Share

บทที่ 180

Author: เจียงหนานเยียน
เดิมทีหนิงกั๋วกงฮูหยินอยากจะพิสูจน์ว่าซือเจ๋อเยว่แกล้งป่วย กลับไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้!

เจอผีแล้วจริงๆ!

สีหน้าของนางดูแย่ลงไปอีก เดิมทีนางคิดจะจัดการซือเจ๋อเยว่ บัดนี้กลับมิกล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ

แค่ด้วยสถานการณ์ทางร่างกายเช่นนี้ของซือเจ๋อเยว่ หากมาตายอยู่ที่จวนหนิงกั๋วกงจริง ๆ คงได้นำพาเคราะห์ร้ายมาให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน

ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ “ดูท่าว่าท่านหมอในจวนหนิงกั๋วกงก็รักษาให้ข้าไม่ได้เหมือนกัน”

นางพูดจบก็มองหนิงกั๋วกงฮูหยินพลางเอ่ย “ฮูหยิน ท่านยังอยากพาข้าไปพักผ่อนอีกหรือไม่?”

หนิงกั๋วกงฮูหยิน “…”

ซือเจ๋อเยว่อมยิ้ม “ข้าค่อนข้างชอบบรรยากาศในจวนหนิงกั๋วกงทีเดียว ถ้าให้อยู่พักผ่อนหย่อนใจที่นี่สักสิบวันหรือครึ่งเดือนก็ย่อมได้”

หนิงกั๋วกงฮูหยิน “!!!!!”

ด้วยสภาพเช่นนี้ของนาง หากรั้งให้อยู่ที่จวนหนิงกั๋วกง นั่นก็คงไม่ต่างอะไรกับการเก็บชายชราเอาไว้ในจวน

ยามนี้อวิ๋นเยว่หยางดึงสติกลับมาได้แล้ว เขากล่าวต่อหนิงกั๋วกงฮูหยิน “ท่านแม่ ท่านไปทำธุระก่อนเถิด ข้าจะพูดกับองค์หญิงสักหน่อย”

หนิงกั๋วกงฮูหยินเป็นห่วงเขามาก “แต่ว่า…”

อวิ๋นเยว่หยางเค้นรอยยิ้มออกมาก่อนก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
benya2999
สนุกมากๆๆๆๆ อัพเดทเยอะๆๆๆ นะคะ จะรออ่านค่เะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 181

    การขโมยดวงชะตาของคนอื่น นางสามารถใช้วิชาเต๋าจัดการได้ตามใจชอบ แม้จะฆ่าคน ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผลดังนั้นเมื่อนางรู้ว่าอวิ๋นเยว่หยางคือคนที่ขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหราน นางก็คิดในใจเกี่ยวกับวิธีจัดการกับอวิ๋นเยว่หยางหลายวิธีแล้วใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางมีสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย "องค์หญิงควรคิดให้ดี""จวนเยียนอ๋องยามนี้เป็นเพียงโครงร่างเปล่าๆ เยียนเซียวหรานแม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาก็ไม่ใช่แม้แต่ทายาทด้วยซ้ำ""ท่าทีของฝ่าบาทที่มีต่อจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าองค์หญิงก็คงรู้ เขาไม่มีทางได้รับตำแหน่งทายาท ห่างไกลจากความตายไม่มากแล้ว"เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เรื่องของจวนเยียนอ๋องไม่ต้องให้คุณชายรองอวิ๋นเป็นห่วง""ข้าห่างจากความตายไม่มาก แต่ท่านอาจจะใกล้กว่า"ซือเจ๋อเยว่ยื่นมือลูบคาง "คำกล่าวของคุณชายรองอวิ๋นได้เตือนข้าพอดี ว่าน้องสามสามารถรับตำแหน่งทายาทของจวนเยียนอ๋องได้""เมื่อเขากลายเป็นเยียนอ๋องคนใหม่ เกรงว่าในเมืองหลวงคงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้อีก"อวิ๋นเยว่หยางหัวเราะเสียงดัง "พวกเจ้าช่างมีความฝันที่เลิศล้ำเสียจริง! ชั่วชีวิตนี้เยียนเซียวหรานไม่มีทาง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 182

    สำนักศึกษาหลวงเป็นสำนักศึกษาสูงสุดของแคว้นต้าฉู่ รับบัณฑิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทั่วทั้งแผ่นดินเมื่อเยียนเซียวหรานสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง ผู้คนทั้งหลายก็รู้สึกประหลาดใจผู้ใดจะไม่รู้ว่าจวนเยียนอ๋องเป็นจวนของแม่ทัพ แม้ว่าคุณชายในจวนจะร่ำเรียนตำราบุ๋น แต่พวกเขาก็ล้วนแต่ไม่ได้ข้าสอบ ไม่เข้ามาร่ำเรียนที่สำนักศึกษาหลวงยามที่เยียนเซียวหรานเพิ่งเข้าเรียน อวิ๋นเยว่หยางก็หาได้เห็นเยียนเซียวหรานอยู่ในสายตาไม่ เพราะเขาคิดว่าเยียนเซียวหรานสอบเข้ามาได้เพียงเพราะโชคดีเท่านั้นแต่หลังจากเยียนเซียวหรานเข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง เขาก็สอบได้คะแนนสูงสุดทุกครั้ง ทุกวิชาล้วนยอดเยี่ยมแม้แต่คุณชายที่มีชื่อเสียงเป็นที่หนึ่งในเมืองหลวงอย่างอวิ๋นเยว่หยาง ก็ถูกกดอยู่ใต้เขาจนหม่นหมองไปอวิ๋นเยว่หยางไม่ยอมจำนนแม้แต่น้อย พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาชนะเยียนเซียวหราน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าใด ก็ยังคงด้อยกว่าเยียนเซียวหรานอยู่ดีสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ อวิ๋นเยว่หยางพบว่าหลังจากเยียนเซียวหรานเลิกเรียนที่สำนักศึกษาหลวง ก็มักจะไปเที่ยวเล่น ไม่ได้ตั้งใจเรียนแม้แต่น้อยแต่ถึงกระนั้นแม้เยียนเซียวหรานจะเป

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 183

    องครักษ์หลายคนรีบเข้ามาแย่งไป ซือเจ๋อเยว่รู้ว่านางใช้ไปหลายครั้งแล้ว อวิ๋นเยว่หยางจะล่วงรู้ก็เป็นเรื่องปกตินางกำลังจะหลบไปข้างหลังเยียนเซียวหราน แต่เขากลับเร็วกว่า ดึงนางเข้ามาในอ้อมอกกระบี่ในมือของเขาแกว่งขึ้น แสงเย็นยะเยือกแวววับ ฟันแขนขององครักษ์คนหนึ่งขาดไปองครักษ์คนอื่นแทงเข้ามาจากด้านข้าง เยียนเซียวหรานดึงกระบี่กลับไม่ทัน ได้แต่จับแขนขององครักษ์คนนั้นเอาไว้ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าตนเองมีความสามารถในการต่อสู้ในระดับแย่มาก ส่วนที่แข็งที่สุดในร่างกายก็มีแค่ฟันเท่านั้นนางไม่คิดอันใดมากนัก เปิดปากกัดแขนข้างนั้นอย่างแรงเยียนเซียวหราน "..."องครักษ์คนนั้นเจ็บจนร้องโอดโอย แต่กลับยื่นมืออีกข้างมาชิงถุงเงินของนางไปซือเจ๋อเยว่รีบยกมือขึ้นป้องกัน ดังนั้นมือของทั้งสองคนจึงจับถุงเงินนั้นไว้พร้อมกัน ทำให้อวิ๋นเยว่หยางเจ็บปวดจนร้องออกมา "ปล่อยมือ!"องครักษ์คนนั้นไม่ค่อยฉลาดเท่าใด ไม่เข้าใจว่าอวิ๋นเยว่หยางสั่งให้ผู้ใดปล่อยมือ เขาจึงยิ่งจับเอาไว้แน่นกว่าเดิมเยียนเซียวหรานยามนี้ได้จัดการกับองครักษ์คนหนึ่งเสร็จแล้ว จึงฟันเข้าที่แขนขององครักษ์คนนั้นขาดซือเจ๋อเยว่และองครักษ์คนนั้นอยู่ใกล้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 184

    เยียนเซียวหราน "..."เยียนเซียวหราน "!!!!!!!"มือของเขาประคองที่สะโพกของนางโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง จึงดึงมือกลับเสียงอุทานของนางดังขึ้นมา "หนู หนูตัวใหญ่มาก!"เยียนเซียวหรานกระแอมออกมาเสียงเบา แล้วจึงเอ่ยขึ้น "ก็แค่หนูเท่านั้นเอง องค์หญิง ท่านลงมาก่อนเถอะ!"ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความหวาดกลัว "แค่หนูเท่านั้นเองหรือ? ข้ากลัวหนูที่สุดแล้ว!"ใช่แล้ว นางไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน แต่กลัวหนูความรู้สึกที่หนูปีนขึ้นมาที่เท้าของนางเมื่อครู่ แทบจะเอาชีวิตนางไปเลยก็ว่าได้ยามนี้นางไม่ได้ต้องการจะฉวยโอกาสจากเยียนเซียวหรานแม้แต่น้อย แต่เป็นเพราะหวาดกลัวเท่านั้นในอุโมงค์มืดนี้ มีเพียงตัวเยียนเซียวหรานเท่านั้นที่ปลอดภัยเยียนเซียวหรานยื่นมือจะดึงนางลงมา แต่เพียงแค่ดึงเบา ๆ นางก็ร้องออกมาอีก "ข้าไม่อยากลงไป!"หลังจากร้องออกมานางก็รู้สึกว่าตนเองในยามนี้ดูไม่ดี เยียนเซียวหรานก็เป็นคนเคร่งครัด นางกลัวว่าเขาจะโยนนางลงไปนางจึงเอ่ยด้วยเสียงที่สั่นเครือ "น้องสาม ขอร้องล่ะ ข้ากลัวหนูจริงๆ""วันนี้ข้าล่วงเกินแล้ว แต่อย่าโยนข้าลงไปเลย วันหลังข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน"นางตกใจกลัวอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 185

    แต่หลังจากที่นางลงไปแล้ว ก็ยังคงจับแขนของเขาแน่นไม่ยอมปล่อยเยียนเซียวหรานมองนางอีกครั้ง นางยิ้มอย่างประจบแล้วเอ่ยขึ้น "ขอยืมแขนเจ้าให้ข้าจับหน่อย ก็แค่สักพัก!"เยียนเซียวหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ซือเจ๋อเยว่คิดว่าเขาอยากจะสลัดนางออก จึงกอดแขนของเขาแล้วเอ่ยขึ้น "ที่แห่งนี้ไม่มีคนนอก"เขาเข้าใจความหมายของนาง ที่แห่งนี้ไม่มีคนนอก แม้ว่าทั้งสองจะใกล้ชิดกันก็ไม่มีผู้ใดเห็น เมื่อออกจากที่แห่งนี้แล้ว นางจะทำคล้ายดั่งว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเขามองนางด้วยหางตาแล้วแค่นเสียงเย็น แต่สุดท้ายก็ไม่สลัดนางออกซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเสียงเบายามที่พวกเขาตกลงมา กระบี่ของเขาก็ตกลงมาด้วยเขาหยิบกระบี่ขึ้นมา เดินนำหน้านางครึ่งก้าว ปกป้องนางไม่ให้หนูเข้าใกล้ซือเจ๋อเยว่เห็นว่าแม้เขาจะทำหน้าเย็นชา แต่สุดท้ายก็ไม่สลัดนางออก นางจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกเขาพานางเดินไปที่กองกระดูกสีขาว ใช้กระบี่ไล่หนูที่อยู่ใกล้ ๆ ออกไป แล้วถามซือเจ๋อเยว่ "ที่นี่มีวิญญาณหรือไม่?"ซือเจ๋อเยว่กวาดสายตามองดูโดยรอบ ส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น "ไม่มี คนพวกนี้ตายมานานแล้ว วิญญาณของพวกเขาน่าจะไปเกิดใหม่แล้ว"นางเอ่ยจบก็สูดดมไปรอบ ๆ แล้วขม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 186

    ซือเจ๋อเยว่ยังคงจับมือเยียนเซียวหรานเอาไว้ จะเป็นหรือตายก็ไม่ยอมปล่อยมีหนูวิ่งผ่านพวกเขาไปเป็นระยะ ๆ แต่ก็ถูกเยียนเซียวหรานฆ่าด้วยกระบี่แม้จะเป็นเช่นนั้น ทุกครั้งที่มีหนูเข้ามาใกล้ ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ก็จะสั่นเทาเล็กน้อยเยียนเซียวหรานถาม "เหตุใดองค์หญิงถึงกลัวหนู?"ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ยามที่ข้ายังเด็ก ข้าเคยถูกลักพาตัวและโยนลงไปในบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยหนู เกือบถูกหนูกิน"เยียนเซียวหรานมองนางด้วยความประหลาดใจ นางจึงหัวเราะเสียงเบา "แม้ว่าข้าจะเกิดมาเป็นองค์หญิง แต่ข้าก็ไม่มีชะตาที่เป็นองค์หญิงทั่วไป""ข้ารู้สึกว่าสวรรค์บ้า ๆ นี่ช่างไม่เป็นธรรม ไม่ให้ข้าเป็นองค์หญิงจริงๆ สักวันก็แล้วไป แต่ยังทำให้ข้าเป็นคนอายุสั้นอีก นับว่ารังแกกันเกินไปแล้ว!"คำกล่าวของนางดูโกรธเคือง แต่กลับเป็นน้ำเสียงที่เย้าหยอกไม่จริงจังเยียนเซียวหรานรู้ว่านางเข้าสำนักเต๋าตั้งแต่ยามที่อายุสองขวบ แต่ไม่รู้ว่านางเคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนเขาถามขึ้น "ครั้งนั้นไม่มีผู้ใดปกป้ององค์หญิงหรือ?"ซือเจ๋อเยว่ตอบ "เสด็จพ่อข้าตายไปแล้ว เสด็จแม่ไม่ต้องการข้า ผู้ใดจะพยายามปกป้องข้าเล่า?""ครั้งนั้นหากไม่ใช่อาจารย์ใ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 187

    เยียนเซียวหรานก็รู้ว่าที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา เดินตามนางไปข้างหน้าเดินไปได้ไม่ไกล ก็เห็นโครงกระดูกที่ถูกตอกด้วยหมุดไม้ที่คอหอยซือเจ๋อเยว่กัดฟันเอ่ยขึ้น "เป็นเช่นนี้ดังคาด! จวนหนิงกั๋วกงทำเรื่องชั่วร้ายเกินไปแล้ว!"เยียนเซียวหรานเอ่ยถาม "องค์หญิงพบอันใด?"ซือเจ๋อเยว่ตอบ "ข้าเคยเห็นตำราโบราณที่เอ่ยถึงค่ายกลชั่วร้ายโบราณอย่างหนึ่ง""ค่ายกลนั้นใช้หลักของห้าธาตุ ใช้ชีวิตมนุษย์เป็นเครื่องบูชา ยิ่งจำนวนมากเท่าใด ค่ายกลยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น""ข้าเพิ่งนับคร่าว ๆ แต่ละธาตุมีคนถูกบูชาอย่างน้อยเก้าร้อยเก้าสิบเก้าคน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนสูงสุด""ข้าสงสัยมาตลอดว่าจวนหนิงกั๋วกงใช้วิธีใดดึงพลังดวงชะตาจากจวนอื่น สะสมพลังสีม่วง ที่แท้ก็ใช้ค่ายกลนี้!"เยียนเซียวหรานมองนาง "จวนหนิงกั๋วกงดึงพลังดวงชะตามาจากจวนอื่น?"ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า "ใช่แล้ว ค่ายกลนี้ชั่วร้ายอย่างยิ่ง เป็นวิชาต้องห้ามต้องห้ามของลัทธิเต๋า""เพื่อให้ค่ายกลนี้ทำงาน นอกจากต้องใช้คนเก้าร้อยเก้าสิบเก้าคนในแต่ละธาตุแล้ว ยังต้องใช้วิญญาณของพวกเขาเป็นเชื้อเพลิงในการบูชา""คนพวกนี้ที่ตายไป วิญญาณของพวกเขาไม่ได้ไปเกิดใหม่ แต่ถูกใช้เป็นเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 188

    มันคืองูตัวใหญ่ที่มีขนาดเท่าถังน้ำ ดวงตาของงูตัวใหญ่เหลืองคล้ายดั่งโคมไฟสองดวงตัวของงูพันเอาไว้รอบเอวของซือเจ๋อเยว่ รัดจนนางรู้สึกปานเอวจะหักยามที่นางถูกงูรัดและถูกยกขึ้นกลางอากาศ เยียนเซียวหรานก็จับมือของนางเอาไว้เขากระโดดขึ้นสูง กระบี่ในมือฟาดฟันไปที่งูตัวใหญ่อย่างแรงกระบี่นั้นโดยปกติสามารถฟันคนขาดครึ่ง แต่เมื่อฟันลงบนตัวของงูตัวใหญ่ กลับทำได้เพียงสร้างรอยเล็ก ๆ บนเกล็ดของมันเท่านั้นสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เยียนเซียวหรานหน้าถอดสีซือเจ๋อเยว่รู้เรื่องความสามารถในการต่อสู้ของเยียนเซียวหราน แต่กระบี่เล่มนี้กลับฟันงูตัวใหญ่ไม่ขาดงูตัวนี้ทำจากอันใดกัน หนังหนาเกินไปแล้ว!งูตัวใหญ่จ้องมองเยียนเซียวหรานอย่างดูถูก หัวของมันหันกลับ มองไปทางซือเจ๋อเยว่งูตัวใหญ่อ้าปาก เผยให้เห็นเขี้ยวคมภายใน กลิ่นที่เหม็นเน่าทำให้ซือเจ๋อเยว่แทบอาเจียนนางบีบจมูกแล้วเอ่ยขึ้น "เจ้าไม่รักษาความสะอาดเลยหรือ ไม่แปรงฟันหรืออย่างไร?"เยียนเซียวหราน "..."งูตัวใหญ่กำลังจะกินนาง แต่ยามนี้นางกลับเอ่ยเรื่องแปรงฟันกับงู เหมาะสมแล้วหรือ?เขาอยากจะดึงนางออกมา แต่ตัวของงูรัดนางเอาไว้แน่นเกินไป หากเขาดึงนางออกม

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 274

    นางสวมรองเท้ามือเป็นระวิง เพียงแต่ยิ่งลนลาน ก็ยิ่งทำได้ไม่ดีเดิมทีรองเท้าที่สวมได้อย่างง่ายดายมากเป็นเพราะนางตกตะลึงสวมห้าหกครั้งก็ยังไม่เข้าเยียนเซียวหรานยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของนางเอาไว้ นางหันหน้าไปมองเขา เขากลับไม่ได้มองนาง แต่ยกรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ค่อย ๆ สวมเข้าไปที่เท้าของนางซือเจ๋อเยว่ “...”นางรู้สึกว่าตนเองในเวลานี้โง่นิด ๆหลังจากเยียนเซียวหรานสวมรองเท้าในนางเสร็จข้างหนึ่งแล้ว ก็สวมอีกข้างอีกให้นางนางกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว “ลำบากเจ้าแล้ว”นางพูดจบคิดจะหนี กลับถูกเยียนเซียวหรานจับข้อมือขาวเล็กเอาไว้นางมองเขาแล้วถาม “ยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปแล้วช่วยติดจัดปกคอเสื้อให้นาง ช่วยนางปรับสายคาดเอวให้เรียบร้อย ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”นางหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานหวีผมให้นางอีก กล่าวเสียงเรียบ “เสร็จแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา ดวงตาของเขาล้ำลึกตามเดิม นางมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองในดวงตาของเขาการเต้นของหัวใจนางเริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง นางรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เข้าท่า จึงรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 273

    ตอนนี้สมองของซือเจ๋อเยว่ไม่พอใช้แล้ว เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ นางตอบว่า‘อืม’ทีหนึ่ง ไม่ได้เข้าใจความหมายของเขาจริง ๆเยียนเซียวหรานจับมือของนาง ดึงแขนเสื้อของนางขึ้น เส้นแดงที่อยู่ภายในก็ปรากฏขึ้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”ในที่สุดซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจความหมายของเขา นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับกล่าวขึ้น “อาจจะเป็นเพราะห่างกันไปหน่อย”ครู่ต่อมา มือของเขาประคองเอวนาง ทันทีที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็อุ้มนางขึ้นมาวางไว้บนต้นขาของเขาซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”อยู่ ๆ เขากลายเป็นคนที่เร่าร้อนจนเกินไป นางรับมือไม่ค่อยไหว!เยียนเซียวหรานสูงกว่านางมาก แล้วก็แข็งแรงกว่านางมาก ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ชุดนอนของเขาคลุมไว้แค่ครึ่งเดียว นางรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกของเขาภายในหัวใจของซือเจ๋อเยว่มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังจูบลงมาบนริมฝีปากนางนางใช้มือดันแผ่นออกของเขาอย่างไม่รู้ตัว เขาหันไปมองนาง ภายในดวงตาที่ดำขลับคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแววตาที่เขามองไม่ออกน้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “มีขั้นตอนไหนที่ข้าทำไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status