แชร์

บทที่ 170

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
แต่หมอยังไม่ทันมาถึง เขาก็รู้สึกว่าเหมือนว่าบริเวณท้องน้อยของเขา ถูกใครบางคนสิ่งของบางอย่างกระชากอย่างรุนแรง

การดึงนั้นรุนแรงกว่ามากเมื่อเทียบกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่หัวใจเมื่อครู่นี้ เหมือนกับว่าจะกระชากสิ่งนั้นของเขาออกมาตรง ๆ

อวิ๋นเยว่หยางเจ็บปวดจนอนกลิ้งกับพื้น แต่กลับส่งเสียงไม่ออกแม้แต่นิดเดียว

ตอนที่ท่านหมอมาถึง อวิ๋นเยว่หยางรู้สึกราวกับว่าทั่วทั้งตัวของตนกำลังจะถูกฉีกขาดออกจากกันแล้ว รสชาตินั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น

ทันทีที่หนิงกั๋วกงฮูหยินเห็นท่านหมอ ก็กล่าวอย่างร้อนใจ “ท่านหมอ ท่านรีบตรวจดูหยางเอ๋อร์ของข้า นี่เขาเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ?”

หมอเดิมเข้ามาตรวจชีพจรให้แก่อวิ๋นเยว่หยาง ชีพจรของเขาปกติ ไม่ได้มีบริเวณไหนที่ผิดปกติ

แต่ท่าทางที่เจ็บเจียนตายของอวิ๋นเยว่หยางไม่เหมือนว่ากำลังเสแสร้ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน

ตอนนี้อวิ๋นเยว่หยางรู้สึกว่ามือข้างนั้นที่กำลังบีบคอของเขาเอาไว้ได้คลายออกแล้ว ทันทีที่เขาหายใจด้วยความโล่งอก ก็รู้ว่าว่าแขนด้านขวาของเขากำลังจะถูกใครบางคนกระชากให้ขาด

สุดท้ายครั้งนี้เขาก็ส่งเสียงร้องอันน่าเวทนาออกมา “โอ๊ย ช่วยด้วย! เจ็บเหล
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 171

    เยียนเซียวหรานมองไปที่นาง จากนั้นก็เห็นเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของนางเขากล่าวเตือนนางให้รู้ตัว “ท่านเลือดกำเดาไหลแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ยกมือขึ้นมาถู บนมือพลันถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน นางสูดจมูกหนึ่งทีแล้วพูด “ครานี้ขาดทุนย่อยยับทีเดียว!”นางเอ่ยจบก็ล้มตึง เยียนเซียวหรานหาได้ปรี่เข้าไปรับตัวนางไว้ไม่ หากแต่วิ่งพรวดไปยังเบื้องหน้าของแมวชอซีเขาคว้าหมับเข้าที่หลังคอแมวแล้วดึงยกขึ้นฉับพลัน ก่อนจะแย่งเอาหุ่นคนที่ยามนี้ฉีกขาดเละเทะจนหมดสภาพจากในกรงเล็บของมันมา จากนั้นค่อยเอามันไปขังไว้ที่ห้องขนาบด้านข้างเขาทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้วค่อยมาช้อนร่างซือเจ๋อเยว่ขึ้นอุ้มไว้ เลือดกำเดาของนางยังคงไหลหลั่งออกมาไม่หยุดเขารู้ดีว่าแค่เลือดกำเดาไหลหาใช่เรื่องสาหัสสากรรจ์แต่อย่างใดสำหรับคนทั่วไปไม่ ทว่าสำหรับนางแล้วกลับเป็นเรื่องที่เอาชีวิตนางได้เลยเขารีบวางหุ่นคนไว้บนโต๊ะแล้วเรียกนางเบา ๆ “องค์หญิง องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ที่เดิมทีนอนสลบเหมือดไม่ได้สติพลันลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง “องค์หญิงฟื้นก็ดีแล้ว”เขาทำท่าจะผละออกจากนาง นางกลับจับตัวเขาไว้ในทันที เขาจึงเอ่ยถาม “องค์หญิงยังมีตร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 172

    ในเวลานี้เอง มีเสียงร้องของแมวอันใสกังวานดังมาจากห้องด้านข้าง เยียนเซียวหรานจึงกลับมาได้สติครบถ้วนอีกครั้งโดยพลันเขามองเรือนร่างของพวกเขาทั้งคู่ที่ยามนี้เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิด สีหน้าพลันซับซ้อนเล็กน้อยบัดนี้ซือเจ๋อเยว่ได้กลับมาสงบลงแล้ว ท่าทางที่นางนอนหลับอยู่ตรงนั้น ช่างน่ารักน่าเอ็นดูนักเพียงแต่ริมฝีปากของนางถูกเขาจูบจนระบมกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เย้ายวนชวนหลงใหลเป็นพิเศษยามนี้เยียนเซียวหรานรู้แล้วว่าเมื่อครู่นางสติไม่เต็มถ้วน และการกระทำของเขามากน้อยก็จัดได้ว่าฉวยโอกาสในยามคับขันเขายกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองฉาดหนึ่ง พลิกตัวลงจากเตียง ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าของตนเองและของนางให้เรียบร้อย แล้วค่อยดึงผ้าห่มมาคลุมให้นางเขาผินกายจากไป แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันกลับมามองนาง นางนอนแน่นิ่ง บนดวงหน้างดงามราวกับประดับด้วยรวยยิ้มจาง ๆในใจเยียนเซียวหรานพลันเกิดความคิดในเชิงนั้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงตบหน้าตัวเองอีกรอบ พร้อมสบถคำด่า “สัตว์เดรัจฉาน!”เมื่อสองปีก่อนไม่ว่าระหว่างพวกเขาสองคนจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตอนนี้ซือเจ๋อเยว่ก็เป็นพี่สะใภ้ของเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้นเขาจะทำเรื่องพรรค์น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 173

    เยียนเซียวหรานแค่นเสียงเย็นออกมาหนึ่งที “แล้วท่านจำอันใดได้บ้างเล่า?”เขาเอ่ยเสร็จก็เบือนหน้าเดินจากไปเมื่อคืนวานนี้ซือเจ๋อเยว่เห็นเขาปีนหน้าต่างเข้ามาหานาง นางก็ยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยังนับว่าไม่เลว นางน่าจะยังสามารถเข้าใกล้เขาได้อีกสักนิด เพิ่มพลังชีวิตได้อีกสักหน่อยแต่ยามนี้เขาคิดจะเปลี่ยนท่าทีก็เปลี่ยนทันที นางรู้สึกอย่างลึกซึ้งว่าเขาช่างเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนเสียจริงนางแค่ถามว่าเขารู้หรือไม่ว่าปากของนางไปกระแทกจนได้แผลมาได้อย่างไร เขาจำเป็นต้องทำหน้าบูดบึ้งขมึงทึงถึงขั้นนั้นเชียว?ซือเจ๋อเยว่ทำหน้าเบ้ แล้วนำแมวชอซีไปคืนให้พระชายาเยียนอ๋องเมื่อพระชายาเยียนอ๋องเห็นแมวชอซีก็นึกถึงเยียนอ๋องขึ้นมาอีกครั้ง จึงน้ำตาตกอย่างอดไม่ได้ “แมวตัวนี้ท่านอ๋องเป็นคนมอบให้ข้า”“เดิมทีคิดว่ามันหายไปแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้มันจะกลับมา”แมวชอซีเห็นพระชายาเยียนอ๋องก็ส่งเสียงร้อง ‘เมี๊ยว’ ดู ๆ แล้วสนิทสนมกับนางเป็นอย่างยิ่งเพียงแค่ตอนซือเจ๋อเยว่จากไป แมวชอซีก็เดินตามนางออกมาอีก นางไล่มันอยู่นานสองนาน ถึงไล่มันกลับไปยังข้างกายของพระชายาเยียนอ๋องได้พรุ่งนี้นางจะไปจวนหนิงกั๋ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 174

    เหล่าไท่จวินก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ดูแปลก ๆ ระหว่างคนทั้งสองแล้วเช่นกันนางเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง เพียงคิดว่าสองคนนี้คงทะเลาะกันแล้วเท่านั้นเหล่าไท่จวินเห็นรอยบวมแดงบนริมฝีปากของซือเจ๋อเยว่ จึงถาม “องค์หญิงเป็นร้อนในหรือ?”เยียนเซียวหรานหัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้ สีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินักโชคดีที่ตอนนี้เหล่าไท่จวินเพ่งความสนใจไปที่ตัวซือเจ๋อเยว่ จึงไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขาซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางตอบ “เมื่อวานตอนกลับห้องมัวแต่คิดเรื่องจวนสกุลอวิ๋น ไม่ได้ดูทางเดิน ไม่ระวังจึงล้มกระแทกนิดหน่อยเท่านั้น หาได้เป็นอันใดมากไม่เจ้าค่ะ”เยียนเซียวหรานปรายตามองนางด้วยหางตา รู้สึกว่านางช่างแต่งเรื่องเก่งเสียเหลือเกินเหล่าไท่จวินเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ดูเหมือนจะเป็นหนักทีเดียว ข้ามียาอยู่กระปุกหนึ่ง องค์หญิงเอาไปทาเสียหน่อยเถิด”เดิมทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าบาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้ผ่านไปสองวันก็หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องทายาด้วยซ้ำเพียงแต่เหล่าไท่จวินมีน้ำใจหวังดี นางไม่อาจปฏิเสธได้ จึงยิ้มพลางรับยาไว้ระหว่างที่พวกเขากำลังจะออกไป เหล่าไท่จวินได้รั้งตัวเยียนเซียวหรานให้อยู่ต่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 175

    เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทางของเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไป ข้าจะพาเจ้าไปสำรวจจวนหนิงกั๋วกงกันสักหน่อย!”เยียนเซียวหรานเห็นท่าทางของนางแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ แล้วเดินตามนางออกไปพวกเขาไปยังจวนหนิงกั๋วกงโดยซือเจ๋อเยว่นั่งรถม้า ส่วนเยียนเซียวหรานควบม้าไปเยียนเซียวหรานมองซือเจ๋อเยว่ขึ้นไปบนรถม้าของจวนเยียนอ๋องด้วยท่าทางเปี่ยมล้นด้วยกำลังวังชา จากนั้นก็เห็นนางในสภาพลมหายใจรวยรินจนต้องให้คนช่วยประคองเมื่อถึงจวนหนิงกั๋วกงเขาได้เข้าใจในความหมายของคำว่า ‘การแสดง’ อย่างลึกซึ้งขึ้นไปในอีกขั้นหนึ่งจากตัวนางที่ซุ้มประตูได้รับแจ้งไว้นานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขามา ก็รีบไปรายงานกับคนด้านในพลางกุลีกุจอตระเตรียมจัดหารถลากมา เพื่อให้นางได้นั่งเข้าจวนนางกลับล้มลงที่พื้นทันทีที่ลงจากรถม้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงทั้งที่ยังก้นจ้ำเบ้าอยู่อย่างนั้น “ข้าไม่เคยพบท่านตาท่านยายเลย”“ท่านตาท่านยายต้องการพบข้า ข้ามิกล้าไม่พบหรอก”“ลวี่เหมียน หงซิ่ว พวกเจ้ามาประคองข้าที ข้ายังเดินไหว”ลวี่เหมียนกับหงซิ่วเป็นสาวใช้ในจวนเยียนอ๋องที่มากับนางด้วยในวันนี้ ทั้งคู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 176

    ในบรรดาเจ้านายของจวนมีนางมาเพียงคนเดียว ซึ่งเหตุผลนั้นง่ายมาก ทุกคนต่างรู้ดีว่าซือเจ๋อเยว่มีชะตากรรมเป็นดาวอัปมงคล ไม่มีผู้ใดยินดีเข้าใกล้นางแรกเริ่มเดิมทีหนิงกั๋วกงฮูหยินก็หาได้อยากมาไม่ เพียงแต่หากนางไม่มา ก็จะมิมีเจ้านายคนใดมารับซือเจ๋อเยว่เลย เช่นนั้นคงดูไม่เหมาะสมนักแต่ว่าตอนนี้นางมาแล้ว ทว่ายังมิสู้ไม่มา!นางข่มอารมณ์คุกรุ่นพลางเข้ามาพยุงซือเจ๋อเยว่ขึ้น ทั้งที่พยายามอดกลั้นต่อความรู้สึกสะอิดสะเอียนไปด้วย “องค์หญิงซูบผอมถึงเพียงนี้ ทำให้คนเห็นแล้วปวดใจจริง ๆ เป็นจวนเยียนอ๋องที่ปฏิบัติไม่ดีต่อท่านหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ไม่ใช่หรอก ทุกคนในจวนอ๋องล้วนปฏิบัติต่อข้าอย่างดี เป็นข้าเองที่ร่างกายไม่ค่อยดี”“แต่ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเราได้อยู่กับญาติสนิทจะอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ร่างกายก็จะดีขึ้นตามเช่นกัน”“หากท่านป้าสะใภ้ไม่ถือสาละก็ ให้ข้าอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกงสักระยะดีหรือไม่?”หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”คำพูดนี้นางไม่กล้าตอบรับเพราะนางรู้ดีว่าคนอื่น ๆ ในจวนหนิงกั๋วกงเกลียดซือเจ๋อเยว่เข้าไส้แค่ไหนผนวกกับซือเจ๋อเยว่เป็นที่รู้กันถ้วนทั่วว่าเป็นดาวอัปมงคลด้วยแล้ว ผู้ใดจะกล้าให้นางอาศัยอยู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 177

    หากไม่ใช่เพราะอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกง ยามนี้เขาก็อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดความแค้นใหญ่หลวงของจวนเยียนอ๋องยังไม่ชำระ หนำซ้ำซือเจ๋อเยว่ยังเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเขา สิ่งที่เขายืนคิดอยู่ตรงนี้มันช่างต่ำช้าเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ปานซือเจ๋อเยว่เดินมุ่งหน้าตามหลังหนิงกั๋วกงฮูหยินไป นางเดินไปพลางมองสำรวจผังจวนหนิงกั๋วกงไปพลางจวนหนิงกั๋วกงเป็นคฤหาสน์ใหญ่สองหลังที่เชื่อมติดกัน โดยมีทั้งหมดห้าลาน เป็นคฤหาสน์หลังมหึมาโดยรวมแล้วเรือนตะวันออกสูงกว่าเรือนตะวันตก ลานเรือนแต่ละลานถูกจัดวางตามรูปทรงต้ากวนเม่า[1]อย่างไร้ระเบียบแบบแผนทว่างดงามไปอีกแบบหน้าประตูวางรูปปั้นสิงโตคู่ขนาดใหญ่ไว้ปกปักรักษาจวนและปัดเป่าพลังชั่วร้าย เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านใน ก็จะเห็นค่ายกลรวมพลังชีวิตขนาดใหญ่หนึ่งอันด้านหลังค่ายกลนี้ ยังมีค่ายกลขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่งเพื่อรองรับพลังชีวิตที่ค่ายกลใหญ่รวบรวมมาได้เอาไว้ ทั่วทั้งจวนจึงดูมีชีวิตชีวา ผู้คนเจริญรุ่งเรือง ผีร้ายยากจะกล้ำกรายซือเจ๋อเยว่แหงนหน้าขึ้นชำเลืองมองไปแวบหนึ่ง นางมองเห็นพลังสีม่วงจาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนจวนหนิงกั๋วกงพลังสีม่วงเช่นนี้แตกต่างจากพลังชั่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 178

    หนิงกั๋วกงฮูหยินก็ก่นด่าด้วย “ในเวลาปกติทุกคนต่างคุยโวโอ้อวดว่าตนนั้นมีวิชาการแพทย์ที่สูงส่งอย่างนั้นสูงส่งอย่างนี้ ครานี้กลับบอกอาการของหยางเอ๋อร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“ใครก็ได้ มาลากพวกเขาทั้งหมดไปโบยสิบที”จวนหนิงกั๋วกงเลี้ยงหมอในจวนที่มีฝีมือการแพทย์ไม่เลวไว้จำนวนหนึ่ง เพียงแต่หมอในจวนพวกนี้เมื่อเทียบฝีมือการแพทย์กับหมอหลวงในวังแล้วก็ยังห่างชั้นกันอยู่บ้างวันนั้นเขาพูดกับซือเจ๋อเยว่ว่าจวนหนิงกั๋วกงมีหมอที่เก่งกาจอยู่ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงคำลวงเพื่อล่อนางมาเท่านั้นในยามนี้ร่างกายเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง อารมณ์จึงฉุนเฉียวมากเป็นพิเศษ และคร้านที่จะเสแสร้งวางมาดเป็นคนใจกว้างต่อหน้าผู้คนอีกซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงเรียบ “ท่านป้าสะใภ้โปรดช้าก่อน”นางเอ่ยจบก็ถามอวิ๋นเยว่หยาง “ญาติผู้พี่หยาง ท่านหมอผู้มีฝีมือการแพทย์สูงส่งที่ท่านบอกกับข้าในวันนั้นคือคนใดหรือ?”“ท่านให้เขามารักษาข้าก่อน แล้วค่อยลงโทษพวกเขาก็ยังไม่สาย”อวิ๋นเยว่หยางถึงค่อยสังเกตเห็นว่านางมาแล้ว เขาดิ้นรนคิดจะลุกขึ้นนั่ง “ข้าป่วยด้วยโรคร้ายกะทันหัน ทำให้องค์หญิงได้เห็นเรื่องน่าขำแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ท่

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status