แชร์

บทที่ 171

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เยียนเซียวหรานมองไปที่นาง จากนั้นก็เห็นเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของนาง

เขากล่าวเตือนนางให้รู้ตัว “ท่านเลือดกำเดาไหลแล้ว”

ซือเจ๋อเยว่ยกมือขึ้นมาถู บนมือพลันถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน นางสูดจมูกหนึ่งทีแล้วพูด “ครานี้ขาดทุนย่อยยับทีเดียว!”

นางเอ่ยจบก็ล้มตึง เยียนเซียวหรานหาได้ปรี่เข้าไปรับตัวนางไว้ไม่ หากแต่วิ่งพรวดไปยังเบื้องหน้าของแมวชอซี

เขาคว้าหมับเข้าที่หลังคอแมวแล้วดึงยกขึ้นฉับพลัน ก่อนจะแย่งเอาหุ่นคนที่ยามนี้ฉีกขาดเละเทะจนหมดสภาพจากในกรงเล็บของมันมา จากนั้นค่อยเอามันไปขังไว้ที่ห้องขนาบด้านข้าง

เขาทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้วค่อยมาช้อนร่างซือเจ๋อเยว่ขึ้นอุ้มไว้ เลือดกำเดาของนางยังคงไหลหลั่งออกมาไม่หยุด

เขารู้ดีว่าแค่เลือดกำเดาไหลหาใช่เรื่องสาหัสสากรรจ์แต่อย่างใดสำหรับคนทั่วไปไม่ ทว่าสำหรับนางแล้วกลับเป็นเรื่องที่เอาชีวิตนางได้เลย

เขารีบวางหุ่นคนไว้บนโต๊ะแล้วเรียกนางเบา ๆ “องค์หญิง องค์หญิง!”

ซือเจ๋อเยว่ที่เดิมทีนอนสลบเหมือดไม่ได้สติพลันลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง “องค์หญิงฟื้นก็ดีแล้ว”

เขาทำท่าจะผละออกจากนาง นางกลับจับตัวเขาไว้ในทันที เขาจึงเอ่ยถาม “องค์หญิงยังมีตร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 172

    ในเวลานี้เอง มีเสียงร้องของแมวอันใสกังวานดังมาจากห้องด้านข้าง เยียนเซียวหรานจึงกลับมาได้สติครบถ้วนอีกครั้งโดยพลันเขามองเรือนร่างของพวกเขาทั้งคู่ที่ยามนี้เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิด สีหน้าพลันซับซ้อนเล็กน้อยบัดนี้ซือเจ๋อเยว่ได้กลับมาสงบลงแล้ว ท่าทางที่นางนอนหลับอยู่ตรงนั้น ช่างน่ารักน่าเอ็นดูนักเพียงแต่ริมฝีปากของนางถูกเขาจูบจนระบมกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เย้ายวนชวนหลงใหลเป็นพิเศษยามนี้เยียนเซียวหรานรู้แล้วว่าเมื่อครู่นางสติไม่เต็มถ้วน และการกระทำของเขามากน้อยก็จัดได้ว่าฉวยโอกาสในยามคับขันเขายกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองฉาดหนึ่ง พลิกตัวลงจากเตียง ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าของตนเองและของนางให้เรียบร้อย แล้วค่อยดึงผ้าห่มมาคลุมให้นางเขาผินกายจากไป แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันกลับมามองนาง นางนอนแน่นิ่ง บนดวงหน้างดงามราวกับประดับด้วยรวยยิ้มจาง ๆในใจเยียนเซียวหรานพลันเกิดความคิดในเชิงนั้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงตบหน้าตัวเองอีกรอบ พร้อมสบถคำด่า “สัตว์เดรัจฉาน!”เมื่อสองปีก่อนไม่ว่าระหว่างพวกเขาสองคนจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตอนนี้ซือเจ๋อเยว่ก็เป็นพี่สะใภ้ของเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้นเขาจะทำเรื่องพรรค์น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 173

    เยียนเซียวหรานแค่นเสียงเย็นออกมาหนึ่งที “แล้วท่านจำอันใดได้บ้างเล่า?”เขาเอ่ยเสร็จก็เบือนหน้าเดินจากไปเมื่อคืนวานนี้ซือเจ๋อเยว่เห็นเขาปีนหน้าต่างเข้ามาหานาง นางก็ยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยังนับว่าไม่เลว นางน่าจะยังสามารถเข้าใกล้เขาได้อีกสักนิด เพิ่มพลังชีวิตได้อีกสักหน่อยแต่ยามนี้เขาคิดจะเปลี่ยนท่าทีก็เปลี่ยนทันที นางรู้สึกอย่างลึกซึ้งว่าเขาช่างเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนเสียจริงนางแค่ถามว่าเขารู้หรือไม่ว่าปากของนางไปกระแทกจนได้แผลมาได้อย่างไร เขาจำเป็นต้องทำหน้าบูดบึ้งขมึงทึงถึงขั้นนั้นเชียว?ซือเจ๋อเยว่ทำหน้าเบ้ แล้วนำแมวชอซีไปคืนให้พระชายาเยียนอ๋องเมื่อพระชายาเยียนอ๋องเห็นแมวชอซีก็นึกถึงเยียนอ๋องขึ้นมาอีกครั้ง จึงน้ำตาตกอย่างอดไม่ได้ “แมวตัวนี้ท่านอ๋องเป็นคนมอบให้ข้า”“เดิมทีคิดว่ามันหายไปแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้มันจะกลับมา”แมวชอซีเห็นพระชายาเยียนอ๋องก็ส่งเสียงร้อง ‘เมี๊ยว’ ดู ๆ แล้วสนิทสนมกับนางเป็นอย่างยิ่งเพียงแค่ตอนซือเจ๋อเยว่จากไป แมวชอซีก็เดินตามนางออกมาอีก นางไล่มันอยู่นานสองนาน ถึงไล่มันกลับไปยังข้างกายของพระชายาเยียนอ๋องได้พรุ่งนี้นางจะไปจวนหนิงกั๋ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 174

    เหล่าไท่จวินก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ดูแปลก ๆ ระหว่างคนทั้งสองแล้วเช่นกันนางเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง เพียงคิดว่าสองคนนี้คงทะเลาะกันแล้วเท่านั้นเหล่าไท่จวินเห็นรอยบวมแดงบนริมฝีปากของซือเจ๋อเยว่ จึงถาม “องค์หญิงเป็นร้อนในหรือ?”เยียนเซียวหรานหัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้ สีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินักโชคดีที่ตอนนี้เหล่าไท่จวินเพ่งความสนใจไปที่ตัวซือเจ๋อเยว่ จึงไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขาซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางตอบ “เมื่อวานตอนกลับห้องมัวแต่คิดเรื่องจวนสกุลอวิ๋น ไม่ได้ดูทางเดิน ไม่ระวังจึงล้มกระแทกนิดหน่อยเท่านั้น หาได้เป็นอันใดมากไม่เจ้าค่ะ”เยียนเซียวหรานปรายตามองนางด้วยหางตา รู้สึกว่านางช่างแต่งเรื่องเก่งเสียเหลือเกินเหล่าไท่จวินเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ดูเหมือนจะเป็นหนักทีเดียว ข้ามียาอยู่กระปุกหนึ่ง องค์หญิงเอาไปทาเสียหน่อยเถิด”เดิมทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าบาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้ผ่านไปสองวันก็หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องทายาด้วยซ้ำเพียงแต่เหล่าไท่จวินมีน้ำใจหวังดี นางไม่อาจปฏิเสธได้ จึงยิ้มพลางรับยาไว้ระหว่างที่พวกเขากำลังจะออกไป เหล่าไท่จวินได้รั้งตัวเยียนเซียวหรานให้อยู่ต่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 175

    เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทางของเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไป ข้าจะพาเจ้าไปสำรวจจวนหนิงกั๋วกงกันสักหน่อย!”เยียนเซียวหรานเห็นท่าทางของนางแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ แล้วเดินตามนางออกไปพวกเขาไปยังจวนหนิงกั๋วกงโดยซือเจ๋อเยว่นั่งรถม้า ส่วนเยียนเซียวหรานควบม้าไปเยียนเซียวหรานมองซือเจ๋อเยว่ขึ้นไปบนรถม้าของจวนเยียนอ๋องด้วยท่าทางเปี่ยมล้นด้วยกำลังวังชา จากนั้นก็เห็นนางในสภาพลมหายใจรวยรินจนต้องให้คนช่วยประคองเมื่อถึงจวนหนิงกั๋วกงเขาได้เข้าใจในความหมายของคำว่า ‘การแสดง’ อย่างลึกซึ้งขึ้นไปในอีกขั้นหนึ่งจากตัวนางที่ซุ้มประตูได้รับแจ้งไว้นานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขามา ก็รีบไปรายงานกับคนด้านในพลางกุลีกุจอตระเตรียมจัดหารถลากมา เพื่อให้นางได้นั่งเข้าจวนนางกลับล้มลงที่พื้นทันทีที่ลงจากรถม้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงทั้งที่ยังก้นจ้ำเบ้าอยู่อย่างนั้น “ข้าไม่เคยพบท่านตาท่านยายเลย”“ท่านตาท่านยายต้องการพบข้า ข้ามิกล้าไม่พบหรอก”“ลวี่เหมียน หงซิ่ว พวกเจ้ามาประคองข้าที ข้ายังเดินไหว”ลวี่เหมียนกับหงซิ่วเป็นสาวใช้ในจวนเยียนอ๋องที่มากับนางด้วยในวันนี้ ทั้งคู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 176

    ในบรรดาเจ้านายของจวนมีนางมาเพียงคนเดียว ซึ่งเหตุผลนั้นง่ายมาก ทุกคนต่างรู้ดีว่าซือเจ๋อเยว่มีชะตากรรมเป็นดาวอัปมงคล ไม่มีผู้ใดยินดีเข้าใกล้นางแรกเริ่มเดิมทีหนิงกั๋วกงฮูหยินก็หาได้อยากมาไม่ เพียงแต่หากนางไม่มา ก็จะมิมีเจ้านายคนใดมารับซือเจ๋อเยว่เลย เช่นนั้นคงดูไม่เหมาะสมนักแต่ว่าตอนนี้นางมาแล้ว ทว่ายังมิสู้ไม่มา!นางข่มอารมณ์คุกรุ่นพลางเข้ามาพยุงซือเจ๋อเยว่ขึ้น ทั้งที่พยายามอดกลั้นต่อความรู้สึกสะอิดสะเอียนไปด้วย “องค์หญิงซูบผอมถึงเพียงนี้ ทำให้คนเห็นแล้วปวดใจจริง ๆ เป็นจวนเยียนอ๋องที่ปฏิบัติไม่ดีต่อท่านหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ไม่ใช่หรอก ทุกคนในจวนอ๋องล้วนปฏิบัติต่อข้าอย่างดี เป็นข้าเองที่ร่างกายไม่ค่อยดี”“แต่ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเราได้อยู่กับญาติสนิทจะอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ร่างกายก็จะดีขึ้นตามเช่นกัน”“หากท่านป้าสะใภ้ไม่ถือสาละก็ ให้ข้าอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกงสักระยะดีหรือไม่?”หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”คำพูดนี้นางไม่กล้าตอบรับเพราะนางรู้ดีว่าคนอื่น ๆ ในจวนหนิงกั๋วกงเกลียดซือเจ๋อเยว่เข้าไส้แค่ไหนผนวกกับซือเจ๋อเยว่เป็นที่รู้กันถ้วนทั่วว่าเป็นดาวอัปมงคลด้วยแล้ว ผู้ใดจะกล้าให้นางอาศัยอยู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 177

    หากไม่ใช่เพราะอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกง ยามนี้เขาก็อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดความแค้นใหญ่หลวงของจวนเยียนอ๋องยังไม่ชำระ หนำซ้ำซือเจ๋อเยว่ยังเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเขา สิ่งที่เขายืนคิดอยู่ตรงนี้มันช่างต่ำช้าเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ปานซือเจ๋อเยว่เดินมุ่งหน้าตามหลังหนิงกั๋วกงฮูหยินไป นางเดินไปพลางมองสำรวจผังจวนหนิงกั๋วกงไปพลางจวนหนิงกั๋วกงเป็นคฤหาสน์ใหญ่สองหลังที่เชื่อมติดกัน โดยมีทั้งหมดห้าลาน เป็นคฤหาสน์หลังมหึมาโดยรวมแล้วเรือนตะวันออกสูงกว่าเรือนตะวันตก ลานเรือนแต่ละลานถูกจัดวางตามรูปทรงต้ากวนเม่า[1]อย่างไร้ระเบียบแบบแผนทว่างดงามไปอีกแบบหน้าประตูวางรูปปั้นสิงโตคู่ขนาดใหญ่ไว้ปกปักรักษาจวนและปัดเป่าพลังชั่วร้าย เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านใน ก็จะเห็นค่ายกลรวมพลังชีวิตขนาดใหญ่หนึ่งอันด้านหลังค่ายกลนี้ ยังมีค่ายกลขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่งเพื่อรองรับพลังชีวิตที่ค่ายกลใหญ่รวบรวมมาได้เอาไว้ ทั่วทั้งจวนจึงดูมีชีวิตชีวา ผู้คนเจริญรุ่งเรือง ผีร้ายยากจะกล้ำกรายซือเจ๋อเยว่แหงนหน้าขึ้นชำเลืองมองไปแวบหนึ่ง นางมองเห็นพลังสีม่วงจาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนจวนหนิงกั๋วกงพลังสีม่วงเช่นนี้แตกต่างจากพลังชั่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 178

    หนิงกั๋วกงฮูหยินก็ก่นด่าด้วย “ในเวลาปกติทุกคนต่างคุยโวโอ้อวดว่าตนนั้นมีวิชาการแพทย์ที่สูงส่งอย่างนั้นสูงส่งอย่างนี้ ครานี้กลับบอกอาการของหยางเอ๋อร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“ใครก็ได้ มาลากพวกเขาทั้งหมดไปโบยสิบที”จวนหนิงกั๋วกงเลี้ยงหมอในจวนที่มีฝีมือการแพทย์ไม่เลวไว้จำนวนหนึ่ง เพียงแต่หมอในจวนพวกนี้เมื่อเทียบฝีมือการแพทย์กับหมอหลวงในวังแล้วก็ยังห่างชั้นกันอยู่บ้างวันนั้นเขาพูดกับซือเจ๋อเยว่ว่าจวนหนิงกั๋วกงมีหมอที่เก่งกาจอยู่ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงคำลวงเพื่อล่อนางมาเท่านั้นในยามนี้ร่างกายเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง อารมณ์จึงฉุนเฉียวมากเป็นพิเศษ และคร้านที่จะเสแสร้งวางมาดเป็นคนใจกว้างต่อหน้าผู้คนอีกซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงเรียบ “ท่านป้าสะใภ้โปรดช้าก่อน”นางเอ่ยจบก็ถามอวิ๋นเยว่หยาง “ญาติผู้พี่หยาง ท่านหมอผู้มีฝีมือการแพทย์สูงส่งที่ท่านบอกกับข้าในวันนั้นคือคนใดหรือ?”“ท่านให้เขามารักษาข้าก่อน แล้วค่อยลงโทษพวกเขาก็ยังไม่สาย”อวิ๋นเยว่หยางถึงค่อยสังเกตเห็นว่านางมาแล้ว เขาดิ้นรนคิดจะลุกขึ้นนั่ง “ข้าป่วยด้วยโรคร้ายกะทันหัน ทำให้องค์หญิงได้เห็นเรื่องน่าขำแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ท่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 179

    หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”นางเพียงรู้สึกว่าถูกซือเจ๋อเยว่ยั่วโมโหเสียจนทำเอาจุกอก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนางอยากพูดบางอย่างสักหน่อย แต่กลับรู้สึกว่าจะด่าซือเจ๋อเยว่ก็ไม่ได้ หากจะยอมอ่อนข้อให้ก็ไม่ดีกลับเป็นอวิ๋นเยว่หยางที่เอ่ยขึ้นจากด้านข้าง “ท่านแม่เป็นห่วงข้า ถึงได้ขึ้นเสียงกับองค์หญิง ขอองค์หญิงอย่าได้ถือสานางไปเลย”ซือเจ๋อเยว่เผยรอยยิ้มบาง ๆ “ครั้งก่อนข้าได้บอกกับเสด็จอาไปแล้ว ว่าข้าน่ะเป็นคนใกล้ตาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ขอเพียงให้ข้าสบายใจก็พอแล้ว”“หากผู้ใดทำให้ข้าไม่พอใจ ข้าก็จะเอาคืนคนผู้นั้นเป็นเท่าตัว”นางพูดจบก็ตบหน้าหนิงกั๋วกงฮูหยินไปฉาดหนึ่ง “ฮูหยิน เมื่อครู่ท่านคงจะเข้าใจความหมายของคำว่าบังอาจผิดไป นี่ต่างหากถึงเรียกว่าบังอาจ!”อวิ๋นเยว่หยาง “…”เขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าซือเจ๋อเยว่จะกล้าลงมือทั้งที่ยังอยู่ในจวนหนิงกั๋วกง!หนิงกั๋วกงฮูหยิน “!!!!!!”นางคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าซือเจ๋อเยว่จะกล้าลงมือตบนาง!นางโกรธจัด “เจ้า!”นางส่งสัญญาณผ่านทางสายตา ก่อนจะหันไปพูดกับบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างกาย “องค์หญิงร่างกายไม่แข็งแรง พานางไปพักผ่อนก่อนเถิด”พวกบ่าวรับใช้สองสามคนกระโจนเข้ามา

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 372

    ไป๋จื้อเซียน “...”ในช่วงเวลาหนึ่งพันปีที่เขาตายไป ไม่มีผู้ใดกล้าสั่งให้เขาทำเรื่องใดก็ตามตอนนี้ซือเจ๋อเยว่กลับให้เขาไปแสร้งทำเป็นผีเพื่อถ่วงเวลาทหารยาม นางเห็นเขาเป็นตัวอะไรกันแน่!เขาหันหน้ามองนาง นางประสานมือคำนับเขาพร้อมกล่าว “คุณชายไป๋ดีที่สุด รบกวนด้วย”ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาว ในดวงตาแฝงไปด้วยความอ้อนวอนเล็ก ๆคำปฏิเสธของไป๋จื้อเซียนที่กำลังจะพูดออกมา ได้กลืนกลับลงไปอีกครั้งร่างของเขาหายไปจากด้านบนคานห้อง ไปปรากฏตัวอยู่ที่ท้องฟ้าของด่านอวิ๋นหลิ่งทหารยามเมื่อครู่ตะโกนว่ามีผี ไป๋จื้อเซียนก็ปรากฏตัวที่ท้องฟ้าด้วยชุดสีแดงทันที เกือบจะทำให้ทหารยามที่อยู่ประตูด่านตกใจจนขวัญกระเจิงถึงแม้เขาจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่การปรากฏตัวขึ้นในยามราตรีเช่นนี้ นั่นก็ทำให้คนตกใจได้เช่นกันอย่างไรเสียก็คนไม่มีคนปกติคนใดสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้เช่นนี้ นี่จึงเห็นได้ชัดว่าก็คือผี!ก่อนหน้านี้ไป๋จื้อเซียนฆ่าคนเหมือนผักปลา คิดมาตลอดว่ามีเพียงดวงวิญญาณที่ไร้ความสามารถพวกนั้นเท่านั้นถึงได้แกล้งหลอกผีให้ผู้คนตกใจบัดนี้ไม่คิดเลยว่าเขากลับต้องมาทำเรื่องแบบนี้เช่นกันสายของเขาที่จ้องมองพลท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 371

    ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานต่างรู้ดี พยานอย่างชื่อปาเลี่ย แม้แต่จะยืนยันว่าเยียนอ๋องพ่ายศึกเพราะถูกคนวางแผนชั่วยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะลากจวนหนิงกั๋วกงลงมาเอี่ยวด้วยหากสามารถตามหาสำเนาของเอกสารฉบับนั้นตามที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าว อย่างน้อยก็สามารถทำให้จวนเยียนอ๋องเป็นอิสระจากคดีนั้นได้ สามารถทำให้เยียนเซียวหรานสืบทอดตำแหน่งได้ดังนั้นพวกเขาจึงปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง ตัดสินใจว่าจะไปที่ด่านอวิ๋นหลิ่งอีกสักรอบครั้งนี้พวกเขาฉลาดแล้ว ได้รู้จักคนของเยียนเซียวหรานที่อยู่ในกองทัพไม่น้อย เพื่อป้องกันถูกคนจำได้ เขาจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ส่วนซือเจ๋อเยว่ นางแต่งตัวเป็นผู้ชายชื่อปาเลี่ยเองก็กลัวคนจำได้เช่นกัน เขาไม่ได้สวมหน้ากาก แต่ว่าหาอะไรมาครอบลูกตาข้างหนึ่งเอาไว้แสร้งทำเป็นคนตาบอดเสียเลยหลังจากที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นการแต่งกายของพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นในมุมมองของเขา หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่ด่านอวิ๋นหลิ่งจริง ๆ เขาฆ่าล้างบางด่านอวิ๋นหลิ่งไปเลยเสียก็สิ้นเรื่องเพียงแต่เขายังจำคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับซือเจ๋อเยว่ได้ ว่าต่อไปจะสังหารผู้คนตามใจชอบไม่ได้อีกแล้วคำมั่นสัญญ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 370

    เยียนอ๋องซื่อจื่อแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเกรงใจข้า” “ข้ากับองค์หญิง ก่อนหน้านี้แม้แต่พบหน้ากันก็ยังไม่เคย จะให้มีความผูกพันใด ๆ ได้อย่างไร""ระหว่างข้ากับนาง แม้แต่สถานะสามีภรรยาก็ถูกท่านย่าทำลายไปตั้งแต่คืนวันแต่งงานแล้ว""หากคำนวณให้ดี ข้ากับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย นางไม่อาจนับว่าเป็นภรรยาของข้า""ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หากเจ้าชอบนาง ก็สามารถไล่ตามความรู้สึกของเจ้าได้อย่างเต็มที่"เยียนเซียวหรานได้ยินถ้อยคำนี้แล้วก็ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไรเยียนอ๋องซื่อจื่อเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แต่มือของเขากลับทะลุผ่านร่างอีกฝ่ายไปเขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงว่าตนได้จากโลกนี้ไปอย่างแท้จริงเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "การได้พบกับคนที่ตนชอบไม่ใช่เรื่องง่าย""เมื่อพบเจอแล้ว ก็ควรทะนุถนอมให้ดี""ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุดก็คือขอให้เจ้ามีชีวิตที่เป็นสุข"เยียนเซียวหรานได้ยินดังนั้นดวงตาก็พลันร้อนผ่าว เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่ใหญ่ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก"เย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 369

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความรู้สึกประทับใจ “เยียนอ๋องกับพระชายาช่างให้กำเนิดบุตรชายได้ดีนัก อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนอย่างยอดเยี่ยม” เมื่อไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยิน สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที “พวกเขาจะเก่งกว่าข้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่ชินกับการที่ไป๋จื้อเซียนอยู่ข้างกายเขาฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหูหรือสายตาล้วนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ที่สำคัญเขาก็มีพฤติกรรมประหลาด ชอบเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเยียนเซียวหรานทุกเรื่อง นางคิดว่าสมองของเขาคงมีปัญหา เพราะยามนี้เขายังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหายของนางเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้นางเปรียบเทียบกับคนรักของนาง เช่นนี้แล้วจะเปรียบเทียบได้หรือ?แต่เพราะนิสัยของเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยามนี้นางยังไม่อยากมีปัญหากับเขา นางจึงตอบกลับไป “แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องต่อสู้ แม้คุณชายไป๋จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า แต่ก็ต้องติดหนึ่งในสามอันดับแน่นอน” “เรียกข้าว่าจื้อเซียน” ไป๋จื้อเซียนเหลือบมองนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย “คุณชายไป๋อะไร ฟังดูห่างเหินนัก” ชื่อปาเลี่ยที่ยืนฟังด้วยความสนใจอยู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status