Share

บทที่ 174

Author: เจียงหนานเยียน
เหล่าไท่จวินก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ดูแปลก ๆ ระหว่างคนทั้งสองแล้วเช่นกัน

นางเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง เพียงคิดว่าสองคนนี้คงทะเลาะกันแล้วเท่านั้น

เหล่าไท่จวินเห็นรอยบวมแดงบนริมฝีปากของซือเจ๋อเยว่ จึงถาม “องค์หญิงเป็นร้อนในหรือ?”

เยียนเซียวหรานหัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้ สีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก

โชคดีที่ตอนนี้เหล่าไท่จวินเพ่งความสนใจไปที่ตัวซือเจ๋อเยว่ จึงไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา

ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางตอบ “เมื่อวานตอนกลับห้องมัวแต่คิดเรื่องจวนสกุลอวิ๋น ไม่ได้ดูทางเดิน ไม่ระวังจึงล้มกระแทกนิดหน่อยเท่านั้น หาได้เป็นอันใดมากไม่เจ้าค่ะ”

เยียนเซียวหรานปรายตามองนางด้วยหางตา รู้สึกว่านางช่างแต่งเรื่องเก่งเสียเหลือเกิน

เหล่าไท่จวินเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ดูเหมือนจะเป็นหนักทีเดียว ข้ามียาอยู่กระปุกหนึ่ง องค์หญิงเอาไปทาเสียหน่อยเถิด”

เดิมทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าบาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้ผ่านไปสองวันก็หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องทายาด้วยซ้ำ

เพียงแต่เหล่าไท่จวินมีน้ำใจหวังดี นางไม่อาจปฏิเสธได้ จึงยิ้มพลางรับยาไว้

ระหว่างที่พวกเขากำลังจะออกไป เหล่าไท่จวินได้รั้งตัวเยียนเซียวหรานให้อยู่ต่อ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 175

    เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทางของเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไป ข้าจะพาเจ้าไปสำรวจจวนหนิงกั๋วกงกันสักหน่อย!”เยียนเซียวหรานเห็นท่าทางของนางแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ แล้วเดินตามนางออกไปพวกเขาไปยังจวนหนิงกั๋วกงโดยซือเจ๋อเยว่นั่งรถม้า ส่วนเยียนเซียวหรานควบม้าไปเยียนเซียวหรานมองซือเจ๋อเยว่ขึ้นไปบนรถม้าของจวนเยียนอ๋องด้วยท่าทางเปี่ยมล้นด้วยกำลังวังชา จากนั้นก็เห็นนางในสภาพลมหายใจรวยรินจนต้องให้คนช่วยประคองเมื่อถึงจวนหนิงกั๋วกงเขาได้เข้าใจในความหมายของคำว่า ‘การแสดง’ อย่างลึกซึ้งขึ้นไปในอีกขั้นหนึ่งจากตัวนางที่ซุ้มประตูได้รับแจ้งไว้นานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขามา ก็รีบไปรายงานกับคนด้านในพลางกุลีกุจอตระเตรียมจัดหารถลากมา เพื่อให้นางได้นั่งเข้าจวนนางกลับล้มลงที่พื้นทันทีที่ลงจากรถม้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงทั้งที่ยังก้นจ้ำเบ้าอยู่อย่างนั้น “ข้าไม่เคยพบท่านตาท่านยายเลย”“ท่านตาท่านยายต้องการพบข้า ข้ามิกล้าไม่พบหรอก”“ลวี่เหมียน หงซิ่ว พวกเจ้ามาประคองข้าที ข้ายังเดินไหว”ลวี่เหมียนกับหงซิ่วเป็นสาวใช้ในจวนเยียนอ๋องที่มากับนางด้วยในวันนี้ ทั้งคู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 176

    ในบรรดาเจ้านายของจวนมีนางมาเพียงคนเดียว ซึ่งเหตุผลนั้นง่ายมาก ทุกคนต่างรู้ดีว่าซือเจ๋อเยว่มีชะตากรรมเป็นดาวอัปมงคล ไม่มีผู้ใดยินดีเข้าใกล้นางแรกเริ่มเดิมทีหนิงกั๋วกงฮูหยินก็หาได้อยากมาไม่ เพียงแต่หากนางไม่มา ก็จะมิมีเจ้านายคนใดมารับซือเจ๋อเยว่เลย เช่นนั้นคงดูไม่เหมาะสมนักแต่ว่าตอนนี้นางมาแล้ว ทว่ายังมิสู้ไม่มา!นางข่มอารมณ์คุกรุ่นพลางเข้ามาพยุงซือเจ๋อเยว่ขึ้น ทั้งที่พยายามอดกลั้นต่อความรู้สึกสะอิดสะเอียนไปด้วย “องค์หญิงซูบผอมถึงเพียงนี้ ทำให้คนเห็นแล้วปวดใจจริง ๆ เป็นจวนเยียนอ๋องที่ปฏิบัติไม่ดีต่อท่านหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ไม่ใช่หรอก ทุกคนในจวนอ๋องล้วนปฏิบัติต่อข้าอย่างดี เป็นข้าเองที่ร่างกายไม่ค่อยดี”“แต่ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเราได้อยู่กับญาติสนิทจะอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ร่างกายก็จะดีขึ้นตามเช่นกัน”“หากท่านป้าสะใภ้ไม่ถือสาละก็ ให้ข้าอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกงสักระยะดีหรือไม่?”หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”คำพูดนี้นางไม่กล้าตอบรับเพราะนางรู้ดีว่าคนอื่น ๆ ในจวนหนิงกั๋วกงเกลียดซือเจ๋อเยว่เข้าไส้แค่ไหนผนวกกับซือเจ๋อเยว่เป็นที่รู้กันถ้วนทั่วว่าเป็นดาวอัปมงคลด้วยแล้ว ผู้ใดจะกล้าให้นางอาศัยอยู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 177

    หากไม่ใช่เพราะอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกง ยามนี้เขาก็อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดความแค้นใหญ่หลวงของจวนเยียนอ๋องยังไม่ชำระ หนำซ้ำซือเจ๋อเยว่ยังเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเขา สิ่งที่เขายืนคิดอยู่ตรงนี้มันช่างต่ำช้าเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ปานซือเจ๋อเยว่เดินมุ่งหน้าตามหลังหนิงกั๋วกงฮูหยินไป นางเดินไปพลางมองสำรวจผังจวนหนิงกั๋วกงไปพลางจวนหนิงกั๋วกงเป็นคฤหาสน์ใหญ่สองหลังที่เชื่อมติดกัน โดยมีทั้งหมดห้าลาน เป็นคฤหาสน์หลังมหึมาโดยรวมแล้วเรือนตะวันออกสูงกว่าเรือนตะวันตก ลานเรือนแต่ละลานถูกจัดวางตามรูปทรงต้ากวนเม่า[1]อย่างไร้ระเบียบแบบแผนทว่างดงามไปอีกแบบหน้าประตูวางรูปปั้นสิงโตคู่ขนาดใหญ่ไว้ปกปักรักษาจวนและปัดเป่าพลังชั่วร้าย เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านใน ก็จะเห็นค่ายกลรวมพลังชีวิตขนาดใหญ่หนึ่งอันด้านหลังค่ายกลนี้ ยังมีค่ายกลขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่งเพื่อรองรับพลังชีวิตที่ค่ายกลใหญ่รวบรวมมาได้เอาไว้ ทั่วทั้งจวนจึงดูมีชีวิตชีวา ผู้คนเจริญรุ่งเรือง ผีร้ายยากจะกล้ำกรายซือเจ๋อเยว่แหงนหน้าขึ้นชำเลืองมองไปแวบหนึ่ง นางมองเห็นพลังสีม่วงจาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนจวนหนิงกั๋วกงพลังสีม่วงเช่นนี้แตกต่างจากพลังชั่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 178

    หนิงกั๋วกงฮูหยินก็ก่นด่าด้วย “ในเวลาปกติทุกคนต่างคุยโวโอ้อวดว่าตนนั้นมีวิชาการแพทย์ที่สูงส่งอย่างนั้นสูงส่งอย่างนี้ ครานี้กลับบอกอาการของหยางเอ๋อร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“ใครก็ได้ มาลากพวกเขาทั้งหมดไปโบยสิบที”จวนหนิงกั๋วกงเลี้ยงหมอในจวนที่มีฝีมือการแพทย์ไม่เลวไว้จำนวนหนึ่ง เพียงแต่หมอในจวนพวกนี้เมื่อเทียบฝีมือการแพทย์กับหมอหลวงในวังแล้วก็ยังห่างชั้นกันอยู่บ้างวันนั้นเขาพูดกับซือเจ๋อเยว่ว่าจวนหนิงกั๋วกงมีหมอที่เก่งกาจอยู่ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงคำลวงเพื่อล่อนางมาเท่านั้นในยามนี้ร่างกายเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง อารมณ์จึงฉุนเฉียวมากเป็นพิเศษ และคร้านที่จะเสแสร้งวางมาดเป็นคนใจกว้างต่อหน้าผู้คนอีกซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงเรียบ “ท่านป้าสะใภ้โปรดช้าก่อน”นางเอ่ยจบก็ถามอวิ๋นเยว่หยาง “ญาติผู้พี่หยาง ท่านหมอผู้มีฝีมือการแพทย์สูงส่งที่ท่านบอกกับข้าในวันนั้นคือคนใดหรือ?”“ท่านให้เขามารักษาข้าก่อน แล้วค่อยลงโทษพวกเขาก็ยังไม่สาย”อวิ๋นเยว่หยางถึงค่อยสังเกตเห็นว่านางมาแล้ว เขาดิ้นรนคิดจะลุกขึ้นนั่ง “ข้าป่วยด้วยโรคร้ายกะทันหัน ทำให้องค์หญิงได้เห็นเรื่องน่าขำแล้ว”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ท่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 179

    หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”นางเพียงรู้สึกว่าถูกซือเจ๋อเยว่ยั่วโมโหเสียจนทำเอาจุกอก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนางอยากพูดบางอย่างสักหน่อย แต่กลับรู้สึกว่าจะด่าซือเจ๋อเยว่ก็ไม่ได้ หากจะยอมอ่อนข้อให้ก็ไม่ดีกลับเป็นอวิ๋นเยว่หยางที่เอ่ยขึ้นจากด้านข้าง “ท่านแม่เป็นห่วงข้า ถึงได้ขึ้นเสียงกับองค์หญิง ขอองค์หญิงอย่าได้ถือสานางไปเลย”ซือเจ๋อเยว่เผยรอยยิ้มบาง ๆ “ครั้งก่อนข้าได้บอกกับเสด็จอาไปแล้ว ว่าข้าน่ะเป็นคนใกล้ตาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ขอเพียงให้ข้าสบายใจก็พอแล้ว”“หากผู้ใดทำให้ข้าไม่พอใจ ข้าก็จะเอาคืนคนผู้นั้นเป็นเท่าตัว”นางพูดจบก็ตบหน้าหนิงกั๋วกงฮูหยินไปฉาดหนึ่ง “ฮูหยิน เมื่อครู่ท่านคงจะเข้าใจความหมายของคำว่าบังอาจผิดไป นี่ต่างหากถึงเรียกว่าบังอาจ!”อวิ๋นเยว่หยาง “…”เขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าซือเจ๋อเยว่จะกล้าลงมือทั้งที่ยังอยู่ในจวนหนิงกั๋วกง!หนิงกั๋วกงฮูหยิน “!!!!!!”นางคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าซือเจ๋อเยว่จะกล้าลงมือตบนาง!นางโกรธจัด “เจ้า!”นางส่งสัญญาณผ่านทางสายตา ก่อนจะหันไปพูดกับบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างกาย “องค์หญิงร่างกายไม่แข็งแรง พานางไปพักผ่อนก่อนเถิด”พวกบ่าวรับใช้สองสามคนกระโจนเข้ามา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 180

    เดิมทีหนิงกั๋วกงฮูหยินอยากจะพิสูจน์ว่าซือเจ๋อเยว่แกล้งป่วย กลับไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้!เจอผีแล้วจริงๆ!สีหน้าของนางดูแย่ลงไปอีก เดิมทีนางคิดจะจัดการซือเจ๋อเยว่ บัดนี้กลับมิกล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บแค่ด้วยสถานการณ์ทางร่างกายเช่นนี้ของซือเจ๋อเยว่ หากมาตายอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกงจริง ๆ คงได้นำพาเคราะห์ร้ายมาให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอนซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ “ดูท่าว่าท่านหมอในจวนหนิงกั๋วกงก็รักษาให้ข้าไม่ได้เหมือนกัน”นางพูดจบก็มองหนิงกั๋วกงฮูหยินพลางเอ่ย “ฮูหยิน ท่านยังอยากพาข้าไปพักผ่อนอีกหรือไม่?”หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”ซือเจ๋อเยว่อมยิ้ม “ข้าค่อนข้างชอบบรรยากาศในจวนหนิงกั๋วกงทีเดียว ถ้าให้อยู่พักผ่อนหย่อนใจที่นี่สักสิบวันหรือครึ่งเดือนก็ย่อมได้”หนิงกั๋วกงฮูหยิน “!!!!!”ด้วยสภาพเช่นนี้ของนาง หากรั้งให้อยู่ที่จวนหนิงกั๋วกง นั่นก็คงไม่ต่างอะไรกับการเก็บชายชราเอาไว้ในจวนยามนี้อวิ๋นเยว่หยางดึงสติกลับมาได้แล้ว เขากล่าวต่อหนิงกั๋วกงฮูหยิน “ท่านแม่ ท่านไปทำธุระก่อนเถิด ข้าจะพูดกับองค์หญิงสักหน่อย”หนิงกั๋วกงฮูหยินเป็นห่วงเขามาก “แต่ว่า…”อวิ๋นเยว่หยางเค้นรอยยิ้มออกมาก่อนก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 181

    การขโมยดวงชะตาของคนอื่น นางสามารถใช้วิชาเต๋าจัดการได้ตามใจชอบ แม้จะฆ่าคน ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผลดังนั้นเมื่อนางรู้ว่าอวิ๋นเยว่หยางคือคนที่ขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหราน นางก็คิดในใจเกี่ยวกับวิธีจัดการกับอวิ๋นเยว่หยางหลายวิธีแล้วใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางมีสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย "องค์หญิงควรคิดให้ดี""จวนเยียนอ๋องยามนี้เป็นเพียงโครงร่างเปล่าๆ เยียนเซียวหรานแม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาก็ไม่ใช่แม้แต่ทายาทด้วยซ้ำ""ท่าทีของฝ่าบาทที่มีต่อจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าองค์หญิงก็คงรู้ เขาไม่มีทางได้รับตำแหน่งทายาท ห่างไกลจากความตายไม่มากแล้ว"เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เรื่องของจวนเยียนอ๋องไม่ต้องให้คุณชายรองอวิ๋นเป็นห่วง""ข้าห่างจากความตายไม่มาก แต่ท่านอาจจะใกล้กว่า"ซือเจ๋อเยว่ยื่นมือลูบคาง "คำกล่าวของคุณชายรองอวิ๋นได้เตือนข้าพอดี ว่าน้องสามสามารถรับตำแหน่งทายาทของจวนเยียนอ๋องได้""เมื่อเขากลายเป็นเยียนอ๋องคนใหม่ เกรงว่าในเมืองหลวงคงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้อีก"อวิ๋นเยว่หยางหัวเราะเสียงดัง "พวกเจ้าช่างมีความฝันที่เลิศล้ำเสียจริง! ชั่วชีวิตนี้เยียนเซียวหรานไม่มีทาง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 182

    สำนักศึกษาหลวงเป็นสำนักศึกษาสูงสุดของแคว้นต้าฉู่ รับบัณฑิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทั่วทั้งแผ่นดินเมื่อเยียนเซียวหรานสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง ผู้คนทั้งหลายก็รู้สึกประหลาดใจผู้ใดจะไม่รู้ว่าจวนเยียนอ๋องเป็นจวนของแม่ทัพ แม้ว่าคุณชายในจวนจะร่ำเรียนตำราบุ๋น แต่พวกเขาก็ล้วนแต่ไม่ได้ข้าสอบ ไม่เข้ามาร่ำเรียนที่สำนักศึกษาหลวงยามที่เยียนเซียวหรานเพิ่งเข้าเรียน อวิ๋นเยว่หยางก็หาได้เห็นเยียนเซียวหรานอยู่ในสายตาไม่ เพราะเขาคิดว่าเยียนเซียวหรานสอบเข้ามาได้เพียงเพราะโชคดีเท่านั้นแต่หลังจากเยียนเซียวหรานเข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง เขาก็สอบได้คะแนนสูงสุดทุกครั้ง ทุกวิชาล้วนยอดเยี่ยมแม้แต่คุณชายที่มีชื่อเสียงเป็นที่หนึ่งในเมืองหลวงอย่างอวิ๋นเยว่หยาง ก็ถูกกดอยู่ใต้เขาจนหม่นหมองไปอวิ๋นเยว่หยางไม่ยอมจำนนแม้แต่น้อย พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาชนะเยียนเซียวหราน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าใด ก็ยังคงด้อยกว่าเยียนเซียวหรานอยู่ดีสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ อวิ๋นเยว่หยางพบว่าหลังจากเยียนเซียวหรานเลิกเรียนที่สำนักศึกษาหลวง ก็มักจะไปเที่ยวเล่น ไม่ได้ตั้งใจเรียนแม้แต่น้อยแต่ถึงกระนั้นแม้เยียนเซียวหรานจะเป

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status