หน้าหลัก / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 25%

แชร์

บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 25%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-27 12:30:54

“คุณหนูอาย คุณนมให้มาตามค่ะ”

เสียงจากแม่บ้านทำให้รวิชาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์แล้วส่งยิ้มให้มาลัย หญิงสาวลุกขึ้นยืน หยิบกระป๋องน้ำอัดลมกับหนังสือการ์ตูนที่นำติดมือมาทั้งที่ยังไม่ได้เปิดอ่านกลับเข้าไปในบ้านด้วย

รวิชาหัดทำบัวลอยไข่หวานกับนมพิมใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงเศษ แม้จะใช้เวลานาน แต่เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่หญิงสาวไม่เคยทำจึงไม่นึกเบื่อแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เธอกลับอึ้งไม่น้อยกับกรรมวิธีการผลิตในแต่ละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการผสมแป้งนวดแป้ง ซึ่งนมพิมบอกว่าแต่ละคนจะมีสูตรการผสมที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงการปรุงน้ำให้หอมอร่อย ไม่หวาน และไม่เค็มกะทิจนเกินไป กว่าจะได้บัวลอยไข่หวานมาสักถ้วยช่างดูยากเย็นเหลือเกินในความรู้สึกของสาวน้อยที่เคยแต่รับประทานเพียงอย่างเดียว

“กว่าจะได้แต่ละถ้วย ยากเหมือนกันนะคะนม” รวิชาเปรยขึ้นระหว่างที่ปั้นแป้งบัวลอยเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ หย่อนใส่ในหม้อที่น้ำกำลังเดือด

“ไม่ยากหรอกค่ะ ถ้าทำบ่อย ๆ แป๊บเดียวก็เสร็จ”

“แล้วที่เขาทำเป็นสี ๆ ที่มีทั้งชมพู เขียว ม่วง ฟ้า นั่นเขาใส่สีผสมอาหารใช่ไหมคะ”

เธอจำได้ว่าเคยกินบัวลอยที่ร้านในโรงเรียน ร้านนั้นมีลูกบัวลอยหลายสี แต่น้ำบัวลอยไม่หอมอร่อยเหมือนที่แม่นมทำให้กินที่บ้าน

“ถ้าร้านอาหารทั่วไปเขาเน้นเร็ว และง่ายก็ใส่สีผสมอาหารค่ะ แต่ถ้านมทำ นมจะใช้ของที่มาจากธรรมชาติแทน เช่นสีเหลืองเราก็ใช้แป้งผสมกับฟักทอง สีเขียวก็ผสมกับใบเตย สีม่วงหรือสีฟ้าก็ผสมกับดอกอัญชัน หรือถ้าอยากได้สีแดงสีชมพู เราก็ใช้กระเจี๊ยบ หรือจะใช้แก้วมังกรเนื้อแดงก็ได้ค่ะ”

แม่นมอธิบายให้ฟังอย่างใจเย็น เห็นท่าทางตั้งอกตั้งใจฟังอย่างเต็มที่แล้วก็อดปลื้มใจไม่ได้ ที่คุณหนูน้อยสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหมือนกัน

“โห เจ๋งเนอะ เอาไว้คราวหน้าเรามาลองทำกันดีไหมคะนม น้องอายอยากลองผสมสี ท่าทางน่าสนุก”

รวิชาฉีกยิ้มกว้าง เริ่มอยากรู้ว่าตอนย้อมสีแป้งพวกนี้สีสันจะออกมาประมาณไหนบ้าง เคยดูแต่ยูทูบที่ชาวต่างชาติสาธิตวิธีการย้อมไข่ให้เป็นสีต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ คราวนี้เธอจะได้ย้อมสีอาหารดูบ้างแล้ว

“หอมจัง...ทำอะไรกินกันครับเนี่ย”

เสียงทุ้มที่ดังอยู่เบื้องหลัง ส่งผลให้คนที่กำลังปั้นแป้งหย่อนใส่หม้อต้องชะงักลง รวิชาหันมองผู้มาใหม่ เห็นเขากำลังหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้อีกฝั่งของโต๊ะอย่างถือวิสาสะราวกับเป็นบ้านของตนเอง แล้วก็รู้สึกหัวใจสั่นไหวแปลก ๆ เธอวางหน้าไม่ถูกว่าควรจะยิ้มแบบไหนระหว่างที่ยกมือไหว้เขา

“บัวลอยไข่หวานค่ะคุณภีม เดี๋ยวกินด้วยกันนะคะ วันนี้คุณหนูอายลงมือทำเองเลยนะเนี่ย”

นมพิมเงยหน้าขึ้นตอบ ตนเพิ่งรู้มาจากรวิวรรณว่ารวิชาต้องหมั้นหมายกับชายหนุ่มคนนี้ ซึ่งตนก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะเท่าที่มองดู และรู้จักกันมานาน ภีมพลเป็นคนหนุ่มไฟแรงที่ทำงานเก่งมีความรับผิดชอบ และไม่เคยเห็นมีผู้หญิงที่ไหนแวะเวียนมาที่บ้านเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ตนยืนยันได้เพราะสนิทสนมกับแม่บ้านในคฤหาสน์หัสวันต์ของภีมพลเป็นอย่างดี

ถึงแม้อายุของภีมพลกับรวิชาจะห่างกันพอสมควร แต่เรื่องอายุไม่ใช่ปัญหาเพราะสมัยก่อนนั้นผู้ชายอายุเยอะกว่าผู้หญิงเป็นสิบ ๆ ปีถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่สำคัญตนเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นที่พึ่งพิงให้กับรวิชาได้

“ถึงว่าสิ นอกจากหอมแล้วยังหน้าตาน่ากินมากเลยนะครับเนี่ย”

ภีมพลพูดพลางมองหน้าที่แดงระเรื่อของสาวน้อยไปด้วย เห็นเจ้าตัวเม้มปากกลั้นยิ้มแล้วหันกลับไปมองหน้าเตาต่อโดยไม่พูดอะไรก็คลี่ยิ้มกว้าง เขาลุกขึ้นแล้วสาวเท้าไปยืนใกล้หญิงสาว ชะโงกหน้าดูในหม้อที่กำลังเดือดปุด ๆ

“มีอะไรให้อาช่วยไหม แล้วที่มันลอยอยู่นี่เรากินได้หรือยัง”

ชายหนุ่มยืนซ้อนหลังรวิชา ตอนที่เขาชะโงกหน้าผ่านไหล่ของเธอนั้นทำให้ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารดลงที่ขมับของหญิงสาวพอดี

รวิชาตัวแข็งทื่อ กลั้นลมหายใจโดยอัตโนมัติเพราะความตื่นเต้น ผิวแก้มของเธอร้อนซู่จนลามเลียไปทั่วทั้งผิวหน้า เขาเข้ามาใกล้มากเสียจนเธอได้กลิ่นน้ำหอมสำหรับผู้ชายที่ลอยออกมาจากกายของเขา

“น่าจะกินได้แล้วมั้งคะ นมบอกว่าถ้ามันลอยขึ้นมาแล้วก็แปลว่ากินได้เลย”

รวิชาตอบโดยไม่หันไปมองหน้าเขา จากนั้นก็เอี้ยวตัวหยิบทัพพีแล้วจุ่มมันลงไปในหม้อ คนสองสามทีก็ตักเม็ดบัวลอยขึ้นมาสองเม็ด เธอเป่ามันจนแน่ใจว่าหายร้อนแล้วจึงทดลองชิมจากทัพพีโดยตรง

“อื้ม กินได้แล้วค่ะอาภีม เดี๋ยวน้องอายตักใส่ชามให้เลยนะคะ”

รวิชาฮัมเพลงเบา ๆ ระหว่างเดินไปหยิบถ้วย แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเขาพูด

“รู้รึเปล่าว่าเขาไม่ให้ร้องเพลงในครัว โบราณเขาถือ”

ชายหนุ่มยิ้มกริ่มเมื่อเห็นสีหน้างงงวยของสาวน้อย จึงขยายความเพิ่มพลางมองใบหน้าเนียนใสด้วยแววตาเป็นประกายวาววาม

“เขาว่ากันว่าคนที่ชอบร้องเพลงในครัวน่ะ จะได้สามีแก่กว่าหลายปี”

ภีมพลยื่นหน้ากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของหญิงสาว ที่เขากล้าทำแบบนี้ก็เพราะนมพิมเดินหายออกจากห้องครัวไปสักพักแล้ว เวลานี้เขากับเธอจึงอยู่ด้วยกันเพียงลำพังในครัว

“มะ...ไม่จริงมั้งคะ คนโบราณคงพูดไปอย่างนั้นเองแหละ จริงสิ! อาภีมเอาไข่ด้วยไหมคะ”

รวิชารู้ตัวเลยว่าตอนนี้ใบหน้าของตนคงแดงก่ำไปถึงไหนต่อไหน เพราะรู้สึกว่าร้อนวูบวาบไปหมด ต้องรีบเฉไฉชวนเขาคุยเรื่องอื่นเสีย แต่ดูเหมือนเขาคงสนุกกับการแกล้งเธอกระมัง ถึงได้วกกลับเข้าเรื่องเดิมจนได้

“อาพูดจริง ไม่เชื่อลองถามนมพิมดูสิ”

ชายหนุ่มระบายยิ้มเต็มวงหน้าพาให้คนมองใจสั่นหวิวไหว รวิชาพยายามบังคับตนเองไม่ให้เผลอยิ้มออกไป และตีหน้างอง้ำส่งให้เขาแทน

“อาภีมน่ะ จะกินไหมคะบัวลอยเนี่ย”

“กินสิครับ แหม...ฝีมือน้องอายทำทั้งที ถ้าไม่ได้ลองกินก็เสียดายแย่สิ อาขอไข่แดงไม่ต้องสุกมากนะ”

ภีมพลหัวเราะขลุกขลักระหว่างกลับไปนั่งที่เดิม ตาคมเฝ้าจับจ้องมองคนที่เคลื่อนไหวไปมาอยู่หน้าเตาด้วยแววตาอ่อนแสง สองวันที่ผ่านมาเขาขึ้นเหนือไปหาบิดามารดาเพื่อบอกข่าวเรื่องการหมั้นหมาย ช่วงนี้ในหัวของเขามีแต่เรื่องของสาวน้อยคนนี้อยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหน หน้าใส ๆ กับนัยน์ตากลมโตเป็นประกายของเธอก็คอยตามไปรบกวนเขาอยู่ทุกที่ จากตอนแรกที่ว่าจะให้บิดามารดาหาฤกษ์ดี ๆ ให้ สุดท้ายเขาเลยต้องอาศัยฤกษ์สะดวกตามความใจร้อนของตนเองในที่สุด

รวิชาตักบัวลอยใส่ถ้วยให้เขา ก่อนจะหันมาจัดการในส่วนของตนเองบ้าง เธอเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา ก้มหน้าก้มตารับประทานจนแทบไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มเลยสักนิด แต่อาศัยสังเกตจากหางตาแทน จึงได้รู้ว่าเขาเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลาจนรู้สึกขัดเขิน และเริ่มไม่รู้รสชาติของขนมหวานตรงหน้าแล้ว

หญิงสาวลุกไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าเทใส่แก้วใบหนึ่ง แล้วหันไปถามเขาบ้าง

“อาภีมเอาน้ำอะไรคะ เอาเป๊บซี่ไหม”

ภีมพลชี้แก้วที่รวิชาถือไว้แล้วพูดว่า “เอาน้ำเปล่าเหมือนเรานั่นแหละ”

รวิชาวางแก้วน้ำให้เขาแล้วนั่งที่เดิม กำลังจะตักคำต่อไปเข้าปากก็ต้องชะงักเพราะคำถามของภีมพล

“เย็นนี้ว่างไหม เรามีนัดไปไหนหรือเปล่า” ชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ในขณะที่รวิชาส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะถามกลับ

“ทำไมหรือคะ”

“จะชวนไปเลือกแหวนหมั้นกับชุดที่จะใส่ในวันหมั้นน่ะ อาบอกพ่อกับแม่ของเราแล้วว่าวันนี้จะพาไป”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 50%

    ภีมพลยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของสาวน้อย เขารู้ว่าเจ้าตัวกำลังเขินแต่พยายามเก็บอาการอย่างเต็มที่ชายหนุ่มรู้ว่าเด็กสาววัยรุ่นเป็นวัยที่อ่อนไหวกับเพศตรงข้ามมากแค่ไหน เขาจึงค่อย ๆ ‘ตะล่อม’ ด้วยการเข้าใกล้หัวใจของเธอทีละนิด ถึงแม้จะรู้ว่าความคิดส่วนหนึ่งของรวิชากำลังต่อต้านการหมั้นหมายแบบเงียบ ๆ ตามประสาคนที่ไม่ชอบการถูกบังคับ อีกทั้งช่องว่างระหว่างวัย จึงทำให้สาวน้อยอย่างรวิชาอาจจะรู้สึกอายเพื่อนฝูงบ้าง หากต้องบอกกับเพื่อน ๆ ว่ามีคู่หมั้นอายุสามสิบกว่าปี แต่เขาก็เชื่อว่าถ้าตนสามารถทลายกรอบความคิดตรงนี้ของรวิชาลงได้ เมื่อนั้นเขาจะได้คู่หมั้นที่น่ารักน่ากอดเป็นรางวัลสำหรับความพยายามครั้งนี้แน่นอนรวิชาเดินเคียงข้างภีมพลอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมือง เธอมองไปรอบตัวเพราะเกรงว่าจะเจอคนรู้จัก หรือเพื่อนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน เธอยังไม่อยากเจอใครทั้งนั้นในตอนนี้ ไม่อยากตอบคำถาม ไม่อยากตกเป็นเป้าการพูดถึงของใครต่อใคร และไม่อยากกลายเป็นหัวข้อสนทนาในชั่วข้ามคืนว่า มาเดินควงกับผู้ชายมีอายุ!ถึงแม้ภีมพลจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 75%

    สาวสวยหุ่นดีที่นั่งกระแซะอยู่ข้างกายมีดีกรีเป็นถึงดาวคณะ เขาใช้เวลาจีบเธอแค่สัปดาห์เดียวก็สามารถพาขึ้นเตียงได้แล้ว ตอนนี้เขาจึงเดินยืดได้เต็มที่ในมหาวิทยาลัยเมื่อมีหญิงสาวคนนี้เดินเกาะแขนไม่ห่าง ท่ามกลางสายตาอิจฉาของผู้ชายคนอื่นที่เรียงแถวกันมาจีบเธอแต่ไม่ติดแต่ก็นั่นแหละ สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ในเมื่อเขาพาเธอขึ้นเตียงได้ง่าย ๆ คนอื่นที่เคยคบกับเธอมาก็คงพาขึ้นเตียงได้ง่ายไม่ต่างกัน ต่อให้สวยเลิศเลอแค่ไหนเขาก็ไม่คิดจะจริงจังอยู่ดี เพราะเขาเชื่อว่าหากหลุดจากเขาไป สาวสวยคนนี้ก็มีหนุ่มรายใหม่มาเดินอยู่ข้างกายไม่เคยขาดอยู่แล้วแต่ที่แน่ ๆ กลวิชรจะไม่รามือจากรวิชาแน่นอน เขาอยากแก้เผ็ดไอ้เจ้าพ่อคลับซุสที่บังอาจมาชุบมือเปิบคนของเขาไป อยากรู้นักว่ามันจะทำหน้าอย่างไรถ้ารู้ว่าเขาเอาผู้หญิงของมันมานอนกกได้“ผมมาดูแหวนหมั้นครับ” ภีมพลแจ้งความประสงค์กับพนักงานขายที่ยืนต้อนรับอยู่หน้าตู้โชว์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พนักงานสาวรีบกุลีกุจอแนะนำหนุ่มสาวทั้งคู่อย่างกระตือรือร้น“ชอบแบบไหนคะ เพชรเม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 100%

    รวิชาอยากเห็นโรงงานในส่วนที่เป็นการปฏิบัติการบ้าง ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดสนใจในธุรกิจของครอบครัวเลยสักครั้ง น่าแปลกที่พอได้มาคุยกับภีมพล เธอกลับคิดเรื่องการทำงานมากขึ้น“คิดอย่างนั้นได้ก็ดี อาว่าถึงเวลาแล้วนะที่น้องอายต้องเข้าไปศึกษางานของครอบครัว ค่อย ๆ หัดค่อย ๆ เรียนรู้ไป กว่าน้องอายจะเรียนจบป่านนั้นความรู้ความสามารถก็แข็งแกร่งพอที่จะช่วยพ่อกับแม่ได้แล้ว ถ้างั้นพรุ่งนี้อาจะมารับไปที่โรงงานแล้วกันนะ”ภีมพลรีบอาสา ตั้งใจไว้ว่าในช่วงสองอาทิตย์ก่อนถึงวันหมั้น เขาต้องทำตัวติดกับรวิชาเพื่อลดความตึงเครียดของเธอเมื่อต้องเข้าพิธีหมั้นทั้งที่อายุยังน้อย“ให้พี่บุญเกิดขับไปส่งก็ได้ค่ะ ลำบากอาภีมเปล่า ๆ”รวิชารีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เธอรู้ว่าเขางานยุ่งมากแค่ไหนเพราะต้องทำงานทั้งกลางวันกลางคืน เวลาพักผ่อนก็มีน้อย จนสงสัยว่าเขาเอาเวลาที่ไหนไปนอน“อาเคยบอกแล้วไงว่าถ้าเกี่ยวกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรอายอมลำบากทั้งนั้นแหละ”ชายหนุ่มวางมือบนศีรษะเธอแล้วโยกไปมา ก่อนจะเลื่อนมือลงมาเกาะบ่าบอบบางแบบเนียน ๆภีมพลหัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 35%

    ร่างสูงใหญ่ของภีมพลก้าวเดินอย่างเชื่องช้าอยู่ตรงลานจอดรถสำหรับพนักงาน ในมือถือโทรศัพท์ไว้โดยที่สายตาก็จดจ่ออยู่แต่หน้าจอ ใบหน้าระบายยิ้มอ่อนโยน บางคราวก็หัวเราะขลุกขลักในลำคอ เวลาที่ชายหนุ่มก้มลงพิมพ์ข้อความเขาจะหยุดเดิน ราวกับกลัวว่าจะพิมพ์ผิดแล้วต้องเสียเวลาพิมพ์ใหม่ด้วยความที่มัวแต่สนใจกับแชตในโทรศัพท์ จึงทำให้ไม่รู้ตัวว่าเจ้าของรถยุโรปคันหรูที่เข้ามาจอดเทียบกับเขาเมื่อครู่นั้น กำลังเดินตามหลังมาด้วยแววตาระยิบระยับพลางหันไปพยักพเยิดกับหญิงสาวที่ตนกำลังโอบเอวอยู่“ม็อทครับ ผมว่าพักหลังมานี้ไอ้ภีมเพื่อนผมดูมันกำลังอินเลิฟยังไงก็ไม่รู้” พชรพูดกับสาวสวยข้างกาย ทำทีเป็นไม่เห็น และไม่สนใจภีมพลที่เดินนำอยู่“ยังไงหรือคะ” ช่อมาลีแสร้งรับมุกทำเป็นไม่เห็นภีมพลบ้าง ขณะเดินผ่านคนที่กำลังพูดถึง“ก็ยิ้มคนเดียว หัวเราะคนเดียว แชตไปยิ้มไป ผมสงสัยว่ามันกำลังจีบสาวสักคนแน่ ๆ”พชรแกล้งเอาหัวไหล่กระทบกับไหล่ของภีมพลตอนเดินแซงไปข้างหน้า คนถูกชนได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร แต่สาวเท้าก้าวตามคู่รักเข้าอาคารไปเงียบ ๆ เขามองพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 70%

    เช้าวันถัดมา ภีมพลเดินเข้ามาในบ้านของว่าที่คู่หมั้นอย่างสนิทชิดเชื้อราวกับเป็นบ้านของตนเอง ชายหนุ่มนั่งรอรวิชาที่ห้องรับแขก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาสาวน้อยที่แต่งตัวอยู่ข้างบน เพื่อบอกว่าตนมารออยู่ข้างล่างแล้ว พลางเอ่ยขอบคุณมาลัยที่เอาน้ำมาเสิร์ฟให้รวิชากึ่งวิ่งกึ่งเดินลงบันไดมาหลังจากที่เขาส่งข้อความไปบอกไม่นานนัก ความจริงเธอแต่งตัวเสร็จสักพักใหญ่แล้ว แต่ที่ยังไม่ลงมาเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหนกับการต้องนั่งรถไปกับเขาสองต่อสองภีมพลลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อรวิชาเดินลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย ตาคมกวาดมองคนตรงหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจ วันนี้สาวน้อยของเขาช่างน่ารักเหลือเกิน พักนี้เขารู้สึกว่าไม่ว่ารวิชาจะใส่ชุดอะไรก็ดูดี น่ารักสมวัยไปเสียทุกอย่าง จนกลายเป็นเขาเสียเองที่ต้องพยายามแต่งตัวให้เข้ากับวัยของเธอเพื่อไม่ให้ดูแก่จนเกินไป“น้องอายจะกินมื้อเช้าก่อนไหม หิวหรือเปล่า หรือว่ากินแล้ว” เขาถามเสียงอ่อนเพราะเห็นว่ายังเช้าอยู่ คิดว่าเธอคงยังไม่ได้กินมื้อเช้าแน่นอนรวิชามองหน้าเขาพลางเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะถามกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 100%

    “ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่คงทำงานหนักน่าดูเลยนะคะ น้องอายเห็นท่านไม่ค่อยกลับบ้านเลย นี่ก็เห็นว่าต้องขึ้นเหนือไปดูแปลงเพาะปลูกของเกษตรกรอีก”“ใช่ค่ะ ตอนนี้บริษัทเราประมูลได้ออเดอร์ล็อตใหญ่จากดูไบ พวกผู้บริหารตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะ วันก่อนเพิ่งประชุมกันว่าต้องมีการลงทุนเพิ่ม รวมถึงการจ้างพนักงานเพิ่มด้วย เพราะที่นี่ก็มีพนักงานแค่สามสิบกว่าคน ถ้าต้องทำล็อตของดูไบ คนแค่นี้ไม่พอแน่ ๆ”หวานอธิบายไปยิ้มไป เพราะการมีออเดอร์ล็อตใหญ่เข้ามา รายได้ของบริษัทก็ต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานอย่างพวกเธอก็ต้องหวังผลไปถึงโบนัสปลายปีด้วยถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาบริษัทจะประสบสภาวะขาดทุน เพราะข่าวลือ และการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ รวมถึงโดนตัดราคาจากแบรนด์น้องใหม่ แต่ประธานบริหารก็ไม่ยอมปลดพนักงานออกแม้แต่คนเดียว ทั้งยังจ่ายโบนัสให้กับทุกคนตอนสิ้นปีตามปกติอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะแค่เดือนเดียวก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพนักงานทุกคนจึงยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจและสมอง รวมถึงความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างถึงที่สุด“สามสิบกว่าคน เดี๋ยวนี้บริษัทเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 9 คู่หมั้นของผม - 25%

    รวิวรรณมองบุตรสาวที่หมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ด้วยแววตารักใคร่ มะรืนนี้เป็นวันหมั้นหมายแล้ว ดูท่าทางเจ้าตัวจะตื่นเต้นมาก เพราะทันทีที่เธอกลับมาถึงบ้าน บุตรสาวสุดที่รักก็ดึงมือชวนไปดูชุดที่ภีมพลซื้อให้ อีกทั้งยังทดลองทำผมหลายทรงแล้วถามความเห็นมารดาอย่างตนด้วยว่าทรงไหนสวยที่สุด“คุณแม่ว่าน้องอายทำผมเป็นลอนดีไหมคะ จะได้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ถ่ายรูปออกมาจะได้สวยด้วย” เสียงเจื้อยแจ้วของรวิชาเรียกรอยยิ้มของคนที่กำลังเดินเข้ามาใหม่ได้ไม่น้อย“ลูกสาวของพ่อ ทำทรงไหนก็สวยทั้งนั้นแหละ”อาทิตย์นั่งลงข้างภรรยาพร้อมกับหันไปยิ้มให้กันอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน ใครกันหนอที่หน้าหงิกหน้างอไม่อยากหมั้นกับคนแก่ แล้วดูตอนนี้สิ ตื่นเต้นจนแทบนั่งไม่ติด“แต่น้องอายก็อยากได้ทรงที่สวยที่สุดนี่นา เอางี้ดีกว่า ในสายตาของคุณพ่อ คุณพ่อว่าทรงไหนดีคะ ระหว่างมัดรวบไว้สูง ๆ หรือม้วนเป็นลอน หรือว่าปล่อยยาวตรงลงมาธรรมดา ๆ ไม่ต้องทำอะไรกับมัน”อาทิตย์ทำทีเป็นครุ่นคิดทั้งที่ในใจอยากจะหัวเราะออกมาเต็มที่ แต่ไม่อยากให้บุตรสาวงอน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 9 คู่หมั้นของผม - 50%

    “ผมขอให้คำสัตย์กับพี่ว่าตลอดระยะเวลาที่น้องอายยังเป็นนักศึกษา ผมไม่มีวันทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควรกับน้องอายเป็นอันขาด พี่เชื่อใจผมได้ และผมก็ขอยืนยันด้วยว่าตลอดเวลาที่ผมอยู่ในฐานะคู่หมั้นของน้องอาย จะไม่มีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงมาให้ระแคะระคายหูพี่แน่นอน ผมขอรับปากพี่ไว้ตรงนี้เลย”ภีมพลกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว“ขอบคุณมากครับคุณภีม”อาทิตย์คลี่ยิ้มพลางลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกไปข้างหน้า ภีมพลจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือออกไปบีบกระชับแน่นหนักเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของตนเองพิธีหมั้นเป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตองมากนัก แขกที่เชิญมามีแค่เพื่อนสนิท โดยทางฝั่งภีมพลมีพชรควงคู่มากับช่อมาลี และอีกคนคือเธียรทัต เพื่อนสนิทที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ทางฝั่งรวิชามีแค่พรรณรายกับอารดา เพื่อนร่วมโรงเรียนมาร่วมงานด้วยเท่านั้นเพราะรวิชากำชับไม่ให้บอกใครทางด้านผู้ใหญ่มีแค่บิดามารดาของทั้งสองฝ่าย นอกเหนือจากนั้นก็มีลูกน้องของภีมพลอีกสี่คนที่มาร่วมงานซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29

บทล่าสุด

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 23 จำเป็นต้องเติบโต - 100%

    หลายเดือนผ่านไปเสียงถอนหายใจจากร่างเล็กที่กำลังเอนตัวนอนไปกับที่นั่งในศาลาไม้สักทำให้ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ ต้องชะงักเท้าแล้วหันมองตามเสียงนั้น ภีมพลเดินไปหา คนที่นอนหลับตาจึงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า และไม่รู้ถึงการมาของเขา ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงกับเสา มุมปากยกยิ้มอย่างเอ็นดู แววตาทอดอ่อนเมื่อมองไปยังหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของหัวใจ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งใกล้กับเธอกลิ่นน้ำหอมที่เคยคุ้นลอยเข้าจมูก อีกทั้งเริ่มรู้สึกว่าสะโพกกำลังโดนเบียดจากใครบางคน รวิชาลืมตาขึ้นมองแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร จนเมื่อได้สบตากันหญิงสาวจึงส่งยิ้มเนือย ๆ ไปให้“เหนื่อยหรือ ถอนหายใจเสียงดังเชียว” ภีมพลเอื้อมมือปัดปอยผมให้อย่างอ่อนโยน รวิชาจึงยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วย้ายฝั่งไปเอนตัวลงนอนหนุนตักแข็ง ๆ ของเขาแทนอย่างออดอ้อน“ถ้าให้ตอบตรง ๆ ก็ใช่ค่ะ หลายเดือนมานี้เลิกเรียนมาก็ต้องมาศึกษางานของบริษัท นี่ยังดีนะที่น้องอายเคยเรียนรู้มาบ้างแล้วตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ยังอยู่ ต้องขอบคุณอาภีมค่ะที่ตอนนั้นสอนให้น้องอายได้คิดว่าเราควรจะต้องเริ่มศึกษาธุรกิจของครอบครัวเอา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 23 จำเป็นต้องเติบโต - 70%

    ชายหนุ่มนั่งเท้าแขนอยู่บนโต๊ะพลางมองใบหน้าเนียนใสที่เริ่มมีสีระเรื่ออย่างเอ็นดูแกมมันเขี้ยว เพราะประโยคนั้นของเธอ ทำเอาเขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งสิ้นทั้งที่ใกล้สอบเต็มทีอารดาเงยหน้าขึ้นสบตาเขา แล้วรีบก้มหน้าหลบสายตาวิบวับของชายหนุ่ม ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเมื่อครู่เขาคงได้ยินทุกอย่างจากปากเธอไปหมดแล้ว“อุ้ย...อุ้ยครับ เงยหน้าขึ้นมองพี่หน่อยสิ”เตชินทร์ก้มหน้าเอียงคอลงเพื่อที่จะได้มองหน้าสาวน้อยให้เต็มตา ครั้นพอเธอเงยหน้าขึ้นมา เรียวปากของชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มกว้างจนตายิบหยี“พี่อยากจะบอกอุ้ยว่าครอบครัวของพี่ไม่ได้เป็นอย่างที่อุ้ยกังวลหรอกนะ อากงอาม่าของพี่สมัยที่มาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ก็เป็นลูกจ้างเข็นของอยู่ในตลาด กว่าจะมีอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะน้ำพักน้ำแรงล้วน ๆ ครอบครัวของพี่ก็เลยไม่เคยดูถูกใครในเรื่องของฐานะ ท่านทั้งสองให้ความสำคัญกับค่าของคนมากกว่าค่าของเงิน”ชายหนุ่มหยุดพูดไปครู่หนึ่งเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวที่เขาเทใจให้ เมื่อเห็นเธอนั่งนิ่งและตั้งใจฟัง เขาจึงตัดสินใจพูดต่อ“ท่านไม่เคยห้ามหรือกีดกันพี่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 23 จำเป็นต้องเติบโต - 35%

    หลายวันต่อมา ภีมพลยืนดูแบบแปลนและโครงสร้างของโรงงานที่ทีมสถาปนิกเคยนำเสนอเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเขาเห็นว่าปลอดภัยและรัดกุมกว่าโครงสร้างของโรงงานแบบเดิม จึงได้มีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเขาต้องมาดูแลการก่อสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเองเนื่องจากอาคารหลังเดิมเสียหายจากไฟไหม้มากจนไม่คุ้มหากจะซ่อมแซมใหม่ ตอนนี้ห้องเก็บกลิ่นตัวอย่างจึงต้องอาศัยตู้คอนเทนเนอร์ใช้เป็นออฟฟิศชั่วคราวแทนไปก่อน ส่วนโรงคัดแยกวัตถุดิบก็ใช้พื้นที่ส่วนของลานจอดรถทำไปพลาง ๆ ซึ่งภีมพลได้ว่าจ้างให้ช่างประปาต่อวาล์วน้ำเพิ่มเติมในจุดนี้รวมทั้งทำอ่างสำหรับล้าง และก่อโครงมีหลังคาทำเป็นโรงคัดแยกแบบง่าย ๆ ระหว่างที่รอการก่อสร้างของจริงจะแล้วเสร็จหลังจากที่ดูการก่อสร้างส่วนต่าง ๆ จนพอใจ ชายหนุ่มจึงเดินไปยังอาคารอีกหลังซึ่งเป็นในส่วนของออฟฟิศ และเป็นอาคารที่แยกออกมาจากโรงงาน โชคดีที่อาคารหลังนี้ไม่ถูกไฟไหม้ไปด้วย มิเช่นนั้นบริษัทอาจจะต้องหยุดชะงักลงไปเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่ภีมพลกำลังจะเดินเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับทันทีที่เห็นชื่อของคนที่โทร.

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status