แชร์

บทที่ 260

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
องค์หญิงสามโมโหจนด่าออกมา “ซือเจ๋อเยว่ เจ้าบังอาจยิ่งนัก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าเอาของแบบนี้มาราดหัวข้า ข้าขอสู้ตายกับเจ้า!”

พูดจบนางอยากจะลงมือฉีกซือเจ๋อเยว่ออกเป็นชิ้น ๆ

เพียงแต่หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่ราดน้ำใส่องค์หญิงสามเสร็จก็ไปหลบที่ด้านหลังของฮองเฮา “ฮองเฮา หม่อมฉันรักษาองค์หญิงสามหายแล้วเพคะ”

ฮองเฮาตำหนิองค์หญิงสาม “เจ๋อเยว่เป็นคนรักษาอาการป่วยให้เจ้า ห้ามเสียมารยาท!”

องค์หญิงสามถึงพบว่า หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่นำน้ำถ้วยนั้นมาราดหัวนาง คิดไม่ถึงว่าจะไม่ส่งเสียงออกมาเป็นเสียงร้องของไก่อีกแล้ว

นางตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

หลายวันมานี้นางถูกเรื่องนี้ทำให้รู้สึกทรมานไม่น้อย ภายในใจได้รับแรงกดดันมากมาย

นางกลัวมากว่าต่อไปตนจะไม่สามารถพูดได้อีก!

ในที่สุดวันนี้ก็หายดีแล้ว อารมณ์ของนางซับซ้อนเล็กน้อย

นางคิดไม่ถึงว่าซือเจ๋อเยว่จะสามารถรักษานางให้หายดีได้จริงๆ!

วันที่สองที่นางโดนคุณไสยฮองเฮาก็ได้เชิญตัวซือเจ๋อเยว่มาแล้ว เป็นเพราะนางกับอวิ๋นไท่เฟยไม่เชื่อว่าซือเจ๋อเยว่จะมีความสามารถแบบนี้ จึงไล่ตะเพิดไป

วันนี้พวกเขาเชิญตัวซือเจ๋อเยว่มาอีกครั้ง อันที่จริงนางก็ยังไม่เชื่อว่าซือเจ๋อเยว่จะมีความส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ttjiwan
ลงเยอะๆหน่อยค่า
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 261

    "ข้าสามารถรักษาอาการที่เจ้าร้องปานไก่ขันได้ นั่นก็หมายความว่าข้ารู้วิชาเต๋าจริงๆ" "และวิชาที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือการดูโหงวเฮ้ง คนในเมืองหลวงที่ข้าดูให้ ล้วนแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ" "ผู้ใดก็ตามที่ข้าเอ่ยขึ้นต้องตาย ล้วนไม่สามารถรอดชีวิตได้" "ดังนั้นยามนี้เจ้าไม่ควรด่าข้า แต่ควรคุกเข่าขอร้องให้ข้าช่วยเจ้า ขจัดพลังชั่วร้ายที่เกาะอยู่บนตัวเจ้า" องค์หญิงสามฟังแล้วไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว "เจ้าคิดว่าเป็นผู้ใดกัน? จะให้ข้าคุกเข่าให้เจ้า? ข้ายอมตายดีกว่าคุกเข่าให้เจ้า!" ซือเจ๋อเยว่จ้องใบหน้าของนางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนปรบมือแล้วเอ่ยขึ้น "เจ้านี่ช่างมีศักดิ์ศรีดีเหลือเกิน จงจำคำที่เจ้าบอกไว้ในวันนี้ให้ดี แล้วอย่าได้มาหาข้าอีก" องค์หญิงสามทำท่าจะโต้ตอบต่อ แต่ฮองเฮาที่ถูกเสียงทะเลาะของพวกนางทำให้ปวดหัว จึงได้บอกกับนางกำนัลข้างกาย "พวกเจ้าพาองค์หญิงสามไปพักผ่อนก่อน" กลุ่มคนพาตัวองค์หญิงสามออกไปนางยังคงด่าทอไม่หยุดขณะถูกพาตัวออกไป สายตาที่มองซือเจ๋อเยว่เต็มไปด้วยความรังเกียจ ซือเจ๋อเยว่สังเกตเห็นกลิ่นอายมืดดำล้อมรอบตัวองค์หญิงสาม จึงรู้ว่านิสัยอารมณ์ร้ายของนางเป็นผลมาจากพลังนั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 262

    ฮองเฮาเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “หากเป็นคนอื่นถามข้าเช่นนี้ ข้าคงปฏิเสธแน่นอน เพราะข้าเป็นฮองเฮา ข้าต้องสำรวมและใจกว้าง ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ใดหยิบยกสิ่งใดมาเป็นอาวุธโจมตีข้าได้” “แต่ต่อหน้าเจ้า ข้าไม่มีอันใดต้องปิดบัง ข้ายอมรับว่าข้าเกลียดอวิ๋นไท่เฟยมากจริงๆ” การที่ฮองเฮาสามารถรักษาตำแหน่งของตนไว้ได้อย่างมั่นคงตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะเพียบพร้อมด้วยทั้งด้วยเล่ห์เหลี่ยมและฝีมือ แต่สิ่งที่นางเกลียดที่สุดคือวิธีการของอวิ๋นไท่เฟย ซึ่งก่อนหน้านี้ฮ่องเต้เจาหมิงกลับโปรดปรานอวิ๋นไท่เฟยเป็นอย่างมาก แม้ฮองเฮาจะเคยใช้วิธีการต่าง ๆ มากมายเพื่อจัดการอวิ๋นไท่เฟย แต่เพราะอวิ๋นไท่เฟยมีความโปรดปรานจากฮ่องเต้เจาหมิง วิธีเหล่านั้นกลับไม่ได้ผลมากนัก อวิ๋นไท่เฟยเองก็ชอบแสดงความหยาบคายและยั่วยุฮองเฮาอยู่เสมอ มีอยู่หลายครั้งที่ฮองเฮาเกือบจะทนไม่ไหวด้วยความโกรธ แต่ต้องหาวิธีอื่นมาระงับอารมณ์และหาข้อได้เปรียบแทน ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้มพลางถามออกไป “หากฮองเฮามีโอกาส จะทรงต้องการส่งนางไปดูแลสุสานจักรพรรดิหรือไม่?” เพียงพักเดียวดวงตาของฮองเฮาก็เป็นประกาย “แน่นอน ข้าอยากทำเช่นนั้น!” หลังจากเอ่ยเสร็จ นางก็ถ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 263

    ยามนี้ฮองเฮาเพิ่งเข้าใจอย่างแท้จริง ว่าเหตุใดวันนั้นที่ซือเจ๋อเยว่เผาบ้านของจวนหนิงกั๋วกง จวนหนิงกั๋วกงกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อตอบโต้  ก่อนหน้านี้ ฮองเฮาเคยคิดว่าอาจเป็นเพราะหนิงกั๋วกงเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซือเจ๋อเยว่ จึงเลือกที่จะไม่เอาเรื่อง  แต่ความจริงคือจวนหนิงกั๋วกงกลัวว่าหากมีการตรวจสอบ ความลับของพวกเขาอาจถูกเปิดเผยจนปกปิดไว้ไม่ได้  เพราะเหตุนี้ ฮองเฮาจึงไม่สงสัยในความน่าเชื่อถือของคำกล่าวซือเจ๋อเยว่ เพราะมีแต่คำอธิบายนี้เท่านั้นที่สามารถไขปริศนาหลายอย่างที่เคยไม่เข้าใจได้  ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “รอให้สวรรค์ลงโทษพวกเขา สู้พวกเราลงมือเองไม่ดีกว่าหรือเพคะ?”  ฮองเฮามองซือเจ๋อเยว่ด้วยความสนใจ ขณะที่ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับด้วยสายตาที่แจ่มจรัส “คดีของจวนเยียนอ๋องยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน กำลังของพวกเรายังจำกัด”  “แต่หากฮองเฮาเต็มใจร่วมมือกับพวกหม่อมฉัน โอกาสสำเร็จก็จะยิ่งมีมากขึ้น”  ตั้งแต่ครั้งแรกที่ซือเจ๋อเยว่พบฮองเฮา นางก็เริ่มครุ่นคิดว่าจะดึงฮองเฮามาร่วมมือดีหรือไม่  ฮองเฮาเป็นคนที่ระมัดระวังอย่างยิ่ง คนเช่นนี้หากไม่มีแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่หรือถูกผล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 264

    ซือเจ๋อเยว่ได้ยินเสียงตะโกนของอวิ๋นไท่เฟย คิ้วของนางเลิกขึ้นเล็กน้อย  แม้เป็นเวลานี้ก็ยังไร้สำนึกถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะพบ  ฮองเฮาส่งสายตาถามซือเจ๋อเยว่ ว่านางต้องการให้ช่วยหรือไม่  ซือเจ๋อเยว่าส่ายหัวเบา ๆ เรื่องของอวิ๋นไท่เฟยเช่นนี้ นางสามารถจัดการเองได้  นางยกถ้วยชาขึ้นจิบเบา ๆ แล้วถือถ้วยชาเดินออกไป  ฮองเฮาเห็นท่าทีสงบนิ่งของซือเจ๋อเยว่ ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย นางชื่นชอบในบุคลิกของซือเจ๋อเยว่  ฮองเฮามองเห็นเงาของตนเองในวัยเยาว์ในตัวซือเจ๋อเยว่ แต่ความกล้าหาญของซือเจ๋อเยว่กลับมากกว่านางในวัยเยาว์มากนักซือเจ๋อเยว่เสมือนกุหลาบที่กำลังเบ่งบานนอกวัง งดงามและชวนหลงใหล แต่เต็มไปด้วยหนามแหลม ผู้ใดแตะต้องก็จะทิ่มแทงผู้นั้น  ฮองเฮาอยากรู้ว่าวันนี้ซือเจ๋อเยว่จะจัดการอวิ๋นไท่เฟยอย่างไร จึงเดินตามออกไป  แม้ฮองเฮามั่นใจว่าซือเจ๋อเยว่าสามารถรับมือกับอวิ๋นไท่เฟยได้ แต่เพราะที่นี่คือพระราชวัง หากอวิ๋นไท่เฟยพาคนมามาก ซือเจ๋อเยว่าอาจเสียเปรียบ  ฮองเฮาจึงออกไปดูสถานการณ์ หากซือเจ๋อเยว่ถูกอวิ๋นไท่เฟยรังแก นางจะช่วยเหลือได้บ้าง  ซือเจ๋อเยว่เพิ่งจะเดินออกมา อวิ๋นไท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 265

    อวิ๋นไท่เฟยโกรธจนตัวสั่น ตะคอกด้วยเสียงเย็นชา "เจ้าไปเรียนกฎระเบียบแปลก ๆ อันใดมาจากข้างนอก? ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วันนี้ข้าจะสอนเจ้าให้รู้จักมารยาทเอง!"  ซือเจ๋อเยว่กวักนิ้วเรียก "เชิญท่านลองเข้ามาได้ตามสบาย"  ท่าทีเยือกเย็นของซือเจ๋อเยว่ ทำให้อวิ๋นไท่เฟยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เนื่องด้วยความโกรธ นางจึงไม่ได้คิดอันใดมาก จึงสั่งให้ข้ารับใช้สาวของนางไปสั่งสอนซือเจ๋อเยว่  ซือเจ๋อเยหาได้หลบเลี่ยงไม่ ร่ายคาถาใส่ร่างกายของนางกำนัลคนนั้นโดยตรง ทันใดนั้นนางกำนัลรู้สึกถึงลมเย็นยะเยือกพัดผ่านหลัง  นางอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง จึงพบว่ามีวิญญาณตนหนึ่งเกาะอยู่บนหลังของตน  วิญญาณตนนั้นมีลิ้นที่ยาวเหยียด มันเผยรอยยิ้มอันน่ากลัวแสดงฟันขาวซีดให้นางเห็น ก่อนจะยื่นลิ้นมายังตัวนาง  นางกำนัลตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง กรีดร้องเสียงดัง "อย่าฆ่าข้านะ!"  จากนั้นนางก็รู้สึกคล้ายดั่งว่ามีบางอย่างบีบรัดคอ หายใจไม่ออก ใบหน้าของนางจึงแดงก่ำ  ภาพที่น่าประหลาดเช่นนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก  ซือเจ๋อเยว่ หันไปถามข้ารับใช้คนอื่น ๆ "พวกเจ้าอยากลองบ้างหรือไม่?"  ข้ารับใช้ที่เดิม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 363

    ไป๋จื้อเซียนเห็นว่านางมองเขา สุดท้ายแล้วเขาก็อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยากให้ฆ่าสังหารผู้คน ข้าไม่สังหารก็สิ้นเรื่อง”ที่เขาสังหารคนก็เพราะว่าในใจของเขาไม่มีความสุข คนทั่วไปสำหรับเขาเป็นเหมือนมดแมลง สามารถบีบให้ตายได้ตามใจชอบซือเจ๋อเยว่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลูบจมูกเบา ๆ ทีหนึ่ง ถามเขา “เพราะฉะนั้น ข้าเป็นสหายเก่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”ไป๋จื้อเซียนพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าให้สัญญากับข้าว่าจะเจอกันหนึ่งพันปีหลังจากนั้น”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก “ต้องขออภัยจริง ๆ เรื่องพวกนั้นข้าจำมันไม่ได้แล้ว”“ข้ารู้” ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ตอนนี้ข้าได้สาบานกับสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่?”ครึ่งประโยคหลังเขายังไม่ได้พูด เขายังไม่รู้ว่า เมื่อหนึ่งพันปีก่อนนางใส่ใจเขามาก ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเหลือความทรงจำเมื่อหนึ่งพันปีช่วงนั้นเอาไว้มีเพียงเพราะหมกมุ่นมากถึงได้เก็บความทรงจำเอาไว้นานขนาดนี้ตอนนี้นางจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ ทำให้นางจำเขาให้ได้ก่อนหน้านี้นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 362

    เขาถึงขนาดคิดว่า ในใจของนาง เขาก็เป็นคนที่พิเศษคนนั้นเช่นกันเมื่อเขาคิดเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเขาหยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา พลังชั่วร้ายพวกนั้นทั้งหมดถูกดูดไปอย่างสะอาดหมดจดแล้ว จากนั้นก็ลอยจากท้องฟ้ามาที่ตรงหน้าของสีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือถือกระบี่ไม้ท้อก้าวไปข้างหน้า มือของซือเจ๋อเยว่กดที่บนมือของเขาจนถึงตอนนี้ ความแตกต่างของความสามารถระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยวันนี้หากต้องลงมือกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วก็สังหารไป๋จื้อเซียนไม่ได้อีกด้วยในเรื่องการกำจัดปีศาจ ซือเจ๋อเยว่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดครั้งนี้เอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าค่อยหาตัวช่วยที่จะทำให้เสมอกัน แล้วค่อยหาโอกาสลงมือกับเขาอีกครั้งการกระทำนี้ของนางทำให้ไป๋จื้อเซียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ยกมือขึ้น แล้วโบกมือใส่เยียนเซียวหรานทันทีเยียนเซียวหรานถือกระบี่ไม้ท้อขวางเอาไว้ จึงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของไป๋จื้อเซียนได้ เพียงแต่เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันไป๋จื้อเซียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ ไอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 361

    นางเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเต๋า ดังนั้นการร่ายคาถาก็เหมือนกับกินข้าวกินน้ำ แต่สำหรับคนในสำนักเต๋าทั่วไปแล้ว กลับเป็นเรื่องที่ยากมากทว่าตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่เพียงเคยเห็นนางร่ายคาถาไม่กี่ครั้ง ก็สามารถร่ายคาถาได้แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์!นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าร่ายคาถาเป็น เช่นนั้นพวกเรามาเผชิญหน้าด้วยกัน!”เยียนเซียวหรานพยักหน้าหลังจากที่เขารู้จักนาง ถึงได้เข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจคาถาเต๋า แต่ตอนหลังเขาได้ไปเรียนรู้ดาววิบัติดวงนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาตั้งรับเตรียมพร้อมตอนที่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสิบกว่าจั้ง เยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงปราณชั่วร้ายที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ปราณชั่วร้ายกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด คมราวกับมีด ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพัดโดนหน้าซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ตอนที่เตรียมที่จะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้ด้วยนั้น ข้าง ๆ ก็มีสีแดงปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจากนั้นพลังชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกที่เดิมทีรุนแรงมากก็สลายหายไปภายในชั่วพริบตาเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 360

    วิธีการพูดแบบนี้ของซือเจ๋อเยว่ อันที่จริงเป็นคำศัพท์เฉพาะของสำนักเต๋าคำศัพท์นี้หมายถึงไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ทว่าใช้ทักษะชั่วร้ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นพลังชั่วร้ายพลังชั่วร้ายประเภทนี้ไม่ใช่วิญญาณทั่วไปที่ตายด้วยความโกรธแค้นจนกลายเป็นพลังชั่วร้าย แต่เป็นพลังชั่วร้ายที่ก่อตัวมาจากความคิดชั่วร้ายและวิญญาณชั่วร้ายที่สะสมของโลกใบนี้หลังจากที่บรรดาเต๋าสายดำตามหาพลังชั่วร้ายประเภทนี้จนเจอ ค่อยใช้การฝึกพลังเฉพาะสกัดให้บริสุทธิ์ แล้วนำพวกมันมารวมไว้ด้วยกัน ก็เหมือนกับสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้พลังชั่วร้ายประเภทนี้หลังจากที่ถูกเจ้าของฝึกฝนมานาน ก็จะกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในมือของเต๋าสายดำเมื่อเจ้าของของพลังชั่วร้ายตอนที่สั่งให้พวกมันไปจัดการคนคนหนึ่ง พวกมันก็สามารถกลืนกินคนคนนั้นได้จากนั้นพวกเขาค่อยให้มนุษย์เกิดความคิดชั่วร้าย แล้วค่อยใช้ความคิดชั่วร้ายเป็นอาหารบำรุงพวกมัน ทว่าคนที่อยู่ที่นั่น ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่มีชีวิต มีพวกเขาคอยควบคุมซือเจ๋อเยว่จ้องมองดาววิบัติที่เข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยดาววิบัติดวงนี้ใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ในเวลาเด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status