"ผมได้ยินมาว่าที่ฮาร์วีย์ได้รับการประกันออกไปจากสถานีตำรวจได้ก็เพราะเธอเช่นกัน“ที่เธอทำทั้งหมดนี้ก็เพราะต้องการแก้แค้นผม"อีเดนโชว์รูปกลุ่มเพื่อนของเขาที่อยู่ในโทรศัพท์สองสามรูปให้คุณย่าคอบบ์ดูเขาชี้ไปที่รูปของเอลเลนที่ตั้งใจถ่าย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเขาพูดถูก“ฉันเข้าใจล่ะ"คุณย่าคอบบ์รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย“ไม่ใช่ว่าฉันอยากให้เธอต้องลำบากใจกับเรื่องนี้หรอกนะอีเดน...“แต่นางเด็กคนนั้นเป็นแค่ลูกนอกสมรส แถมยังมาจากตระกูลโมเรโน่อีก!“เมื่อเธอเข้าไปยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับฮาร์วีย์ เราก็จะต้องลำบากแน่ถ้าพวกเขาไปช่วยนางหลานสาวที่เนรคุณของฉันมาห้ำหั่นกับเรา!“เราไม่สามารถหยุดระวังตัวได้!“ถ้าเอลเลนอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา เราก็ต้องจัดการกับเรื่องวุ่นวายอย่างอื่น ถ้าร้านของพวกเขาเกิดดังขึ้นมา!“วิธีที่ง่ายที่สุดคือรีบจัดการกับเขาเสียก่อนที่จะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาได้!”คุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าเย็นชาอีเดนครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น“คุณย่ากำลังบอกว่า...”คุณย่าคอบบ์หรี่ตามองอีเดน“ฉันรู้ว่านางสารเลวนั่นไม่มีสิทธิ์เป็นแฟนของเธอนะอีเดน แต่เธอจะต้องทำสิ่งนี้เพื่อเห็นแก่ตระกูลของเรา!“เธอต้องค
"ขอบคุณนะเอลเลน"ฮาร์วีย์ส่งบุหรี่ให้คนงานพวกนั้นก่อนจะยิ้มให้เอลเลน ซึ่งเข้ามารับหน้าที่หัวหน้างานอย่างตื่นเต้นโดยสวมเสื้อกั๊กตัวเล็ก ๆ เอาไว้“ร้านนี้คงไม่สามารถเปิดได้เร็วขนาดนี้ถ้าไม่ได้คุณช่วยนะเอลเลน" ฮาร์วีย์พูดในขณะยื่นขวดน้ำอัดลมให้“อย่างน้อยคุณก็รู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรเลี้ยงฉันสักมื้อสองมื้อดีไหมล่ะคะ?”เอลเลนเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองร้านที่เป็นสัญญลักษณ์ของแบรนด์ร้านนั้น“ถ้าคุณทำให้ฉันมีความสุขล่ะก็ ฉันจะลงโฆษณาให้คุณบนป้ายขนาดใหญ่สักสองสามป้าย! ร้านนี้จะต้องดังระเบิดในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน!”ฮาร์วีย์ปล่อยหัวเราะออกมา“แน่นอนอยู่แล้วว่าผมจะต้องเลี้ยงข้าวคุณ“แต่ผมจะเป็นคนจัดการเรื่องโฆษณาเอง!”แน่นอนว่าฮาร์วีย์รู้เรื่องความแค้นของเอลเลนที่มีต่ออีเดนนับเป็นเรื่องปกติที่นายน้อยจากตระกูลคอบบ์และสุภาพสตรีจากตระกูลโมเรโน่จะเป็นแฟนกันฮาร์วีย์ไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะนิสัยของอีเดน แต่เอลเลนมีสิทธิ์จะเลือกใครมาเป็นแฟนได้อย่างอิสระตรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด!จู่ ๆ โทรศัพท์ของเอลเลนก็ดังขึ้นหลังจากรับสายโทรศัพท์ได้ครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มให้ฮาร์วีย์อย่างรวดเร็ว“คุณโชคดีจังค่
เมื่อดูใกล้ ๆ แล้วฮาร์วีย์ก็เห็นโนเอมิยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนทันสมัยเหล่านั้นเธอสวมเดรสที่สวยงามซึ่งเผยให้เห็นเรียวขาขาว ๆ และเพรียวบางของเธอ อย่างน้อย ๆ นี่ก็ช่างเป็นภาพที่สะดุดตาอย่างยิ่ง พร้อมด้วยเหล่าแฟชั่นนิสต้าที่ดูโดดเด่นและแต่งกายหลากสีสัน ที่มารวมตัวกันเหมือนผลไม้ที่เก็บมาใหม่ ๆ...พวกผู้ชายอดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างไม่ยอมละสายตาน่าเสียดายที่ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปท้ายที่สุดแล้วสุภาพสตรีหมายเลขสองของตระกูลโมเรโน่ก็เป็นบุคคลที่ดูโดดเด่นเหลือเกินผู้ชายธรรมดา ๆ คงไม่สามารถติดต่อเธอได้ แม้แต่เจ้าชายและนายน้อยบางคนยังรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อเห็นภาพนี้ผู้หญิงคนนั้นดูงดงามราวกับดอกกุหลาบ...เธอดูมีเสน่ห์มากแต่หนามแหลมจะเริ่มงอกออกมาถ้ามีใครย่างกรายเข้าไปใกล้เธอมากเกินไปถ้าไม่มีความมั่นใจอย่างมากใครจะกล้าทำอย่างนั้นได้ล่ะ?“แม่คะ!”เอลเลนกระโจนเข้าไปหาเธอ“สวัสดีจ้ะทุกคน" เธอทักทายอย่างให้ความเคารพ“ลูกมาถึงแล้ว"โนเอมิชี้ไปที่เก้าอี้โดยไม่ได้มองเอลเลนเลย“นั่งสิ" โนเอมิพูดอย่างใจเย็นหลังจากนั้นเธอก็พูดคุยกับผู้คนรอบตัวต่อไปโดยไม่ชำเลืองมองไปทางฮาร์วีย์เลยฮาร์วีย์ถูกท
เอลเลนเป็นกังวลนิดหน่อย เธอรู้ว่าแม่ของเธอชอบดูถูกคนอย่างฮาร์วีย์...เธอคือคนที่ลากเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกโนเอมิทำการดูหมิ่นฮาร์วีย์เป็นอย่างมากที่ปล่อยให้เขายืนเดียวดายอยู่อย่างนี้แต่ถึงกระนั้นเอลเลนก็ไม่มีทางที่จะติติงอะไรในโอกาสอย่างนี้ในที่สุดหลังจากผ่านไปประมาณสิบนาทีบทสนทนาก็จบลงโนเอมิเผยรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเธอเหลือบมองฮาร์วีย์ หลังจากก้มมองนาฬิกา 'คาร์เทียร์ บัลลง เบลอ' บนข้อมือของเธอ เธอก็หรี่ตามองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเริงร่าแขกคนอื่น ๆ อีกสองสามคนก็เหลือบมองเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามและเย่อหยิ่งเช่นกัน“ฉันพบปัญหาร่างกายของตัวเองก็เพราะคุณได้เตือนฉันเมื่อคราวที่แล้ว“ฉันขอขอบคุณอย่างเป็นทางการที่ช่วยฉันในเรื่องนั้นนะ" โนเอมิกล่าวขอบคุณอย่างใจเย็นเธอทำราวกับว่าที่ปอดของเธอทำงานผิดพลาดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรตั้งแต่แรกจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่อยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอจะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ตราบใดที่เธอไม่ได้กดดันตัวเอง เธอคิดว่าฮาร์วีย์โชคดีที่เดาได้ถูกเท่านั้นเอง แถมเธอยังเชื่อด้วยว่าฮาร์วีย์ได้นำความโชคร้ายมาให้เธอถึง
หลังจากจ้องมองรอยยิ้มจาง ๆ ของโนเอมิ บัตรที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และผู้คนรอบข้างที่ทำสีหน้าหยอกล้อ...ฮาร์วีย์ก็ได้แต่หัวเราะเบา ๆเขาถูกพามาที่นี่เพื่อให้เลิกกับเอลเลนแต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้อยากจะคบกับเธอเลยทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนกันด้วยเรื่องบังเอิญแท้ ๆเขามาที่นี่เพื่อขอบคุณเอลเลนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาฮาร์วีย์วางแผนที่จะขอบคุณโนเอมิด้วยตัวเอง เขากำลังจะบอกเรย์ให้ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีด้วย...แต่หลังจากเห็นท่าทีที่น่ากลัวเช่นนี้ เขาก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้จริง ๆ แล้วฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจคำพูดของโนเอมิเลย ท้ายที่สุดแล้วเขากับเอลเลนไม่ใช่คู่รักกันตั้งแต่แรก สิ่งที่เขาต้องทำก็คืออธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดนั้นแต่เขารู้สึกอารมณ์ไม่ดีเมื่อเห็นการแสดงสีหน้าของโนเอมิ ราวกับเธอกำลังพยายามจะดุด่าว่ากล่าวผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินในขณะที่เขากำลังจะหันกลับมานั้นเอลเลนก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นทันที!เธอลุกขึ้นยืนแล้วจับมือฮาร์วีย์ไว้อย่างอ่อนโยน“แม่กำลังทำเกินไปนะคะ!“หนูพาเขามาที่นี่ก็เพราะแม่ขอให้เรียกเขามา!“แม่ทำอย่างนี้กับเขาได้ยังไง?!“นอกจากนี้เขาย
"เธอต้องฟังนะเอลเลน!”“ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามดึงเขาเข้ามาในวงสังคมของเรา...“เขาก็ยังดูไม่เข้าที่เข้าทางเลย! กลิ่นยาบนตัวเขามีแต่จะทำให้ทุกคนถอยห่าง“แม่ของเธอพร้อมกับคนทั้งตระกูลจะกลายเป็นตัวตลกสุดฮาของทะเลใต้ ก็เพราะความบุ่มบ่ามของเธอ!“ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใส่ใจกับตระกูลของเธอ แต่อย่างน้อยเธอก็ควรคิดถึงแม่ของเธอนะ!“แม่ของเธอต้องพบกับความลำบากในตระกูลอยู่แล้ว เธอยังมาทำให้แม่ของเธอต้องลำบากมากขึ้นด้วยการทำแบบนี้อีกเหรอ?”หลังจากเห็นเอลเลนมีสีหน้าสิ้นหวัง บุคคลที่สามก็กระโดดเข้ามาก่อนจะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“ฉันแน่ใจว่าเธอจะรู้จักตัวเองดีพอนะไอ้หนู“เราสามารถใช้เงินเพื่อแสดงความเคารพและโอบอุ้มธุรกิจของเธอได้ เราจะซื้อสินค้าของเธอมูลค่าหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ไว้ให้หมาที่บ้านเราใช้...“แต่อย่าคิดว่าจะเข้ามาอยู่ในแวดวงของเราได้ด้วยการขายยานะ!“มีบางอย่างที่เธอเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่เกิด!“และก็มีอีกหลายอย่างที่เธอไม่สามารถมีได้ในตลอดชีวิตนี้!“เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”คน ๆ นั้นเผยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะจิบไวน์ในแก้วของเธอเธอคิดว่าเธอพูดได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนแล้วในวงสังคมของพวกเ
"ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะผมอยากจะคบกับเอลเลนใจจะขาดหรอกนะ“เธออาจจะเป็นลูกสาวของคุณ แต่เธอก็เป็นมนุษย์ด้วยเหมือนกัน“เธอมีชีวิตของตัวเอง“เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกการใช้ชีวิตของเธอเอง“ถ้าคุณอยากให้ผมเดินจากไปก็ทำไปเลย“แต่จงทำเฉพาะเวลาที่เอลเลนต้องการอย่างนั้นเหมือนกันเท่านั้น“ผมจะไม่ไปไหนถ้าเธอไม่ได้บอกให้ผมไป"“เธอคือคนที่เรียกผมมาที่นี่ตั้งแต่แรก ไม่ใช่คุณ และไม่ใช่คนอื่น ๆ ด้วย!”ฮาร์วีย์ทำหน้านิ่งเมื่อเขายืนหยัดเพื่อเอลเลนเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของโนเอมิแล้ว เขารู้ว่าเธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะควบคุมถ้าเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปชีวิตของเอลเลนก็จะถูกทำลายอย่างย่อยยับฮาร์วีย์รู้ดีว่าเขาจะต้องตักเตือนโนเอมิในฐานะเพื่อนเขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องอื่นใดอีกแล้วเอลเลนมีสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะทันทีเธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะให้ความใส่ใจที่จะยืนหยัดเพื่อเธอมากถึงขนาดนี้เขาไม่ได้ยืนหยัดต่อสู้กับแม่ของเธอหรอกนะ แต่ต่อกรอยู่กับบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเอลเลนอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจอยู่เงียบ ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะภูมิหลังที่ย่ำแย่ของฮา
เอลเลนพูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำพูดจากแม่ของเธอเธอรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ได้เป็นแค่คำพูดไร้สาระในตอนแรกเธอแค่แสดงท่าทีว่าอยากจะคบกับฮาร์วีย์เท่านั้นแต่หลังจากเห็นสีหน้าของเอลเลน โนเอมิก็รู้ว่าเอลเลนเริ่มไม่แน่ใจในความคิดของตัวเองแล้วดังนั้นเธอจึงต้องการไปให้สุดและทำให้แน่ใจว่าความตั้งใจของฮาร์วีย์นั้นจะต้องถูกบดขยี้อย่างไม่เหลือชิ้นดี“เขาไม่รู้วิธีใช้มีดกับส้อมด้วยซ้ำไป แล้วนับประสาอะไรกับการใช้ชีวิตกับแกไปจนตลอดชีวิต!“แกหวังจะอยู่กับเขาได้ยังไงในเมื่อเขาไม่มีความรู้โดยทั่วไปเลย?“แกพร้อมจะกัดก้อนเกลือกินกับคนป่าเถื่อนอย่างเขาไปตลอดกาลเหรอ?“แกแน่ใจเหรอว่าจะทำอย่างนั้นได้?”เอลเลนยังคนนิ่งเงียบ เธอรู้ดีว่าวิถีชีวิตของเธอนั้นแตกต่างจากฮาร์วีย์อย่างสิ้นเชิงเธอไม่สามารถจะกัดก้อนเกลือกินไปจนตลอดชีวิตของเธอได้ในเวลานี้นี่เองที่ชายสูงอายุผมสีบลอนด์ที่หวีผมเรียบร้อยพร้อมกับสวมชุดทักซิโด้ได้ผลักรถเข็นออกมาเขาได้วางกระทะร้อนควันฉุยไว้ตรงหน้าโนเอมิและคนอื่น ๆ โดยที่ยังปิดฝาอยู่แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้ยินเสียงเนยร้อนฉ่าอยู่ข้างในมีกลิ่นหอมฟุ้งลอยออกมาทันทีทำให้ทุก ๆ คนอยากลิ้ม