หลังจากจ้องมองรอยยิ้มจาง ๆ ของโนเอมิ บัตรที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และผู้คนรอบข้างที่ทำสีหน้าหยอกล้อ...ฮาร์วีย์ก็ได้แต่หัวเราะเบา ๆเขาถูกพามาที่นี่เพื่อให้เลิกกับเอลเลนแต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้อยากจะคบกับเธอเลยทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนกันด้วยเรื่องบังเอิญแท้ ๆเขามาที่นี่เพื่อขอบคุณเอลเลนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาฮาร์วีย์วางแผนที่จะขอบคุณโนเอมิด้วยตัวเอง เขากำลังจะบอกเรย์ให้ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีด้วย...แต่หลังจากเห็นท่าทีที่น่ากลัวเช่นนี้ เขาก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้จริง ๆ แล้วฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจคำพูดของโนเอมิเลย ท้ายที่สุดแล้วเขากับเอลเลนไม่ใช่คู่รักกันตั้งแต่แรก สิ่งที่เขาต้องทำก็คืออธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดนั้นแต่เขารู้สึกอารมณ์ไม่ดีเมื่อเห็นการแสดงสีหน้าของโนเอมิ ราวกับเธอกำลังพยายามจะดุด่าว่ากล่าวผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินในขณะที่เขากำลังจะหันกลับมานั้นเอลเลนก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นทันที!เธอลุกขึ้นยืนแล้วจับมือฮาร์วีย์ไว้อย่างอ่อนโยน“แม่กำลังทำเกินไปนะคะ!“หนูพาเขามาที่นี่ก็เพราะแม่ขอให้เรียกเขามา!“แม่ทำอย่างนี้กับเขาได้ยังไง?!“นอกจากนี้เขาย
"เธอต้องฟังนะเอลเลน!”“ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามดึงเขาเข้ามาในวงสังคมของเรา...“เขาก็ยังดูไม่เข้าที่เข้าทางเลย! กลิ่นยาบนตัวเขามีแต่จะทำให้ทุกคนถอยห่าง“แม่ของเธอพร้อมกับคนทั้งตระกูลจะกลายเป็นตัวตลกสุดฮาของทะเลใต้ ก็เพราะความบุ่มบ่ามของเธอ!“ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใส่ใจกับตระกูลของเธอ แต่อย่างน้อยเธอก็ควรคิดถึงแม่ของเธอนะ!“แม่ของเธอต้องพบกับความลำบากในตระกูลอยู่แล้ว เธอยังมาทำให้แม่ของเธอต้องลำบากมากขึ้นด้วยการทำแบบนี้อีกเหรอ?”หลังจากเห็นเอลเลนมีสีหน้าสิ้นหวัง บุคคลที่สามก็กระโดดเข้ามาก่อนจะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“ฉันแน่ใจว่าเธอจะรู้จักตัวเองดีพอนะไอ้หนู“เราสามารถใช้เงินเพื่อแสดงความเคารพและโอบอุ้มธุรกิจของเธอได้ เราจะซื้อสินค้าของเธอมูลค่าหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ไว้ให้หมาที่บ้านเราใช้...“แต่อย่าคิดว่าจะเข้ามาอยู่ในแวดวงของเราได้ด้วยการขายยานะ!“มีบางอย่างที่เธอเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่เกิด!“และก็มีอีกหลายอย่างที่เธอไม่สามารถมีได้ในตลอดชีวิตนี้!“เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”คน ๆ นั้นเผยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะจิบไวน์ในแก้วของเธอเธอคิดว่าเธอพูดได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนแล้วในวงสังคมของพวกเ
"ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะผมอยากจะคบกับเอลเลนใจจะขาดหรอกนะ“เธออาจจะเป็นลูกสาวของคุณ แต่เธอก็เป็นมนุษย์ด้วยเหมือนกัน“เธอมีชีวิตของตัวเอง“เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกการใช้ชีวิตของเธอเอง“ถ้าคุณอยากให้ผมเดินจากไปก็ทำไปเลย“แต่จงทำเฉพาะเวลาที่เอลเลนต้องการอย่างนั้นเหมือนกันเท่านั้น“ผมจะไม่ไปไหนถ้าเธอไม่ได้บอกให้ผมไป"“เธอคือคนที่เรียกผมมาที่นี่ตั้งแต่แรก ไม่ใช่คุณ และไม่ใช่คนอื่น ๆ ด้วย!”ฮาร์วีย์ทำหน้านิ่งเมื่อเขายืนหยัดเพื่อเอลเลนเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของโนเอมิแล้ว เขารู้ว่าเธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะควบคุมถ้าเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปชีวิตของเอลเลนก็จะถูกทำลายอย่างย่อยยับฮาร์วีย์รู้ดีว่าเขาจะต้องตักเตือนโนเอมิในฐานะเพื่อนเขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องอื่นใดอีกแล้วเอลเลนมีสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะทันทีเธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะให้ความใส่ใจที่จะยืนหยัดเพื่อเธอมากถึงขนาดนี้เขาไม่ได้ยืนหยัดต่อสู้กับแม่ของเธอหรอกนะ แต่ต่อกรอยู่กับบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเอลเลนอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจอยู่เงียบ ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะภูมิหลังที่ย่ำแย่ของฮา
เอลเลนพูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำพูดจากแม่ของเธอเธอรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ได้เป็นแค่คำพูดไร้สาระในตอนแรกเธอแค่แสดงท่าทีว่าอยากจะคบกับฮาร์วีย์เท่านั้นแต่หลังจากเห็นสีหน้าของเอลเลน โนเอมิก็รู้ว่าเอลเลนเริ่มไม่แน่ใจในความคิดของตัวเองแล้วดังนั้นเธอจึงต้องการไปให้สุดและทำให้แน่ใจว่าความตั้งใจของฮาร์วีย์นั้นจะต้องถูกบดขยี้อย่างไม่เหลือชิ้นดี“เขาไม่รู้วิธีใช้มีดกับส้อมด้วยซ้ำไป แล้วนับประสาอะไรกับการใช้ชีวิตกับแกไปจนตลอดชีวิต!“แกหวังจะอยู่กับเขาได้ยังไงในเมื่อเขาไม่มีความรู้โดยทั่วไปเลย?“แกพร้อมจะกัดก้อนเกลือกินกับคนป่าเถื่อนอย่างเขาไปตลอดกาลเหรอ?“แกแน่ใจเหรอว่าจะทำอย่างนั้นได้?”เอลเลนยังคนนิ่งเงียบ เธอรู้ดีว่าวิถีชีวิตของเธอนั้นแตกต่างจากฮาร์วีย์อย่างสิ้นเชิงเธอไม่สามารถจะกัดก้อนเกลือกินไปจนตลอดชีวิตของเธอได้ในเวลานี้นี่เองที่ชายสูงอายุผมสีบลอนด์ที่หวีผมเรียบร้อยพร้อมกับสวมชุดทักซิโด้ได้ผลักรถเข็นออกมาเขาได้วางกระทะร้อนควันฉุยไว้ตรงหน้าโนเอมิและคนอื่น ๆ โดยที่ยังปิดฝาอยู่แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้ยินเสียงเนยร้อนฉ่าอยู่ข้างในมีกลิ่นหอมฟุ้งลอยออกมาทันทีทำให้ทุก ๆ คนอยากลิ้ม
ฟินลีย์หยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์'ฉันจะตายถ้ากินเข้าไปเหรอ?'โนเอมิและคนอื่น ๆ ต่างตกใจกลัว พวกเขาจ้อมมองไข่ที่อยู่ตรงหน้านั้นอย่างระแวดระวัง'อาหารที่คุณฟินลีย์ปรุงขึ้นมาสามารถฆ่าคนได้ด้วยเหรอ?''เป็นไปได้ยังไง?'หลังจากตกใจไปในตอนแรกผู้คนก็กลับมาได้สติอย่างรวดเร็ว พวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์พยายามขู่พวกเขาเพื่อเรียกร้องความสนใจเท่านั้นเอง“คุณพูดอะไรอย่างนั้นน่ะ?!“คุณรู้ไหมว่าคุณฟินลีย์เป็นใคร? เขาเป็นพ่อครัวประจำราชวงศ์ของจักรวรรดิ! หัวหน้าพ่อครัวของราชวงศ์ล้วนเป็นลูกศิษย์ของเขาทั้งนั้น!“แต่คุณยังบอกว่าอาหารของเขาจะฆ่าคนได้เหรอ?!“คุณไม่เพียงแต่ใส่ร้ายความสามารถของคุณฟินลีย์เท่านั้นนะ แต่คุณยังใส่ร้ายราชวงศ์ของจักรวรรดิแห่งนี้ด้วย!“คุณคิดว่าคุณเป็นคนใหญ่โตทั้ง ๆ ที่เป็นแค่คนบ้านนอกน่ะเหรอ?!“คุณพูดเหมือนคุณรู้ทุกอย่าง! คุณเคยเห็นเห็ดทรัฟเฟิลไหม? คุณรู้ไหมว่าคาร์เวีย์คืออะไร?“คุกเข่าแล้วขอโทษซะ! ไม่อย่างนั้นคุณต้องคลานออกไปจากที่นี่!”ผู้คนสองสามคนเริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดท้ายที่สุดแล้วฟินลีย์ไม่ได้เป็นแค่หัวหน้าพ่อครัวเท่านั้น แต่เขาเป็นถึงพ่อครัวประจำราชวงศ์
"ใส่ร้ายเหรอ?”ฮาร์วีย์มองดูฟินลีย์อย่างใจเย็น โดยที่ไม่รู้สึกอะไรกับคำดูถูกเหยียดหยามพวกนั้นเลย“นี่คือไข่ทรัฟเฟิลของราชวงศ์ใช่ไหม?”ฟินลีย์ขมวดคิ้ว“ใช่แล้ว"ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า“ส่วนผสมที่ฉันชี้ให้เห็นถูกต้องทั้งหมดใช่ไหม?”ดวงตาของฟินลีย์กระตุก“ถูกต้อง มีเพียงผมเท่านั้นที่รู้จักอาหารจานนี้ ไม่มีใครรู้ว่ามีส่วนผสมอะไรอยู่ในนั้น นอกจากคนที่กินมันเข้าไป!”โนเอมิและคนอื่น ๆ ตัวแข็งทื่อ พวกเขามองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าแปลก ๆ'ไอ้คนบ้านนอกคนนี้เคยกินอาหารจานนี้มาก่อนจริง ๆ เหรอ?''เขาเป็นแค่คนบ้านนอกเท่านั้นเอง! แต่อาจจะเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงของจักรวรรดิมาก่อนก็ได้...'ดวงตาของเอลเลนเป็นประกาย เธอแน่ใจว่าฮาร์วีย์อาจจะมีตัวตนอื่นแอบแฝงอยู่“คุณช่างน่าประทับใจจริง ๆ นะหนุ่มน้อย"ฟินลีย์กล่าวโทษตัวเองหลังจากคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง“แต่ถึงกระนั้นคุณก็ยังต้องขอโทษอยู่ดี"“อย่างนั้นเหรอ?” ฮาร์วีย์ตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ“ฉันยอมรับว่าคุณเก่งมากที่จดจำอาหารจานนี้ได้"ฟินลีย์ยืนกอดอกและทำสีหน้าที่ดูห่างเหิน“แต่ถ้าฉันจำไม่ผิดฉันเคยทำอาหารจานนี้ตอนเกษียณการทำงานเมื่อสองสามปีก่อน สถานีโ
เอลเลนไม่สามารถระงับความรู้สึกของเธอได้อีกต่อไป“คุณควรขอโทษจริง ๆ นะฮาร์วีย์ อย่าไปโกรธคุณฟินลีย์เลย!” เธอร้องบอกหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง“หลังจากนี้คุณก็จะไม่ได้รับโอกาสอีกแล้วนะ!”โนเอมิอดที่จะจ้องมองเอลเลนด้วยสายตาพิฆาตไม่ได้ เธอคิดว่าลูกสาวของเธอช่างหูหนวกตาบอดที่ไปช่วยปกป้องฮาร์วีย์ฟินลีย์รู้สึกโกรธเล็กน้อยเช่นกัน เขาเชื่อว่าเขาได้ให้โอกาสกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่...เห็นได้ชัดว่าฮาร์วีย์ไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ยังไงฮาร์วีย์เผยให้เห็นรอยยิ้มอีกครั้ง“คุณฟินลีย์ ไข่ทรัฟเฟิลของคุณควรกินเข้าไปภายในสามนาทีหลังจากเปิดฝาใช่ไหม?”“ถูกต้อง รสชาติจะแผ่ซ่านได้อย่างลึกล้ำที่สุดในช่วงเวลานั้น" ฟินลีย์ตอบอย่างเย็นชา“คุณพูดออกมาแบบนั้น แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้ลึกลับอะไรเลยนะ“ไข่จะระเบิดออกมาในปากและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ข้างจะกลายเป็นผงโดยไม่ต้องเคี้ยวเลย มันคือรสชาติที่สดชื่นและไม่ซ้ำใครอย่างที่คุณกำลังบอกอยู่ใช่ไหม?”ฟินลีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินนั้นนี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความพิเศษของอาหารจานนี้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
เอลเลนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนี้ “คุณมีทัศนคติที่ดีนะ อย่างน้อยคุณก็ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองได้"ฮาร์วีย์ยิ้มในขณะที่เขียนบางอย่างลงบนกระดาษก่อนจะโยนให้ฟินลีย์“ตอนที่ผมกินอาหารจานนี้ก่อนหน้านี้ผมรู้ว่าควรเติมอะไรลงไป“ไม่เพียงแต่จะทำให้รสชาติดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอย่างในครั้งนี้ด้วย"ฮาร์วีย์หันหลังกลับและเดินจากไปหลังจากนั้นฟินลีย์ก้มหน้าลงก่อนจะมองเห็นคำว่า "ไข่นกกระทา" เขียนอยู่บนกระดาษ เขายืนตัวแข็งทื่อก่อนจะรู้สึกตัวหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีไข่นกกระทามีขนาดเล็กกว่า แต่การระเบิดของส่วนผสมจะอยู่เฉพาะในปากเท่านั้น จะไม่สร้างผลกระทบในบริเวณทางเดินหายใจเลยนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงง่าย ๆ แต่ก็สามารถจัดการกับปัญหานั้นได้อย่างถาวรฟินลีย์อดที่จะยกหัวแม่โป้งของเขาขึ้นมาไม่ได้“คุณเป็นคนน่าทึ่งมาก! น่าทึ่งจริง ๆ!”โนเอมิตัวแข็งทื่อหลังจากได้ยินคำพูดของฟินลีย์ เธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะดูน่าประทับใจได้ถึงขนาดนั้นเอลเลนก็ตกตะลึงเช่นกัน“ฮาร์วีย์! คุณรู้จักอาหารจานนี้จริง ๆ เหรอ?” เธอถามโดยสัญชาตญาณหลังจากเดินตามเขาไป