แชร์

บทที่ 171

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เยียนเซียวหรานมองไปที่นาง จากนั้นก็เห็นเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของนาง

เขากล่าวเตือนนางให้รู้ตัว “ท่านเลือดกำเดาไหลแล้ว”

ซือเจ๋อเยว่ยกมือขึ้นมาถู บนมือพลันถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน นางสูดจมูกหนึ่งทีแล้วพูด “ครานี้ขาดทุนย่อยยับทีเดียว!”

นางเอ่ยจบก็ล้มตึง เยียนเซียวหรานหาได้ปรี่เข้าไปรับตัวนางไว้ไม่ หากแต่วิ่งพรวดไปยังเบื้องหน้าของแมวชอซี

เขาคว้าหมับเข้าที่หลังคอแมวแล้วดึงยกขึ้นฉับพลัน ก่อนจะแย่งเอาหุ่นคนที่ยามนี้ฉีกขาดเละเทะจนหมดสภาพจากในกรงเล็บของมันมา จากนั้นค่อยเอามันไปขังไว้ที่ห้องขนาบด้านข้าง

เขาทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้วค่อยมาช้อนร่างซือเจ๋อเยว่ขึ้นอุ้มไว้ เลือดกำเดาของนางยังคงไหลหลั่งออกมาไม่หยุด

เขารู้ดีว่าแค่เลือดกำเดาไหลหาใช่เรื่องสาหัสสากรรจ์แต่อย่างใดสำหรับคนทั่วไปไม่ ทว่าสำหรับนางแล้วกลับเป็นเรื่องที่เอาชีวิตนางได้เลย

เขารีบวางหุ่นคนไว้บนโต๊ะแล้วเรียกนางเบา ๆ “องค์หญิง องค์หญิง!”

ซือเจ๋อเยว่ที่เดิมทีนอนสลบเหมือดไม่ได้สติพลันลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง “องค์หญิงฟื้นก็ดีแล้ว”

เขาทำท่าจะผละออกจากนาง นางกลับจับตัวเขาไว้ในทันที เขาจึงเอ่ยถาม “องค์หญิงยังมีตร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 172

    ในเวลานี้เอง มีเสียงร้องของแมวอันใสกังวานดังมาจากห้องด้านข้าง เยียนเซียวหรานจึงกลับมาได้สติครบถ้วนอีกครั้งโดยพลันเขามองเรือนร่างของพวกเขาทั้งคู่ที่ยามนี้เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิด สีหน้าพลันซับซ้อนเล็กน้อยบัดนี้ซือเจ๋อเยว่ได้กลับมาสงบลงแล้ว ท่าทางที่นางนอนหลับอยู่ตรงนั้น ช่างน่ารักน่าเอ็นดูนักเพียงแต่ริมฝีปากของนางถูกเขาจูบจนระบมกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เย้ายวนชวนหลงใหลเป็นพิเศษยามนี้เยียนเซียวหรานรู้แล้วว่าเมื่อครู่นางสติไม่เต็มถ้วน และการกระทำของเขามากน้อยก็จัดได้ว่าฉวยโอกาสในยามคับขันเขายกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองฉาดหนึ่ง พลิกตัวลงจากเตียง ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าของตนเองและของนางให้เรียบร้อย แล้วค่อยดึงผ้าห่มมาคลุมให้นางเขาผินกายจากไป แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันกลับมามองนาง นางนอนแน่นิ่ง บนดวงหน้างดงามราวกับประดับด้วยรวยยิ้มจาง ๆในใจเยียนเซียวหรานพลันเกิดความคิดในเชิงนั้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงตบหน้าตัวเองอีกรอบ พร้อมสบถคำด่า “สัตว์เดรัจฉาน!”เมื่อสองปีก่อนไม่ว่าระหว่างพวกเขาสองคนจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตอนนี้ซือเจ๋อเยว่ก็เป็นพี่สะใภ้ของเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้นเขาจะทำเรื่องพรรค์น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 173

    เยียนเซียวหรานแค่นเสียงเย็นออกมาหนึ่งที “แล้วท่านจำอันใดได้บ้างเล่า?”เขาเอ่ยเสร็จก็เบือนหน้าเดินจากไปเมื่อคืนวานนี้ซือเจ๋อเยว่เห็นเขาปีนหน้าต่างเข้ามาหานาง นางก็ยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยังนับว่าไม่เลว นางน่าจะยังสามารถเข้าใกล้เขาได้อีกสักนิด เพิ่มพลังชีวิตได้อีกสักหน่อยแต่ยามนี้เขาคิดจะเปลี่ยนท่าทีก็เปลี่ยนทันที นางรู้สึกอย่างลึกซึ้งว่าเขาช่างเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนเสียจริงนางแค่ถามว่าเขารู้หรือไม่ว่าปากของนางไปกระแทกจนได้แผลมาได้อย่างไร เขาจำเป็นต้องทำหน้าบูดบึ้งขมึงทึงถึงขั้นนั้นเชียว?ซือเจ๋อเยว่ทำหน้าเบ้ แล้วนำแมวชอซีไปคืนให้พระชายาเยียนอ๋องเมื่อพระชายาเยียนอ๋องเห็นแมวชอซีก็นึกถึงเยียนอ๋องขึ้นมาอีกครั้ง จึงน้ำตาตกอย่างอดไม่ได้ “แมวตัวนี้ท่านอ๋องเป็นคนมอบให้ข้า”“เดิมทีคิดว่ามันหายไปแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้มันจะกลับมา”แมวชอซีเห็นพระชายาเยียนอ๋องก็ส่งเสียงร้อง ‘เมี๊ยว’ ดู ๆ แล้วสนิทสนมกับนางเป็นอย่างยิ่งเพียงแค่ตอนซือเจ๋อเยว่จากไป แมวชอซีก็เดินตามนางออกมาอีก นางไล่มันอยู่นานสองนาน ถึงไล่มันกลับไปยังข้างกายของพระชายาเยียนอ๋องได้พรุ่งนี้นางจะไปจวนหนิงกั๋ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 174

    เหล่าไท่จวินก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ดูแปลก ๆ ระหว่างคนทั้งสองแล้วเช่นกันนางเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง เพียงคิดว่าสองคนนี้คงทะเลาะกันแล้วเท่านั้นเหล่าไท่จวินเห็นรอยบวมแดงบนริมฝีปากของซือเจ๋อเยว่ จึงถาม “องค์หญิงเป็นร้อนในหรือ?”เยียนเซียวหรานหัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้ สีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินักโชคดีที่ตอนนี้เหล่าไท่จวินเพ่งความสนใจไปที่ตัวซือเจ๋อเยว่ จึงไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขาซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางตอบ “เมื่อวานตอนกลับห้องมัวแต่คิดเรื่องจวนสกุลอวิ๋น ไม่ได้ดูทางเดิน ไม่ระวังจึงล้มกระแทกนิดหน่อยเท่านั้น หาได้เป็นอันใดมากไม่เจ้าค่ะ”เยียนเซียวหรานปรายตามองนางด้วยหางตา รู้สึกว่านางช่างแต่งเรื่องเก่งเสียเหลือเกินเหล่าไท่จวินเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ดูเหมือนจะเป็นหนักทีเดียว ข้ามียาอยู่กระปุกหนึ่ง องค์หญิงเอาไปทาเสียหน่อยเถิด”เดิมทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าบาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้ผ่านไปสองวันก็หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องทายาด้วยซ้ำเพียงแต่เหล่าไท่จวินมีน้ำใจหวังดี นางไม่อาจปฏิเสธได้ จึงยิ้มพลางรับยาไว้ระหว่างที่พวกเขากำลังจะออกไป เหล่าไท่จวินได้รั้งตัวเยียนเซียวหรานให้อยู่ต่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 175

    เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทางของเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไป ข้าจะพาเจ้าไปสำรวจจวนหนิงกั๋วกงกันสักหน่อย!”เยียนเซียวหรานเห็นท่าทางของนางแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ แล้วเดินตามนางออกไปพวกเขาไปยังจวนหนิงกั๋วกงโดยซือเจ๋อเยว่นั่งรถม้า ส่วนเยียนเซียวหรานควบม้าไปเยียนเซียวหรานมองซือเจ๋อเยว่ขึ้นไปบนรถม้าของจวนเยียนอ๋องด้วยท่าทางเปี่ยมล้นด้วยกำลังวังชา จากนั้นก็เห็นนางในสภาพลมหายใจรวยรินจนต้องให้คนช่วยประคองเมื่อถึงจวนหนิงกั๋วกงเขาได้เข้าใจในความหมายของคำว่า ‘การแสดง’ อย่างลึกซึ้งขึ้นไปในอีกขั้นหนึ่งจากตัวนางที่ซุ้มประตูได้รับแจ้งไว้นานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขามา ก็รีบไปรายงานกับคนด้านในพลางกุลีกุจอตระเตรียมจัดหารถลากมา เพื่อให้นางได้นั่งเข้าจวนนางกลับล้มลงที่พื้นทันทีที่ลงจากรถม้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงทั้งที่ยังก้นจ้ำเบ้าอยู่อย่างนั้น “ข้าไม่เคยพบท่านตาท่านยายเลย”“ท่านตาท่านยายต้องการพบข้า ข้ามิกล้าไม่พบหรอก”“ลวี่เหมียน หงซิ่ว พวกเจ้ามาประคองข้าที ข้ายังเดินไหว”ลวี่เหมียนกับหงซิ่วเป็นสาวใช้ในจวนเยียนอ๋องที่มากับนางด้วยในวันนี้ ทั้งคู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 176

    ในบรรดาเจ้านายของจวนมีนางมาเพียงคนเดียว ซึ่งเหตุผลนั้นง่ายมาก ทุกคนต่างรู้ดีว่าซือเจ๋อเยว่มีชะตากรรมเป็นดาวอัปมงคล ไม่มีผู้ใดยินดีเข้าใกล้นางแรกเริ่มเดิมทีหนิงกั๋วกงฮูหยินก็หาได้อยากมาไม่ เพียงแต่หากนางไม่มา ก็จะมิมีเจ้านายคนใดมารับซือเจ๋อเยว่เลย เช่นนั้นคงดูไม่เหมาะสมนักแต่ว่าตอนนี้นางมาแล้ว ทว่ายังมิสู้ไม่มา!นางข่มอารมณ์คุกรุ่นพลางเข้ามาพยุงซือเจ๋อเยว่ขึ้น ทั้งที่พยายามอดกลั้นต่อความรู้สึกสะอิดสะเอียนไปด้วย “องค์หญิงซูบผอมถึงเพียงนี้ ทำให้คนเห็นแล้วปวดใจจริง ๆ เป็นจวนเยียนอ๋องที่ปฏิบัติไม่ดีต่อท่านหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ไม่ใช่หรอก ทุกคนในจวนอ๋องล้วนปฏิบัติต่อข้าอย่างดี เป็นข้าเองที่ร่างกายไม่ค่อยดี”“แต่ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเราได้อยู่กับญาติสนิทจะอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ร่างกายก็จะดีขึ้นตามเช่นกัน”“หากท่านป้าสะใภ้ไม่ถือสาละก็ ให้ข้าอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกงสักระยะดีหรือไม่?”หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”คำพูดนี้นางไม่กล้าตอบรับเพราะนางรู้ดีว่าคนอื่น ๆ ในจวนหนิงกั๋วกงเกลียดซือเจ๋อเยว่เข้าไส้แค่ไหนผนวกกับซือเจ๋อเยว่เป็นที่รู้กันถ้วนทั่วว่าเป็นดาวอัปมงคลด้วยแล้ว ผู้ใดจะกล้าให้นางอาศัยอยู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 177

    หากไม่ใช่เพราะอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกง ยามนี้เขาก็อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดความแค้นใหญ่หลวงของจวนเยียนอ๋องยังไม่ชำระ หนำซ้ำซือเจ๋อเยว่ยังเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเขา สิ่งที่เขายืนคิดอยู่ตรงนี้มันช่างต่ำช้าเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ปานซือเจ๋อเยว่เดินมุ่งหน้าตามหลังหนิงกั๋วกงฮูหยินไป นางเดินไปพลางมองสำรวจผังจวนหนิงกั๋วกงไปพลางจวนหนิงกั๋วกงเป็นคฤหาสน์ใหญ่สองหลังที่เชื่อมติดกัน โดยมีทั้งหมดห้าลาน เป็นคฤหาสน์หลังมหึมาโดยรวมแล้วเรือนตะวันออกสูงกว่าเรือนตะวันตก ลานเรือนแต่ละลานถูกจัดวางตามรูปทรงต้ากวนเม่า[1]อย่างไร้ระเบียบแบบแผนทว่างดงามไปอีกแบบหน้าประตูวางรูปปั้นสิงโตคู่ขนาดใหญ่ไว้ปกปักรักษาจวนและปัดเป่าพลังชั่วร้าย เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านใน ก็จะเห็นค่ายกลรวมพลังชีวิตขนาดใหญ่หนึ่งอันด้านหลังค่ายกลนี้ ยังมีค่ายกลขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่งเพื่อรองรับพลังชีวิตที่ค่ายกลใหญ่รวบรวมมาได้เอาไว้ ทั่วทั้งจวนจึงดูมีชีวิตชีวา ผู้คนเจริญรุ่งเรือง ผีร้ายยากจะกล้ำกรายซือเจ๋อเยว่แหงนหน้าขึ้นชำเลืองมองไปแวบหนึ่ง นางมองเห็นพลังสีม่วงจาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนจวนหนิงกั๋วกงพลังสีม่วงเช่นนี้แตกต่างจากพลังชั่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 178

    หนิงกั๋วกงฮูหยินก็ก่นด่าด้วย “ในเวลาปกติทุกคนต่างคุยโวโอ้อวดว่าตนนั้นมีวิชาการแพทย์ที่สูงส่งอย่างนั้นสูงส่งอย่างนี้ ครานี้กลับบอกอาการของหยางเอ๋อร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“ใครก็ได้ มาลากพวกเขาทั้งหมดไปโบยสิบที”จวนหนิงกั๋วกงเลี้ยงหมอในจวนที่มีฝีมือการแพทย์ไม่เลวไว้จำนวนหนึ่ง เพียงแต่หมอในจวนพวกนี้เมื่อเทียบฝีมือการแพทย์กับหมอหลวงในวังแล้วก็ยังห่างชั้นกันอยู่บ้างวันนั้นเขาพูดกับซือเจ๋อเยว่ว่าจวนหนิงกั๋วกงมีหมอที่เก่งกาจอยู่ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงคำลวงเพื่อล่อนางมาเท่านั้นในยามนี้ร่างกายเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง อารมณ์จึงฉุนเฉียวมากเป็นพิเศษ และคร้านที่จะเสแสร้งวางมาดเป็นคนใจกว้างต่อหน้าผู้คนอีกซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงเรียบ “ท่านป้าสะใภ้โปรดช้าก่อน”นางเอ่ยจบก็ถามอวิ๋นเยว่หยาง “ญาติผู้พี่หยาง ท่านหมอผู้มีฝีมือการแพทย์สูงส่งที่ท่านบอกกับข้าในวันนั้นคือคนใดหรือ?”“ท่านให้เขามารักษาข้าก่อน แล้วค่อยลงโทษพวกเขาก็ยังไม่สาย”อวิ๋นเยว่หยางถึงค่อยสังเกตเห็นว่านางมาแล้ว เขาดิ้นรนคิดจะลุกขึ้นนั่ง “ข้าป่วยด้วยโรคร้ายกะทันหัน ทำให้องค์หญิงได้เห็นเรื่องน่าขำแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ท่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 179

    หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”นางเพียงรู้สึกว่าถูกซือเจ๋อเยว่ยั่วโมโหเสียจนทำเอาจุกอก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนางอยากพูดบางอย่างสักหน่อย แต่กลับรู้สึกว่าจะด่าซือเจ๋อเยว่ก็ไม่ได้ หากจะยอมอ่อนข้อให้ก็ไม่ดีกลับเป็นอวิ๋นเยว่หยางที่เอ่ยขึ้นจากด้านข้าง “ท่านแม่เป็นห่วงข้า ถึงได้ขึ้นเสียงกับองค์หญิง ขอองค์หญิงอย่าได้ถือสานางไปเลย”ซือเจ๋อเยว่เผยรอยยิ้มบาง ๆ “ครั้งก่อนข้าได้บอกกับเสด็จอาไปแล้ว ว่าข้าน่ะเป็นคนใกล้ตาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ขอเพียงให้ข้าสบายใจก็พอแล้ว”“หากผู้ใดทำให้ข้าไม่พอใจ ข้าก็จะเอาคืนคนผู้นั้นเป็นเท่าตัว”นางพูดจบก็ตบหน้าหนิงกั๋วกงฮูหยินไปฉาดหนึ่ง “ฮูหยิน เมื่อครู่ท่านคงจะเข้าใจความหมายของคำว่าบังอาจผิดไป นี่ต่างหากถึงเรียกว่าบังอาจ!”อวิ๋นเยว่หยาง “…”เขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าซือเจ๋อเยว่จะกล้าลงมือทั้งที่ยังอยู่ในจวนหนิงกั๋วกง!หนิงกั๋วกงฮูหยิน “!!!!!!”นางคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าซือเจ๋อเยว่จะกล้าลงมือตบนาง!นางโกรธจัด “เจ้า!”นางส่งสัญญาณผ่านทางสายตา ก่อนจะหันไปพูดกับบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างกาย “องค์หญิงร่างกายไม่แข็งแรง พานางไปพักผ่อนก่อนเถิด”พวกบ่าวรับใช้สองสามคนกระโจนเข้ามา

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 296

    ก่อนหน้านี้อวิ๋นเยว่หยางคิดว่าวิธีการของนักพรตจื่อหยางโหดเหี้ยมและร้ายกาจมาก คาถาของสำนักเต๋าจะทำให้คนยากที่จะป้องกันแต่ในเวลานี้เขาเพิ่งได้รู้ว่า ความสามารถของนักพรตจื่อหยางเมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้ว ช่างไม่เอาไหนเลยจริง ๆคนคนนี้กระหายเลือดอย่างขีดสุด พูดว่าจะฆ่าเขาก็หมายความว่าจะฆ่าเขาจริงๆ!เขารู้อยู่แก่ใจ หากในเวลานี้เขาไม่ยอมจำนน ก็มีเพียงความตายเท่านั้นเขาถูกรัดด้วยผ้าต่วนจนหายใจไม่ออก กล่าวอย่างยากลำบาก “ข้ายอมบูชาท่าน!”ไป๋จื้อเซียนเหลือบตาเล็กน้อย การกระทำที่เดิมทีดูยั่วยวนชวนหลงใหลนี้ เมื่อเขาทำขึ้นมา แม้จะสามารถสะกดจิตใจคนได้ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอันตรายถึงขีดสุดไป๋จื้อเซียนดึงผ้าต่วนสีแดงกลับมา มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย อวิ๋นเยว่หยางนั่งอยู่บนพื้นไอออกมาอย่างรุนแรงไป๋จื้อเซียนค่อย ๆ ลอยไปที่ตรงหน้าของอวิ๋นเยว่หยาง กล่าวว่า “เจ้ายอมแบบนี้เสียตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจะต้องทำให้ยุ่งยากด้วย?”อวิ๋นเยว่หยางรีบกล่าว “ท่านชี้แนะได้ถูกต้อง”ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ในเมื่อเจ้าจะบูชาข้า ถ้าอย่างนั้นก็ต้องแสดงความจริงใจออกมา”อวิ๋นเยว่หยางรีบก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 295

    "น้องสาม เจ้าอย่ามาว่าข้าเลย ตั้งแต่มาถึงเมืองหลวงเจ้าเองก็เอาแต่มาหลบอยู่ที่นี่ ไม่กล้าไปพบหน้านางใช่หรือไม่?" น้องสามที่เขาเอ่ยถึงไม่ใช่ผู้ใดอื่น แต่เป็นอาจารย์สามของซือเจ๋อเยว่ อาจารย์สามตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ผู้ใดบอกว่าข้ากลัวจนไม่กล้าไปพบนาง? ข้าว่ายามนี้นางคงมองเห็นคุณค่าของข้าแล้วล่ะ" "เมื่อคราวนั้นนางเกือบเอาชีวิตไม่รอด หากไม่ใช่เพราะข้าจัดการส่งเยียนเซียวหรานคนนั้นไปต่อหน้านาง ป่านนี้นางคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว" "ข้ามีบุญคุณช่วยชีวิตนาง นางคงขอบคุณข้าอยู่ในใจเป็นแน่" ราชครูหัวเราะเย็นชา "ในเมื่อเจ้าคิดเช่นนั้น แล้วเหตุใดจึงไม่ไปพบนางเล่า?" อาจารย์สามนอนเอกเขนกบนเก้าอี้พลางจิบชา "ศิษย์เติบโตแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหา ก็ต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขเอง" "หากพวกเราเอาแต่เฝ้าอยู่ข้าง ๆ นาง แล้วนางจะมีความก้าวหน้าได้อย่างไร?" ราชครูมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ "เจ้าก็เอ่ยวาจาเหลวไหล หากไม่กล้าก็เอ่ยมาตรง ๆ อย่าได้หาข้ออ้าง" อาจารย์สามหาวเสียงเบา แล้วตอบอย่างเกียจคร้าน "ในเมื่อเจ้าเอ่ยเช่นนี้ ประเดี๋ยวข้าจะไปพบนาง แล้วถือโอกาสบอกความลับเรื่องตัวตนของเจ้าด้วยเลย"

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status