หน้าหลัก / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 4 18 มงกุฏ = รวิชา - 35%

แชร์

บทที่ 4 18 มงกุฏ = รวิชา - 35%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 12:45:48

“ฮ่า ๆ โอย...หายใจไม่ทัน ฮ่า ๆ”

เสียงหัวเราะอย่างขบขันของพชร เพื่อนสนิทและหุ้นส่วนคลับซุสดังลั่นทั่วห้องชุดที่เขาเพิ่งควักกระเป๋าซื้อเงินสดให้คู่หมั้นหมาด ๆ ในแบบที่เรียกว่าทั้งบังคับและอ้อนวอนให้เจ้าหล่อนยอมรับ เพราะไม่ต้องการให้ช่อมาลี คู่หมั้นคนสวยต้องอยู่ในอะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ และคับแคบ อีกทั้งระบบรักษาความปลอดภัยก็จัดอยู่ในระดับกลาง ซึ่งเขามองว่ามันดีไม่พอ

“แกไม่ต้องมาหัวเราะฉันเลย ไอ้โอม” ภีมพลแค่นเสียงใส่เพื่อนอย่างขุ่นเคือง คิดผิดแท้ ๆ ที่โทร. เล่าเรื่องเมื่อคืนให้พชรฟัง

ตอนแรกเขากะจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป คิดเสียว่าถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎหลอกตุ๋นจนสูญเงินไปร่วมสองหมื่น

แต่พอถูกเพื่อนสนิทหัวเราะเยาะ ทำให้เขาต้องเปลี่ยนความตั้งใจทันที นั่นคือต้องจับแม่สาวแสบนั่นมาสำเร็จโทษให้ได้ โทษฐานที่ทำให้เขาต้องเสียเหลี่ยม ซ้ำร้ายกว่านั้น เจ้าหล่อนยังมาลูบคมเขาถึงถิ่นอีกด้วย

“จะไม่ให้ฉันขำได้ไงวะไอ้ภีม นอกจากจะไม่ได้แอ้มแล้ว ยังโดนกวาดเงินไปเกลี้ยงกระเป๋า นี่แกอย่าไปเล่าให้ใครฟังเชียวนะเว้ย อับอายขายขี้หน้าเขาตายเลยว่ะ ฮ่า ๆ เจ้าพ่อซุสถูกสาวเชิดเงินถึงถิ่น โอ๊ย...รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”

พชรยังคงหัวเราะร่วนอย่างขบขันจนช่อมาลีที่กำลังเตรียมมื้อเที่ยงให้เขาอยู่ในครัวยังอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

“เฮ้อ...หัวเราะเข้าไปเถอะไอ้โอม ถึงทีแกบ้างเมื่อไรฉันจะหัวเราะให้กรามค้างเลย” ภีมพลคาดโทษพลางเอ่ยแช่งเพื่อน แต่พชรกลับไม่สะทกสะท้านทั้งยังเกทับกลับไป

“มันคงไม่มีวันนั้นหรอกว่ะเพื่อน เพราะฉันคงไม่ไปหิ้วสาวที่ไหนสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว ขืนทำตัวแบบเดิมมีหวังฉันคงถูกว่าที่เมียตามวิสามัญถึงที่แหง ๆ”

พชรพูดพลางเดินเข้าไปกอดเอว “ว่าที่เมีย” ที่อยู่ในครัวจนหญิงสาวสะดุ้ง แล้วหันมาส่งค้อนให้อย่างน่ารัก หญิงสาวทำมือเป็นรูปปืนจ่อไปที่ศีรษะของพชร แล้วพูดแบบไม่มีเสียงว่า “ปัง” จากนั้นช่อมาลีก็ทำท่าเป่าลมที่นิ้วมือเลียนแบบท่าเป่าปลายกระบอกปืน ทำเอาคนมองรู้สึกมันเขี้ยวขึ้นมาทันที

“อะไรกันวะไอ้โอม ยังไม่ทันแต่งเลย ซ้อมกลัวเมียแล้วหรือวะ” ภีมพลได้ทีแซวเพื่อนกลับไปบ้าง

“เฮ้ย แกไม่เคยได้ยินที่เขาพูดกันหรือไงว่าคนไหนกลัวเมีย คนนั้นทำมาหากินขึ้นน่ะ...จริงไหมจ๊ะคนสวย” ประโยคหลังพชรหันไปพูดกับช่อมาลีก่อนจะก้มหน้าลงไปหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่จนคนที่ฟังอยู่ปลายสายรู้สึกหมั่นไส้ทันที

“เฮ้อ...เลี่ยนว่ะ แค่นี้นะ”

ภีมพลตัดบทพลางกดตัดสายเพื่อน เห็นทีคืนนี้หลังจากไปดินเนอร์กับครอบครัวอินทรวิจักษ์แล้ว เขาคงต้องเอาเทปจากกล้องวงจรปิดที่คลับมาดูเสียหน่อย จะได้ถามผู้จัดการคนใหม่ว่าพอจะคุ้นหน้าแก๊งสิบแปดมงกุฎกลุ่มนี้บ้างหรือเปล่า เพราะเขาเชื่อว่าคนกลุ่มนี้น่าจะทำงานกันเป็นทีม และน่าจะหลอกต้มเงิน หรือบางทีอาจจะลอกคราบนักเที่ยวคนอื่นมาแล้วก็เป็นได้

แต่จะว่าไป เมื่อคืนแม่สาวน้อยคนนั้นก็หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาไปจริง ๆ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งปิดตาแน่นอน

เอาเถอะ...อย่างไรเสียเขาก็ต้องตามล่าแม่สาวแสบนั่น เขาจะสั่งสอนให้เธอรู้เสียบ้างว่าริเล่นกับไฟแล้วไฟลวกมือน่ะ มันเป็นอย่างไร!

รวิชานั่งแต่งตัวอยู่หน้ากระจกเมื่อใกล้ได้เวลาไปดินเนอร์กับบิดามารดา หญิงสาวมองเงาตนเองที่สะท้อนออกมา แล้วนึกขึ้นได้ว่าเธอน่าจะแต่งหน้าอ่อน ๆ ให้ใบหน้าดูมีสีสันอีกนิด ไม่ใช่แค่แป้งเด็กกับลิปกลอสที่แต้มอยู่บนเรียวปาก

คิดได้ดังนั้นรวิชาจึงเปิดลิ้นชัก หยิบบลัชออนสีชมพูที่พรรณรายทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืนออกมา พลันนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นธนบัตรปึกหนึ่งอยู่ในนั้น จึงอมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ป่านนี้ตาคุณผีดิบจะเป็นยังไงบ้างนะ สงสัยตื่นมาคงโกรธน่าดู ช่วยไม่ได้นี่ ก็เล่นเอาเงินทั้งปึกอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าตังค์แบน ๆ อย่างนั้น จะหยิบแต่ละทีมันก็หลุดออกมาทั้งยวงน่ะสิคะ ถือเสียว่าหนูขอค่าแท็กซี่ก็แล้วกันเนอะ คุณผีดิบ”

รวิชาปิดลิ้นชักลงตามเดิมพร้อมกับหยิบแปรงขึ้นมาปาดบลัชออนแล้วปัดลงไปบนพวงแก้มบาง ๆ อย่างอารมณ์ดี

หญิงสาวเอียงหน้าไปมาซ้ายขวาเพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหมุนตัวหน้ากระจกขนาดเต็มตัว วันนี้เธอปล่อยผมให้ยาวสยายลงมาแทนการมวยผมเป็นทรงดังโงะอย่างที่วัยรุ่นนิยมกัน เพื่อให้เข้ากับเดรสสั้นเหนือเข่าคอวีสีขาวพิมพ์ลายดอกซากุระสีชมพู รวิชายิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อเห็นว่าวันนี้ตนดูอ่อนหวาน และเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด

รวิชาคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กมาถือ ก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดไปชั้นล่าง เพราะคิดว่าบิดามารดาน่าจะรออยู่ ทว่าพอมาถึงห้องรับแขก เธอกลับพบบางสิ่งเข้าเสียก่อน และของสิ่งนั้นก็ทำให้หญิงสาวต้องเบิกตากว้างพร้อมกับหวีดร้องออกมาด้วยความยินดี

“กรี๊ด! พี่หมียักษ์ คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้น้องอายหรือคะ น่ารักจังเลย”

รวิชาวิ่งเข้าไปโอบตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ยักษ์ที่วางอยู่กับพื้นข้างโซฟา เพราะขนาดของมันไม่สามารถจะวางบนนั้นได้

“ไม่ใช่พ่อกับแม่หรอกจ้ะ”

รวิวรรณตอบบุตรสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นึกถึงตอนที่ลูกน้องของภีมพลโอบอุ้มตุ๊กตาหมียักษ์ตัวนี้เข้ามาวางในบ้านแล้วก็นึกขำ เพราะหนุ่มร่างสูงใหญ่นั้นหอบหิ้วมาจากบ้านภีมพลด้วยท่าทางทุลักทุเล ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าตอนอุ้มออกมาจากห้างสรรพสินค้าเพื่อเอามาใส่รถนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร

“อ้าว ถ้างั้นใครเป็นคนเอามาให้คะคุณแม่” รวิชาหันไปถามมารดาทั้งที่ตอนนี้ตนนั่งเอนหลังอยู่บนตักของหมียักษ์ไปแล้วเรียบร้อย

“เซอร์ไพรส์จ้ะ เดี๋ยวเราก็ได้เจอเขาแล้วละ เพราะคืนนี้เขาจะไปดินเนอร์กับเราด้วย” อาทิตย์เป็นคนตอบบุตรสาว ก่อนจะดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ

“พร้อมจะไปกันหรือยังครับสาว ๆ” เขาถามภรรยาและบุตรสาวที่กำลังเอาแขนนุ่มนิ่มของตุ๊กตามากอด

“พร้อมแล้วค่ะ”

รวิชาตอบพลางลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปคล้องแขนบิดา ทำให้พวกท่านทั้งสองคนสังเกตเห็นชุดที่บุตรสาวสวมใส่ได้เต็มตา

“โอ้โห คืนนี้ลูกสาวพ่อสวยมากเลย ถ้ามีหนุ่ม ๆ มาจีบลูกสาวเราจะทำยังไงดีล่ะคุณแม่” อาทิตย์หันไปถามภรรยา รวิวรรณหัวเราะก่อนจะเดินไปคล้องแขนอีกข้างของสามี

“ไม่ได้หรอกค่ะ คนนี้ห้ามจีบ ถ้าอยากจีบให้มาขอกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน”

ทั้งสามคนมาถึงโรงแรมชื่อดังในเวลาทุ่มเศษ จากนั้นขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นหกสิบเอ็ดซึ่งเป็นร้านอาหารบนดาดฟ้า ผู้จัดการร้านท่าทางภูมิฐานเป็นคนออกมาต้อนรับด้วยตนเอง เมื่อเห็นลูกค้าประจำที่นัดหมายไว้มากันพร้อมหน้า ก่อนจะพาเดินไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ซึ่งอยู่ในมุมที่ดีที่สุดของร้าน สามารถมองเห็นบรรยากาศยามค่ำคืน และแสงสีของกรุงเทพฯ ได้โดยรอบ

“ไหนล่ะคะ คนที่ซื้อพี่หมียักษ์ให้น้องอาย”

เมื่อนั่งลงรวิชาก็ถามถึงคนที่จะมาเซอร์ไพรส์วันนี้ทันที หญิงสาวหันมองไปรอบร้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตาอย่างตื่นเต้น

“น่าจะกำลังเดินทางมาจ้ะ” ผู้เป็นแม่ตอบพลางมองสามีที่กำลังโทรศัพท์คุยกับใครบางคนอยู่

“ใครกันน้า...ตื่นเต้นจังค่ะ”

รวิชายิ้มกว้างจนตาหยี ใบหน้าเปล่งปลั่ง ดวงตาระยิบระยับล้อแสงไฟเพราะความสุขที่อาบล้น การได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นสิ่งที่เธอปรารถนาเป็นที่สุด ทุกครั้งที่นำเรื่องครอบครัวไปปรับทุกข์ให้เพื่อนที่โรงเรียนฟัง มักจะมีแต่คนอิจฉาเธอทั้งนั้นที่ไม่ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของพ่อแม่ จะมีก็แค่บางคนที่เห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกของเธอ

อาทิตย์เดินมานั่งที่โต๊ะอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับบุตรสาว และหันหน้าไปตรงทางเข้าพอดีจึงมองเห็นได้ชัดว่าแขกเซอร์ไพรส์คนดังกล่าวกำลังก้าวตามผู้จัดการร้านมาจนใกล้จะถึงโต๊ะ เขาจึงลุกขึ้นยืนตามมารยาท

“เชิญครับเชิญ” อาทิตย์ผายมือเชื้อเชิญให้แขกนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่งถัดไปจาก  รวิชา ภีมพลจึงยกมือไหว้สองสามีภรรยา ก่อนจะมองไปยังสาวน้อยที่นั่งหันหลังให้ และกำลังลุกขึ้นหันหน้ามาทางเขา

เฮ้ย!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 4 18 มงกุฏ = รวิชา - 70%

    ภีมพลถึงกับชะงัก เช่นเดียวกับรวิชาที่กระพุ่มมือไหว้ค้างอยู่อย่างนั้น ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นแขกเซอร์ไพรส์ในคืนนี้หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อว่าคุณผีดิบข้างบ้านจะเป็นคนที่บิดามารดาพูดถึง ทั้งยังเป็นคนเดียวกับที่ซื้อตุ๊กตาหมีใหญ่ยักษ์ให้เธออีกด้วยชายหนุ่มจ้องหน้าสาวน้อยตรงหน้าไม่วางตา ใบหน้าแบบนี้ ผมแบบนี้ จมูกและปากแบบนี้ ใช่แน่แล้ว! เธอเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่นอนร่วมเตียงกับเขามาทั้งคืนไม่ผิดแน่ ยิ่งเธอมองเขาราวกับเห็นผีด้วยแล้ว ยิ่งมั่นใจว่าเธอก็จำเขาได้เช่นกัน“น้องอายจำอาภีมได้ไหมลูก เมื่อก่อนหนูติดอาเขามากเลยนะ อะไร ๆ ก็เรียกหาแต่อาภีม”รวิวรรณจับไหล่บุตรสาวแล้วหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มที่ยังคงยืนมองอย่างอึ้ง ๆ เห็นสีหน้าของเขาแล้วเธอก็ไม่ได้นึกติดใจสงสัยอะไร เพราะคิดว่าคงแปลกใจที่เห็นเด็กน้อยที่เคยตามต้อย ๆ ในวันวานจะโตเป็นสาวขนาดนี้แล้วรวิชาไม่ตอบ แต่ก้มศีรษะลงจนหน้าผากจดกับปลายนิ้วที่พนมอยู่เป็นการไหว้ชายหนุ่มแล้วหลุบตามองแต่พื้นเบื้องล่างขณะที่ภีมพลเพิ่งได้สติจึงยกมือขึ้นรับไหว้ ผุดยิ้มมุมปากเมื่อตั้งหลักได้“ตัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 4 18 มงกุฏ = รวิชา - 100%

    “แล้วอยากให้อาบอกพ่อกับแม่เรารึเปล่าล่ะ”ภีมพลยิ้มระรื่น ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะเก๊กหน้าดุเอ็ดคนหนีเที่ยวสักหน่อย ทว่าพอเห็นหน้าใส ๆ งอง้ำจนปากจิ้มลิ้มนั่นยื่นออกมาก็ทำเอาเขาหลุดอาการจนได้รวิชาช้อนสายตาขึ้นมองอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่สบอารมณ์ จึงไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้ตนอยู่ใกล้ชิดกับเขามากแค่ไหน ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกถึงความใกล้ชิดนี้ได้ เพราะกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายสาวแรกแย้ม และพวงแก้มอ่อนใสกำลังรบกวนสมาธิของเขา และความรู้สึกตอนที่เขาหาเศษหาเลยกับเธอตอนนอนสลบอยู่ในห้องเมื่อคืนก็ผุดขึ้นในหัว จึงส่งผลให้สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอิ่มระเรื่อจนตาปรอย“เอาเถอะ อาไม่บอกพ่อกับแม่เราหรอก แต่อย่าให้มีครั้งที่สอง รู้รึเปล่าว่าเมื่อคืนถ้าอาช่วยไว้ไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น”ภีมพลเสียงเข้มขึ้นอย่างอดไม่อยู่ รู้สึกใจหายกับเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมาทันที ไม่อยากนึกเลยว่าหากเขาไม่ตัดสินใจยื่นมือเข้าไปสอดผู้ชายสองคนนั้นไว้ ป่านนี้สาวน้อยตรงหน้าจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้“ขอบคุณค่ะอาภีม น้องอายรับรองว่าจะไม่มีครั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 5 แผนการขอหมั้นหมาย - 35%

    หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว รวิชาจึงออกมานั่งเล่นในสวนพร้อมแก้วน้ำใบโปรด หนังสือการ์ตูน และหมอนอิง ตอนนี้ดอกแก้วในสวนหลังบ้านกำลังบานสะพรั่งแข่งกันส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจาย หญิงสาวไปยังศาลาไม้สักหลังเล็ก วางแก้วน้ำกับหนังสือการ์ตูนบนโต๊ะ จัดหมอนอิงให้พิงไว้กับพนักข้างหนึ่ง จากนั้นจึงนั่งยืดขาบนม้านั่งตัวยาว เอนหลังพิงหมอนอิงแล้วหยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่านด้วยท่าทางผ่อนคลายเธอชอบมุมนี้ของบ้านที่สุด รองลงมาจากพื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ ตรงระเบียงห้องนอน เพราะที่นี่จะมีไม้ดอกไม้ประดับแข่งกันส่งกลิ่นหอมชวนให้ชื่นใจทุกครั้งที่ได้เข้ามานั่งพักผ่อน บางวันเธอเผลอหลับคาหนังสือเรียน หรือหนังสือการ์ตูนที่ศาลาตรงนี้บ่อยมาก เพราะลมธรรมชาติที่พัดเอื่อยเฉื่อยมาเป็นระยะ อีกทั้งยังเงียบสงบ มีเพียงเสียงเสียดสีกันของใบไม้ใบหญ้าที่ขับกล่อมให้เข้าสู่นิทรารมณ์ได้เป็นอย่างดีรวิชาไม่รู้เลยว่าได้ตกเป็นเป้าสายตาของใครคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านแนวรั้วเข้ามาภายในตัวบ้านอย่างเงียบเชียบ นัยน์ตาสีนิลกวาดมองเรียวขาขาวที่โผล่พ้นจากกางเกงขาสั้นกุดตามแบบสมัยนิยมที่เขาเคยเห็นวัยรุ่นทั่วไปนิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 5 แผนการขอหมั้นหมาย - 70%

    หญิงสาวเม้มปากแน่นเพราะมันคอยแต่จะคลี่ออกกว้าง นัยน์ตากลมโตตวัดมองไปทางที่คนบ้าเพิ่งเดินผ่านไป พลางค้อนลมค้อนแล้งไปเรื่อย ก่อนจะหยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่านอีกครั้ง หวังจะให้มันช่วยปัดเป่าความฟุ้งซ่านที่อยู่ในใจ แต่ดูเหมือนไม่ค่อยได้ผลเท่าไรนักภีมพลมองหาเจ้าของบ้านเพราะไม่อยากเสียมารยาทไปนั่งรอที่ห้องรับแขกโดยพลการ ระหว่างชั่งใจว่าจะเดินย้อนไปหารวิชาดีหรือไม่ เขาก็เห็นมาลัย แม่บ้านของที่นี่เดินมาหาเสียก่อน“มาหาคุณผู้ชายหรือคะคุณ”“ผมมาหาพี่อาทิตย์กับพี่วิน่ะครับ”แม่บ้านเดินนำภีมพลไปที่ห้องรีบแขกแล้วให้เขานั่งรอในนั้น จากนั้นมาลัยจึงเดินไปยังห้องทำงานเพื่อบอกเจ้านายว่ามีแขกมารอพบภีมพลลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะใต้บันไดเมื่อเห็นกรอบรูปหลายอันวางอยู่ เขาเลือกหยิบขึ้นมาอันหนึ่งซึ่งเป็นรูปของเด็กหญิงตัวน้อย นัยน์ตาสุกสกาว มัดแกละไว้สองข้าง ที่แก้มยุ้ย ๆ นั่นประแป้งไว้ขาวนวลจนน่าหยิกเล่น เจ้าตัวกำลังยิ้มร่าอวดฟันน้ำนมที่ขึ้นเรียงตัวสวยทั้งบนและล่าง มีตุ๊กตาหมีสีขาวใส่ชุดเจ้าสาวฟูฟ่องอยู่ในอ้อมกอด ดูเหมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 5 แผนการขอหมั้นหมาย - 100%

    “คงมีบ้างค่ะ ก็ต้องช่วยกันพูดค่อย ๆ หาเหตุผลมาอธิบายให้ฟัง น้องอายถึงจะเป็นเด็ก แต่ความคิดอ่านบางอย่างก็โตเกินวัย มีเหตุผลพอสมควรค่ะ” รวิวรรณยิ้มขึ้นมาได้เมื่อพูดถึงบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวน“ครับ งั้นผมคงต้องขอตัวก่อน มีงานต้องเคลียร์อีกเยอะเลย แล้วตอนเย็นจะให้ลูกน้องเอาใบสัญญามาให้นะครับ”ภีมพลลุกขึ้น สองสามีภรรยาจึงลุกไปส่งที่หน้าประตูบ้าน อาทิตย์ทำท่าจะเดินไปส่งที่รั้วหลังบ้านที่เดิม แต่ภีมพลนึกขึ้นได้ว่ารวิชานั่งอ่านหนังสืออยู่แถวนั้น และเขาคิดจะแวะคุยเล่นสักหน่อยจึงเอ่ยยั้งเอาไว้ก่อน“พี่ทิตย์ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้ครับ แค่นี้เองผมเดินไปเองก็ได้”“เอางั้นก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับคุณภีม”อาทิตย์ตบบ่าหนุ่มรุ่นน้องอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ ปัญหาหลายอย่างที่เคยรุมเร้าเข้ามาเริ่มคลายไปทีละเปลาะ ความตึงเครียดที่บีบคั้นกดดันแน่นหนักอยู่ในอกเริ่มสลายจางลงจนรู้สึกราวกับว่าหายใจได้คล่องขึ้น“ผมยินดีช่วยครับ หากพี่มีปัญหาขอให้บอกผม เรื่องหนูอายก็ไม่ต้องเป็นห่วง ผมรับปากว่าจะดูแลให้เป็นอย่างดี” จะดูแลแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 6 คู่หมั้นของฉันคือคุณผีดิบ - 35%

    “คุณพ่อว่าอะไรนะคะ!” รวิชาถามอย่างไม่เชื่อหู เธอไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่ตนหูแว่วไปเองหรือเปล่า“น้องอายต้องหมั้นกับอาภีมนะลูก แล้วพ่อจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเราถึงต้องหมั้น แต่ตอนนี้...” อาทิตย์ยังพูดไม่ทันจบ รวิชาก็ลุกพรวดแล้วหันไปหาผู้เป็นมารดาที่นั่งอยู่อีกด้าน“คุณแม่คะ ดูคุณพ่อสิพูดอะไรก็ไม่รู้ หมั้นอะไรกันน่ะ” เธอต้องการตัวช่วยเพื่อยืนยันคำพูดของบิดาว่าเป็นแค่เรื่องล้อเล่น แต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของท่านทั้งสอง หญิงสาวถึงกับทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตามเดิม ใบหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจ แล้วนั่งนิ่งเพื่อรอฟังเหตุผลจากบิดา“ฟังพ่อนะ ที่พ่อกับแม่ให้หนูหมั้นกับอาภีมก็เพราะว่าจะได้กันตาวิชรไม่ให้มายุ่งกับหนู หนูรู้หรือเปล่าว่าทุกวันนี้ลุงบุญทรงยังมาทาบทามหนูให้ลูกชายเขาอยู่เลย ถึงแม้พ่อจะปฏิเสธไปแล้วก็เถอะ พ่อไม่อยากให้เขามาลำเลิกบุญคุณเก่า ๆ ที่เคยช่วยพ่อตอนเปิดบริษัท หนูเป็นลูกสาวของพ่อ ทำไมพ่อจะไม่รู้ว่าหนูไม่ชอบหน้าตาวิชร เพราะฉะนั้นพ่อถึงให้หนูหมั้นกับอาภีมเสีย ทางนั้นจะได้ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 6 คู่หมั้นของฉันคือคุณผีดิบ - 70%

    ฐานะทางบ้านของอารดาไม่ได้ร่ำรวยนัก ค่อนข้างขัดสนด้วยซ้ำเพราะมีมารดาเพียงคนเดียวที่คอยหาเลี้ยงทั้งครอบครัวด้วยการรับจ้างเย็บผ้า ส่วนบิดาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุตั้งแต่อารดายังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา อารดามีน้องสาวหนึ่งคนเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนเดียวกัน ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายบางส่วนนั้นอารดาอาศัยกองทุนกู้ยืมจากรัฐบาลมาช่วย และโชคดีที่เธอสอบเข้าโรงเรียนมัธยมสตรีล้วนชื่อดังซึ่งเป็นโรงเรียนของรัฐบาลได้ ค่าเทอมจึงไม่แพงนักถ้าเทียบกับโรงเรียนเอกชนแต่ถึงกระนั้น ทุกครั้งที่ปิดเทอม อารดามักจะหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ฉะนั้นเวลาที่เพื่อนฝูงนัดกันไปเที่ยว หรือเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าหลังเลิกเรียน อารดาจึงไม่ค่อยได้ไปสังสรรค์เท่าไร เพราะต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในบ้านบางครั้งเพื่อนในกลุ่มรวมถึงรวิชาต้องบังคับขู่เข็ญให้ไปด้วยกัน โดยไม่ต้องให้อารดาควักกระเป๋าจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ได้มีฐานะเหมือนพวกตน ซึ่งอารดาเองก็ไปบ้างไม่ไปบ้างเพราะความเกรงใจที่ต้องให้เพื่อนมาคอยจ่ายให้เกือบทุกครั้ง“อืม...จะว่าไปฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะหมั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 6 คู่หมั้นของฉันคือคุณผีดิบ - 100%

    “พ่อกับแม่ต้องไปทำงานนะลูก เอาไว้ถ้าทุกอย่างลงตัวเมื่อไรพ่อจะพาหนูไปด้วย เพราะอีกหน่อยหนูต้องมาช่วยพ่อกับแม่ดูแลบริษัทของเรา ยังมีอีกหลายอย่างเลยละที่น้องอายต้องเรียนรู้” อาทิตย์พาบุตรสาวมานั่งที่โซฟา ก่อนจะเริ่มพูดถึงเรื่องที่ได้คุยกับภีมพลเมื่อคืน“อาภีมมาบอกกับพ่อแล้วนะว่าวันที่เจ็ดเดือนหน้าคือวันหมั้น พ่อกับแม่จะกลับมาก่อนวันงานสองวันนะลูก” บิดาพูดจบ รวิชาก็ทำตาโตทันที“วันที่เจ็ดเดือนหน้า งั้นก็อีกแค่...สองอาทิตย์เองสิคะ! ทำไมเร็วจัง”รวิชาทำหน้าง้ำ เหลือเวลาอีกแค่สิบกว่าวัน หลังจากนั้นเธอก็ต้องกลายเป็นคนที่มีห่วงผูกคอเสียแล้ว“เขาเอาฤกษ์สะดวกน่ะ เพราะวันที่สิบเดือนหน้า คุณพ่อคุณแม่ของอาภีมจะต้องไปเมืองนอก เลยอยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนไป” อาทิตย์ตอบบุตรสาว ก่อนจะกำชับเรื่องการดูแลตัวเองอีกครั้ง“ช่วงที่พ่อกับแม่ไม่อยู่น้องอายต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก เพื่อนคนไหนที่เคยชวนไปเที่ยวกลางคืน ถ้าเขาโทร. มาชวนอีกก็ไม่ต้องไปกับเขา หลังจากที่พ่อไปแล้วอาภีมอาจจะมาดูแลบ้างเป็นครั้งคราว เดี๋ยวพ่อจะส่งไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26

บทล่าสุด

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 23 จำเป็นต้องเติบโต - 100%

    หลายเดือนผ่านไปเสียงถอนหายใจจากร่างเล็กที่กำลังเอนตัวนอนไปกับที่นั่งในศาลาไม้สักทำให้ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ ต้องชะงักเท้าแล้วหันมองตามเสียงนั้น ภีมพลเดินไปหา คนที่นอนหลับตาจึงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า และไม่รู้ถึงการมาของเขา ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงกับเสา มุมปากยกยิ้มอย่างเอ็นดู แววตาทอดอ่อนเมื่อมองไปยังหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของหัวใจ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งใกล้กับเธอกลิ่นน้ำหอมที่เคยคุ้นลอยเข้าจมูก อีกทั้งเริ่มรู้สึกว่าสะโพกกำลังโดนเบียดจากใครบางคน รวิชาลืมตาขึ้นมองแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร จนเมื่อได้สบตากันหญิงสาวจึงส่งยิ้มเนือย ๆ ไปให้“เหนื่อยหรือ ถอนหายใจเสียงดังเชียว” ภีมพลเอื้อมมือปัดปอยผมให้อย่างอ่อนโยน รวิชาจึงยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วย้ายฝั่งไปเอนตัวลงนอนหนุนตักแข็ง ๆ ของเขาแทนอย่างออดอ้อน“ถ้าให้ตอบตรง ๆ ก็ใช่ค่ะ หลายเดือนมานี้เลิกเรียนมาก็ต้องมาศึกษางานของบริษัท นี่ยังดีนะที่น้องอายเคยเรียนรู้มาบ้างแล้วตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ยังอยู่ ต้องขอบคุณอาภีมค่ะที่ตอนนั้นสอนให้น้องอายได้คิดว่าเราควรจะต้องเริ่มศึกษาธุรกิจของครอบครัวเอา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 23 จำเป็นต้องเติบโต - 70%

    ชายหนุ่มนั่งเท้าแขนอยู่บนโต๊ะพลางมองใบหน้าเนียนใสที่เริ่มมีสีระเรื่ออย่างเอ็นดูแกมมันเขี้ยว เพราะประโยคนั้นของเธอ ทำเอาเขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งสิ้นทั้งที่ใกล้สอบเต็มทีอารดาเงยหน้าขึ้นสบตาเขา แล้วรีบก้มหน้าหลบสายตาวิบวับของชายหนุ่ม ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเมื่อครู่เขาคงได้ยินทุกอย่างจากปากเธอไปหมดแล้ว“อุ้ย...อุ้ยครับ เงยหน้าขึ้นมองพี่หน่อยสิ”เตชินทร์ก้มหน้าเอียงคอลงเพื่อที่จะได้มองหน้าสาวน้อยให้เต็มตา ครั้นพอเธอเงยหน้าขึ้นมา เรียวปากของชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มกว้างจนตายิบหยี“พี่อยากจะบอกอุ้ยว่าครอบครัวของพี่ไม่ได้เป็นอย่างที่อุ้ยกังวลหรอกนะ อากงอาม่าของพี่สมัยที่มาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ก็เป็นลูกจ้างเข็นของอยู่ในตลาด กว่าจะมีอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะน้ำพักน้ำแรงล้วน ๆ ครอบครัวของพี่ก็เลยไม่เคยดูถูกใครในเรื่องของฐานะ ท่านทั้งสองให้ความสำคัญกับค่าของคนมากกว่าค่าของเงิน”ชายหนุ่มหยุดพูดไปครู่หนึ่งเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวที่เขาเทใจให้ เมื่อเห็นเธอนั่งนิ่งและตั้งใจฟัง เขาจึงตัดสินใจพูดต่อ“ท่านไม่เคยห้ามหรือกีดกันพี่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 23 จำเป็นต้องเติบโต - 35%

    หลายวันต่อมา ภีมพลยืนดูแบบแปลนและโครงสร้างของโรงงานที่ทีมสถาปนิกเคยนำเสนอเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเขาเห็นว่าปลอดภัยและรัดกุมกว่าโครงสร้างของโรงงานแบบเดิม จึงได้มีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเขาต้องมาดูแลการก่อสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเองเนื่องจากอาคารหลังเดิมเสียหายจากไฟไหม้มากจนไม่คุ้มหากจะซ่อมแซมใหม่ ตอนนี้ห้องเก็บกลิ่นตัวอย่างจึงต้องอาศัยตู้คอนเทนเนอร์ใช้เป็นออฟฟิศชั่วคราวแทนไปก่อน ส่วนโรงคัดแยกวัตถุดิบก็ใช้พื้นที่ส่วนของลานจอดรถทำไปพลาง ๆ ซึ่งภีมพลได้ว่าจ้างให้ช่างประปาต่อวาล์วน้ำเพิ่มเติมในจุดนี้รวมทั้งทำอ่างสำหรับล้าง และก่อโครงมีหลังคาทำเป็นโรงคัดแยกแบบง่าย ๆ ระหว่างที่รอการก่อสร้างของจริงจะแล้วเสร็จหลังจากที่ดูการก่อสร้างส่วนต่าง ๆ จนพอใจ ชายหนุ่มจึงเดินไปยังอาคารอีกหลังซึ่งเป็นในส่วนของออฟฟิศ และเป็นอาคารที่แยกออกมาจากโรงงาน โชคดีที่อาคารหลังนี้ไม่ถูกไฟไหม้ไปด้วย มิเช่นนั้นบริษัทอาจจะต้องหยุดชะงักลงไปเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่ภีมพลกำลังจะเดินเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับทันทีที่เห็นชื่อของคนที่โทร.

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status