ณ โรงพยาบาลมาเรียของฮ่องกงเล็กซี่ ยอร์กรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ พลางกัดฟันทนรอให้วินซ์ ยอร์กผ่าตัดเสร็จ “ให้ตายสิ! ไอ้พวกลูกผสมนั่นกล้าเล่นงานวินซ์เชียวรึ?! “ฉันจะฆ่าหล่อน! “ฉันจะฆ่าหล่อนซะ!!!” เล็กซี่คิดว่าวินซ์จะเข้ามาหลอกเจ้าหญิงลำดับที่สี่ ระหว่างนั้นจึงได้สังหารเจสัน ลีโอทิ้งไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นแค่กับดักมรณะที่ศัตรูวางเอาไว้ ลูกน้องที่ไว้ใจได้หลายสิบคนของวินซ์ตายไปแล้ว แม้แต่วินซ์เองก็เฉียดตาย ถ้าไม่ใช่เพราะวิหารคุณธรรมทั้งห้าล่ะก็ ทุกสิ่งทุกอย่างที่วินซ์ทำมาคงจะพังพินาศลงทันที นอกเหนือไปจากความรู้สึกหวาดหวั่น เล็กซี่ก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือคณานับ “ฮาร์วีย์ ยอร์กกับควินนี่ ยอร์กไอ้สารเลวพวกนั้น… ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันใช้คนอื่นมาทำงานสกปรก เจ้าหญิงลำดับที่สี่ก็คงไม่ต้องเสี่ยงอันตรายหรอก! “ไอ้พวกสารเลวนั่นมันต้องตาย! “เร็วเข้า! รีบส่งทหารมือดีมาให้ฉันซะ! ฉันอยากให้ฮาร์วีย์ต้องชดใช้ด้วยเลือดของมัน!” ขณะที่เล็กซี่กำลังออกคำสั่งอยู่นั้น… ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก “คุณน้าอย่าได้บุ่มบ่าม ผมไม่เป็นไร” ว
หลังจากวินซ์ ยอร์กกล่าวจบก็เผยสีหน้าคับแค้นใจออกมา เขาอยากจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองงั้นเหรอ?! เปล่าหรอก! แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก! ถ้าหากเขาลงมือโดยไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ฝ่ายศัตรูก็จะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น! เขาเป็นคนมีเหตุผลย่อมไม่บุ่มบ่ามทำเรื่องพรรค์นั้นเด็ดขาด เล็กซี่ ยอร์กรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นของเธอย่อมไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่ แต่หากเธอก่อเรื่องกับฮาร์วีย์ ยอร์กและเจ้าหญิงลำดับที่สี่อย่างที่วินซ์กล่าวไว้เมื่อก่อนหน้านี้ เธอก็รังแต่จะทำให้เรื่องยิ่งยุ่งโดยใช่เหตุ เหตุผลฝ่ายของเธอก็จะฟังไม่ขึ้น ศัตรูอาจจะฉวยโอกาสใส่ร้ายก็ได้ ถ้าเกิดเรื่องนั้นขึ้นมาจริง ๆ เล็กซี่กับวินซ์ก็คงต้องลงเอยด้วยการเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ ตอนนี้เล็กซี่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้บ้างแล้ว “พวกเราจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้เหรอ? “เธอเกือบต้องตายเชียวนะ!” วินซ์ถอนหายใจพลางครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “คุณน้า เป็นแบบนี้ก็ใช่ว่าจะแย่กับเราไปเสียทีเดียว พวกเรามีคนอยู่ทั่วทั้งโรงพยาบาล” “ผมก็แค่นอนอยู่ที่นี่แล้วแสร้งทำตัว
“จริงสิครับ คุณน้า ผมอยากให้คุณน้าช่วยส่งของขวัญดี ๆ ให้วิหารคุณธรรมทั้งห้าแทนผมที” วินซ์ ยอร์กแววตาเป็นประกาย แม้แต่ยามนี้ก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์เร่าร้อนที่อยู่ในตัวเขา “นอกเหนือไปจากนั้น พวกเราขอละวางสิ่งที่พวกเราบีบคั้นวิหารคุณธรรมทั้งห้าและขอขอบคุณที่ยื่นมือช่วยเหลือ “บอกพวกเขาด้วยว่าผมขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตเอาไว้ด้วย “และตราบเท่าที่ผมยังมีชีวิตอยู่ วิหารคุณธรรมทั้งห้าจะยังคงเป็นลานฝึกศิลปะการต่อสู้ของเซาท์ไลท์! “ไม่มีใครที่จะสามารถท้าทายอำนาจของพวกเขาได้อีก!” เล็กซี่ ยอร์กขมวดคิ้ว หลังจากเธอรู้ว่าวินซ์กำลังวางแผนที่จะทำอะไรก็ลอบถอนหายใจออกมา “อย่าห่วงไปเลยน่า วินซ์ “วิหารคุณธรรมทั้งห้าเป็นโล่ที่แสนภักดีของเธอมาโดยตลอด “ต่อให้ฉันต้องขอร้องให้ขันทีนั่นปรากฏตัว ฉันก็จะทำให้พวกเขาเป็นแรงสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ของเธอให้ได้” เล็กซี่มองชายหนุ่มด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับว่าเขาเป็นบุตรของตนเอง แต่กลับเผยท่าทีลังเลออกมา “แต่จงจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ “เธออยากจะเล่นสนุกกับหญิงสาวคนไหนก็ได้ในวิหารคุณธรรมทั้งห้า… “แต่จงอย่าได้มีความคิดแปลก ๆ กับหญิงบริสุท
ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตามองด้วยท่าทีเมินเฉยโดยไม่แสดงอารมณ์ให้มากเกินไปนัก “ฉันได้ยินมาว่าสมัยสาว ๆ คุณย่ายอร์กเองก็เคยเป็นนักฆ่ามาก่อนนะ” ฮาร์วีย์กล่าวพลางยิ้มจาง ๆ “มีคนมากมายตามไล่ล่าเธอ แต่พวกมันก็ล้วนกองรวมกันเป็นภูเขาซากศพ… “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? “ถึงตอนนี้ก็ล้วนเป็นข่าวเก่าไปหมดแล้ว ประมุขตระกูลยอร์กคนก่อนออกคำสั่งอุดปากไปหลายปีแล้ว นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเรามีแต่ข่าวลือ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง” “งั้นก็เรียกได้ว่าคุณย่ายอร์กเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างน่ายำเกรงทีเดียว “ถ้าหากวินซ์ ยอร์กสามารถแสดงบทบาทเหยื่อผู้ถูกกระทำเพื่อบีบให้คุณออกมา ควินนี่ ยอร์กก็ต้องรับมือกับแรงกดดันมหาศาล” ฮาร์วีย์หัวเราะ “เรื่องนั้นไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก พวกเราไม่ใช่คนที่พยายามจะทำลายงานเลี้ยงสักหน่อย แต่พวกเราเป็นพลเมืองดีต่างหากล่ะ “อย่าลืมสิว่าเลสลี่ คลาร์กยังติดค้างรางวัลพลเมืองดีของฉันอยู่นะ! “แต่ถ้าคุณย่ายอร์กลงมือล่ะก็ พวกเราอาจจะต้องยืมมือของเจ้าหญิงลำดับที่สี่… “ถ้าหากเธอรับมือยายแก่นั่นไม่ไหว ฉันก็คงปวดหัวน่าดูเลย…” จากนั้นฮาร์วีย์ก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นก่อนจะคุยเรื่
แกร๊ก! จู่ ๆ ประตูก็ถูกถีบให้เปิดออก ฮาร์วีย์ ยอร์กสวมเสื้อสเวตเตอร์ตัวอุ่นพลางนำเอาชาดำถ้วยหนึ่งมาด้วย จากนั้นเขาก็นั่งลงสบายๆ อีกด้านหนึ่งของโต๊ะพลางหรี่ตามองเจสัน ลีโอ ทันทีที่ฮาร์วีย์ปรากฏตัว สายตาคับแค้นใจก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเจสัน สีหน้าโอหังบนใบหน้าตลอดจนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาได้หายไปจนสิ้น เขาไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว เขาจึงตัวสั่นไม่หยุด เขาคิดว่าจะสามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายด้วยพลังและความตั้งใจ… แต่เนื่องจากเขาเคยถูกสะกดจิตอ่อนๆ จึงไม่สามารถทนอยู่ได้นานนัก เจสันทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก ถ้าหากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ใช้พลังมากขนาดนั้น เขาก็อาจจะทนได้นานอีกสักหน่อย น่าเสียดายที่ไม่มีทางให้หวนกลับ “ฮาร์วีย์ แกต้องการอะไรกันแน่?” เจสันจวนจะหมดสติอยู่รอมร่อ แต่เขาก็ยังสามารถพูดคุยได้ทั้งๆ ที่ดวงตากระตุกริกๆ ตอนนี้เขาดูเหมือนคนใกล้ตายเต็มแก่แล้ว ฮาร์วีย์จิบชาด้วยท่าทีสงบนิ่งก่อนจะผุดรอยยิ้มจางๆ “โอ้ นายน้อยลีโอ ไม่พบกันเสียนานเลยนะ! “บอกฉันทีสิว่าคุณไร้ประโยชน์ขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “ตอนนั้นถ้าคุณเป่าสมองวินซ์ไปซะ… “อย่างมากคุณก็แค่หนีไป! คงไ
เจสัน ลีโอตัวสั่นจนยากจะระงับ เขารู้อยู่เต็มอกว่าตอนนี้ฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังมอบทางเลือกแบบไหนให้ตนเอง ไม่ว่าเขาจะฆ่าตัวตายหรือกลายเป็นทาสรับใช้ของฮาร์วีย์ ก็คงไม่มีใครคิดจะทำให้เทพสงครามกลายเป็นสมุนรับใช้ของตัวเองเสียด้วยซ้ำไป! เจสันพลันเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นที่ไร้หนทางระบายขึ้นมาทันที ศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่และเหตุผลบอกเขาว่า ถ้าหากตนคุกเข่าลงก็จะไม่สามารถต่อกรกับฮาร์วีย์ได้อีก ขณะที่เขายังตัวสั่นก็มองเห็นสายตาคับแค้นใจระหว่างที่เขาเพ่งมองปืนพกที่อยู่บนโต๊ะ เขาไม่ได้ถ่อมาถึงที่นี่เพื่อเป็นทาสรับใช้ของใคร! เขาต้องแก้แค้น! เขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ! ถ้าเขาตายไปเสียเดี๋ยวนี้ก็คงจะไม่บรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่าง! ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำมาก็ย่อมสูญเปล่า! ฮาร์วีย์จ้องมองเจสันพลางผุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่ง “นายน้อยลีโอ ผมชื่นชมความกล้าของคุณจริง ๆ “ในฐานที่เป็นคนจากประเทศ H คุณกลายเป็นสุนัขรับใช้ของดินแดนพระอาทิตย์ฯไปแล้ว ตอนนี้คุณถึงได้หัวเสียใส่ผมเพราะความภาคภูมิใจในฐานที่เป็นทาสรับใช้ของดินแดนพระอาทิตย์ฯ “คุกเข่าคงไม่ยากไปมั้ง? “เมื่อหกปีก่อนคุณ
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านอาหารซีไซต์ที่อ่าววิคตอเรีย ควินนี่ ยอร์กเป็นเจ้าของร้านนี้และเป็นหนึ่งในร้านโปรดที่ฮาร์วีย์ ยอร์กชอบมาทานอาหาร ตอนนั้นฮาร์วีย์ก็จัดการกับออโรร่า ปาร์คเกอร์ดาราดังที่กลายมาเป็นสายให้เขาที่นี่ ย่อมไม่แปลกอะไรหากฮาร์วีย์จะจัดการกับเจ้าหญิงลำดับที่สี่ที่นี่บ้าง เพื่อแสดงความจริงใจของตัวเอง เจ้าหญิงลำดับที่สี่ได้จองทั้งร้านเอาไว้ล่วงหน้า ไม่เพียงเป็นเครื่องปรุงชั้นเลิศเท่านั้น แต่เธอถึงขนาดเอาลาตูร์ 1982 จากดินแดนพระอาทิตย์ฯ ฮาร์วีย์ไม่คิดจะอดกลั้นสักนิด หลังจากเห็นอาหารเลิศรสเต็มโต๊ะ เขาก็ควงช้อนส้อมแล้วจัดการจนเต็มคราบ เจ้าหญิงลำดับที่สี่ไม่ได้ทานอาหารกับฮาร์วีย์ เธอคีบก้านแก้วพลางจิบไวน์ไปสองสามอึกด้วยท่าทีสงบนิ่ง เรือนร่างอรชรของเธอเผยโฉมออกมาท่ามกลางตะวันชิงพลบ ทั้งยังได้กลิ่นหอมสดชื่นจากเรือนกายของเธออีกด้วย เธอสั่งให้องครักษ์ออกไปแล้ว สีหน้าเย่อหยิ่งและห่างเหินหายไปจากใบหน้าของเธอจนสิ้น มองเห็นเพียงความอ่อนล้าและระทมทุกข์ของเธอในยามนี้ “ฉันเหนื่อยแล้ว หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือฉันทำแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้นสักพัก เจ้าหญิงลำดับที่สี่ก
“ข้อสาม ผมจะมอบทุกคนกลับคืนให้คุณไป “ถ้าคุณต้องการกำลังคนกับอาวุธล่ะก็ ผมจะมอบให้คุณหมดเลย “แต่ก่อนที่คุณจะไปจากที่นี่ ผมอยากให้คุณต่อสู้ดุเดือดกับวินซ์ ยอร์ก “ยังไงซะพวกเราก็ไม่สามารถปล่อยให้คนที่ทิ้งคุณไปลอยนวลไปง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ?” หลังจากเงียบไปสักพัก เจ้าหญิงลำดับที่สี่ก็ค่อย ๆ ตอบว่า “นายท่านยอร์ก ใช่ว่าฉันจะไม่ตอบรับเงื่อนไขของคุณสักหน่อย “ฉันรู้ดีว่าคุณทำงานยังไง “ในเมื่อคุณเต็มใจมอบเจสัน ลีโอคืนมาให้ฉัน นั่นก็หมายความว่าคุณได้ควบคุมเขาไว้แล้ว “คน ๆ นี้ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง… “ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ฉันคงไม่มีโอกาสต่อกรกับวินซ์ได้หรอก ไม่ว่าคุณจะยินดีมอบกำลังคนกับอาวุธปืนมาให้ฉันมากมายขนาดไหนก็ตาม” “บอกเงื่อนไขอีกข้อมาสิ” เมื่อเจ้าหญิงลำดับที่สี่นึกถึงผลได้ผลเสียแล้ว ท่าทีวางอำนาจของเธอก็หายวับไปจนสิ้น ฮาร์วีย์ยิ้ม “ไม่เลวเลยนี่ ผมชอบการวางตัวของคุณนะ “ผมไม่ชอบให้คุณปฏิเสธเงื่อนไขของผม แต่ผมบอกได้เลยว่าคุณมีความจริงใจ “งั้นผมขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งสิ “หลังจากนี้ผมอยากให้คุณหาข้ออ้างที่จะเดินจากไป “กลับไปที่ดินแดนพระอาทิตย์ฯแล้วระดมกำลังพลของคุณ “มีชีว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข