่ได้พยายามที่จะขัดขวางใครเลย ท่าทีที่เขาแสดงออกมาทำให้ดูเหมือนว่าเอลเลนกับอีเดนกำลังพูดคุยอยู่กำแพงอิฐ ซึ่งเป็นการสนทนาที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเอลเลนตัวแข็งทื่อเธอคิดว่าฮาร์วีย์จะแสดงควา
เอลเลนพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของอีเดนถ้าฮาร์วีย์มีสูตรยานั้นจริง ๆ เขา ตอนนี้เขาก็คงรวยโคตร ๆ ไปแล้วล่ะ! ทำไมต้องมาเปิดร้านขายยากับเคทีตั้งแต่แรกด้วยล่ะ?ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเคทีก็หายตัวไปตลอดเวลาบางทีฮาร์วีย์อาจคุยโวเรื่องการเปิดร้านขายยาด้วยก็เป็นได้ เขาอาจแค่พยายามจะเรียกร้องความสนใจจากเอลเลน เพื่ออาศัยเธอให้ช่วยเขากลับมาฟู่ฟ่าได้อีกครั้งหลังจากสูญเสียโอกาสนี้ไปแล้ว ฮาร์วีย์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินจากไปพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย เป็นไปได้ว่าเอลเลนคงไม่มีโอกาสได้เจอหน้าเขาอีกแล้วเอลเลนลูบไล้ใบหน้าของอีเดนอย่างอ่อนโยนโดยไม่ลังเลอะไรเลย“ฉันขอโทษค่ะอีเดน คุณต้องได้รับบาดเจ็บอย่างมากก็เพราะฉัน...“ไม่เป็นไรเลยครับ“สำหรับคุณแล้วความเจ็บปวดนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย นี่คือสัญญลักษณ์แห่งความรักที่ผมมีต่อคุณ!“หลังจากนี้เราจะกันและกันมากขึ้น!”อีเดนส่งยิ้มเศร้า ๆ ให้เธอ“ผมจะไม่หาเรื่องอะไรกับฮาร์วีย์อีกเพื่อเห็นแกคุณ แต่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้คงไม่ทำอย่างนั้นแน่...“ไม่ว่าจะยังไงก็ตามผมก็ยังเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรแห่งนี้ แล้วฮาร์วีย์ก็มาทำร้ายผมในโ
"เราย้ายออกไปก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะคุณยอร์ก แต่เราไม่สามารถนำข้าวของทั้งหมดนี้ไปกับเราด้วยได้ คนงานทั้งหมดก็ทนกับสภาพอากาศอย่างนี้ไม่ได้ด้วย ถ้ายังหาสถานที่เก็บของพวกนี้ไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์ค่ะ!เหล่าสาวกของหลงเหมินสาขาฮ่องกงและลาสเวกัสที่เดินทางมาที่นี่จะต้องใจสลายกันขนาดไหน เมื่อมองเห็นวัสดุและสินค้าเหล่านี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากพวกเขาทุ่มเททั้งกายและใจให้กับสิ่งเหล่านี้ฮาร์วีย์ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง“ฮาร์เปอร์ พาคนงานออกไปดูว่ามีที่อื่นให้เราเช่าอีกได้ไหม“ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีราคาแพงขนาดไหน ซึ่งถ้ามีร้านที่เราสามารถซื้อได้ก็จะดีมากเอลเลนบอกว่าให้คุณคนย้ายออกจากร้านในวันเดียวกันนี้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้าพวกเขาย้ายออกไปก่อนเที่ยงคืนได้ฮาร์เปอร์รีบวิ่งออกไปพร้อมกับคนงานอีกสองสามคนฮาร์วีย์นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงหน้าร้านด้วยท่าทีสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาเมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงฮาร์เปอร์ก็กลับมาพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูแย่มาก และหายใจกระหืดกระหอบอย่างมาก“คุณยอร์กคะ! ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียงล้วนแต่เป็นร้านของตระกูลโมเรโน่ ตระกูลคอบบ์ หรือตระกูลลีทั้งนั้นเลยค่ะ“ฉันไม่ร
หลังจากลังเลมาทั้งคืนในที่สุดเอลเลนก็ตัดสินใจที่จะไม่ระงับอารมณ์เอาไว้ เนื่องจากฮาร์วีย์ไม่ได้เห็นคุณค่าในการให้ความช่วยเหลือของเธอเลยเช้าวันรุ่งขึ้นเธอจึงพาอีเดนและคนกลุ่มใหญ่ไปยังร้านที่ได้ปรับปรุงใหม่ เพื่อดูว่าฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ได้ย้ายออกไปหรือยังนอกเหนือจากสินค้าและวัสดุต่าง ๆ แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังอยู่ในจุดเดิม ซึ่งทำให้เอลเลนรู้สึกขัดใจนิดหน่อยที่เห็นอย่างนั้นหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นร้านค้าเล็ก ๆ ข้างอาคารสำนักงาน“ฮะ? ดูนั่นสิ! ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะได้ร้านใหม่แล้วนะ“เขาต้องขายสินค้าปลอมหรืออะไรสักอย่าง!“ช่างเป็นร้านที่เล็กเหลือเกิน และได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อสามสิบปีก่อน ผนังก็เป็นสีดำสนิทด้วย!“แม้แต่ร้านที่เอลเลนปรับปรุงใหม่ก็ยังดูด้อยกว่าร้านของตระกูลคอบบ์อย่างมาก แล้วนับประสาอะไรกับร้านนี้!“เขาไม่ได้เสียสติไปหลังจากพบกับความทุกข์ทรมานทั้งหมดนั้นหรอกใช่ไหม? ทำไมเขาถึงเปิดร้านแบบนี้ล่ะ?“คุณแน่ใจเหรอว่าคุณจะใช้สถานที่แห่งนี้ในการสร้างธุรกิจของคุณ?“คุณแน่ใจหรือว่าจะทำอะไรกับตระกูลคอบบ์ได้ด้วยสิ่งนี้?“คุณไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือไง? หรือตอนนี้