ตอนที่ 2 คนค้ำประกัน
--- ดีแลน Talk ---
ณ โกดังเก็บของ DLKK
หลังจากที่ลูกน้องของผมได้ไปจับตัวไอ้พวกคนที่มันบังอาจเบี้ยวหนี้ของผมมาได้ และดูท่าว่าพวกมันคงน่าจะกำลังรอผมให้ไปพิพากษาอยู่นั้น ผมที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ นั่งสงบจิตสงบใจอยู่ในรถสักพักก็ได้เดินลงไปยังสถานที่ที่ลูกน้องของผมจับตัวไอ้พวกหน้าด้านเอาไว้ ทั้งที่แม้ว่าโดยปกติแล้วผมจะปล่อยให้พวกลูกน้องจัดการตามกฎของการเบี้ยวหนี้ไป แต่คงเป็นเพราะว่าหลายวันมานี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไรประจวบกับอยากจะหาที่ระบายพอดี ยังไงซะ...วันนี้ผมก็ขอมาปลดปล่อยเล่นกับเหยื่อสักหน่อยให้หายเซ็งก็แล้วกัน...หึหึหึ
ผมเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าสบาย ๆ ก่อนที่บรรดาลูกน้องทั้งหลายจะก้มหัวทำความเคารพผมอย่างนอบน้อมทันทีที่เห็นผม
"สวัสดีครับนาย... / สวัสดีครับนาย.../ สวัสดีครับนาย..."
หลายเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่ไอ้ริกลูกน้องคนสนิทของผมก็รีบรายงานถึงข้อมูลของคนที่ไปจับตัวมาวันนี้คร่าว ๆ ในขณะที่ผมกำลังหย่อนกายลงนั่งไขว่ห้างยังเก้าอี้ที่ลูกน้องจัดเตรียมเอาไว้ให้
“นายครับ...บุคคลที่ครบตามกำหนดสัญญาจับตัวมาได้แล้วครับ แต่ว่ามีแค่เคสนี้ที่จับมาได้มาแค่คนค้ำนะครับ เรายังไม่ใช่ตัวไอ้คนกู้แต่อีกไม่นานเราจับมันมาได้แน่นอนครับ เพราะตอนนี้สายของเราจับความเคลื่อนไหวของมันได้แล้ว เพียงแต่รอให้แน่ใจอีกนิดเท่านั้นครับ” ริกรายงานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่ท่วงท่ากลับดูนอบน้อม
ผมที่ฟังสิ่งที่ลูกน้องรายงานแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไรลูกน้องคนสนิทกลับไป เพราะกำลังรู้สึกระอาอยู่ในใจกับไอ้พวกลูกหนี้ที่มันคิดสั้นเลือกที่จะเบี้ยวหนี้คนอย่างผม
(ชิ...ไอ้พวกนี้นี่มันน่าจับฆ่าหมกปูนจริง ๆ พอถึงเวลาใช้หนี้ไม่ค่อยอยากจะใช้กัน ทำไมถึงชอบเล่นซ่อนแอบกับผมกันนักก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่พวกมันก็ต่างรู้ดีว่าพวกมันหนีผมยังไงก็หนีไม่พ้น แต่ก็ยังดันทุรังจะหนี เหอะ...เอาเถอะ...หนีได้หนีไป แต่อย่าให้ผมเจอตัวแล้วกัน...หึ) ผมแสยะยิ้มร้ายอย่างรู้สึกเหยียดหยาม ก่อนจะปรายตามองไปยังร่างคนตรงหน้าที่นอนฟุบหน้าอยู่ที่พื้นด้านล่างด้วยสายตาขยะแขยง
(แต่ว่าเคสนี้คนค้ำเป็นผู้หญิงเหรอเนี้ย...เหอะ...สงสัยคงจะค้ำประกันให้ผัวซินะ เห้ออออ...ไอ้พวกหน้าตัวเมียพวกนี้นี่ ชอบหลอกให้ผู้หญิงมาค้ำประกันเงินกู้ให้แล้วชิ่งหนี พอถึงเวลาก็มีแต่พวกผู้หญิงนี่แหละที่ต้องมารับกรรมแทน แต่ถึงจะดูน่าสงสารแค่ไหนแต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้...ก็อยากโง่ให้ไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นมันหลอกกันเองนี่...รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรไปค้ำประกันให้ใครแม้กระทั่งคนที่นอนคุยอยู่ทุกคืนก็ตาม...) ผมนึกเย้ยหยันปนเวทนาเคสที่ผ่าน ๆ มาและคนตรงหน้าในใจ ก่อนจะใช้สายตาสำรวจไปยังคนที่ผมเพิ่งดูถูกไปพลาง ๆ
(แต่จะว่าไป...ผู้หญิงคนนี้ก็ดูจะใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะทรวดทรงองค์เอวที่ไม่ใช่แค่สมส่วนและไม่เรียกว่าแค่ใช้ได้ แต่ถึงกับดีมากเลยทีเดียว...เขาเรียกอะไรนะ...แบบเนื้อนมไข่ใช่หรือเปล่านะ ไหนจะผิวที่เนียนขาวละเอียดผุดผ่องที่แค่ได้พิจารณามองทั้งที่ยังไม่ทันได้สัมผัสก็พอจะรับรู้ได้ถึงความนุ่มลื่นของเนื้อสาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายตาซุกซนของผมมันดันเหลือบมองไปยังก้อนเนื้อนุ่มนิ่มที่แม้จะถูกห่อหุ้มด้วยบราเซียสีขาวแต่ก็ยังดันล้นปริออกมาเนื่องจากสาบเสื้อที่แยกออกจากกันเพราะกระดุมที่ใช้ยึดเหนี่ยวหลุดหาย จนความอวบใหญ่กลมกลึงของหญิงสาวถึงกับทำให้ผมลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายอึกเหมือนกัน...เฮ้ออออ...ภาพตรงหน้านี้มันช่างทำให้ผมอยากจะ...เห้ยยยย นี่กูคิดอะไรไปไกลขนาดนี้ว่ะ...สติ ๆ ไอ้ดีน...นั่นลูกหนี้มีผัวแล้วนะโว๊ยยยยย...) ผมที่มองคนที่นอนกองไม่ได้สติตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ก่อนที่จะสลัดหัวไปมาไล่ความหื่นให้ออกไปจากหัวตัวเอง
และในขณะที่ผมกำลังพยายามดึงสติของตัวเองที่กำลังเตลิดไปไกลให้กลับมาอีกครั้ง ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้ริกยื่นเอกสารสัญญากู้ยืมของคนตรงหน้ามาให้ผมดู และในจังหวะที่ผมกำลังกวาดสายตาอ่านรายละเอียดเอกสารในมืออยู่นั้น เธอคนที่ผมเพิ่งเผลอคิดเกินเลยไปไกลก็ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมา...
'กรี๊ดดดดด~~ นะ...นี่พวกนายจับฉันมาทำไม ปล่อยฉันไปนะไอ้พวกบ้า!!'
เสียงโวยวายถูกส่งออกมาจากปากเจ้าของร่างบางที่เพิ่งฟื้นเมื่อสักครู่นี้ ภาพที่เธอกำลังดีดดิ้นพยายามเพื่อจะหนีไปให้พ้นจากตรงนี้จนผมเผ้ายุ่งเหยิง ทำให้ลูกน้องของผมต้องรีบชาร์ตเข้าประชิดตัวกดไหล่บางเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้เธอลุกขึ้นวิ่งหนี
และหลังจากที่ผมปล่อยให้เธอออกฤทธิ์เดชได้สักพัก ผมที่เริ่มชักจะรำคาญเสียงของเธอก็ได้พูดขึ้นเพื่อให้เธอสงบลงสักที
‘ฟื้นสักทีนะ ปล่อยให้กูรอได้ตั้งนาน’ ผมพูดออกไปด้วยความรำคาญ เพราะผมมักจะรู้สึกรำคาญจริตจะก้านของผู้หญิงพวกนี้ โดยเฉพาะอีพวกที่มาเซ็นค้ำหนี้เพราะรักผัวจนตัวเองต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกสมเพชอย่างบอกไม่ถูก
และทันทีที่สิ้นเสียงของผม เจ้าของร่างบางที่ดีดดิ้นก็พลันหยุดชะงักงันอย่างกับถูกปิดสวิตช์
จากนั้น...ผู้หญิงที่รับรู้ได้ถึงเสียงอันทรงอำนาจของผมก็ค่อย ๆ หันมาทางที่ผมนั่งช้า ๆ แต่ทว่า...เธอกลับไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมตรง ๆ แต่เธอเลือกที่จะมองผมไล่ขึ้นมาจากปลายเท้าแทน
(เหอะ...นี่มันคือการดูถูกกันชัด ๆ) ผมคิดหงุดหงิดในใจ
จนกระทั่ง...เมื่อผมที่เริ่มจะเหลืออดต่อพฤติกรรมของเธอที่ดูไร้มารยาทเอาแต่จ้องสำรวจผมไม่วางตา ก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดกับคนตรงหน้าจนอดไม่ไหวที่จะตะคอกเธอออกไป
‘มึงมองพอหรือยัง...ห๊ะ!!’
สิ้นเสียงที่ดังก้องกังวานของผม ผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการสำรวจเรือนร่างของผมก็ถึงกับสะดุ้งโหยงรีบเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความตกใจ...แต่ใครมันจะไปคาดคิดว่าทันทีที่ผมได้เห็นใบหน้าของเธอเต็มสองตา ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้หัวใจอันด้านชาของผมกระตุกวูบเต้นระรัวทันที...
(เชี้ยยยย...โคตรน่ารักเลย...ผู้หญิงอะไรวะหน้าตาโคตรตรงสเปค แถมหุ่นก็เอ็กซ์สุด ๆ ...สวยขนาดนี้ผัวทิ้งให้มารับชะตากรรมคนเดียวได้ไงว่ะเนี้ย...) ผมถึงกับตะลึงงันเมื่อได้สบตากับเธอพร้อมกับได้พิจารณาใบหน้าของเธออย่างถี่ถ้วนเต็มสองตา
ภาพหญิงสาวใบหน้ารูปไข่ผิวขาวเนียนละเอียดที่ถูกแต่งแต้มด้วยริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ บวกกับพวงแก้มที่แดงนิด ๆ จากเลือดฝาดที่ขึ้นมาหล่อเลี้ยงจนดูเปล่งประกายสดใส ช่างดูรับกับจมูกที่เชิดรั้นเป็นสันสวย อีกทั้งเมื่อได้มองเข้าไปยังดวงตากลมโตสีนิลดำสนิทที่แม้ว่าตอนนี้จะมีความหวาดหวั่นอยู่ในนั้นก็ตาม แต่ทว่า...แสงประกายความสุกใสของมันช่างเจิดจ้าจนทำให้ผมไม่อาจจะละสายตาไปจากดวงตาสวยคู่นั้นได้เลย...
ตอนที่ 3 เป็นหนี้ก็ต้องใช้!!--- ลลิน Talk ---ในขณะที่เราทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในภวังค์รูปโฉมความงามของอีกฝ่าย โดยเฉพาะฉันที่ตอนนี้ได้หลงใหลในใบหน้าคมเข้มแบบสไตล์ลูกรักพระเจ้าของเขาที่กำลังส่งผลต่อหัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันให้สั่นไหวอยู่นั้นก็ยังเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉันรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตจากร่างอันกำยำของคนตรงหน้าที่แผ่ซ่านจนทำให้อดรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ ดังนั้นเพื่อความอยู่รอด...ฉันจึงต้องรีบดึงสติของตัวเองให้กลับมาโดยไว ก่อนที่ตัวเองจะโดนทั้งความหล่อและความร้ายของเขาแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี(สติ...สติ...ยัยลิน...ฮึบ) ฉันที่พยายามเรียกสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงไปไกลให้กลับมา ก่อนจะเริ่มเปิดปากถามคนตรงหน้าออกไปอีกครั้งถึงเหตุผลที่เขาให้ลูกน้องจับฉันมาในครั้งนี้“นะ...นายจับฉันมาทำไม” ฉันกลั้นใจถามออกไปแม้ว่าในใจจะรู้สึกกลัวอยู่มากก็ตาม แต่เนื่องจากเพราะว่าฉันเองก็อยากจะรู้ถึงเหตุผลจริง ๆ ที่ตัวเองถูกจับมาแบบนี้ถึงยอมที่จะเสี่ยงถามออกไปทั้งที่กลัวและทันทีที่สิ้นประโยคคำถามของฉัน ใบหน้าเคลิบเคลิ้มของเขาที่เพิ่งหลุดออกจากภวังค์ความหลงใหลที่มีต่อฉันนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวที่ฉั
ตอนที่ 4 ค้ำประกันให้ผัว!!สิ้นเสียงตวาดของเขาหลักฐานตรงหน้าก็ไม่อาจจะทำให้ฉันปฏิเสธอะไรออกไปได้เลย ฉันที่ทำได้เพียงแค่เม้มปากแน่นพร้อมกับสายตาที่เริ่มสั่นระริกเนื่องด้วยจำนนต่อหลักฐาน นั่นก็เพราะว่าภาพตรงหน้าลายเซ็นนั้นมันเป็นของฉันจริง ๆ เพียงแต่ว่าฉันยังจำไม่ได้ว่าไปเซ็นเอาตอนไหนกันนะ อีกทั้งนึกยังไงก็นึกไม่ออกฉันสะบัดหัวไปมาเล็กน้อยเพื่อเรียกสติที่อาจจะดับวูบไปได้ทุกขณะให้กลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนจะพยายามตั้งสติแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด(...ฮึบ...มีสติเข้าไว้ยัยลิน เรื่องนี้มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน มันต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่ ๆ เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งสติแล้วอธิบายให้เขาฟัง...ใช่!! ฉันต้องรีบอธิบาย...)เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบเอ่ยปากบอกเขาไปตามความจริงที่เกิดขึ้น...“กะ...ก็ใช่ ตะ...แต่ว่า” ฉันยอมรับตามภาพตรงหน้าก่อน พร้อมกับพยายามที่จะอธิบายเพิ่มเติมแต่ทุกอย่างมันกลับไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เมื่อเขายังคงแสดงทีท่าออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่ยินยอมที่จะรับฟังข้อเท็จจริงจากฉันเลย“ถ้าใช่ลายเซ็นของมึงงั้นก็แปลว่า...มึงต้องรับผิดชอบ!!” เสียงแข็งกร้าวดุดันยังคงตวาดใส่ฉันไม่หย
ตอนที่ 5 ลูกหนี้ตัวจริง “อ๊ะ...!! หรือว่าจะเป็นตอนนั้น”ฉันพูดพร่ำกับตัวเอง ก่อนจะเอ่ยบอกกับเขาออกไปด้วยความตื่นเต้น“นะ...นี่นาย...ฉะ...ฉันจำได้แล้ว ต้องเป็นวันนั้นแน่ ๆ นายตั้งใจฟังฉันก่อนนะ...เรื่องมันเป็นแบบนี้ วันนั้นหัวหน้าของฉันใช้ให้ฉันมาเซ็นเอกสารที่บริษัทนี้...ใช่...บริษัท DLKK นี่แหละ ชื่อบริษัทก็เป็นชื่อเดียวกับหัวกระดาษในใบสัญญานี่เลย” ฉันรีบกุลีกุจอยื่นเอกสารพร้อมกับชี้มือชี้ไม้ให้เขาดู ก่อนที่ตัวเองจะรีบอธิบายเพิ่มเติมด้วยความร้อนรนเพราะเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก“แล้ววันนั้นฉันจำได้ว่าฉันรีบมาก และด้วยเพราะความรีบร้อนนี่แหละที่ทำให้ฉันไม่ทันได้ระวัง...และตอนนั้นมันก็คงเป็นจังหวะที่เกิดความผิดพลาดขึ้นฉันเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ดูให้ดี แต่นาย...ฉันไม่ได้ไปเซ็นค้ำประกันให้ใครที่ไหนจริงๆ นะ แล้วอีกอย่างนายเห็นไหมว่าฉันเองก็ไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกับคนในสัญญานี่เลย ฉันอธิบายให้นายฟังหมดแล้ว นายลองไปตรวจสอบดูซิ ฉันรับรองได้เลยว่านายจะได้รู้ความจริงตรงตามที่ฉันบอกอย่างแน่นอน ถึงเรื่องที่ว่าฉันไม่ได้เป็นคนค้ำประกันให้กับใครทั้งนั้น ฉันยืนยัน นั่งยัน นอนยันเลยว่า ฉันไม่รู้จักเขาจริง ๆ
ตอนที่ 6 เมียขัดดอก!!ฉันที่ได้เห็นเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบในจังหวะที่กำลังจะเอ่ยปากบอกสำทับให้เขาฟังอีกครั้ง...ถึงเรื่องที่ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรในเรื่องนี้แล้ว และอีกอย่างในเมื่อเขาหาคนที่เป็นลูกหนี้มาได้แล้ว บริษัทก็ยกใช้หนี้ให้ไปแล้วก็สมควรแก่เวลาที่เขาควรจะต้องปล่อยฉันให้กลับบ้านไปได้สักที และในจังหวะที่ฉันกำลังจะเปิดปากพูดออกไปนั้น เขาที่เหมือนกับจะรู้ทันในความคิดของฉันก็ได้เอ่ยปากพูดสวนออกมาทันที“นี่เป็นแค่เฉพาะเงินต้นที่มึงเอาไป...แล้วดอกเบี้ยอีก 100 ล้านล่ะมึงจะหาคืนกูได้ยังไง” สิ้นเสียงประโยคที่เหมือนกับการขูดเลือดเอากับปู ก็ทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้างตกตะลึงในความอำมหิตใจจืดใจดำของเขาอย่างเสียไม่ได้(โอ้แม่เจ้า!! ดอกร้อยล้าน ต้นร้อยล้าน นี่มันขูดเลือดขูดเนื้อกันชัด ๆ) ฉันที่ถึงกับตะลึงพึงพรืดกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ยิน และถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกสยองในใจ และอดไม่ได้ที่จะสงสารผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง แต่ทุกอย่าง ณ เวลานี้มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันอีกแล้วเพราะฉะนั้น...รีบปล่อยฉันไปสักทีซิไอ้บ้านี่!!ส่วนคนที่เป็นลูกหนี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างของฉัน เขาเองก็ดูจะตกใจไม่ต่างกันถึงก
ตอนที่ 7 ครอบครัวแตกสลายฉันถึงกับอึ้งในพฤติกรรมที่แสนจะเห็นแก่ตัวของผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง ก่อนที่ความกดดันทุกอย่างจะทำให้ฉันที่ทนไม่ไหวปะทุอารมณ์ที่คับคั่งอยู่ภายในให้ออกมาพร้อมกับน้ำตา...“ฮึก...ฮึก...ฉันไปทำอะไรให้พวกนายกัน ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ นี่นายฉันไม่รู้จักนายเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาให้ฉันรับผิดชอบในสิ่งที่ฉันไม่ได้เป็นคนก่ออย่างนั้นเหรอ นายยังมีความเป็นคนอยู่บ้างไหม ฮึก ฮึก...” ฉันกัดฟันกรอดพูดในสิ่งที่รู้สึกอัดอั้นใส่หน้าผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างออกไปอย่างเหลืออด พร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่นึกรังเกียจอย่างไม่ปิดบังก่อนที่ฉันจะหันไประเบิดอารมณ์ใส่คนที่ไร้ทั้งหัวใจและไร้ถึงความเมตตา ผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตาแต่นิสัยเลวร้ายจนเผลอคิดว่าใครได้เป็นไปคู่ชีวิตชะตาคงสู่ขิตแน่ ๆ“ส่วนนาย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างมันเกิดจากความผิดพลาด ทำไมไม่ฟังกันบ้าง ฮึก...ฮึก...ฉันบอกว่าไม่ได้ทำไง...ฉันไม่ได้ทำเข้าใจกันบ้างซิ...ฮืออออ” คำพูดที่ระบายออกมาอย่างสุดกลั้น ความอดทนที่มีให้ต่อเหล่าพวกคนเห็นแก่ตัวพวกนี้ ฉันถึงกับไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหมตะคอกใส่ผู้ชายที่นั่งทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว อย่
ตอนที่ 8 ผู้หญิงคนใหม่ของ...เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงของครอบครัวครั้งใหญ่ได้ผ่านพ้นไป พร้อมกับความคิดให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอว่ายังเหลือผู้เป็นพ่ออยู่ ณ วินาทีนั้นพ่อที่เปรียบเสมือนโลกทั้งใบที่เหลืออยู่ของฉัน แม้ว่านับตั้งแต่เกิดเรื่องราวเลวร้ายในครั้งนั้นจะทำให้พ่อของฉันเปลี่ยนไป แต่ฉันก็ยังอุ่นใจที่ยังมีพ่ออยู่อยู่ดีจากวันนั้นพ่อของฉันท่านกลับไปทำงานอย่างบ้าคลั่ง และเลือกที่จะเลี้ยงฉันด้วยเงินแทนความรักและเอาใจใส่ แม้ว่าฉันจะพยายามเข้าใจและเลือกที่จะทำตัวให้เป็นปัญหาน้อยที่สุด แต่เงินนั้นก็ไม่สามารถทดแทนความรู้สึกโหยหาที่อยู่ภายในส่วนลึกของหัวใจเล็ก ๆ นี่ได้อยู่ดี ฉันที่ตั้งใจเรียนอีกทั้งยังทำตัวเป็นเด็กดีทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อที่จะไม่ทำให้พ่อของตัวเองต้องเป็นกังวลใจเลยสักครั้ง แต่ทว่า...ความรักดีและความตั้งใจที่จะเป็นเด็กดีของฉันนั้น คงจะทำให้ผู้ที่กำหนดชะตาชีวิตของฉันดูท่าจะไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไร หรืออาจจะเป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าฉันน่าจะฝึกความอดทนได้มากกว่าครั้งที่ต้องเสียใจกับเรื่องของแม่ไป หรือไม่พวกเขาเหล่านั้นก็คงไม่อยากให้ฉันใช้ชีวิตเรียบง่ายดั่งที่ใจปรารถนานั่นก
ตอนที่ 9 เล่นชู้!!ฉันที่ยังคงจำเหตุการณ์วันนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะหลังจากนั้นฉันก็รีบตรงดิ่งกลับมาบ้านป้านีที่ได้ยืนรอฉันอยู่ก่อนแล้วก็ได้บอกว่าถึงข่าวร้ายที่เกิดขึ้นว่าตอนนี้พ่อของฉันท่านถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยป้านีที่เป็นห่วงความรู้สึกของฉัน แกก็ได้ให้เหตุผลว่าตอนที่โทรไปที่ยังไม่ยอมบอกกับฉันทางโทรศัพท์ในตอนนั้น เพราะแกไม่อยากให้ฉันตกใจจนเป็นอันตรายไปจึงได้บอกให้ฉันมาเจอกันที่บ้านก่อน จากนั้นค่อยไปโรงพยาบาลพร้อมกันกับแก ส่วนฉันหลังจากที่ได้ฟังข่าวเกี่ยวกับพ่อของตัวเองแล้วนั้น ตัวฉันก็ถึงกับเกิดอาการช็อกจนสมองขาวโพลนตาลายแทบจะเป็นลมล้มลงไป โชคยังดีที่วินาทีนั้นฉันได้ป้านีปรี่เข้ามาประคองเรียกสติไม่ให้ดับวูบได้ทัน ไม่อย่างนั้นฉันคงได้เป็นลมหัวฟาดพื้นไปอย่างแน่นอนจากนั้นป้านีก็รีบพาฉันไปยังโรงพยาบาลที่ส่งพ่อของฉันไปรักษาทันที แม้ว่าทั้งฉันและป้านีจะยังไม่รู้สถานการณ์ของพ่อที่แน่ชัดว่าตอนนี้อาการของท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ทว่า...ด้วยสายใยระหว่างพ่อลูกบางอย่าง อีกทั้งความรู้สึกข้างในที่มันวูบโหวงแปลก ๆ มันทำให้ฉันอดรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ เมื่อควา
ตอนที่ 10 เมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย‘ฉันเป็น...เมีย...ที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้เสียชีวิตค่ะ และนี่ค่ะเอกสารการจดทะเบียนสมรส’คำพูดพร้อมกับใบเอกสารที่ยื่นไปต่อหน้าเจ้าหน้าที่พยาบาล เปรียบเหมือนกับสายฟ้าฟาดที่ผ่าลงมายังกลางศีรษะของฉัน อีกทั้งสายตาคู่นั้นที่แอบส่งมาเย้ยหยัน ยิ่งทำให้ฉันที่แทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ตั้งแต่ต้นถึงกับทรุดเข่าลงไปแทบจะในทันที ก่อนที่ตัวเองจะโชคดีที่ยังมีป้านีพุ่งตัวมาโอบประคองช่วยฉันไม่ให้ล้มลงไปได้ทัน... 'มะ...ไม่จริง' ฉันพึมพำเบา ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนเองได้ยิน 'เป็นไปไม่ได้ พ่อหนูไม่มีวันจดทะเบียนสมรสกับคนอย่างอายุพินแน่นอน เอกสารนี้มันต้องเป็นของปลอมแน่ ๆ ฮึก...ฮึก...' หัวทุยที่ส่ายไปมาอย่างไม่อยากที่จะยอมรับความจริง ยิ่งทำให้คนที่ถือไพ่เหนือกว่าได้ใจ'อ๊ะ...นี่พ่อของเธอไม่ได้บอกหรอจ๊ะว่าเขาจดทะเบียนกับฉันน่ะ อะนี่...ถ้าไม่เชื่อก็ดูให้เต็มตาซะนะ' น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสะใจถูกพ่นออกมาพร้อมกับหลักฐานที่เป็นใบทะเบียนสมรสยื่นมาตรงหน้าของฉันและคำพูดกับเอกสารตรงหน้าก็เป็นเหมือนไม้หน้าสามที่ตีแสกความจริงลงมากลางหน้าเนียนของฉัน และยิ่งเมื่อฉันได้พินิจเพ
ตอนที่ 50 ไม่ให้ไปโว้ย!!ฟู่วววว ~~ส่วนถอนหายใจโล่งไปอีกเปลาะ จนเผลอลืมไปเลยว่ายังมีคนที่นั่งหน้านิ่งข้าง ๆ ที่ยังรอถามคำถามฉันอีกมากมาย“เมื่อกี้ใคร...” เขาขมวดคิ้วเอ่ยถาม“นายไม่เห็นชื่อหรือไง” ฉันที่เพิ่งจะได้หายใจหายคอ กลับต้องมาถูกเขาสอบสวนอีก จนอดไม่ได้ที่จะกวนเขากลับด้วยทีท่ายียวน“หึ...ปากดีนักเดี๋ยวจับ...”“จะจับอะไร เดี๋ยวนะฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลยนะที่พูดแทรกออกไปแบบนั้น แถมยังพูดจาน่าเกลียดอีก” ฉันบุ้ยปากสวนใส่คนตรงหน้าอย่างไม่รอให้เขาได้พูดจบ ก่อนที่จะพานคิดไปถึงประโยคนั้นของเขา“แล้วอีกอย่างใครเขาเป็นเมียนายกัน...ชิ...ขี้ตู่ชะมัด” แก้มที่พองลมตุ๊บป่องอย่างเด็กที่ออกอาการงอน ทำให้คนที่นั่งด้านข้างถึงกับอมยิ้มด้วยความเอ็นดู“อีกไม่นานหรอก...เดี๋ยวก็ได้...”และในจังหวะที่เขายังพูดไม่ทันจบประโยคกริ๊งงงงงง ~~ กริ๊งงงงงง ~~เสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้หน้าจอที่แสดงชื่อบุคคลที่โทรเข้ามาก็ทำให้คนที่นั่งด้านข้างฉันเปลี่ยนจากใบหน้าอมยิ้มเป็นอึมครึมทันทีหน้าจอแสดงชื่อผู้โทรเข้า... (พี่ราม)“เปิดลำโพง” เขาเอ่ยปากออกคำสั่งเช่นเดียวกันกับที่เมื่อครั้งที่ป้าน
ตอนที่ 49 บอกไปว่าอยู่กับ‘ผัว’ เสียงตะคอกของเขาทำฉันถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ...นี่เขามายืนตั้งแต่เมื่อไร แล้วทำไมต้องทำเสียงดุแบบนี้ด้วย...แต่ทว่า...สัญชาตญาณส่วนลึกของฉันมันได้บอกเอาไว้ว่า ถ้าหากน้ำเสียงเขาส่งมาแบบนี้เมื่อไหร่ เท่ากับไม่เป็นผลดีต่อตัวของเองอย่างแน่นอน“นะ...นาย” ฉันหน้าซีดเผือดเรียกชื่อเขาตะกุกตะกัก โดยที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องกลัวเขามากขนาดนี้“กูถามว่าไอ้เหี้ยนี้มันเป็นใคร...” เขายังคงจ้องเขม็งมองฉันอย่างคาดคั้น และก่อนที่เขาจะทันได้เอื้อมมือมาคว้าเอาโทรศัพท์ฉันไป ฉันก็ได้เอาโทรศัพท์ของตัวเองหลบมือเขาทันเสียก่อน“ความลับ...??” (-*-) ใบหน้าอันบูดบึ้ง พร้อมกับน้ำเสียงที่กดต่ำลงของเขา ทำฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่“นะ...นายเป็นอะไรของนายเนี้ย...เสียมารยาทชะมัด” ฉันยังคงแสร้งตำหนิเขาทั้งที่ใจสั่นระรัวไม่ต่างจากร่างกาย“เอาโทรศัพท์มานี่...!!” และน้ำเสียงที่กดต่ำพร้อมกับไอสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างสง่างามที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงทรงคุณชายเข้ารูปสีเดียวกันนั้น ยิ่งทำให้รังสีที่แผ่ออกมานั้นยิ่งดูน่าเกรงขามนับร้อยเท่าพันทวี“แล้ว นะ...นายมีสิทธ
ตอนที่ 48 มันเป็นใคร!!ซ่า ~~ฉันปล่อยให้สายน้ำชะล้างทุกอย่างบนล่างกายโดยหวังจะให้ความรู้สึกทุกอย่างมลายหายไปจนหมดสิ้น แต่ทว่า...สายน้ำก็กลับชะล้างได้เพียงคราบเหงื่อไคลที่อยู่บนกายเท่านั้น มันไม่อาจที่จะสามารถชะล้างคราบความวาบหวามที่ยังคงตกค้างอยู่ภายในร่างกายของฉันได้อยู่ดีอีกทั้งความอุ่นร้อนของสายน้ำกลับยิ่งโหมให้ไฟในเรือนร่างให้วิ่งพล่านไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะยามที่ตัวเองลากไล้มือไปตามเรือนร่างพร้อมกับนึกจินตนาการไปถึงการสัมผัสจากเขา มันยิ่งทำให้กายสาวปั่นป่วนจนเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่กระทั่งเมื่อนิ้วเรียวยาวจากทั้งสองมือตรงเข้านวดคลึงบีบเคล้นไปยังก้อนอกอวบที่ใหญ่โตเกินตัว โดยที่มีสายน้ำไหลรดปะทะเรือนร่างไม่หยุด มันยิ่งทำให้ความรู้เสียวซ่านวาบหวามเหิมเกริมบุกเร้ากายสาวอย่างไม่ยอมลดละและในจังหวะที่ความเคลิบเคลิ้มกำลังจะพานิ้วเรียวยาวลงไปทักทายกับติ่งกระสันที่อยู่ด้านล่าง เพื่อท้าทายความแปลกใหม่ที่ตัวเองกำลังจะลองนั้น...ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นก็เรียกสติพาทุกอย่างให้หยุดชะงักงั้นลง พร้อมกับหัวใจของสาวแรกรุ่นที่เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นตกใจตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก“นี
ตอนที่ 47 อยากโดนแบบนั้นอีกความรู้สึกปั่นป่วนชวนหัวใจคันยุบยิบในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันช่างเป็นความรู้สึกวูบวาบในใจยังไงบอกไม่ถูก นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมแปลก ๆ นับตั้งแต่ที่ฉันเจอกับเขา ทั้งที่โดยปกติแล้วนิสัยของฉันมักจะอ่อนโยนและมีสติตลอดเวลาอยู่เสมอ แต่พอได้ใช้เวลาอยู่กับเขาฉันก็มักจะพลาดท่าทำอะไรบ้า ๆ พูดจาร้าย ๆ ออกไปหลายครั้งหลายหน จนแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเองเลย อีกทั้งยังมีความรู้สึกแปลก ๆ ที่เฝ้าแต่จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นยามที่ถูกเขาสัมผัสเรือนร่าง ทั้งนิ้วมือ ปลายจมูก อ้อมกอด ริมฝีปากที่รุกล้ำ โลมเลีย กะลิ้มกะเหลี่ยสัมผัสไปทั่วทุกพื้นที่ผิว มันช่างให้ความรู้สึกเพลิดเพลินสุขสมคล้ายกับว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศจนไม่อยากจะกลับมาสัมผัสกับพื้นดินอีกเลย...แล้วยิ่งพอมานึกย้อนคิดไปก็ยิ่งรู้สึกถึงความประหลาดใจที่มีต่อร่างกายและความรู้สึกของตัวเอง ที่ว่าทำไมปฏิกิริยาของฉันโดยปกติแล้วมันควรที่จะปฏิเสธการสัมผัสของคนที่เราไม่คุ้นเคยหรือปัดป้องต่อสู้การคุกคามจากคนแปลกหน้าแต่ทว่า...ความรู้สึกภายในร่างกายมันกลับแสดงออกว่าชอบการสัมผัสของเขาซะอย่างนั้น มันชอบเวลาที่ถูกนิ้วมือเรียวยาว
ตอนที่ 46 นมที่แพงที่สุดในโลก“กูขอโทษแล้วกันที่ทำแบบนั้นกับมึง...”เขายังคงเอ่ยปากขอโทษฉัน โดยที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและยังมองฉันด้วยแววตาที่อ่อนโยนลงส่วนฉันที่แม้จะรู้สึกโกรธเคืองเขาอยู่ แต่ด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดและความรู้สึกที่รับรู้ได้ถึงคำขอโทษของเขาก็ทำให้ฉันเลือกที่จะทำใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น นั่นก็เพราะสิ่งเกิดขึ้นมันก็ได้เสียหายไปแล้วมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่ว่ามันยังมีสิ่งที่แก้ไขได้อยู่นั่นก็คือ...ผลประโยชน์ที่ฉันควรได้รับต่อสิ่งที่ฉันต้องสูญเสียไป ฉันก็ควรที่จะได้รับผลประโยชน์สูงสุดไม่ใช่เหรอ...“20 ล้าน ~~” ฉันแง้มผ้าห่มโผล่หน้าออกมาพูด ก่อนจะผลุบกลับไปคลุมโปงตามเดิมเพราะยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้ากับเขา“โห้...เกินไปป่ะ...” และหลังจากเขาที่ได้ยินข้อต่อรองของฉันนั้น เขาถึงกับเหวอกอดอกมองก้อนเกลือที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ด้วยความรู้สึกที่ว่าตัวเองกำลังโดนขูดเลือดขูดเนื้ออยู่อย่างไงอย่างงั้น“จิ๊...มันไม่เกินไปหรอก...” ฉันที่อดไม่ได้ถึงกับรีบเถียงออกไปจากใต้ผ้าห่ม“ไม่เกินไปยังไง เกินไปเห็น ๆ ขนาดหน้าอกนางแบบระดับแนวหน้า กูยังได้ดูดฟรี ๆ ไม่เสียสักบาท” ก่อนที่เ
ตอนที่ 45 ไม่ได้ทำอะไรนอกจาก...หลังจากที่ลูกน้องของผมมันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกไป ผมที่ไม่ได้สนใจอะไร ก็ได้เดินมานั่งข้าง ๆ ที่เธอนอนอีกครั้ง โดยครั้งนี้ผมได้แต่นั่งพิจารณาใบหน้าสวยหวานของเธอ จนเวลาล่วงเลยไปนานกระทั่งเธอเริ่มรู้สึกตัว...“อื้ออออ ~~ ปล่อย ปล่อยนะ ปล่อย ฮึก ฮึก” เธอที่ละเมอขึ้นมาทั้งที่ดวงตายังมีน้ำใสคลออยู่ผมรู้สึกสงสารเธอจับใจ ก่อนจะค่อย ๆ ลูบหัวทุยของเธออย่างแผ่วเบา และเลือกที่จะเอ่ยบอกถึงความรู้สึกสำนึกผิดต่อเธอออกไป“ขอโทษ...”--- ลลิน Talk ---เฮือก ~~พรึ่บ...!!ฉันสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งที่ดวงตายังเปียกชื้นไปด้วยน้ำสีใส ความรู้สึกที่เหมือนกับตื่นมาจากฝันร้าย ทำให้ทันทีที่รู้สึกตัวก็เกิดอาการหวาดผวาขึ้นมาทันที“ฮึก ฮึก...” ดวงตากลมสวยกลอกไปมาอย่างหวาดระแวงพร้อมกับก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ที่ลำคอและหลังจากที่ดวงตาของฉันปรับโฟกัสสายตาได้ดีแล้ว ฉันก็พบกับไอ้ปีศาจร้ายตรงหน้าที่ตอนนี้เขาได้นั่งลูบหัวฉันพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่าง“ขอโทษ...” เสียงแผ่วเบาที่ลอยออกมา พร้อมกับตัวของฉันที่ผละออกไปจากมือหนาอย่างอัตโนมัติทันที เนื่องจากความทรงจำเมื่อก่อนหน้านี้ได้ถาโถมเข้ามาในโสต
ตอนที่ 44 นึกว่าจะโดน...สายตาที่มองเรือนร่างบอบบางด้วยแววตาที่อ่อนลง ก่อนที่ผมจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ เรือนร่างที่หมดสติแต่ยังคงหายใจอย่างสม่ำเสมอ ภาพรอยแดงเป็นจ้ำที่เต็มไปทั่วก้อนอกอวบอิ่มทั้งสองเต้า ทำผมรู้สึกกระตุกวาบขึ้นในใจไม่เคยเป็นมาก่อน พร้อมกับความคิดที่ถาโถมเข้ามาจนอยากจะทุบหัวตัวเองสักที โดยเฉพาะเมื่อผมมองไปยังใบหน้าเนียนใสที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา มันยิ่งทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมไม่ควรหยาบช้ากับเธอแบบนี้เลย...(ไอ้ห่าดีน...มึงทำเชี้ยอะไรลงไปเนี้ย!!) ผมก่นด่าตัวเองในใจพร้อมกับยีหัวตัวเองอย่างคนที่เพิ่งตั้งสติได้ก่อนที่ผมจะยังคงโทษตัวเองต่อที่ไม่อาจคุมสติเอาไว้ได้ โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่ได้รับรู้ว่าร่างกายอันสวยงามของเธอนั้นได้มีคนอื่นมาจ้องมอง และถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ยังเลือกที่จะลงบทโทษทัณฑ์นั้นกับเธอ และมันก็คงเป็นเพราะว่าผมนั้นกำลังหาข้ออ้างเพื่อที่จะได้โอกาสในการฉกฉวยความหวานจากร่างกายเธอผมยังคงนั่งจับจ้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา และเรือนร่างที่ผมทำรุนแรงของเธออยู่เนิ่นนาน พร้อมกับหัวใจที่เฝ้าก่นด่าตัวเองไม่ห
ตอนที่ 43 (NC) โมโห...หึงฟิ้วววว ~~เคร้ง ~~ตุบ...!!ความรู้สึกที่ทั้งตกใจและอับอาย ทำให้ฉันรีบรับเอาของที่ลูกน้องเขายื่นมาด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะหมุนตัวหลบแอบไปด้านหลังประตู อีกทั้งเสียงเขาตะโกนตามหลังมาพร้อมกับสิ่งของแข็งบินลอยจนกระทบขอบประตูอย่างแรง จนฉันคิดว่าถ้าฉันหรือลูกน้องของเขาหลบไม่ทัน คงได้หัวร้างข้างแตกอย่างแน่นอน“ขอโทษครับนาย...” (>/ริกที่ตกใจกับสิ่งที่ลอยตรงหน้ามา ถึงกับรีบเอ่ยปากกล่าวขอโทษผู้เป็นนายทันที ก่อนที่โชคยังดีที่เขานั้นปิดประตูได้ทันก่อนที่ที่เขี่ยบุหรี่ที่ทำจากหินภูเขาไฟจะลอยมาทันได้ปะทะเข้าที่กลางหน้าผากของเขาและหลังจากที่ลูกน้องคนสนิทของเขาปิดประตูหลบไปได้ทัน ในขณะเดียวกันนั้นฉันที่ยังยืนหลับตาปี๋อยู่ตรงประตูด้วยความตกใจอกสั่นขวัญแขวนอยู่นั้น...ตึก ตึก ตึก...เสียงลงฝีเท้าที่ลงแรงหนัก ๆ ของคนตัวโตก็ได้เดินมาประชิดตัวฉันโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว“ร่านนักนะมึง...!!” เสียงคำรามกร้าวกดเสียงต่ำอยู่ที่ข้างหูของฉันถึงกับทำให้ฉันที่ตกใจอยู่แล้วออกอาการงงงวยขึ้นมาทันที และในขณะที่ฉันยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรกลับไปมือหนาของคนตัวโตก็ตรงเข้าบีบต้นแขนของฉันอย่างแ
ตอนที่ 42 เลขาส่วนตัว“นี่...ไม่เกี่ยวกับหนี้ใช่ไหม...” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ เพราะถ้าจะมาให้ฉันทำงานนี้เพื่อแลกหนี้ ฉันคงได้อดตายแน่ ๆ“หึหึ...ยัยเกลือเอ๊ย...เออ...ไม่เกี่ยว” เขาค่อนแคะฉันก่อนจะตอบรับด้วยใบหน้าระบายยิ้มแต่ถึงกระนั้นฉันเองก็ยังเสียดายงานที่ตัวเองทำอยู่ดี นั่นก็เพราะทุกอย่างมันกำลังไปได้สวย ฉันก็เริ่มจะปรับตัวให้เข้ากับใครหลาย ๆ คนได้แล้วด้วย(แค่พี่วรรณคนเดียวเนี้ยนะ ยัยลลิน...เธอช่างกล้ามาก)“แล้วถ้าฉันไม่สนใจล่ะ ก็ฉันไม่อยากลาออกนี่...” ฉันยักไหล่บอกพร้อมกับทำหน้าทำตามั่นใจว่าเขาจะมาบังคับฉันได้ยังไง(ชิ...คิดจะซื้อคนอย่างลลิน...ไม่มีวันซะหรอก...แต่ตั้ง 100,000 เขาจะรีบปฏิเสธเพราะฉันเล่นตัวไหมนะ...หึ๊ยยย ยัยลลิน แกชักจะใจกล้ามากเกินไปแล้วนะ...)และในขณะที่ความคิดของฉันกำลังตบตีกันอยู่ในสมองนั้น เขาก็ได้พูดคำที่ทำให้ฉันถึงกับขมวดคิ้วเลิกคิดฟุ้งซ่านทันที...“มันคงไม่ทันแล้วมั้ง” เขาพูดโดยที่สายตากลับมีเลศนัยบางอย่าง“เอ๊ะ!! นาย...หมายความว่ายังไง...??” ฉันเอียงคอสงสัยกับทีท่าของเขา โดยที่ในหัวใจกลับเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะและการกระทำต่อมาก็คือคำตอบที่เขามอบให้กับฉัน..