"อ๊ากกก!”“ไม่นะ!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัวพวกเขาต่างมองเห็นสาวสวยที่จวนเจียนจะกลายเป็นเนื้อบดอยู่แล้วฟั่บบบ!ฮาร์วีย์เคลื่อนไหวร่างกายทันที!เขารีบกระโจนตัวขึ้นจากพื้นก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้าราวกับลูกธนู!เกิดเป็นภาพติดตาที่แทบจะมองเห็นได้ราวกับเป็นเอฟเฟกต์พิเศษ ที่จะเห็นได้เฉพาะในภาพยนตร์เท่านั้น!ในขณะที่เอลเลนกำลังจะหลับตาและยอมรับชะตากรรมของตนเองอยู่นั้น ก็มีแรงจับอันหนักแน่นมายึดตัวเธอให้อยู่นิ่งทันที เพื่อให้เธอตกลงไปบนพื้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างอ้าปากค้างทันที พวกเขาตกตะลึงจนไม่สามารถจะเปล่งคำพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียวเอลเลนตัวสั่นทันทีหลังจากมีประสบการณ์เฉียดตาย เมื่อมาถึงจุดนี้เธอก็รู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมากเธอเหลียวไปมองข้างหลังด้วยสีหน้าหวาดกลัวก่อนจะหันกลับไปหาฮาร์วีย์“ขอบคุณนะคะฮาร์วีย์!”เธอไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าเธอต้องตายแน่ ๆ ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ค่อยอุ้มเอลเลนให้ลุกขึ้น“ที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะจะช่วยชีวิตคุณเท่านั้น อย่าใส่ใจในสิ่งที่ผมพูดออกไปเลยนะ"เอล
ในใจของฮาร์วีย์นั้นเขาต้องการซื้อร้านนั้นในราคาตลาด เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ จากการกลั่นน้ำอมฤตแต่เอลเลนก็เอาแต่บอกว่าข้าวของ ๆ เธอก็เป็นของ ๆ ฮาร์วีย์ด้วย และเธออยากตอบแทนเขาที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้นอกเหนือจากการที่เธอเป็นเพื่อนของเคทีแล้ว เธอก็ยังเป็นปรปักษ์กับตระกูลคอบบ์ด้วย จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งทำให้ฮาร์วีย์คนพบว่าอีเดน คอบบ์คือแฟนเก่าของเอลเลนนั่นเองในขณะที่ฮาร์วีย์รู้สึกประหลาดใจกับโลกใบเล็ก ๆ ที่เขาอาศัยอยู่นั้น เขาก็นั่งเอนหลังในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามทางของมันโครงร่างของร้านถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่การผลิตยาสามารถดำเนินต่อไปได้ ร้านแห่งนี้ก็จะเปิดดำเนินการได้ในเวลาอันรวดเร็วธุรกิจของตระกูลคอบบ์อยู่อีกฟากหนึ่งของถนน เมื่อมองจากภายนอกก็ดูเหมือนว่าร้านนั้นกำลังฉลองวันครบรอบเปิดกิจการอยู่นะถ้าการปรับปรุงร้านของเอลเลนเสร็จเร็ว ธุรกิจของเคทีจะไล่ตามทันอย่างแน่นอนมีข่าวแพร่กระจายออกไปทันทีที่ป้ายร้านถูกแขวนเอาไว้ คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ต่างตกใจกันมาก“นางสารเลว!”คุณย่าคอบบ์นั่งตัวสั่นเทาอยู่บนเก้าอี้หลังจากได้ยินข่าวเรื
"ผมได้ยินมาว่าที่ฮาร์วีย์ได้รับการประกันออกไปจากสถานีตำรวจได้ก็เพราะเธอเช่นกัน“ที่เธอทำทั้งหมดนี้ก็เพราะต้องการแก้แค้นผม"อีเดนโชว์รูปกลุ่มเพื่อนของเขาที่อยู่ในโทรศัพท์สองสามรูปให้คุณย่าคอบบ์ดูเขาชี้ไปที่รูปของเอลเลนที่ตั้งใจถ่าย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเขาพูดถูก“ฉันเข้าใจล่ะ"คุณย่าคอบบ์รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย“ไม่ใช่ว่าฉันอยากให้เธอต้องลำบากใจกับเรื่องนี้หรอกนะอีเดน...“แต่นางเด็กคนนั้นเป็นแค่ลูกนอกสมรส แถมยังมาจากตระกูลโมเรโน่อีก!“เมื่อเธอเข้าไปยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับฮาร์วีย์ เราก็จะต้องลำบากแน่ถ้าพวกเขาไปช่วยนางหลานสาวที่เนรคุณของฉันมาห้ำหั่นกับเรา!“เราไม่สามารถหยุดระวังตัวได้!“ถ้าเอลเลนอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา เราก็ต้องจัดการกับเรื่องวุ่นวายอย่างอื่น ถ้าร้านของพวกเขาเกิดดังขึ้นมา!“วิธีที่ง่ายที่สุดคือรีบจัดการกับเขาเสียก่อนที่จะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาได้!”คุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าเย็นชาอีเดนครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น“คุณย่ากำลังบอกว่า...”คุณย่าคอบบ์หรี่ตามองอีเดน“ฉันรู้ว่านางสารเลวนั่นไม่มีสิทธิ์เป็นแฟนของเธอนะอีเดน แต่เธอจะต้องทำสิ่งนี้เพื่อเห็นแก่ตระกูลของเรา!“เธอต้องค
"ขอบคุณนะเอลเลน"ฮาร์วีย์ส่งบุหรี่ให้คนงานพวกนั้นก่อนจะยิ้มให้เอลเลน ซึ่งเข้ามารับหน้าที่หัวหน้างานอย่างตื่นเต้นโดยสวมเสื้อกั๊กตัวเล็ก ๆ เอาไว้“ร้านนี้คงไม่สามารถเปิดได้เร็วขนาดนี้ถ้าไม่ได้คุณช่วยนะเอลเลน" ฮาร์วีย์พูดในขณะยื่นขวดน้ำอัดลมให้“อย่างน้อยคุณก็รู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรเลี้ยงฉันสักมื้อสองมื้อดีไหมล่ะคะ?”เอลเลนเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองร้านที่เป็นสัญญลักษณ์ของแบรนด์ร้านนั้น“ถ้าคุณทำให้ฉันมีความสุขล่ะก็ ฉันจะลงโฆษณาให้คุณบนป้ายขนาดใหญ่สักสองสามป้าย! ร้านนี้จะต้องดังระเบิดในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน!”ฮาร์วีย์ปล่อยหัวเราะออกมา“แน่นอนอยู่แล้วว่าผมจะต้องเลี้ยงข้าวคุณ“แต่ผมจะเป็นคนจัดการเรื่องโฆษณาเอง!”แน่นอนว่าฮาร์วีย์รู้เรื่องความแค้นของเอลเลนที่มีต่ออีเดนนับเป็นเรื่องปกติที่นายน้อยจากตระกูลคอบบ์และสุภาพสตรีจากตระกูลโมเรโน่จะเป็นแฟนกันฮาร์วีย์ไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะนิสัยของอีเดน แต่เอลเลนมีสิทธิ์จะเลือกใครมาเป็นแฟนได้อย่างอิสระตรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด!จู่ ๆ โทรศัพท์ของเอลเลนก็ดังขึ้นหลังจากรับสายโทรศัพท์ได้ครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มให้ฮาร์วีย์อย่างรวดเร็ว“คุณโชคดีจังค่
เมื่อดูใกล้ ๆ แล้วฮาร์วีย์ก็เห็นโนเอมิยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนทันสมัยเหล่านั้นเธอสวมเดรสที่สวยงามซึ่งเผยให้เห็นเรียวขาขาว ๆ และเพรียวบางของเธอ อย่างน้อย ๆ นี่ก็ช่างเป็นภาพที่สะดุดตาอย่างยิ่ง พร้อมด้วยเหล่าแฟชั่นนิสต้าที่ดูโดดเด่นและแต่งกายหลากสีสัน ที่มารวมตัวกันเหมือนผลไม้ที่เก็บมาใหม่ ๆ...พวกผู้ชายอดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างไม่ยอมละสายตาน่าเสียดายที่ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปท้ายที่สุดแล้วสุภาพสตรีหมายเลขสองของตระกูลโมเรโน่ก็เป็นบุคคลที่ดูโดดเด่นเหลือเกินผู้ชายธรรมดา ๆ คงไม่สามารถติดต่อเธอได้ แม้แต่เจ้าชายและนายน้อยบางคนยังรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อเห็นภาพนี้ผู้หญิงคนนั้นดูงดงามราวกับดอกกุหลาบ...เธอดูมีเสน่ห์มากแต่หนามแหลมจะเริ่มงอกออกมาถ้ามีใครย่างกรายเข้าไปใกล้เธอมากเกินไปถ้าไม่มีความมั่นใจอย่างมากใครจะกล้าทำอย่างนั้นได้ล่ะ?“แม่คะ!”เอลเลนกระโจนเข้าไปหาเธอ“สวัสดีจ้ะทุกคน" เธอทักทายอย่างให้ความเคารพ“ลูกมาถึงแล้ว"โนเอมิชี้ไปที่เก้าอี้โดยไม่ได้มองเอลเลนเลย“นั่งสิ" โนเอมิพูดอย่างใจเย็นหลังจากนั้นเธอก็พูดคุยกับผู้คนรอบตัวต่อไปโดยไม่ชำเลืองมองไปทางฮาร์วีย์เลยฮาร์วีย์ถูกท
เอลเลนเป็นกังวลนิดหน่อย เธอรู้ว่าแม่ของเธอชอบดูถูกคนอย่างฮาร์วีย์...เธอคือคนที่ลากเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกโนเอมิทำการดูหมิ่นฮาร์วีย์เป็นอย่างมากที่ปล่อยให้เขายืนเดียวดายอยู่อย่างนี้แต่ถึงกระนั้นเอลเลนก็ไม่มีทางที่จะติติงอะไรในโอกาสอย่างนี้ในที่สุดหลังจากผ่านไปประมาณสิบนาทีบทสนทนาก็จบลงโนเอมิเผยรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเธอเหลือบมองฮาร์วีย์ หลังจากก้มมองนาฬิกา 'คาร์เทียร์ บัลลง เบลอ' บนข้อมือของเธอ เธอก็หรี่ตามองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเริงร่าแขกคนอื่น ๆ อีกสองสามคนก็เหลือบมองเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามและเย่อหยิ่งเช่นกัน“ฉันพบปัญหาร่างกายของตัวเองก็เพราะคุณได้เตือนฉันเมื่อคราวที่แล้ว“ฉันขอขอบคุณอย่างเป็นทางการที่ช่วยฉันในเรื่องนั้นนะ" โนเอมิกล่าวขอบคุณอย่างใจเย็นเธอทำราวกับว่าที่ปอดของเธอทำงานผิดพลาดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรตั้งแต่แรกจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่อยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอจะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ตราบใดที่เธอไม่ได้กดดันตัวเอง เธอคิดว่าฮาร์วีย์โชคดีที่เดาได้ถูกเท่านั้นเอง แถมเธอยังเชื่อด้วยว่าฮาร์วีย์ได้นำความโชคร้ายมาให้เธอถึง
หลังจากจ้องมองรอยยิ้มจาง ๆ ของโนเอมิ บัตรที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และผู้คนรอบข้างที่ทำสีหน้าหยอกล้อ...ฮาร์วีย์ก็ได้แต่หัวเราะเบา ๆเขาถูกพามาที่นี่เพื่อให้เลิกกับเอลเลนแต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้อยากจะคบกับเธอเลยทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนกันด้วยเรื่องบังเอิญแท้ ๆเขามาที่นี่เพื่อขอบคุณเอลเลนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาฮาร์วีย์วางแผนที่จะขอบคุณโนเอมิด้วยตัวเอง เขากำลังจะบอกเรย์ให้ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีด้วย...แต่หลังจากเห็นท่าทีที่น่ากลัวเช่นนี้ เขาก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้จริง ๆ แล้วฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจคำพูดของโนเอมิเลย ท้ายที่สุดแล้วเขากับเอลเลนไม่ใช่คู่รักกันตั้งแต่แรก สิ่งที่เขาต้องทำก็คืออธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดนั้นแต่เขารู้สึกอารมณ์ไม่ดีเมื่อเห็นการแสดงสีหน้าของโนเอมิ ราวกับเธอกำลังพยายามจะดุด่าว่ากล่าวผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินในขณะที่เขากำลังจะหันกลับมานั้นเอลเลนก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นทันที!เธอลุกขึ้นยืนแล้วจับมือฮาร์วีย์ไว้อย่างอ่อนโยน“แม่กำลังทำเกินไปนะคะ!“หนูพาเขามาที่นี่ก็เพราะแม่ขอให้เรียกเขามา!“แม่ทำอย่างนี้กับเขาได้ยังไง?!“นอกจากนี้เขาย
"เธอต้องฟังนะเอลเลน!”“ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามดึงเขาเข้ามาในวงสังคมของเรา...“เขาก็ยังดูไม่เข้าที่เข้าทางเลย! กลิ่นยาบนตัวเขามีแต่จะทำให้ทุกคนถอยห่าง“แม่ของเธอพร้อมกับคนทั้งตระกูลจะกลายเป็นตัวตลกสุดฮาของทะเลใต้ ก็เพราะความบุ่มบ่ามของเธอ!“ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใส่ใจกับตระกูลของเธอ แต่อย่างน้อยเธอก็ควรคิดถึงแม่ของเธอนะ!“แม่ของเธอต้องพบกับความลำบากในตระกูลอยู่แล้ว เธอยังมาทำให้แม่ของเธอต้องลำบากมากขึ้นด้วยการทำแบบนี้อีกเหรอ?”หลังจากเห็นเอลเลนมีสีหน้าสิ้นหวัง บุคคลที่สามก็กระโดดเข้ามาก่อนจะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“ฉันแน่ใจว่าเธอจะรู้จักตัวเองดีพอนะไอ้หนู“เราสามารถใช้เงินเพื่อแสดงความเคารพและโอบอุ้มธุรกิจของเธอได้ เราจะซื้อสินค้าของเธอมูลค่าหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ไว้ให้หมาที่บ้านเราใช้...“แต่อย่าคิดว่าจะเข้ามาอยู่ในแวดวงของเราได้ด้วยการขายยานะ!“มีบางอย่างที่เธอเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่เกิด!“และก็มีอีกหลายอย่างที่เธอไม่สามารถมีได้ในตลอดชีวิตนี้!“เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”คน ๆ นั้นเผยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะจิบไวน์ในแก้วของเธอเธอคิดว่าเธอพูดได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนแล้วในวงสังคมของพวกเ