"ไร้เดียงสาเหรอ?”ฮาร์วีย์จ้องมองผู้หญิงเจ้าเสน่ห์ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วยิ้มให้จาง ๆ“ซีอีโอโมเรโน่ ผู้คนมักจะไม่รับรู้เรื่องราวที่อยู่นอกเหนือจากความรู้ของพวกเขาหรอกนะ“ตอนนี้คุณกำลังพูดให้ฟังดูเป็นเรื่องใหญ่โตมาก แต่คุณไม่กลัวจะโดนดูหมิ่นเหมือนคราวที่แล้วเหรอ?“คุณไม่เข้าใจเหรอว่าประสิทธิภาพของยาตัวนี้คือเหตุผลที่พวกเขาเอามาขาย?“ยาที่ตระกูลคอบบ์กำลังทำอยู่ตอนนี้เทียบกับยาส่วนใหญ่ในตลาดตอนนี้ไม่ได้เลย“คุณคิดว่าการที่ผมจะบดขยี้ธุรกิจแบบนั้นมันยากนักเหรอ?“บางทีตอนที่ผมเปิดธุรกิจนั้นอาจเป็นเวลาที่ผมสามารถสร้างตำนานให้ธุรกิจของผมก็ได้นะ!”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ฉันขอชื่นชมความไร้เดียงสาของคุณนะฮาร์วีย์"โนเอมิทำสีหน้าเยาะเย้ยแล้วเอามือกอดอก เผยให้เห็นร่องอกที่ดูน่ารื่นรมย์ของเธอ“คุณค่อนข้างมีประสบการณ์ โดยพอมีกลเม็ดเด็ดพรายซ่อนเอาไว้บ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะรู้จักธุรกิจนี้หรอกนะ“คุณควรสั่งกระเช้าดอกไม้สักสองสามใบเป็นอย่างน้อย เพราะจะดูน่าอายมากถ้าบริเวณทางเข้าไม่มีกระเช้าดอกไม้วางอยู่เลย!“ถ้าคุณไม่มีเงินซื้อ ฉันก็จะซื้อให้สักสองสามกระเช้าเพื่อเป็นการให้กำลังใจคุณ"คนอื่น
ฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่อโนเอมิและคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง แล้วเดินออกจากสถานที่แห่งนั้นไปด้วยท่าทีสบาย ๆ หลังจากให้คำแนะนำกับคนงานเสร็จแล้วงานทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นงานของเคที เขาจึงตัดสินใจเข้าไปพักในที่พักชั่วคราวของเธอจูเลียนเป็นคนจัดเตรียมวิลล่าที่ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองเอาไว้ให้ไม่ใช่มีแค่เคทีเท่านั้น แม้แต่ดีนซึ่งยังคงอ่อนแอมากก็ยังมาพักผ่อนที่นี่ด้วยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากคอยดูแลสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นฮาร์วีย์จึงรู้สึกสบายใจเมื่อมาอยู่ที่นี่หลังจากเดินมุ่งหน้าเข้าไปในห้องโถงหลักแล้ว ฮาร์วีย์ก็เห็นเคทีฮัมเพลงอย่างมีความสุขในขณะหั่นผักอยู่ในห้องครัวที่เปิดโล่งฮาร์วีย์หรี่ตามมองเมื่อเห็นภาพนั้น เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นหัวหน้าแก๊งทะเลใต้ที่กระหายเลือดจะแผ่รังสีออร่าแบบผู้หญิง ๆ ออกมาในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดินอยู่นั้นก็ทำให้สามารถมองเห็นรูปร่างที่เพรียวบางและงามสง่าของเธอได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่คิดลังเลที่จะโอบกอดเธอเอาไว้ฮาร์วีย์ถอนหายใจเพื่อหยุดยั้งหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นแรง จากนั้นจึงกระแทกตัวเข้ากับกำแพงหินอ่อน“คุณมาแล้วเหรอ?”เคทีเผยให้เห็นรอยยิ้
"ผู้คนข้างนอกบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่อดทน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะมีมากกว่าฉันไปอีกหนึ่งขั้นแล้ว" เคทีบอกฮาร์วีย์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมากเขาแค่ไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าเขาเคยชินกับการใช้ชีวิตอยู่กับตระกูลซิมเมอร์ในตลอดสามปีที่ผ่านมา“เอาล่ะ เราจะไม่พูดถึงเอลเลนในตอนนี้"ฮาร์วีย์ทำสีหน้าพึงพอใจหลังจากตักแกงเผ็ดเข้าปากไปสองสามคำ“ที่เราพบกันในตอนแรกนั้นก็เป็นเพราะคุณ“ทุก ๆ คนต่างคิดว่าผมใช้เธอในการไต่อันดับ แต่พวกคุณน่าจะรู้ความจริงกันแล้วนะ“ฉันคิดว่าฉันได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทางตรงข้าม"ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างช่วยอะไรไม่ได้ เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเอลเลนดูเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากหลังจากเรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้น เขาไม่ได้คาดหวังจะให้เกิดเรื่องแบบนี้เลยมิตรภาพของพวกเขากลายเป็นผุยผงในเวลาเพียงไม่กี่วัน เมื่อมาถึงจุดนี้ก็อยู่ห่างจากจุดที่จะเป็นศัตรูกันไม่ไกลนักอีเดนและโนเอมิเป็นคนยุยงให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วความพอใจของพวกเขากลับไม่สอดคล้องกัน“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง" เคทีตอบ“ฉันคบกับเอลเลนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เธอไปกับอีเดนไม่
โครม!ในขณะที่เคทียังตกตะลึงอยู่นั้น หน้าต่างของห้องโถงใหญ่ก็ถูกพังทลายให้เปิดออกหลังจากนั้นก็มีเงาตะคุ่มกระโดดเข้ามาจากนั้นเงาตะคุ่มนั้นก็เหนี่ยวไกปืนไปในทิศทางของฮาร์วีย์กับเคทีปัง ปัง ปัง!กระสุนหกนัดพุ่งออกมาเกือบจะพร้อมกัน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ทั้งสองคนหนีไปไหนได้ฮาร์วีย์ผลักเคทีออกไปทันทีแล้วเอาตัวบังไว้ในเวลาเดียวกันเขาก็กลิ้งตัวไปบนพื้น แล้วหยิบมีดขึ้นมาขว้างไปข้างหน้ามีเสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น แล้วเงาตระคุ่มนั้นก็เหวี่ยงอาวุธปืนไปข้างหน้าเพื่อสกัดกั้นมีดเอาไว้มีดเล่มนั้นเจาะเข้าไปในเครื่องดูดควันที่อยู่ในครัวนักฆ่าคนนั้นยืนตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับมีอาการมือสั่นอย่างมากในที่สุดร่างของคน ๆ นั้นก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเธอเป็นคนตัวเล็กที่สวมชุดนักเรียนและสวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ดูเหมือนเด็กนักเรียนโดยทั่ว ๆ ไปแต่ถึงกระนั้นเธอก็มีการเคลื่อนไหวที่แคล่วคล่องว่องไว และโจมตีได้อย่างรุนแรงมากสีหน้าที่สงบนิ่งของฮาร์วีย์ก็เพียงพอจะทำให้นักฆ่าหยุดนิ่งได้แล้วเธอเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตี เพียงเพื่อสร้างความประหลาดใจขึ้นมาเท
ฮาร์วีย์ถอดหน้ากากของนักฆ่าออก แล้วเอาถุงพิษที่อยู่ในปากของเธอออกมาด้วย จากนั้นเขาก็เตะปืนของเธอออกไปทันทีเผยให้เห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอดูเหมือนว่านักฆ่าคนนี้จะมีอายุยี่สิบกว่า ๆ เธอมีใบหน้าที่ดูงดงาม แต่สายตาของเธอเผยให้เห็นความเป็นคนดื้อรั้นผู้หญิงคนนั้นจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยวหลังจากรู้ตัวว่าเธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะฆ่าตัวเองได้ เธอจึงทำได้เพียงมองฮาร์วีย์อย่างเดือดดาล“บอกมา แกเป็นใคร? ใครส่งแกมา?” ฮาร์วีย์ถามพร้อมกับจ้องมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เธอเพียงแต่มองไปทางอื่นราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจว่าฮาร์วีย์ได้ทำอะไรกับเธอเลยเคทีเดินเข้ามาแล้วจ้องมองผู้หญิงคนนั้นพร้อมยิ้มน้อย ๆ“ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอจะต้องมาจากองค์กรนักฆ่าจากพระราชวังซึ่งมีซื่อเสียงโด่งดังในทะเลใต้“เธอมาที่นี่เพื่อฆ่าฉัน...ไม่ใช่ฮาร์วีย์"ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองเคทีโดยสัญชาตญาณก่อนจะทำเสียงเย้ยหยัน“ฉันขอเดาอีกครั้งนะ ถ้าฉันเดาไม่ผิดตระกูลคอบบ์จะต้องจ่ายเงินให้เธออย่างงามเพื่อมาฆ่าฉัน“พวกเขาคงคิดว่าการที่ฉันออกไปตั้งบริษัทของตัวเอง และ
เคทีหัวเราะเบา ๆ เมื่อรู้ว่าฮาร์วีย์มองเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง“ทำไมคุณไม่ลองเดาดูหน่อยล่ะว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจส่งเธอไปสถานีตำรวจแทนที่จะฆ่าเธอซะ?”“คุณส่งเธอไปโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจด้วยเหตุผลสองประการ...” ฮาร์วีย์ตอบ“ประการแรก...คุณต้องการให้ตระกูลคอบบ์รู้ว่าแผนการณ์ของพวกเขาล้มเหลว คุณต้องการให้พวกเขาตื่นตระหนก“ประการที่สอง...คุณต้องการให้พระราชวังต่อสู้กับพวกเขา“ไม่ว่าพวกเขาจะจ่ายเงินมามากขนาดไหน พวกเขาก็จะได้เห็นกับตาว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง ถ้าพวกเขาถูกหักหลัง“ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ที่คุณคิดแผนการณ์ได้อย่างทันท่วงที ก็อย่างที่เขาพูดกันนั่นแหละว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัว“แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย ผมจะให้จูเลียนส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลความปลอดภัยให้คุณอีกสองสามคน"เคทีพยักหน้าเธอพลิกสถานการณ์เพื่อต่อสู้กับตระกูลคอบบ์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะใช้กลอุบายอะไรหลังจากนี้…ในขณะเดียวกันที่บริเวณลานบ้านของตระกูลคอบบ์ภายในห้องประชุมอันเงียบสงบ คุณย่าคอบบ์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในขณะที่มือก็จับไม้เท้าเอาไว้ พร้อมกับสีหน้าที่ดูง่วงนอนจู่ ๆ โทรศัพท์ของเธอที่
มือของคุณย่าคอบบ์มีอาการสั่นเทาขึ้นอีกครั้ง เธอร้องตะโกนถามว่า "ล้อฉันเล่นอยู่เหรอไอ้สารเลว?“ต้องใช้เงินมัดจำมากขนาดนั้นเพื่อฆ่าไอ้คนบ้านนอกเนี่ยนะ?“ล้อฉันเล่นใช่ไหม?!”“ตามกฎแล้วเราไม่ได้รับอนุญาตให้บอกข้อมูลหรือข่าวสารใด ๆ กับลูกค้า แต่ถึงกระนั้นเราก็จะอธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันให้คุณทราบครับ“ตัวตนของคน ๆ นี้มีความพิเศษมาก เขาเป็นคนมีฝีมืออยู่นะครับ“ตามข้อมูลที่เราได้มานั้น เขาคือคนที่ช่วยเคทีทำการต่อสู้กับตระกูลคอบบ์“ถ้าเขายังไม่ตายก็บอกได้เลยว่าตระกูลของคุณจะต้องล่มสลายอย่างไม่ต้องสงสัย“แต่คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าอยากจะจ่ายเงินจำนวนนั้นหรือเปล่า"คน ๆ นั้นทำท่าจะวางสายโทรศัพท์สำหรับพวกเขาแล้วตระกูลคอบบ์ก็เป็นเพียงลูกค้าโดยทั่ว ๆ เท่านั้นเอง“เดี๋ยวก่อน!”คุณย่าคอบบ์หายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับทำสีหน้าแปลก ๆ“ฉันจะจ่าย!“แต่ต้องแน่ใจว่าจะเอาสูตรยานั้นมาให้ฉันได้หลังจากนี้!”“ไม่มีปัญหาครับ"คน ๆ นั้นยิ้ม“เราจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จอย่างแน่นอน“แม้ว่าตระกูลของคุณจะต้องตายไป เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้สำเร็จ และนำสูตรยานั้นมาให้คุณครับ"“ไอ้สารเลว!”คุณย่าคอบบ์วางสายโ
เคทีนั่งอยู่ข้าง ๆ ฮาร์วีย์ โดยยืดเรียวขาที่เพรียวบางของเธอออกไปพร้อมกับยิ้ม“ฉันเคยได้ยินมาว่าไม่ควรให้มีการเลือดตกยางออกก่อนถึงวันเปิดร้าน นี่มันช่างโชคร้ายจริง ๆ เลย“บางทีเราควรโทรเรียกตำรวจแล้วไล่คนก่อเหตุออกไปจากที่นั่นนะ"เคทีรู้สึกหดหู่ใจ เธอไม่สนใจที่จะต่อสู้หลังจากมีเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนั้นกับบริษัทของเราแน่"ฮาร์วีย์ส่งข้อความพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“แต่ถึงกระนั้นก็ไม่จำเป็นต้องโทรหาตำรวจหรอกนะ“พวกสารวัตรที่นี่ชอบท่องราตรีกันอยู่แล้ว คงจะไม่ดีแน่เลยถ้าเราไปรบกวนพวกเขา“พลเมืองดีอย่างเราควรจะจัดการปัญหาด้วยตัวเอง"หลังจากนั้นไม่นานรถคนนั้นก็ไปถึงเมื่อเปรียบเทียบกับความงามสง่าของร้านสัญลักษณ์ของแบรนด์จากตระกูลคอบบ์แล้ว ร้านของฮาร์วีย์ดูซอมซ่อกว่ามากไม่เพียงแต่ป้ายต่าง ๆ จะถูกทุบทำลายเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนในชุดคลุมหลายสิบคนยืนอยู่รอบ ๆ สถานที่แห่งนั้นด้วยชายรูปร่างสูงใหญ่เป็นผู้นำกลุ่มคนพวกนั้น มัดกล้ามของเขาช่างดูสะดุดตา ในขณะที่มีความอาฆาตแค้นแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาเขามามือเปล่าในขณะส่ายหัวต่อหน้าฮาร์เปอร์และคนอื่น