นี่คือความอัปยศที่สุด!อัปยศที่สุดในชีวิต!ในขณะนี้ ใบหน้าของรูสเวลต์บิดเบี้ยวแปรเปลี่ยนสีหน้าน่าสยดสยองเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่เรี่ยวแรงที่หัวเข่าของเขาเหือดหายไปหลังจากถูกสายตาเรียบเฉยของฮาร์วีย์จ้องมองร่างกายของเขากำลังเตือนเขาว่าเขาจะตาย หากเขาฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นยืนฮาร์วีย์เมินเฉยต่ออัศวินที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น และจ้องมองไปที่เจ้าหญิงองค์ที่สี่“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ ดูเหมือนว่าอัศวินของคุณจะรู้หน้าที่เสียยิ่งกว่าคุณอีกนะ“คุณเหลือเวลาอีกสามวินาที…”“ไอ้สารเลว!”“นายล้ำเส้นเกินไปแล้ว!”อัศวินหลายคนกระโจนไปข้างหน้าพร้อมตะโกนใส่ฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดแต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ลงมือ เอ็ดวินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ดก็ขัดขวางพวกเขาไว้ทันที“หนึ่งวินาที…” ฮาร์วีย์พูดอย่างสบาย ๆ และนับต่อไป ราวกับว่าเขาไม่เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น“ถ้าคุณยังเลือกไม่ได้ ก็ต้องขออภัยด้วย แต่ผมจะเลือกแทนเอง…”“ไอ้บ้านี่! ไอ้สารเลวเอ๊ย!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่สั่นเทาด้วยความโกรธ ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเธอไม่เคยถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อนถึงกระนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ที่เอาแต่พูดจาหน้าหงุด
ฮาร์วีย์เช็ดมือของเขาก่อนจะตอบเธออย่างสงบ “เราไม่ได้ทำธุรกิจกันแบบนี้ เจ้าหญิง“ก่อนจะพูดเรื่องการปล่อยคน อย่างแรกเราควรจะตัดสินกันก่อนไม่ใช่เหรอว่าเจสันควรจะอยู่หรือตาย?“อย่าลืมสิ! ตามข้อตกลงของเรา ชีวิตของเขาเป็นของผม เขาเป็นคนรับใช้ของผม ถ้าผมสั่งให้เขาไปตายเขาก็ต้องไปตาย“แต่ถ้าคุณอยากให้เขารอดไปได้คุณก็ต้องฆ่าวินซ์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน“ถ้าเขาตาย เจสันก็จะรอด ข้อตกลงยังคงเป็นเช่นนั้น ผมไม่คิดจะล้มเลิกเรื่องนั้นหรอก”เจ้าหญิงองค์ที่สี่สูดหายใจเข้าปอด“ฉันรู้ว่านายกำลังพยายามทำให้ตระกูลเศรษฐีของฮ่องกงและลาสเวกัสเป็นศัตรูกับดินแดนพระอาทิตย์ฯ ฮาร์วีย์“เช่นนั้นแล้ว ดินแดนพระอาทิตย์ฯจะไม่มีสิทธิ์เข้ามาข้องเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่อีก“แผนที่นายคิดจะพรากลมหายใจของวินซ์ด้วยเจสันนั้นค่อนข้างฉลาดแกมโกงทีเดียว ฉันต้องยอมรับเลย“แต่ต้องบอกไว้เลยว่านายประเมินฉันสูงเกินไปแล้ว“ฉันไม่ได้เป็นตัวแทนของราชวงศ์ดินแดนพระอาทิตย์ฯ“ต่อให้ฉันจะเป็นศัตรูกับทุกคนที่นี่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต่อต้านดินแดนพระอาทิตย์ฯไปด้วยนี่“ความสัมพันธ์ของดินแดนพระอาทิตย์ฯกับฮ่องกงและลาสเวกัส
“นี่นายไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ ฮาร์วีย์?!”น้ำเสียงของเจ้าหญิงองค์ที่สี่เยือกเย็นลงเล็กน้อย“ฉันก็บอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ?“ประการแรก ถึงฆ่าวินซ์ไปก็ไม่มีประโยชน์!“ประการที่สอง ฉันไม่มีอำนาจพอจะจัดการเขาได้!“นายเปลี่ยนข้อตกลงไม่ได้เหรอ!“ตราบใดที่ฉันจัดการให้ได้ ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่กัดฟันเล็กน้อยราวกับว่าเธอเพิ่งตัดสินใจอะไรได้“ต่อให้นายอยากจะทำอะไรแปลก ๆ กับฉัน ฉันก็จะสนองความปรารถนาของนายให้ได้!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่โชว์ไหล่สีซีดของเธอเพื่อแสดงความจริงใจ"ขออภัยด้วย คุณไม่คู่ควรหรอก”ฮาร์วีย์หัวเราะอย่างใจเย็น“ผมไม่สนใจทำเรื่องอย่างว่ากับคุณหรอก“แล้วอีกอย่าง ไม่ใช่หน้าที่ที่คุณต้องมาบอกผมว่าการฆ่าวินซ์มีประโยชน์หรือไม่มี ผมต่างหากที่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องนั้น“ต่อให้ผมจะไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ระหว่างดินแดนพระอาทิตย์ฯ กับตระกูลเศรษฐีของฮ่องกงได้ หากผมต้องการ คุณก็ต้องหาทางกำจัดเขาให้ได้“เพราะถ้าคุณฆ่าวินซ์ไม่ได้ แล้วผมจะเชื่อคุณได้ยังไง?“ผมจะยอมเชื่อคุณก็ต่อเมื่อวินซ์ตาย”สำหรับฮาร์วีย์ วินซ์ไม่ใช่คนที่เขาจะจัดการได้ง่าย ๆไม่ใช่ว่าฮาร์วีย์
“ส่งแขกด้วย!”หลังจากชงชาดำอีกกาหนึ่ง ฮาร์วีย์โบกมือเป็นสัญญาณอย่างสงบ โดยไม่คิดจะให้เกียรติเจ้าหญิงองค์ที่สี่เลยแม้แต่น้อย“ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่กัดฟัน เธออยากจะออกฤทธิ์ แต่ก็ควบคุมตัวเองไว้ได้อย่างสุดกำลังเธออยากจะสาดน้ำชาใส่ฮาร์วีย์แต่เธอทำได้เพียงต้องระงับความโกรธเอาไว้ เธอรู้ว่าผลที่ตามมาของการทำสิ่งนั้นจะเลวร้ายเพียงใดหลังจากจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาเพียงไม่กี่นาที เจ้าหญิงองค์ที่สี่ก็ลุกออกไปจากสถานที่นั้นไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็นั่งอยู่ที่ด้านหลังของรถโรลส์รอยซ์ของเธอด้วยท่าทางเศร้าหมองอย่างยิ่งเลขาหน้าตาหล่อเหลาและสง่ายื่นแก้วแชมเปญให้เธอด้วยความเคารพ“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ เราควรทำอย่างไรดี?”สีหน้าของเจ้าหญิงองค์ที่สี่มืดลงทันที“เรียกอัศวินโต๊ะกลมให้มารวมตัวกัน!” เธอเอ่ยขึ้นอัศวินโต๊ะกลมเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากกองกำลังอัศวินเทมพลาร์อีกทีหากอัศวินเทมพลาร์ถือเป็นกองกำลังพิเศษ อัศวินโต๊ะกลมก็จะเป็นราชาแห่งกองกำลังพิเศษแม้แต่เจ้าหญิงองค์ที่สี่ซึ่งมีสถานะค่อนข้างสูง ก็ยังไม่มีอัศวินเหล่านั้นติดตามข้างกายและหลังจากได้ยินคำสั่งของเธอ สีหน้าของเลขา
ดูเหมือนว่าควินนี่จะเข้าใจในสิ่งที่ฮาร์วีย์ต้องการ“ถ้าเป็นอย่างนั้น เราควรเพิ่มการป้องกันหรือเปล่า” เธอถามด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น“ไม่อย่างนั้นแล้ว หากเจ้าหญิงองค์ที่สี่สามารถช่วยคนของเธอไปได้ เธอจะต้องร่วมมือกับวินซ์หันมาแว้งกัดเราแน่นอน”"ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีแผนสำหรับเรื่องนั้นไว้อยู่แล้ว” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น“เธอมีอำนาจค่อนข้างจำกัด ในตอนนี้เธอทำได้เพียงพึ่งพาลูกหลานของประเทศ H ที่อยู่ในดินแดนพระอาทิตย์ฯได้เท่านั้น“ถึงแม้จะมีอัศวินโต๊ะกลมอยู่ด้วย เธอก็ไม่มีทางเข้าใกล้ลูกน้องของเธอได้ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่”ควินนี่พยักหน้า จากนั้นจึงเริ่มไตร่ตรองสถานการณ์ต่าง ๆ“ถ้าเธอเข้ามาช่วยพวกเขาไม่ได้ เธอก็อาจจะหาตัวประกันมาแลกเปลี่ยนกับคุณสองสามคน”“เธอคิดมากเกินไปแล้ว การมียอดฝีมือของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงอยู่เคียงข้างแบบนี้ ฝ่ายนั้นไม่มีทางแตะต้องเธอได้หรอก“เลสลี่มีทั้งรัฐบาลฮ่องกงอยู่กับเธอ…“โยอาน่ามีวังมังกร…“ไอรีนมีสาขาของหลงเหมิน…“ซีน่ามีตระกูลแฮมิลตัน…“ถ้าเจ้าหญิงองค์ที่สี่พอมีสมองอยู่บ้าง เธอจะไม่ไปหาสาว ๆ พวกนั้น“ยิ่งกับพวกจิ้งจอกขาวเจ้าเล่ห์คนอื่น ๆ… ถ้าพวกเขาทำให้ตั
ควินนี่ประทับใจกับใบหน้าเรียบเฉยของฮาร์วีย์ขณะที่เธอกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของเจสัน ฮาร์วีย์ก็วางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว โดยวางกับดักแล้วล่อให้เจสันเข้ามา ควินนี่ตั้งตารอให้เจ้าหญิงองค์ที่สี่ลงมือแทบไม่ไหวเธอหวังว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่จะฆ่าวินซ์ตามที่ฮาร์วีย์เรียกร้องหากเจ้าหญิงองค์ที่สี่ไม่ทำตามนั้นและคิดจะเล่นตุกติก ฮาร์วีย์จะฆ่าเธอได้โดยไม่ลังเลเลย"จริงสิ อย่างแรกเจ้าหญิงองค์ที่สี่คงไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายอย่างที่เราคิด”ฮาร์วีย์เปลี่ยนเรื่องก่อนจะโยนยูเอสบีไปให้ควินนี่“ฉันต้องการให้ยูเอสบีนี้ไปที่วอลช์ เดลินิวส์ด้วยวิธีที่สมเหตุสมผลที่สุด ในตอนที่จำเป็น”ควินนี่ตัวแข็งเล็กน้อย"นี่คือ…""ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ภาพที่เจ้าหญิงองค์ที่สี่กำลังคุกเข่าก็เท่านั้น“แน่นอน ฉันลบภาพตัวเองออกไปหมดแล้ว"บอกฉันที หากดินแดนพระอาทิตย์ฯ ผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีค้นพบว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่ของพวกเขากำลังคุกเข่าอยู่ในดินแดนต่างประเทศ…“จะเกิดอะไรขึ้นกับตำแหน่งของเธอ”ควินนี่ถอนหายใจ ฮาร์วีย์ค่อนข้างพูดจาขวานผ่าซากเลยทีเดียวถ้าเจ้าหญิงองค์ที่สี่พยายามทำอะไรสักอย่าง เธอคงมีจุดจบที่น่าสยดสยอง…ใน
นายน้อยคนที่สิบสามหรี่ตามองแมนดี้ก่อนจะพูดว่า “คุณซิมเมอร์ คงไม่มีข้อกังขาในแผนธุรกิจของคุณ”“แต่ถึงจะนั้นผมยังคงคิดว่าเราควรปรับเปลี่ยนส่วนแบ่งรายได้ของเรา ตัวอย่างเช่น ผมจะได้เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ และคุณจะได้เพียงสามสิบ”"แน่นอน…"“เราจะมามัวอ้อมค้อมต่อไปไม่ได้แล้ว“ถ้าในสองวันนี้คุณพอมีเวลา ก็ไปที่ฟลัตเวลล์กับผมสิ“แล้วคนจะได้รู้ว่าคุณโชคดีแค่ไหนที่ได้ร่วมงานกับตระกูลบาวเออร์“หากคุณจับมือกับเรา ตำแหน่งของคุณภายในตระกูลฌองก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น“ท้ายที่สุดแล้ว จากตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศ H ตระกูลฌองก็ถือว่ารั้งท้ายที่สุด พวกเขาเทียบตระกูลเราไม่ได้ด้วยซ้ำ!“แน่นอน ถ้าคุณพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมของผม ผมก็ยินดีจะประนีประนอมให้ด้วยเช่นกัน“ในโลกนี้ การแต่งงานดองกันดีกว่าสัญญากระดาษเพียงใบเดียวอยู่แล้ว“แล้วผม โจเซฟ บาวเออร์ ก็เรียกได้ว่ามีความรู้สึกที่จริงใจต่อคุณอย่างที่สุดเช่นกัน“คุณควรกลับไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน เพราะคุณคือผู้หญิงคนแรกที่ผมคิดจะแต่งงานด้วย”คำพูดของโจเซฟทำให้เลขาและผู้ช่วยรอบ ๆ แมนดี้เบิกบานใจอย่างยิ่งนี่เป็นข้อเสนอที่มาจากซีอีโอยอดฝีมือในตำนาน!
แมนดี้ยกสัญญาในมือของเธอขึ้นมาอย่างใจเย็น“ขอบคุณที่เชิญค่ะ นายน้อยบาวเออร์” เธอกล่าวอย่างสงบ“แต่ฉันไม่คิดว่าการไปที่นั่นกับคุณก่อนที่ข้อตกลงจะลุล่วงเป็นเรื่องจำเป็นอะไร”“ถ้ามันไม่จำเป็นสำหรับการร่วมงานของเรา ทำไมไม่ลองคิดซะว่ามันเป็นการไปพักผ่อนดูล่ะ?” โจเซฟแนะนำ"จริงสิ ผมลืมบอกอะไรคุณไปบางอย่าง ผมชวนคุณป้าเยตส์มาด้วย แล้วเธอก็ตอบรับคำเชิญอย่างยินดี…“เพราะว่าคุณจะไปกับพวกเราด้วย“ไม่งั้นคุณจะปล่อยให้แม่ผู้เป็นที่รักไปในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ได้หรือ?”ใบหน้าของแมนดี้มืดลงทันทีเมื่อมาถึงจุดนี้ เธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับโจเซฟอย่างไรต่อไปเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในลาสเวกัส ทำให้เธอไม่ได้ติดต่อกับฮาร์วีย์มาครึ่งปีแล้วในทางกลับกัน ลิเลียนเอาแต่ยุ่งย่ามเพื่อให้เธอหย่ากับฮาร์วีย์อย่างไม่ยอมเลิกรา แมนดี้รู้สึกท้อแท้มากเพราะเหตุนี้โจเซฟเผยรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อสังเกตเห็นท่าทางไม่ยินดีของแมนดี้"เอาละ ผมจะไม่รบกวนเวลาของคุณอีกต่อไปแล้ว“ผมจะรอคำตอบจากคุณ!“ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย"ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ว่าคุณจะมาหรือไม่มามันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา”โจเ