ณ โรงพยาบาลมาเรียของฮ่องกงเล็กซี่ ยอร์กรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ พลางกัดฟันทนรอให้วินซ์ ยอร์กผ่าตัดเสร็จ “ให้ตายสิ! ไอ้พวกลูกผสมนั่นกล้าเล่นงานวินซ์เชียวรึ?! “ฉันจะฆ่าหล่อน! “ฉันจะฆ่าหล่อนซะ!!!” เล็กซี่คิดว่าวินซ์จะเข้ามาหลอกเจ้าหญิงลำดับที่สี่ ระหว่างนั้นจึงได้สังหารเจสัน ลีโอทิ้งไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นแค่กับดักมรณะที่ศัตรูวางเอาไว้ ลูกน้องที่ไว้ใจได้หลายสิบคนของวินซ์ตายไปแล้ว แม้แต่วินซ์เองก็เฉียดตาย ถ้าไม่ใช่เพราะวิหารคุณธรรมทั้งห้าล่ะก็ ทุกสิ่งทุกอย่างที่วินซ์ทำมาคงจะพังพินาศลงทันที นอกเหนือไปจากความรู้สึกหวาดหวั่น เล็กซี่ก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือคณานับ “ฮาร์วีย์ ยอร์กกับควินนี่ ยอร์กไอ้สารเลวพวกนั้น… ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันใช้คนอื่นมาทำงานสกปรก เจ้าหญิงลำดับที่สี่ก็คงไม่ต้องเสี่ยงอันตรายหรอก! “ไอ้พวกสารเลวนั่นมันต้องตาย! “เร็วเข้า! รีบส่งทหารมือดีมาให้ฉันซะ! ฉันอยากให้ฮาร์วีย์ต้องชดใช้ด้วยเลือดของมัน!” ขณะที่เล็กซี่กำลังออกคำสั่งอยู่นั้น… ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก “คุณน้าอย่าได้บุ่มบ่าม ผมไม่เป็นไร” ว
หลังจากวินซ์ ยอร์กกล่าวจบก็เผยสีหน้าคับแค้นใจออกมา เขาอยากจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองงั้นเหรอ?! เปล่าหรอก! แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก! ถ้าหากเขาลงมือโดยไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ฝ่ายศัตรูก็จะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น! เขาเป็นคนมีเหตุผลย่อมไม่บุ่มบ่ามทำเรื่องพรรค์นั้นเด็ดขาด เล็กซี่ ยอร์กรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นของเธอย่อมไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่ แต่หากเธอก่อเรื่องกับฮาร์วีย์ ยอร์กและเจ้าหญิงลำดับที่สี่อย่างที่วินซ์กล่าวไว้เมื่อก่อนหน้านี้ เธอก็รังแต่จะทำให้เรื่องยิ่งยุ่งโดยใช่เหตุ เหตุผลฝ่ายของเธอก็จะฟังไม่ขึ้น ศัตรูอาจจะฉวยโอกาสใส่ร้ายก็ได้ ถ้าเกิดเรื่องนั้นขึ้นมาจริง ๆ เล็กซี่กับวินซ์ก็คงต้องลงเอยด้วยการเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ ตอนนี้เล็กซี่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้บ้างแล้ว “พวกเราจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้เหรอ? “เธอเกือบต้องตายเชียวนะ!” วินซ์ถอนหายใจพลางครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “คุณน้า เป็นแบบนี้ก็ใช่ว่าจะแย่กับเราไปเสียทีเดียว พวกเรามีคนอยู่ทั่วทั้งโรงพยาบาล” “ผมก็แค่นอนอยู่ที่นี่แล้วแสร้งทำตัว
“จริงสิครับ คุณน้า ผมอยากให้คุณน้าช่วยส่งของขวัญดี ๆ ให้วิหารคุณธรรมทั้งห้าแทนผมที” วินซ์ ยอร์กแววตาเป็นประกาย แม้แต่ยามนี้ก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์เร่าร้อนที่อยู่ในตัวเขา “นอกเหนือไปจากนั้น พวกเราขอละวางสิ่งที่พวกเราบีบคั้นวิหารคุณธรรมทั้งห้าและขอขอบคุณที่ยื่นมือช่วยเหลือ “บอกพวกเขาด้วยว่าผมขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตเอาไว้ด้วย “และตราบเท่าที่ผมยังมีชีวิตอยู่ วิหารคุณธรรมทั้งห้าจะยังคงเป็นลานฝึกศิลปะการต่อสู้ของเซาท์ไลท์! “ไม่มีใครที่จะสามารถท้าทายอำนาจของพวกเขาได้อีก!” เล็กซี่ ยอร์กขมวดคิ้ว หลังจากเธอรู้ว่าวินซ์กำลังวางแผนที่จะทำอะไรก็ลอบถอนหายใจออกมา “อย่าห่วงไปเลยน่า วินซ์ “วิหารคุณธรรมทั้งห้าเป็นโล่ที่แสนภักดีของเธอมาโดยตลอด “ต่อให้ฉันต้องขอร้องให้ขันทีนั่นปรากฏตัว ฉันก็จะทำให้พวกเขาเป็นแรงสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ของเธอให้ได้” เล็กซี่มองชายหนุ่มด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับว่าเขาเป็นบุตรของตนเอง แต่กลับเผยท่าทีลังเลออกมา “แต่จงจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ “เธออยากจะเล่นสนุกกับหญิงสาวคนไหนก็ได้ในวิหารคุณธรรมทั้งห้า… “แต่จงอย่าได้มีความคิดแปลก ๆ กับหญิงบริสุท
ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตามองด้วยท่าทีเมินเฉยโดยไม่แสดงอารมณ์ให้มากเกินไปนัก “ฉันได้ยินมาว่าสมัยสาว ๆ คุณย่ายอร์กเองก็เคยเป็นนักฆ่ามาก่อนนะ” ฮาร์วีย์กล่าวพลางยิ้มจาง ๆ “มีคนมากมายตามไล่ล่าเธอ แต่พวกมันก็ล้วนกองรวมกันเป็นภูเขาซากศพ… “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? “ถึงตอนนี้ก็ล้วนเป็นข่าวเก่าไปหมดแล้ว ประมุขตระกูลยอร์กคนก่อนออกคำสั่งอุดปากไปหลายปีแล้ว นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเรามีแต่ข่าวลือ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง” “งั้นก็เรียกได้ว่าคุณย่ายอร์กเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างน่ายำเกรงทีเดียว “ถ้าหากวินซ์ ยอร์กสามารถแสดงบทบาทเหยื่อผู้ถูกกระทำเพื่อบีบให้คุณออกมา ควินนี่ ยอร์กก็ต้องรับมือกับแรงกดดันมหาศาล” ฮาร์วีย์หัวเราะ “เรื่องนั้นไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก พวกเราไม่ใช่คนที่พยายามจะทำลายงานเลี้ยงสักหน่อย แต่พวกเราเป็นพลเมืองดีต่างหากล่ะ “อย่าลืมสิว่าเลสลี่ คลาร์กยังติดค้างรางวัลพลเมืองดีของฉันอยู่นะ! “แต่ถ้าคุณย่ายอร์กลงมือล่ะก็ พวกเราอาจจะต้องยืมมือของเจ้าหญิงลำดับที่สี่… “ถ้าหากเธอรับมือยายแก่นั่นไม่ไหว ฉันก็คงปวดหัวน่าดูเลย…” จากนั้นฮาร์วีย์ก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นก่อนจะคุยเรื่
แกร๊ก! จู่ ๆ ประตูก็ถูกถีบให้เปิดออก ฮาร์วีย์ ยอร์กสวมเสื้อสเวตเตอร์ตัวอุ่นพลางนำเอาชาดำถ้วยหนึ่งมาด้วย จากนั้นเขาก็นั่งลงสบายๆ อีกด้านหนึ่งของโต๊ะพลางหรี่ตามองเจสัน ลีโอ ทันทีที่ฮาร์วีย์ปรากฏตัว สายตาคับแค้นใจก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเจสัน สีหน้าโอหังบนใบหน้าตลอดจนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาได้หายไปจนสิ้น เขาไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว เขาจึงตัวสั่นไม่หยุด เขาคิดว่าจะสามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายด้วยพลังและความตั้งใจ… แต่เนื่องจากเขาเคยถูกสะกดจิตอ่อนๆ จึงไม่สามารถทนอยู่ได้นานนัก เจสันทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก ถ้าหากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ใช้พลังมากขนาดนั้น เขาก็อาจจะทนได้นานอีกสักหน่อย น่าเสียดายที่ไม่มีทางให้หวนกลับ “ฮาร์วีย์ แกต้องการอะไรกันแน่?” เจสันจวนจะหมดสติอยู่รอมร่อ แต่เขาก็ยังสามารถพูดคุยได้ทั้งๆ ที่ดวงตากระตุกริกๆ ตอนนี้เขาดูเหมือนคนใกล้ตายเต็มแก่แล้ว ฮาร์วีย์จิบชาด้วยท่าทีสงบนิ่งก่อนจะผุดรอยยิ้มจางๆ “โอ้ นายน้อยลีโอ ไม่พบกันเสียนานเลยนะ! “บอกฉันทีสิว่าคุณไร้ประโยชน์ขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “ตอนนั้นถ้าคุณเป่าสมองวินซ์ไปซะ… “อย่างมากคุณก็แค่หนีไป! คงไ
เจสัน ลีโอตัวสั่นจนยากจะระงับ เขารู้อยู่เต็มอกว่าตอนนี้ฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังมอบทางเลือกแบบไหนให้ตนเอง ไม่ว่าเขาจะฆ่าตัวตายหรือกลายเป็นทาสรับใช้ของฮาร์วีย์ ก็คงไม่มีใครคิดจะทำให้เทพสงครามกลายเป็นสมุนรับใช้ของตัวเองเสียด้วยซ้ำไป! เจสันพลันเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นที่ไร้หนทางระบายขึ้นมาทันที ศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่และเหตุผลบอกเขาว่า ถ้าหากตนคุกเข่าลงก็จะไม่สามารถต่อกรกับฮาร์วีย์ได้อีก ขณะที่เขายังตัวสั่นก็มองเห็นสายตาคับแค้นใจระหว่างที่เขาเพ่งมองปืนพกที่อยู่บนโต๊ะ เขาไม่ได้ถ่อมาถึงที่นี่เพื่อเป็นทาสรับใช้ของใคร! เขาต้องแก้แค้น! เขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ! ถ้าเขาตายไปเสียเดี๋ยวนี้ก็คงจะไม่บรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่าง! ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำมาก็ย่อมสูญเปล่า! ฮาร์วีย์จ้องมองเจสันพลางผุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่ง “นายน้อยลีโอ ผมชื่นชมความกล้าของคุณจริง ๆ “ในฐานที่เป็นคนจากประเทศ H คุณกลายเป็นสุนัขรับใช้ของดินแดนพระอาทิตย์ฯไปแล้ว ตอนนี้คุณถึงได้หัวเสียใส่ผมเพราะความภาคภูมิใจในฐานที่เป็นทาสรับใช้ของดินแดนพระอาทิตย์ฯ “คุกเข่าคงไม่ยากไปมั้ง? “เมื่อหกปีก่อนคุณ
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านอาหารซีไซต์ที่อ่าววิคตอเรีย ควินนี่ ยอร์กเป็นเจ้าของร้านนี้และเป็นหนึ่งในร้านโปรดที่ฮาร์วีย์ ยอร์กชอบมาทานอาหาร ตอนนั้นฮาร์วีย์ก็จัดการกับออโรร่า ปาร์คเกอร์ดาราดังที่กลายมาเป็นสายให้เขาที่นี่ ย่อมไม่แปลกอะไรหากฮาร์วีย์จะจัดการกับเจ้าหญิงลำดับที่สี่ที่นี่บ้าง เพื่อแสดงความจริงใจของตัวเอง เจ้าหญิงลำดับที่สี่ได้จองทั้งร้านเอาไว้ล่วงหน้า ไม่เพียงเป็นเครื่องปรุงชั้นเลิศเท่านั้น แต่เธอถึงขนาดเอาลาตูร์ 1982 จากดินแดนพระอาทิตย์ฯ ฮาร์วีย์ไม่คิดจะอดกลั้นสักนิด หลังจากเห็นอาหารเลิศรสเต็มโต๊ะ เขาก็ควงช้อนส้อมแล้วจัดการจนเต็มคราบ เจ้าหญิงลำดับที่สี่ไม่ได้ทานอาหารกับฮาร์วีย์ เธอคีบก้านแก้วพลางจิบไวน์ไปสองสามอึกด้วยท่าทีสงบนิ่ง เรือนร่างอรชรของเธอเผยโฉมออกมาท่ามกลางตะวันชิงพลบ ทั้งยังได้กลิ่นหอมสดชื่นจากเรือนกายของเธออีกด้วย เธอสั่งให้องครักษ์ออกไปแล้ว สีหน้าเย่อหยิ่งและห่างเหินหายไปจากใบหน้าของเธอจนสิ้น มองเห็นเพียงความอ่อนล้าและระทมทุกข์ของเธอในยามนี้ “ฉันเหนื่อยแล้ว หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือฉันทำแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้นสักพัก เจ้าหญิงลำดับที่สี่ก
“ข้อสาม ผมจะมอบทุกคนกลับคืนให้คุณไป “ถ้าคุณต้องการกำลังคนกับอาวุธล่ะก็ ผมจะมอบให้คุณหมดเลย “แต่ก่อนที่คุณจะไปจากที่นี่ ผมอยากให้คุณต่อสู้ดุเดือดกับวินซ์ ยอร์ก “ยังไงซะพวกเราก็ไม่สามารถปล่อยให้คนที่ทิ้งคุณไปลอยนวลไปง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ?” หลังจากเงียบไปสักพัก เจ้าหญิงลำดับที่สี่ก็ค่อย ๆ ตอบว่า “นายท่านยอร์ก ใช่ว่าฉันจะไม่ตอบรับเงื่อนไขของคุณสักหน่อย “ฉันรู้ดีว่าคุณทำงานยังไง “ในเมื่อคุณเต็มใจมอบเจสัน ลีโอคืนมาให้ฉัน นั่นก็หมายความว่าคุณได้ควบคุมเขาไว้แล้ว “คน ๆ นี้ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง… “ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ฉันคงไม่มีโอกาสต่อกรกับวินซ์ได้หรอก ไม่ว่าคุณจะยินดีมอบกำลังคนกับอาวุธปืนมาให้ฉันมากมายขนาดไหนก็ตาม” “บอกเงื่อนไขอีกข้อมาสิ” เมื่อเจ้าหญิงลำดับที่สี่นึกถึงผลได้ผลเสียแล้ว ท่าทีวางอำนาจของเธอก็หายวับไปจนสิ้น ฮาร์วีย์ยิ้ม “ไม่เลวเลยนี่ ผมชอบการวางตัวของคุณนะ “ผมไม่ชอบให้คุณปฏิเสธเงื่อนไขของผม แต่ผมบอกได้เลยว่าคุณมีความจริงใจ “งั้นผมขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งสิ “หลังจากนี้ผมอยากให้คุณหาข้ออ้างที่จะเดินจากไป “กลับไปที่ดินแดนพระอาทิตย์ฯแล้วระดมกำลังพลของคุณ “มีชีว