โครม!ในขณะที่เคทียังตกตะลึงอยู่นั้น หน้าต่างของห้องโถงใหญ่ก็ถูกพังทลายให้เปิดออกหลังจากนั้นก็มีเงาตะคุ่มกระโดดเข้ามาจากนั้นเงาตะคุ่มนั้นก็เหนี่ยวไกปืนไปในทิศทางของฮาร์วีย์กับเคทีปัง ปัง ปัง!กระสุนหกนัดพุ่งออกมาเกือบจะพร้อมกัน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ทั้งสองคนหนีไปไหนได้ฮาร์วีย์ผลักเคทีออกไปทันทีแล้วเอาตัวบังไว้ในเวลาเดียวกันเขาก็กลิ้งตัวไปบนพื้น แล้วหยิบมีดขึ้นมาขว้างไปข้างหน้ามีเสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น แล้วเงาตระคุ่มนั้นก็เหวี่ยงอาวุธปืนไปข้างหน้าเพื่อสกัดกั้นมีดเอาไว้มีดเล่มนั้นเจาะเข้าไปในเครื่องดูดควันที่อยู่ในครัวนักฆ่าคนนั้นยืนตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับมีอาการมือสั่นอย่างมากในที่สุดร่างของคน ๆ นั้นก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเธอเป็นคนตัวเล็กที่สวมชุดนักเรียนและสวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ดูเหมือนเด็กนักเรียนโดยทั่ว ๆ ไปแต่ถึงกระนั้นเธอก็มีการเคลื่อนไหวที่แคล่วคล่องว่องไว และโจมตีได้อย่างรุนแรงมากสีหน้าที่สงบนิ่งของฮาร์วีย์ก็เพียงพอจะทำให้นักฆ่าหยุดนิ่งได้แล้วเธอเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตี เพียงเพื่อสร้างความประหลาดใจขึ้นมาเท
ฮาร์วีย์ถอดหน้ากากของนักฆ่าออก แล้วเอาถุงพิษที่อยู่ในปากของเธอออกมาด้วย จากนั้นเขาก็เตะปืนของเธอออกไปทันทีเผยให้เห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอดูเหมือนว่านักฆ่าคนนี้จะมีอายุยี่สิบกว่า ๆ เธอมีใบหน้าที่ดูงดงาม แต่สายตาของเธอเผยให้เห็นความเป็นคนดื้อรั้นผู้หญิงคนนั้นจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยวหลังจากรู้ตัวว่าเธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะฆ่าตัวเองได้ เธอจึงทำได้เพียงมองฮาร์วีย์อย่างเดือดดาล“บอกมา แกเป็นใคร? ใครส่งแกมา?” ฮาร์วีย์ถามพร้อมกับจ้องมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เธอเพียงแต่มองไปทางอื่นราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจว่าฮาร์วีย์ได้ทำอะไรกับเธอเลยเคทีเดินเข้ามาแล้วจ้องมองผู้หญิงคนนั้นพร้อมยิ้มน้อย ๆ“ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอจะต้องมาจากองค์กรนักฆ่าจากพระราชวังซึ่งมีซื่อเสียงโด่งดังในทะเลใต้“เธอมาที่นี่เพื่อฆ่าฉัน...ไม่ใช่ฮาร์วีย์"ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองเคทีโดยสัญชาตญาณก่อนจะทำเสียงเย้ยหยัน“ฉันขอเดาอีกครั้งนะ ถ้าฉันเดาไม่ผิดตระกูลคอบบ์จะต้องจ่ายเงินให้เธออย่างงามเพื่อมาฆ่าฉัน“พวกเขาคงคิดว่าการที่ฉันออกไปตั้งบริษัทของตัวเอง และ
เคทีหัวเราะเบา ๆ เมื่อรู้ว่าฮาร์วีย์มองเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง“ทำไมคุณไม่ลองเดาดูหน่อยล่ะว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจส่งเธอไปสถานีตำรวจแทนที่จะฆ่าเธอซะ?”“คุณส่งเธอไปโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจด้วยเหตุผลสองประการ...” ฮาร์วีย์ตอบ“ประการแรก...คุณต้องการให้ตระกูลคอบบ์รู้ว่าแผนการณ์ของพวกเขาล้มเหลว คุณต้องการให้พวกเขาตื่นตระหนก“ประการที่สอง...คุณต้องการให้พระราชวังต่อสู้กับพวกเขา“ไม่ว่าพวกเขาจะจ่ายเงินมามากขนาดไหน พวกเขาก็จะได้เห็นกับตาว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง ถ้าพวกเขาถูกหักหลัง“ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ที่คุณคิดแผนการณ์ได้อย่างทันท่วงที ก็อย่างที่เขาพูดกันนั่นแหละว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัว“แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย ผมจะให้จูเลียนส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลความปลอดภัยให้คุณอีกสองสามคน"เคทีพยักหน้าเธอพลิกสถานการณ์เพื่อต่อสู้กับตระกูลคอบบ์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะใช้กลอุบายอะไรหลังจากนี้…ในขณะเดียวกันที่บริเวณลานบ้านของตระกูลคอบบ์ภายในห้องประชุมอันเงียบสงบ คุณย่าคอบบ์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในขณะที่มือก็จับไม้เท้าเอาไว้ พร้อมกับสีหน้าที่ดูง่วงนอนจู่ ๆ โทรศัพท์ของเธอที่
มือของคุณย่าคอบบ์มีอาการสั่นเทาขึ้นอีกครั้ง เธอร้องตะโกนถามว่า "ล้อฉันเล่นอยู่เหรอไอ้สารเลว?“ต้องใช้เงินมัดจำมากขนาดนั้นเพื่อฆ่าไอ้คนบ้านนอกเนี่ยนะ?“ล้อฉันเล่นใช่ไหม?!”“ตามกฎแล้วเราไม่ได้รับอนุญาตให้บอกข้อมูลหรือข่าวสารใด ๆ กับลูกค้า แต่ถึงกระนั้นเราก็จะอธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันให้คุณทราบครับ“ตัวตนของคน ๆ นี้มีความพิเศษมาก เขาเป็นคนมีฝีมืออยู่นะครับ“ตามข้อมูลที่เราได้มานั้น เขาคือคนที่ช่วยเคทีทำการต่อสู้กับตระกูลคอบบ์“ถ้าเขายังไม่ตายก็บอกได้เลยว่าตระกูลของคุณจะต้องล่มสลายอย่างไม่ต้องสงสัย“แต่คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าอยากจะจ่ายเงินจำนวนนั้นหรือเปล่า"คน ๆ นั้นทำท่าจะวางสายโทรศัพท์สำหรับพวกเขาแล้วตระกูลคอบบ์ก็เป็นเพียงลูกค้าโดยทั่ว ๆ เท่านั้นเอง“เดี๋ยวก่อน!”คุณย่าคอบบ์หายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับทำสีหน้าแปลก ๆ“ฉันจะจ่าย!“แต่ต้องแน่ใจว่าจะเอาสูตรยานั้นมาให้ฉันได้หลังจากนี้!”“ไม่มีปัญหาครับ"คน ๆ นั้นยิ้ม“เราจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จอย่างแน่นอน“แม้ว่าตระกูลของคุณจะต้องตายไป เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้สำเร็จ และนำสูตรยานั้นมาให้คุณครับ"“ไอ้สารเลว!”คุณย่าคอบบ์วางสายโ
เคทีนั่งอยู่ข้าง ๆ ฮาร์วีย์ โดยยืดเรียวขาที่เพรียวบางของเธอออกไปพร้อมกับยิ้ม“ฉันเคยได้ยินมาว่าไม่ควรให้มีการเลือดตกยางออกก่อนถึงวันเปิดร้าน นี่มันช่างโชคร้ายจริง ๆ เลย“บางทีเราควรโทรเรียกตำรวจแล้วไล่คนก่อเหตุออกไปจากที่นั่นนะ"เคทีรู้สึกหดหู่ใจ เธอไม่สนใจที่จะต่อสู้หลังจากมีเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนั้นกับบริษัทของเราแน่"ฮาร์วีย์ส่งข้อความพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“แต่ถึงกระนั้นก็ไม่จำเป็นต้องโทรหาตำรวจหรอกนะ“พวกสารวัตรที่นี่ชอบท่องราตรีกันอยู่แล้ว คงจะไม่ดีแน่เลยถ้าเราไปรบกวนพวกเขา“พลเมืองดีอย่างเราควรจะจัดการปัญหาด้วยตัวเอง"หลังจากนั้นไม่นานรถคนนั้นก็ไปถึงเมื่อเปรียบเทียบกับความงามสง่าของร้านสัญลักษณ์ของแบรนด์จากตระกูลคอบบ์แล้ว ร้านของฮาร์วีย์ดูซอมซ่อกว่ามากไม่เพียงแต่ป้ายต่าง ๆ จะถูกทุบทำลายเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนในชุดคลุมหลายสิบคนยืนอยู่รอบ ๆ สถานที่แห่งนั้นด้วยชายรูปร่างสูงใหญ่เป็นผู้นำกลุ่มคนพวกนั้น มัดกล้ามของเขาช่างดูสะดุดตา ในขณะที่มีความอาฆาตแค้นแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาเขามามือเปล่าในขณะส่ายหัวต่อหน้าฮาร์เปอร์และคนอื่น
มีรถปอร์เช่ 718 จอดอยู่ข้างถนนไม่ไกลนักจู่ ๆ เอลเลนที่เตรียมตัวจะเยาะเย้ยถากถางฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงหลังจากเห็นเคทีเดินเข้ามา เอลเลนก็เผยให้เห็นความสับสนในดวงตาของเธอ'เขาเป็นผู้ชายที่เกาะเคทีจริง ๆ ด้วย! เขาแค่มาอวดเบ่งโดยเอาเธอมาบังหน้า!'เขาพาเธอมาด้วยหลังจากโดนสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้เพ่งเล็ง!'ไอ้สารเลวเอ๊ย!'เอลเลนสาปแช่งฮาร์วีย์อยู่ในใจ เธอรู้สึกดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างก็ทำให้แอบเก็บซ่อนความขุ่นเคืองเอาไว้ในใจ'ทำไมเขาถึงยอมเป็นผู้ชายที่อยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของเคที แทนที่จะยอมเป็นลูกน้องของเธอ?!'ทำไม?!เธออารมณ์เสียเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่านี่คือความหึงหวงหรืออะไรกันแน่“นั่นเขา! นั่นคือไอ้สารเลวที่ทำร้ายนายน้อยคอบบ์!“ใช่แล้ว! เขาแอบย่องเข้าไปตบหน้าเขาสองสามครั้ง!“เขาไม่ให้ความเคารพองค์กรนั้นเลย!“เขาทำได้แต่การเล่นสกปรกเท่านั้น! เขาบอกว่าไม่มีใครในองค์แห่งนั้นที่เก่งกาจพอจะมาต่อสู้กับเขาได้! เขายังบอกอีกด้วยว่าเขาจะตบหน้าคุณ ถ้าคุณมาที่นี่ด้วย!”หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ผู้คนต่างก็อดที่จะกรีดร้องออกมาไม่ได้พวกเข
ฮาร์วีย์ยิ้มก่อนจะพูดว่า "ไม่เพียงแต่แกจะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่ไม่มีความชำนาญในการต่อสู้แล้ว แกยังชอบหาประโยชน์จากผู้คนจำนวนมากอีกด้วย แกจะต้องทนทุกข์ทรมานไม่ช้าก็เร็ว ถ้าแกเจอกับคนที่แข็งแกร่งกว่าแก“น้ำอมฤตสีเงินเป็นยาที่น่าทึ่งมาก แกอาจต้องการใช้มันในไม่ช้านี้“ท้ายที่สุดแล้วการป้องกันคือยาที่ดีที่สุดนะ"ฮาร์วีย์พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้กลัวการคุกคามของอาร์โลเลย“เจอคนที่แข็งแกร่งกว่าเหรอ?”อาร์โลหัวเราะอย่างเย็นชา“แกกำลังขู่ฉันในขณะที่แกกำลังจะขายของสิ่งนี้ที่นี่น่ะเหรอ?”อาร์โลใช้มือตบยาขี้ผึ้งขวดนั้นหล่นลงไปบนพื้น“ฉันกำลังจะจัดการกับแกตอนนี้แล้ว! จำคำของฉันเอาไว้!“ฉันจะเอายาของแกทาให้ทั่วตัวแกเลย! แล้วมาคอยดูกันว่ายาของแกจะใช้ได้ผลได้เร็วพอไหม!“เขาอุตส่าห์แสดงความเคารพที่มอบยาให้กับแก! ใครทำให้แกกล้าพูดจาแบบนั้นเหรอ?!”มีเสียงเย็นชาดังขึ้นมาแต่ไกลเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาเหล่าสาวกพวกนั้นหันกลับมาตะโกนใส่คนพวกนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว...แต่พวกเขาตัวสั่นงันงกขึ้นมาทันทีเมื่อมองดูใกล้ ๆ พวกเขาไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียวเมื่อเข่าของพวกเขาเริ่มรู้สึกอ่อนแร
เหล่าสาวกอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าฮาร์วีย์จะได้รับการช่วยเหลือจากเทรย์...แต่หลังจากมองดูเคทีแล้ว พวกเขาก็บอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น'ผู้ชายคนนี้คงขายผู้หญิงของเขาให้กับเทรย์...''ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นทำไมคนที่ทรงอำนาจอย่างเทรย์ถึงต้องคอยปกป้องฮาร์วีย์ด้วยล่ะ?'“หุบปากไปเลย!”เทรย์กลัวมากจนเตะอาร์โลล้มลงไปทันที“ฉันไม่ได้มีอะไรกับคุณยอร์กเลย!“ทำไมเขาต้องให้ฉันคอยช่วยเหลือด้วยล่ะ?! แกบ้าไปแล้วใช่ไหม?!“หยุดพูดเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว!“ถ้าแกไม่ใช่ศิษย์น้องของฉัน ฉันก็คงตัดขาดจากแกไปแล้ว!”หลังจากเตะอาร์โลไปอีกสองสามที เทรย์ก็ลากอาร์โลไปอยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ ก่อนจะบังคับให้เขาคุกเข่าลง“คุกเข่าให้ดีแล้วขอโทษคุณยอร์กซะ!“ถ้าเขาไม่ยกโทษให้แกก็เตรียมตัวตายได้เลย!เทรย์ตบหน้าอาร์โลอีกสองสามครั้งก่อนที่เขาจะเผยให้เห็นความเสียใจออกมาทางสีหน้า“ผมต้องขอโทษคุณยอร์กอย่างมากเลยครับ ผมไม่ได้อบรมสั่งสอนเขาให้ดี!”“ศิษย์พี่ คุณ...”ดวงตาของอาร์โลกระตุกอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่เข้าใจในเรื่องนี้เลยจริง ๆเมื่อเทียบกับความเจ็บแปลบบนใบหน้าแล้ว เขารู้สึกตกใจกับท่าทีของเท