แชร์

ตอนที่ 11 แสร้งปล่อยเพื่อจับ?

ผู้เขียน: อาหลานเร่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-19 11:25:11

ตอนที่ 11

แสร้งปล่อยเพื่อจับ?

ภายในห้องหอยามนี้มีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยจากเทียนมงคลที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องหอเพียงเท่านั้น

ม่านมุ้งแพรสีแดงมงคลหรูสำหรับใช้กั้นที่เตียงนอนถูกกลางออกจนทำให้ไม่สามารถมองเห็นทะลุผ่านเข้าไปด้านในเตียงได้ โม่หลงอวี้เอื้อมพระหัตถ์เลิกม่านกั้นมุ้งออกเล็กน้อย ถึงได้พบว่ายามนี้มีสตรีผู้หนึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง มิหนำซ้ำนางยังนอนทั้งที่มีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดคลุมอยู่ เสียด้วย

ทั่วแคว้นเป่ยซีคงจะมีเพียงเฉินจินฮวา ชายารองผู้นี้ของพระองค์เท่านั้นที่กล้าทำเช่นนี้ หากเป็นสตรีอื่นพระองค์มั่นใจ เป็นอย่างยิ่งว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหลับลงในคืนเข้าหอเช่นนี้ที่เจ้าบ่าวยังทันทีจะเปิดผ้าคลุมหน้าให้แน่

ยิ่งกว่านั้นผู้ที่นางแต่งด้วยคือเขาที่มีศักดิเป็นถึงไท่จื่อรัชทายาทที่ถูกแต่งตั้งอย่างถูกต้อง มากไปด้วยอำนาจวาสนาอันยิ่งใหญ่ คืนเขาหออันสำคัญเช่นนี้นางยังกล้านอนหลับได้ลงคอ

ดูท่าแล้วเห็นทีว่าสตรีผู้นี้ก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับการที่ต้องเข้ามาเป็นชายารองของเขาเลยแม้แต่น้อย ครั้งที่ได้พบนางเมื่อหลายวันก่อนพระองค์ยังทรงคิดว่าอาจเป็นเพราะนางตั้งใจรักษากิริยาท่าทางเพื่อให้ดูดีในสายตาของตนจึงไม่ได้มีท่าทีชม้อย ชม้าย ชายตา หรือมีอาการเขินอายแต่อย่างไร

โม่หลงอวี้เกิดความสงสัยขึ้นในใจแล้วว่า หรือว่านางต้องการทำเหมือนไม่สนใจพระองค์เพื่อที่จะให้พระองค์เกิดความสนใจต่อนาง เป็นการแสร้งปล่อยเพื่อจับ หรือว่าไม่คิด สนใจและไม่ต้องการความสนพระทัยจากพระองค์อยู่แต่แรกแล้วกันแน่

พระองค์ทอดพระเนตรมองร่างเล็กที่นอนตัวตรงสวมเพียงชุดด้านในสีแดงพร้อมผ้าที่คลุมหน้าเจ้าสาวอยู่อย่างไม่เข้าพระทัยเลยจริง ๆ

พระองค์ประทับอยู่ข้างเตียงนานเพียงนี้หากแกล้งหลับคงทำไม่ได้สมจริงเช่นนี้ โม่หลงอวี้ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าพระองค์ควรจะเรียกนางให้ตื่นขึ้นมาก่อนหรือไม่

หรือว่าควรจะเปิดผ้าคลุมหน้าให้นางได้นอนหายใจไปสบายยิ่งขึ้นดี

เจ้าของร่างสูงผู้ทรงอำนาจเลือกอย่างหลังในที่สุด พระองค์ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ชายารองคนใหม่ที่นอนเยียดยาวเป็นระเบียบอยู่ที่เตียงด้านในแล้วจึงเลิกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกมาจากใบหน้างามอย่างเบามือ

ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ใบหน้างดงามที่ยามนี้ ไร้ซึ่งการแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมใด ๆ นั้นกลับดึงดูดสายพระเนตรของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ริมฝีปากสีชมพูหวานของนางไม่ได้มีสีชาดแต่งแต้มเอาไว้แม้เพียงเล็กน้อย แต่กลับน่ามองยิ่งกว่ายามที่ริมฝีปากงามถูกแต่งเติมไปด้วยชาดสีสด

ความงามธรรมชาติที่ดูธรรมดากลับคล้ายจะตราตรึงได้มากกว่าความงามที่ถูกแต่งแต้มเสริมเพิ่มเติมเข้าไปเสียอีก

ไม่รู้ว่าพระองค์เผลอทอดมองใบหน้างามนี้นานเพียงใดกัน ครั้งนางขยับตัวเปลี่ยนท่านอนเป็นหันใบหน้าสวยนั้นเข้าไปด้านในเตียงและหันแผ่นหลังออกมายังทิศทางที่เขาอยู่แทนนั่นแหละพระองค์จึงได้รู้พระองค์ว่าเผลอทอดมองนางอยู่นาน

นางดูนอนหลับได้อย่างผ่อนคลายจนพระองค์รู้สึกริษยาอยู่หน่อย ๆ จากที่คิดจะแวะมาเปิดผ้าคลุมหน้าให้เพียงเท่านั้นก็จะเสด็จกลับเรือนใหญ่แห่งตำหนักบูรพาที่เป็นตำหนักพักส่วนพระองค์ก็เกิดเปลี่ยนพระทัยขึ้นมา

โม่หลงอวี้ประทับลงบนเตียงฝั่งด้านนอกที่ยังมีพื้นที่วางอยู่ ก่อนจะถอดอาภรณ์ตัวนอนออกจนเหลือเพียงอาภรณ์ตัวในเพียงเท่านั้น

อาภรณ์ที่ถูถอดออกจากกายถูกพระองค์โยนออกจากเตียงไปอย่างส่ง ๆ

เจ้าของพระพักตร์ที่ยากต่อการคาดเดาอารมณ์ได้นั้นทอดพระวรกายลงบรรทมเคียงข้างชายารองคนใหม่ของพระองค์ในเวลาต่อมา

เหมือนว่าใต้หมอนจะมีถุงหอมสอดเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ส่งออกมาทำให้โม่หลงอวี้ที่มักจะบรรทมไม่ค่อยหลับนั้นเผลอบรรทมหลับไปอย่างไม่ทันจะรู้ตัว

ด้านนอกตำหนักทิศประจิมในเวลานี้นั้น มีขบวนนางกำนัลรับใช้และขบวนบ่าวรับใช้รอท่าอยู่ด้านนอกกว่าสิบกว่าชีวิต แยกเป็นสองส่วนคือส่วนที่เป็นนางกำนัลและขันทีที่รอท่าเตรียมรับใช้องค์ไท่จื่อ ส่วนบ่าวรับใช้ที่นำขบวนด้วยอาหลัวนั้นก็รอรับใช้พระชายารองคนใหม่

พวกนางข้ารับใช้ทั้งหมดนั้นรอท่าอยู่ที่ลานหน้าตำหนักอยู่เกือบจะสองชั่วยามเห็นจะได้แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววการเคลื่อนไหวในตำหนักด้านในเลยแม้แต่น้อย

เหล่าข้ารับใช้นั้นล้วนแล้วแต่ไม่กล้าส่งเสียงเรียกรบกวนผู้เป็นนายเหนือหัว รวมไปถึงทุกคนในตำหนักต่างก็รู้ดีว่าฝ่าบาทมีรับสั่งให้องค์ไท่จื่อนั้นหยุดราชการสามวันโดยนับวันนี้เป็นวันแรก จึงไม่มีเหตุอันสมควรใดให้พวกจะต้องเสี่ยงชีวิตรบกวนความสงบขององค์ไท่จื่อกับพระชายารองคนใหม่

“องค์ไท่จื่อยังไม่เสด็จออกมาหรือ” เป็นฝูกงกงที่เอ่ยถามขึ้นกับอาหลัว

“ยังเลยเจ้าค่ะ ซ้ำด้านในตำหนักก็ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลย พวกข้าน้อยเลยไม่กล้าเข้าไปรบกวนการพักผ่อนของเจ้านายทั้งสอง”

“ไม่ง่ายเลยกว่าที่องค์ไท่จื่อจะมีวันหยุดพัก พระองค์ได้พักผ่อนเต็มที่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี” ฝูกงกงเอ่ยขึ้น แม้ในใจจะนึกแปลกใจอยู่บ้างเพราะไม่ว่าพระชายารองก่อนหน้าทั้งสองก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่องค์ไท่จื่อนั้นจะประทับอยู่ที่ตำหนักนานเช่นนี้ คงไม่ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นด้านในห้องหอหรอกกระมัง

หากเป็นเช่นนั้นจะทำเช่นไรดี เขาคนนี้แล้วก็คนทั้งตำหนักบูรพาคงไม่อาจหนีพ้นโทษประหารไปได้แน่

คิดไปคิดมาฝูกงกงกลับเริ่มว้าวุ่นใจจนไม่อาจรออยู่เฉย ๆ ได้อีก เขาเตรียมตัวที่จะเอ่ยเรียกองค์ไท่จื่อที่อยู่ด้านใน หากไม่ใช่ว่าก่อนที่ตนจะเอ่ยปากนั้นก็มีเสียงการเคลื่อนไหวภายในห้องหอดังขึ้นเสียก่อน

“แม่นางอาหลัว เจ้าให้คนไปต้มน้ำรอท่าเอาไว้เถอะ ไม่นานคงจะได้ใช้แล้ว”

“เจ้าค่ะ ฝูกงกง” อาหลัวเองก็รู้ความ นางหันไปสั่งคนของตนให้เร่งไปแจ้งคนต้มน้ำให้เตรียมนำน้ำมาได้แล้ว

ด้านฝูกงกงนั้น ก็เดินตรงไปตรวจความเรียบร้อยของฉลองพระองค์ที่เตรียมมาให้องค์ไท่จื่อ ซึ่งมีนางกำนัลที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเป็นผู้ถือถาดฉลองพระองค์เอาไว้

ในขณะที่เหล่าข้ารับใช้กำลังเตรียมการรอท่ากันอย่างขะมักเขม้น คนทั้งสองในห้องหอกลับไม่เป็นเช่นนั้น

พวกเขาต่างก็นอนอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ แม้จะตื่นตั้งแต่หนึ่งเค่อก่อนแล้ว (1เค่อ=15 นาที)

“เหตุใด เจ้าตื่นแล้วยังไม่ลุกออกจากเตียงอีก หรือเจ้าอยากอยู่ใกล้ชิดกันให้นานขึ้น” โม่หลงอวี้ตรัสขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังประทับนอนอยู่ข้าง ๆ กับชายารองคนใหม่ของตน

“ทูลองค์ไท่จื่อ หม่อมฉันไม่กล้าอาจเอื้อมข้ามพระวรกายพระองค์เพคะ” นางตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงไร้เยื่อใยยิ่ง

“ความหมายของเจ้าคือเปิ่นไท่จื่อเป็นตัวเกะกะ?”

“ทรงตรัสเองนะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้พูด” โม่หลงอวี้หันไปมองใบหน้าหวานที่ยามนี้ดูไร้อารมณ์ใด ๆ

“หึ คนของจวนไท่เว่ยช่างมีความกล้าหาญนัก คืนเข้าหอเจ้าไม่อยู่รอสวามีก็ช่างเถอะ ยามตื่นมายังต่อปากต่อคำมิหยุด”

“พวกเราสกุลเฉินเป็นตระกูลนักรบย่อมต้องมีความกล้าหาญเพคะ ส่วนเรื่องที่พระองค์ตรัสว่าหม่อมฉันไม่อยู่รอสวามีนั้นไม่จริงเพคะ หม่อมฉันรอพระองค์อยู่ เพียงแต่เปลี่ยนจากนั่งรอเป็นนอนรอเท่านั้นเพคะ”

“คงมีเพียงเจ้าที่กล้าเอ่ยออกมาเช่นนี้ ไม่นึกกลัวเลยหรือว่าเปิ่นไท่จื่อจะโมโหเจ้า ไม่โปรดปรานเจ้า”

“หม่อมฉันประจบไม่เป็นเพคะ คำพูดอาจไม่หวานหูถูกพระทัยพระองค์ หากพระองค์ไม่ทรงโปรดหม่อมฉันก็เข้าใจได้และยินดียอมรับเพคะ” เฉินจินฮวากล่าวออกไปอย่างด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ความจริงแล้วนางตั้งใจและจงใจอยากให้องค์ไท่จื่อผู้นี้ไม่โปรดปรานนางเสียด้วยซ้ำ เช่นนี้แล้วนางจึงจะอยู่ที่วังบูรพาแห่งนี้อย่างเงียบสงบหน่อย ยื้อเวลาชีวิตต่อไปได้นานขึ้นอีกนิด

“มีภรรยาคนใดเป็นเช่นเจ้าบ้างไม่อยากให้สามีรักใคร่โปรดปรานเช่นนี้ หากเราปลดเจ้าออกจากตำแหน่งชายารองซะเดี๋ยวนี้เล่าเป็นอย่างไร” เขาตรัสขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งไม่พอใจ

“เช่นนั้นก็ทรงเขียนหนังสือปลดหม่อมฉันซะตอนนี้เลยเป็นอย่างไรเพคะ” เจ้าของร่างเล็กเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบิกบาน ซ้ำยังลุกขึ้นมานั่งตัวตรง จากที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงอย่างไร้อารมณ์ ยามนี้ใบหน้างามกลับประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ข้าวของสัมภาระของหม่อมฉันคงยังไม่ได้จัดเก็บเข้าที่น่าจะยังอยู่ในหีบห่อยิ่งสะดวกขนกลับไปได้อย่างง่ายดายรวดเร็ว”

พระองค์ไม่รู้ว่ายามนี้พระองค์ควรรู้สึกอย่างไรกับท่าทีของสตรีตรงหน้าของพระองค์ดี ทั้งที่เมื่อครู่พระองค์จงใจข่มขู่ว่าจะปลดนาง แต่นางกลับทำท่าทีดีใจมากที่จะต้องถูกปลดจนนัยน์ตางามของนางนั้นเป็นประกายขึ้นมาทีเดียว

“หากถูกปลดตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามา เจ้าคิดว่าจวนสกุลเฉินของเจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน เจ้าเล่ากลับบ้านเดิมไปพร้อมหนังสือปลดภรรยาไม่รู้สึกอายหรืออย่างไร”

“คนสกุลเฉินเดิมหน้าอยู่ไหนก็อยู่เช่นเดิมนั่นแหละเพคะ ส่วนหม่อมฉันค่อนข้างหน้าหนาเพคะไม่รู้สึกอับอายย่อมถือหนังสือปลดที่พระองค์มอบให้กลับจวนเป็นอย่างดีแน่เพคะ” นางเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง

โม่หลงอวี้มองรอยยิ้มของนางยามเอ่ยถึงหนังสือปลดภรรยาอย่างรู้สึกไม่ค่อยพอพระทัยนัก คราวแรกตั้งพระทัยจะทำให้นางรู้สึกกลัวแต่กลับเป็นพระองค์เองที่เหมือนกำลังถูกปั้นหัวอยู่

“ถูกข้าปลดออกไป เกรงว่าทั่วทั้งแคว้นคงจะไม่มีใครกล้าแต่งเจ้าเข้าจวนอีก”

“เช่นนั้นก็ไม่เป็นอะไรเพคะ หม่อมฉันสามารถเร้นกายกลับบ้านเก่าท่านปู่ได้ ภายหน้าหากได้พบผู้ใดที่ข้าและเขามีใจตรงกันนั่นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ พวกเราสองคนสามารถเร้นกายใช้ชีวิตร่วมกันได้แน่เพคะ”

“ดูท่าเจ้าวางแผนคิดการณ์ไกลได้ไม่เลว แต่ดูแล้วแผนที่วางเอาไว้ของเจ้าคงจะไม่ได้ใช้ เพราะข้าไม่มีทางปลดเจ้าออกไปง่าย ๆ เช่นนั้นแน่เก็บแผนของเจ้าเอาไว้ฝันเอาเถอะว่าจะได้อิสระ” พระองค์ลุกขึ้นเต็มความสูง ไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มเยาะชายารองคนใหม่ของพระองค์ครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป และเรียกให้ฝูกงกงเข้ามารับใช้

เมื่อได้ยินสิ่งที่องค์ไท่จื่อตรัส เฉินจินฮวาเหมือนถูกทำลายความหวังอันน้อยนิดจนหายไปจนหมด นางนั่งนิ่งอยู่บนเตียงใหญ่อย่างไร้อารมณ์เช่นเดิมจนกระทั่งอาหลัวเข้ามาเปิดม่านกั้นเตียงออกและประคองนางพาออกมาปรนนิบัติล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 12 ไม่เต็มใจต้อนรับได้หรือไม่

    ตอนที่ 12ไม่เต็มใจต้อนรับได้หรือไม่อาหารมื้อแรกของวัน แน่นอนว่าควรจะได้ทานอย่างเต็มที่และสงบสุข เฉินจินฮวาคิดว่านางก็จะได้ผ่อนคลายกับอาหารมื้อแรกเช่นกัน แต่กลับไม่เป็นเช่นที่คิดเมื่อยามนี้บนโต๊ะอาหารกับไม่ได้มีนางเพียงผู้เดียวแต่มีอีกหนึ่งผู้สูงศักดิ์ประทับอยู่ด้วยมิใช่ว่าเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนพระองค์เสด็จกลับตำหนักหลักไปแล้วมิใช่หรือ เหตุใดยังกลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่อีกเล่า“องค์ไท่จื่อเหตุใดพระองค์เพิ่งเสด็จไปก็เสด็จมาอีกแล้วล่ะเพคะ” เฉินจินฮวาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหมดแรง“เมื่อคืนมาไม่ทันได้ทานมื้อค่ำกับเจ้า เปิ่นไท่จื่อจึงคิดจะร่วมทานมื้อเช้ากับเจ้าเพื่อเป็นการทดแทน” โม่หลงอวี้ตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พระองค์ไม่ได้หันไปมองใบหน้าเล็กก็สามารถรับรู้ได้ว่าในยามนี้ใบหน้าของนางนั้นดูเศร้าสร้อยเพียงใดเจ้าของพระวรกายเรืองอำนาจยกยิ้มออกมาเล็กน้อย อย่างพอพระทัยกับท่าทีเหงาหงอยของชายารองคนใหม่ผู้นี้ที่กำลังถูกพระองค์กลั่นแกล้ง“พระองค์ไม่ต้องทำเช่นนี้ก็ได้เพคะ หม่อมฉันเกรงว่าอาหารที่ตำหนักทิศประจิมจะไม่ถูกพระทัยพระองค์ เชิญเสด็จกลับไปเสวยที่ตำหนักหลักจะดีกว่านะเพคะ ที่นั่นเครื่องเสวยต่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 13 เคราะห์ร้าย?

    ตอนที่ 13เคราะห์ร้าย?โม่หลงอวี้เพิ่งจะอ่านรายงานลับจบไปเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ฝูกงกงก็เร่งเข้ามาแจ้งว่าทางตำหนักทิศประจิมนั้นเกิดเรื่อง ชายาคนใหม่ของพระองค์หมดสติไปหลังจากทานโจ๊กเป๋าฮื้อที่พระองค์ให้ฝูกงกงนำไปให้ พระองค์จึงต้องเสด็จไปยังตำหนักทิศประจิมอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะกลับออกมาได้เพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้นเมื่อพระองค์มาถึงตำหนักทิศประจิมก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ท่านหมอตรวจอาการชายารองคนใหม่ของพระองค์เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“เฉินเช่อเฟยเป็นเช่นไรบ้าง เหตุใดนางทานโจ๊กเป๋าฮื้อเข้าไปแล้วจึงได้หมดสติไปเช่นนี้” โม่หลงอวี้เอ่ยถามหมอหลวงหวัง“ทูลองค์ไท่จื่อ เป็นเพราะในโจ๊กเป๋าฮื้อนั้นมีผงรากบัวเจือป่นอยู่พ่ะย่ะค่ะ พระชายารองเฉินนั้นมีอาการแพ้รากบัวอย่างรุนแรงจึงได้หมดสติไปในทันที”“โจ๊กเป๋าฮื้อจะมีผงรากบัวได้อย่างไร ฝูกงกงเจ้าเร่งให้คนไปที่โรงครัวใหญ่แล้วพาตัวหัวหน้าพ่อครัวมาให้เปิ่นไท่จื่อเดี๋ยวนี้”“พ่ะย่ะค่ะ องค์ไท่จื่อบ่าวจะเร่งส่งคนไปเดี๋ยวนี้” ฝูกงกงขานรับคำสั่ง ก่อนจะหันไปสั่งขันทีคนสนิทข้างกายให้ไปจัดการตามคำสั่งขององค์ไท่จื่อในทันที“เมื่อครู่ท่านหมอหลวงหวังกล่าวว่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 14 ความบังเอิญในความตั้งใจ

    ตอนที่ 14ความบังเอิญในความตั้งใจ“เปิ่นไท่จื่อคิดไม่ถึงว่าเฉินเช่อเฟยผู้นี้จะกล้าลงมือกับตัวเองรุนแรงเช่นนี้ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะก้าวเข้าตำหนักได้เพียงวันเดียว สตรีผู้นี้ความคิดลึกซึ้งอีกทั้งยังใจเด็ดไม่เบา” “พระองค์ตรัสเช่นนี้ทรงคิดว่าเฉินเช่อเฟยจงใจให้คนใส่ผงรากบัวที่ตนเองแพ้ลงในโจ๊ก” ฝูกงกงเอ่ย“ผู้ช่วยชุนที่เข้ามาใหม่คงจะเป็นคนของจวนไท่เว่ย ข้ารับใช้ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่คงมีไม่น้อยที่เป็นคนที่เฉินไท่เว่ยส่งเข้ามา”“ไท่จื่อพระองค์ต้องการให้หาตัวคนเหล่านั้นออกมาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” “ไม่จำเป็นต้องหาตัวออกมาให้ได้ เจ้าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติหรอกหรือที่เหล่าขุนนางพวกนั้นจะส่งคนเข้ามาคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของข้า มีคนจากขุนนางอื่นมากมายหลายสกุลแล้วเพิ่มคนจากสกุลเฉินอีกนิดหน่อยก็คงไม่ถึงกับสิ้นเปลืองข้าวปลาอาหารในตำหนักบูรพานักหรอก”โม่หลงอวี้ตรัสออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ พระพักตร์ไม่บ่งบอกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร มีเพียงพระพักตร์นิ่งเฉยที่ไม่อาจคาดเดาพระดำริในพระทัยได้เลยสกุลเฉินนั้นตลอดมาไม่เคยสนใจตำหนักบูรพา ไม่เคยมีการส่งคนเข้ามาแฝงตัวมาก่อน พระองค์พอจะคาดเดาได้ว่าที่จวนเฉินไท่เว่ยเริ่มส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 15 เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร

    ตอนที่ 15เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร“ข้าว่าเฉินเช่อเฟยที่เพิ่งเข้าตำหนักบูรพามาใหม่ คงเป็นสตรี มากแผนการแน่ เจ้าคิดเหมือนกันหรือไม่หมิงเช่อเฟย” สวีเช่อเฟย หรือสวีฟางซินเป็นผู้เอ่ยถามขึ้น ตั้งแต่ตำหนักบูรพารับเช่อเฟยคนใหม่เข้ามานางเองก็เริ่มเกิด ความวิตกกังวลขึ้น ยามนี้ภายในใจจึงค่อนข้างร้อนรนเป็นอย่างมาก“เจ้าและข้าต่างก็ยังไม่เคยเจอนาง จะไม่เร็วไปหน่อยหรือหาก จะตัดสินนางทั้งที่ไม่เคยพบ” หมิงเช่อเฟยหรือหมิงเย่หานเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบ สายตาของนางยังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือเล่ม หนาในมืออย่างสนใจ“ไม่เร็วไปหรอก ยังไม่เจอตัวก็รู้แล้วว่านางต้องไม่ธรรมดา เข้า ตำหนักมาไม่กี่วันก็สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนพระทัยจากองค์ไท่จื่อ” สวีเช่อเฟยกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ ซ้ำใบหน้างามแสดง สีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง“ความสนพระทัยขององค์ไท่จื่อ ใช่ว่าเรียกร้องแล้วจะได้เสีย เมื่อไหร่กัน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีที่สุดมิใช่เหรอ ว่าหากพระองค์ไม่ทรงสน พระทัยต่อให้ใช้กี่ร้อยวิธีก็ไร้ผล” หมิงเช่อเฟยกล่าวขึ้นเสียงเรียบเช่นเดิม แต่คำพูดนี้ของนางกลับบาดลึกลงสู่หัวใจของสวีฟางซินเป็น อย่างยิ่ง เพรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 16 สามเช่อเฟยแห่งตำหนักบูรพา

    ตอนที่ 16สามเช่อเฟยแห่งตำหนักบูรพาเฉินจินฮวานั้นไม่ได้กลัวการต่อสู้ต่อหน้า นางรู้ดีว่าเมื่อก้าวเข้าตำหนักบูรพามาแล้วนั้นแม้จะอยากหลีกหนีการแย่งชิงในทุกด้านนั้นเป็นไปได้อยากและสามารถถูกวางยาพิษให้ตายได้ตลอดเวลา ฉะนั้นการส่งคนเข้ามาแฝงตัวในโรงครัวจึงเป็นสิ่งแรกที่ทำและคิดว่าตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแล้ว เพราะจะมีการฆ่าแบบไหนทำได้ง่ายและจับได้ยากอย่างการลอบสังหารโดยการวางยาพิษอีกเล่าก่อนหน้าที่ฝูกงกงจะมาหานางที่ตำหนักคนของนางได้ส่งข่าวมาแล้วว่า หวงไท่จื่อนั้นปฏิเสธสวีเช่อเฟย และสวีเช่อเฟยผู้นี้กำลังดูเหมือนจะพุ่งเป้าตั้งตัวมาเป็นศัตรูกับนางทั้ง ๆ ที่นางกับสวีเช่อเฟยยังไม่เคยพบกันเลยสักครั้ง นางก็ถูกมองว่าเป็นศัตรูไปเสียแล้วเช่อเฟยทั้งสองก่อนหน้านางนั้น มีหมิงเช่อเฟย และสวีเช่อเฟย เรื่องของทั้งสองคนนี้นางรู้มาเล็กน้อยก่อนที่จะเข้ามายังตำหนักบูรพาหมิงเช่อเฟยนั้นเป็นเช่อเฟยคนแรกที่ถูกแต่งตั้งเข้ามา นางเป็นสตรีที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในเมื่อหลวง มีอุปนิสัยรักสงบ และรักในการอ่านตำราเป็นอย่างยิ่ง จากที่ได้ยินมาหมิงเช่อเฟยเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นจริงอย่างที่นางได้ยินมาหรือไม่ส่วนสวีเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 17 เตียงอุ่น  

    ตอนที่ 17เตียงอุ่นเป็นอันแน่ชัดแล้วว่าในคืนนี้องค์ไท่จื่อจะประทับค้างคืนอยู่ที่ ตำหนักของนางไม่เสด็จกลับตำหนักบรรทมส่วนพระองค์เมื่อครู่นางยังไม่ทันเอ่ยถามอย่างชัดเจน ฝูกงกงก็เป็นผู้ถาม ออกไปเสียก่อน“องค์ไท่จื่อ คืนนี้พระองค์จะทรงบรรทมที่ตำหนัก…”“เปิ่นไท่จื่อจะนอนที่นี่ เจ้าให้คนไปเตรียมน้ำเถอะข้าจะอาบน้ำก่อนค่อยเข้านอน”ฝูกงกงรับคำสั่งแล้วก็หายออกไปทันที คงจะกำลังไปสั่งการเตรียมห้องสรงน้ำให้ผู้เป็นนายตนเป็นแน่“เจ้าจะอาบน้ำด้วยหรือไม่” เขาหันไปถามเจ้าของร่างบางข้างกาย“หม่อมฉันอาบแล้วเพคะ ประเดี๋ยวให้อาหลัวนำอ่างน้ำสักอ่างมาให้ล้างเนื้อล้างตัวสักหน่อยก็พอแล้ว” นางเอ่ยตอบอย่างรู้สึกโล่งใจที่ตนเองนั้นเลือกที่จะอาบน้ำไปก่อนแล้วในช่วงเย็น“ดีแล้ว อาบน้ำยามกลางคืนอาจจะไม่ดีต่อร่างกายของเจ้า”นางได้แต่ยิ้มตอบกลับไปเพียงเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ในใจเมื่อได้ยินที่ทรงตรัสออกมาเมื่อครู่แล้วนางอยากถามสวนกลับไปว่า ‘เช่นนั้นพระองค์สรงน้ำในยามนี้ดีต่อพระวรกายเช่นนั้นหรือ’เฉินจินฮวาเลือกที่จะไม่เอ่ยออกมาอย่างที่ใจคิด นั่งมองบ่าวรับใช้สองคนหาบน้ำร้อนเข้าไปที่ห้องอาบน้ำซึ่งอยู่เยื้องออกไปกลับห้องนอนขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 18 ศัตรูหรือมิตร

    ตอนที่ 18ศัตรูหรือมิตรโม่หลงอวี้ทอดมองการกระทำของร่างบางที่พยายามหลบเลี่ยง พระองค์อย่างเต็มที่ด้วยสีพระพักตร์ไม่ยินดียินร้ายเพราะถึงอย่างไรต่อ ให้นางพยายามมากกว่านี้เป็นร้อยเป็นสิบเท่าแต่หากพระองค์ตั้งใจจะ ไม่ปล่อยให้นางรอดไปได้แล้วนั้น ไม่ว่านางจะใช้วิธีใดก็ไร้ประโยชน์ เจ้าของตำแหน่งหวงไท่จื่อผู้สูงศักดิ์ประทับลงนอนในเวลา ต่อมา ลำแขนแกร่งเอื้อมไปโอบเอวเล็กของร่างบางที่นอนอยู่ห่างจาก พระองค์ให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนพระองค์ภายในการดึงครั้งเดียว“องค์…ไท่จื่อ” เฉินจินฮวาเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก เมื่อครู่ ยามที่ถูกดึงเข้ามาในอ้อมกอดแกร่งนางที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็รู้สึกตกใจ เป็นอย่างมากจนเกือบจะเผลอร้องออกมา“เปิ่นไท่จื่อทำเจ้าตกใจเช่นนั้นหรือ”เจ้าของน้ำเสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยถามนางขึ้นอย่างแผ่วเบา เป็นเพราะยามนี้นางถูกโอบกอดจากทางด้านหลังทำให้ในตอนนี้ต้นคอของนางอยู่ใกล้กับพระโอษฐ์ขององค์ไท่จื่อเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่เขาเอ่ยออกมาพระโอษฐ์งามได้รูปก็มักจะสัมผัสถูกต้นคอของนางเล็กน้อยทำเอานางต้องคอยหดต้นคอหนีอยู่หลายครั้ง“ไม่ทันได้ตั้งตัว จึงตกใจนิดหน่อยเพคะ” นางเอ่ยตอบกลับไป ยามนี้นางถูกโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 19 แสดงความจริงใจ

    ตอนที่ 19 แสดงความจริงใจหลังจากที่นางเอ่ยออกไปว่านางมีคนที่รักอยู่แล้ว บรรยากาศที่ศาลารับลมก็เงียบลงในทันที“เรื่องเช่นนี้เอ่ยออกมาเล่น ๆ ไม่ได้นะ” สวีเช่อเฟยเอ่ยขึ้น พลางมองมาที่นาง“โชคดีที่มีแต่คนสนิท ไม่เช่นนั้นเรื่องที่เฉินเช่อเฟยพูดมาเมื่อครู่ไม่นานคงรู้กันทั้งวังบูรพาแล้ว” เป็นหมิงเช่อเฟยที่เอ่ยขึ้น หลังจากที่มองสำรวจรอบข้างอย่างดีแล้วก็เห็นเพียงสาวใช้คนสนิทของพวกนางเพียงสามคนเท่านั้น“หากข้าไม่พูดความจริงออกมา พวกท่านทั้งสองจะเชื่อได้ อย่างไรว่าข้าไม่คิดจะแย่งชิงความโปรดปรานจริง ๆ พวกท่านทั้งสองแท้จริงแล้วพวกเราแต่งเข้ามาในตำหนักบูรพาแห่งนี้โดยไม่อาจเลือกได้เลย หากขัดราชโองการมีความผิดต้องโทษทั้งตระกูล หมิงเช่อเฟยข้าขอถามท่านหน่อยว่ายามท่านแต่งเข้ามาในตำหนักมีความคิดเช่นไรอยู่ในหัวของท่านเป็นอันดับแรก”“ข้าคิดว่าในตำหนักบูรพาแห่งนี้คงจะมีตำราหนังสือหายากมากมายให้ข้าได้อ่าน”“สวีเช่อเฟยท่านเล่าคิดสิ่งใดเป็นสิ่งแรกยามที่แต่งเข้ามาในตำหนัก” เฉินจินฮวาหันไปถามสวีเช่อเฟยต่อ“เหตุใดข้าต้องบอกเจ้า” สวีเช่อเฟยเอ่ยเสียแข็ง“สวีเช่อเฟยไม่ตอบคำถามข้าก็ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะเอ่ยบอกคำตอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ วังหลวงอันสุขสงบในปีที่สามหลังจากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ทรงมีราชโองการให้ยกเลิกการคัดเลือกพระสนม โดยทรงให้เหตุผลต่อเหล่าขุนนางในราชสำนักว่าการคัดเลือกพระสนมและการมีพระสนมมากเกินไปจะเป็นการสิ้นเปลืองอีกทั้งพระองค์อยากตั้งใจบริหารบ้านเมืองมากกว่าสนใจเรื่องของสตรีมากมายในวังหลังแม้เหล่าขุนนางส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ทรงต้องการยกเลิกการคัดเลือกพระสนมแต่ไม่สามารถขัดต่อฮ่องเต้ได้ เพราะเรื่องผู้สืบทอดสายเลือดมังกรยามนี้ก็ทรงมีองค์ชายถึงสองพระองค์ และองค์หญิงหนึ่งพระองค์ที่ประสูติจากพระครรภ์ของฮองเฮา ถือเป็นสายพระโลหิตสายตรงที่ล้ำค่าวังหลังยามนี้นอกจากพระสนมในฮ่องเต้องค์ก่อนที่อยู่ภายใต้การดูแลของฉุนหวงกุ้ยไท่เฟย แล้วนั้นสนมในฮ่องเต้โม่หลงอวี้ก็นับแล้วไม่เกินหกคนชิงอีจินฮองเฮา จากสกุลเฉินหมิงกุ้ยเฟย จากสกุลหมิง (หมิงเช่อเฟย)สวีผิน จากสกุลสวี (สวีเช่อเฟย)มู่กุ้ยเหริน ฉวีกุ้ยเหริน (หรูจื่อจากตำหนักบูรพา)หม่าฉางจ้าย อี้ฉางจ้าย (หรูจื่อจากตำหนักบูรพา)สตรีอื่นในวังแม้จะอยู่ในสถานะพระสนมของฝ่าบาทแต่ผู้ที่ได้รับใช้พระองค์จริง ๆ กลับมีเพียงเฉินฮองเฮาเท่านั

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 54 ทุกอย่างคลี่คลาย (จบ)

    ตอนที่ 54 ทุกอย่างคลี่คลาย หนึ่งเดือนผ่านไปเรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายแล้ว องค์ไท่จื่อเล่า เรื่องราวทั้งหมดให้นางฟังรวมไปถึงจุดจบของเฮ่อหลินจือและเฮ่อหลูเค่อ รวมไปถึงหัวหน้าเผ่าต้าเหอที่ท่านพ่อของนางเป็นคนไปจัดการ เผ่าต้าเหอตอนนี้กลายมาเป็นพื้นที่ครอบครองของแคว้นเป่ยซี เต็มตัวแล้ว ยามนี้รอแต่งตั้งอ๋องเพื่อไปปกครองเมื่อ ระหว่างรอฝ่าบาทพิจารณาผู้ที่เหมาะสมท่านพ่อของนางจะเป็นผู้ดูแลความสงบที่นั่นไปก่อนหมิงเช่อเฟยตั้งแต่องค์ไท่จื่อให้เสด็จออกไปยังที่ปลอดภัยก็ยัง แวะท่องเที่ยวไม่ยอมกลับมาเสียที อาจูที่ติดตามไปด้วยก็พลอยยังไม่ได้กลับมาด้วยกันส่วนสวีเช่อเฟยนั้นเคยเก็บตัวเงียบอยู่ในตำหนักอย่างไรก็เป็น เช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลงส่วนตัวนางเองก็ได้เปิดใจกับองค์ไท่จื่อไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฝันบอกเหตุหรือคำทำนายที่ได้รับ และเหตุผลว่าทำไม นางถึงไม่อยากจะมีครรภ์กับพระองค์ในเวลานั้นพระองค์รับฟังนางทุกเรื่องอย่างไม่เร่งรัดสรุปตัดความ ทรง เปิดใจให้นางได้เปิดเผยทุกอย่างในใจมีเรื่องหนึ่งที่นางถึงขั้นอึ้งหนักไปเลยนั่นคือเรื่องของนักพรต ลู่อวี้แห่งอารามโต้เทียน“ดูเหมือนนักพรตลู่อวี้ที่ชายารักกล

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 53  เป็นไปตามแผน

    ตอนที่ 53 เป็นไปตามแผนวันนี้คือวันที่ถูกกำหนดเอาไว้ให้ทำการใหญ่ องค์ไท่จื่อและเฮ่อหลูเค่อรวมไปถึงหน่วยกล้าตายมากฝีมือลอบเข้าวังหลวงได้อย่างง่ายดาย เป็นเพราะองค์ไท่จื่อได้ผลัดเปลี่ยนเวรยามภายในวังหลวงก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้วในที่สุดก็สามารถเข้ามาถึงห้องทรงอักษรของฮ่องเต้โม่หลงเซียวได้อย่างง่ายดาย ตามทางที่มีเหล่าขันทีและนางกำนัลเฝ้าอยู่ตอนนี้มีเพียงแค่ร่างที่ไม่รู้สึกตัวนอนหมดสติอยู่ตามพื้นเช่นเดียวกันกับเหล่าองครักษ์ประจำวังหลวง“องค์ไท่จื่อลงมือได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ต้องเสียทั้งแรงและเวลาไปเปล่า ๆ” เฮ่อหลูเค่อเอ่ยขึ้นหลังจากถอดผ้าคลุมหน้าของตนออกเมื่อเข้ามาถึงห้องทรงพระอักษรด้านในแล้วหน่วยกล้าตายถูกสั่งให้เฝ้าอยู่ด้านนอกห้าคน และตามเขากับองค์ไท่จื่อเข้ามาอีกห้าคน“สิ่งที่ข้าลงมือทำด้วยตัวเองแน่นอนว่าย่อมต้องไร้ที่ติ” ไท่จื่อหนุ่มกล่าวก่อนจะเป็นผู้เปิดประตูบานสุดท้ายที่จะนำพาพระองค์ไปหาผู้เป็นเสด็จพ่อของพระองค์ที่ทรงประทับอยู่ห้องด้านในเมื่อประตูบานสุดท้ายเปิดออกก็พบกับผู้เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยซีทรงประทับอยู่บนแท่นพระที่นั่งด้วยท่าทีทรงอำนาจ สายพระเนตรทอดมองเหล่าผู้มาใหม่ด้ว

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 52 กำจัดเสี้ยนหนาม  

    ตอนที่ 52กำจัดเสี้ยนหนามตอนนี้ไม่ว่าเรื่องใดที่เกิดขึ้นภายในตำหนักบูรพาก็ไม่มีสิ่งใดที่เฮ่อหลินจือไม่รู้ เรื่องที่อี้กงกงขันทีคนสนิทของฝ่าบาทมาทำไมที่ตำหนักบูรพาก็เช่นเดียวกันนางรู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆ ที่สตรีแซ่เฉินผู้นั้นกำลังตกอยู่ในความมืดมิด เช่นนั้นหากนางจะเป็นผู้ช่วยปลดปล่อยสตรีแซ่เฉินผู้นั้นให้ได้พบเจอกับความสงบตลอดไปจะดีแค่ไหนกันนะ“น่าน่านักฆ่าที่เราเรียกใช้ได้ตอนนี้มีอยู่เท่าไร่หรือ”“ราว ๆ เกือบสามสิบคนเจ้าค่ะ”“จำนวนไม่น้อยเลยนี้ มากเพียงพอที่จะกำลังสตรีนางหนึ่ง ไม่สิมากเกินไปด้วยกระมัง” นางเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี“น่าน่ารับคำสั่งข้าเรียกให้นักฆ่าทั้งหมดที่เรามีตามไปกำลังสตรีแซ่เฉินผู้อวดดีให้ข้า” หญิงสาวเอ่ยสั่งออกมาเสียงเย็นรถม้าคันใหญ่เร่งมุ่งหน้าลงใต้ด้วยความเร็ว ยามนี้แม้รถม้าจะเร็วเพียงใดแต่จิตใจของคนในรถม้ากลับเร็วกว่าใจของพวกเขาลอยไปถึงหุบเขาทางใต้ที่ท่านพ่ออยู่นานแล้ว“ท่านแม่ ท่านพี่เป็นแม่ทัพกล้าเสมอมา กี่ร้อยสนามรบไม่ว่าเล็กใหญ่ล้วนผ่านมาได้ ครั้งนี้ท่านพ่อก็จะต้องรอดชีวิตได้อีกแน่” เฉินฟูหมิงเอ่ยบอกท่านแม่ที่อยู่ในอ้อมกอดของตนในยามนี้“แต่อี้กงกงกล่าวว่าพ่อเจ้

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 51 เรื่องราวในอดีต

    ตอนที่ 51เรื่องราวในอดีต ทั่วทั้งวังหลวงไม่มีผู้ใดไม่ได้ยินเรื่องที่ฝ่าบาททรงกริ้วองค์ไท่จื่อหนักถึงขั้นต่อว่าอย่างรุนแรงในระหว่างการประชุมราชการในช่วงเช้าที่ผ่านมาต่อหน้าขุนนางทั้งราชสำนักภายในวังหลวงมีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าแท้จริงแล้วองค์ไท่จื่อกับฝ่าบาทต่างก็มีความเนินห่างกันอยู่ องค์ไท่จื่อโม่หลงอวี้ผู้นี้หัวรั้นจนเกินไปจนมักจะเกิดการโต้แย้งกันอยู่เสมอฟังจากที่เหล่าข้ารับใช้ในวังหลวงเล่าต่อกันมาว่าหากองค์ไท่จื่อไม่ได้เป็นพระโอรสองค์โตที่ประสูติแก่ฮองเฮาพระองค์ก่อนที่ด่วนสิ้นพระชนม์ไปฝ่าบาทก็คงไม่ทรงไว้หน้าไท่จื่อผู้นี้แล้วก็คงมีรับสั่งให้ปลดออกจากตำแหน่งหวงไท่จื่อนานแล้วภายในวังหลวงและเหล่าขุนนางต่างแอบพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่บางอย่างลับ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผู้ใดจะกล้าผู้ออกมาอย่างเปิดเผย แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าขุนนางก็เริ่มคิดแผนการเอาไว้หลายทางมากขึ้นเผื่อว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ พวกเขาอาจต้องเลือกระหว่างองค์ชายรองและองค์ชายสาม แน่นอนว่าองค์ชายรองซึ่งเกิดจากพระสนมชิงเฟยดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกแรกที่ถูกนึกถึงแต่ถึงแม้หากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งหวงไท่จื่ออ

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 50 ใจจริงของเจ้า

    ตอนที่ 50ใจจริงของเจ้าสามวันสามคืนแล้วที่องค์ไท่จื่อไม่ได้เสด็จมาหานางที่ตำหนักทิศประจิม อีกทั้งไม่มีฝูกงกงหรือผู้ใดมาแจ้งเลยว่าเหตุใดถึงไม่ทรงเสด็จมาซึ่งผิดไปจากปกติเป็นอย่างมากเพราะพระองค์ไม่เคยไม่เสด็จมาหานางนานถึงเพียงนี้นางไม่ได้ให้อาจูไปสอบถามที่ตำหนักหลักตรงๆ เพราะกลัวที่จะเสียหน้าจึงได้สั่งให้อาจูไปแอบสืบจากองครักษ์เฝ้าประตูเงียบ ๆ ถึงได้ความมาว่าองค์ไท่จื่อเสด็จกลับมาที่ตำหนักบูรพาทุกวัน เพียงแต่เสด็จวังหลวงแต่เช้ากว่าเดิม และเสด็จกลับมาดึกด้วยทุกคืนช่วงนี้อาจจะทรง ทรงงานหนักมากจนไม่มีเวลา แต่อย่างไรเฉินจินฮวาก็มั่นใจว่าต่อให้จะดึกแค่ไหนหรือว่านางจะหลับไปแล้วอย่างไรพระองค์ก็จะเสด็จมาหานางอยู่ดี ต่อให้ไม่ได้เจอนางยามตื่นก็คงจะต้องแวะมาแกล้งนางยามหลับนางทำให้พระองค์โกรธเคืองหรือก็ไม่น่าเป็นไปได้ คืนก่อนที่แวะมาเสวยมื้อค่ำที่ตำหนักของนางก็ทรงไม่มีท่าทีแปลก ๆ หรือไม่สบ อารมณ์ใด ๆ เลย เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะทรงโกรธเคืองนางฉะนั้นอาจจะเป็นเพราะทรงยุ่งเท่านั้นล่ะ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่า พระองค์ไม่เสด็จมาหานางควรจะดีใจหรือเปล่า นางหวังให้เป็นเช่นนี้ มาตลอดมิใช่หรือแล้วเวลานี้ม

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 49 สุมไฟ

    ตอนที่ 49สุมไฟโม่หลงอวี้กว่าจะกลับถึงตำหนักบูรพาฟ้าก็ใกล้จะมืดเต็มที่แล้ว พระองค์เสด็จไปยังตำหนักทรงอักษรส่วนพระองค์ทันทีที่กลับมาถึง เมื่อทรงเข้ามาในตำหนักทรงอักษรแล้วก็มีรับสั่งไม่ให้ผู้ใดรบกวน“ลู่เหยียน” สิ้นเสียงเรียกเพียงครั้งเดียวองครักษ์หนุ่มก็ออกมาจากเงามืดทันที เขามาหยุดอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นนายเหนือหัวก่อนจะก้มลงคุกเข่า“องค์ไท่จื่อ”“เปิ่นไท่จื่อสั่งให้เจ้าคอยจับตาตำหนักหรดีเอาไว้ได้ความว่าอย่างไร”“ทูลองค์ไท่จื่อ หลังจากพระองค์เสด็จออกไปจากตำหนักบูรพาไม่นานเฮ่อเช่อเฟยก็ไปที่ตำหนักทิศประจิมพ่ะย่ะค่ะ”“หลังจากนั้นเล่า” ทรงตรัสถามต่อ“เช่อเฟยทั้งสองสนทนากันครู่หนึ่ง ก่อนที่ฮูหยินรองแม่ทัพมู่จะมาพบเฉินเช่อเฟย เฮ่อเช่อเฟยถึงได้แยกกลับตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”“พวกนางเพียงพูดคุยกันเท่านั้นหรือ”“เริ่มแรกสนทนากันอย่างเป็นมิตรอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมลอบฟังได้เล็กน้อยก็รู้สึกเหมือนมีสิ่งใดผิดปกติจึงได้ตามไปดู การสนทนาหลังจากนั้นจึงไม่ทราบเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมต้องขอประทานอภัยด้วย”“นอกจากตำหนักทิศประจิมแล้ว เฮ่อเช่อเฟยได้ไปอีกสองตำหนักอีกหรือไม่”“ไม่พ่ะย่ะค่ะ”“ลู่เหยียน จงรับคำสั่ง” ไ

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 48 ตำหนักหรดี

    ตอนที่ 48ตำหนักหรดีน้ำแกงผักตุ๋นกระดูกหมูอ่อนดูเหมือนวันนี้จะไม่ได้นำไปถวายองค์ไท่จื่อแล้ว เพราะเหตุใดน่ะหรือ ก็เพราะว่าคืนนี้องค์ไท่จื่อทรงจะยุ่งมากเป็นพิเศษทั้งคืน“อาหลัวเจ้านำน้ำแกงตุ๋นส่งไปที่ตำหนักพายัพแทนก็แล้วกัน” นางเอ่ยสั่งสาวใช้คนสนิทของตน“คุณหนูตั้งใจทำถวายองค์ไท่จื่อมิใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดจริงให้นำไปส่งให้หมิงเช่อเฟยแทนเล่าเจ้าคะ” อาหลัวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ น้ำนั่นแกงที่นางอุตส่าห์เคี่ยวอยู่กว่าสองชั่วยามเชี่ยวนะ“ฝ่าบาทเพิ่งมีราชโองการแต่งตั้งเช่อเฟยคนใหม่ เฮ่อเช่อเฟย เจ้าไม่ได้ยินที่เสี่ยวหม่ากงกงมาแจ้งข่าวเมื่อครู่หรือว่าฤกษ์ส่งตัวของนางก็คือคืนนี้”“ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่ข้าน้อยสามารถนำน้ำแกงตุ๋นของคุณหนูไปถวายให้แก่องค์ไท่จื่อที่ตำหนักหลักได้นะเจ้าคะ คุณหนูให้ข้าไปเถอะเจ้าค่ะ น้ำแกงนี่ท่านอุตส่าห์ตั้งใจทำถวายองค์ไท่จื่อ”“ทำเช่นเจ้าว่าได้ที่ไหนกันอาหลัว ผู้ใดรู้เข้าจะคิดว่าข้าคิดเรียกร้องความสนใจจากองค์ไท่จื่อขัดขวางพระองค์ไม่ให้เสด็จตำหนักหรดีของเช่อเฟยคนใหม่ เจ้าทำตามข้าบอกส่งน้ำแกงนั้นไปให้หมิงเช่อเฟยแทน”“เจ้าค่ะคุณหนู” อาหลัวจำต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายตน นำน

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 47 องค์หญิงเฮ่อหลินจือ

    ตอนที่ 47องค์หญิงเฮ่อหลินจือณ วังหลวงแคว้นเป่ยซี ภายในห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้โม่หลงเซียว ยามนี้องค์ไท่จื่อโม่หลงอวี้กำลังเดินหมากอยู่กับเสด็จพ่ออีกทั้งพระองค์กำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ด้วย “คณะทูตจากเผ่าต้าเหอจะอยู่ที่เมืองหลวงอีกหลายวัน เจ้ารองทำการดูแลคณะทูตได้ดีไม่มีสิ่งใดเกิดปัญญา”“หน้าที่ดูแลคณะทูตจากต่างแดนเหมาะสมกับน้องรองมาก หากมีทูตมาจากที่อื่นลูกก็เชื่อว่าเขาจะจัดการได้ดียิ่งขึ้นไปอีก” ไท่จื่อหนุ่มเอ่ยขึ้นสนับสนุนผู้เป็นน้องชายตน ถึงแม้ภายนอกน้องรองของพระองค์จะดูช่างพูดจนน่ารำคาญอยู่บ้างแต่ก็เหมาะกับตำแหน่งต้อนรับทูตดี อีกทั้งเวลาทำงานก็ตั้งใจดีไม่น้อย“พ่อก็คิดเช่นเดียวกับเจ้า ภายหน้าเจ้ารองกับเจ้าสามจะช่วยแบ่งเบางานเจ้าได้มาก”“พ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่องที่พ่อยังต้องบอกและปรึกษาเจ้า” ทรงตรัสขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เรื่องใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” พระองค์วางมือจากหมากในมือลง แล้วหันไปสนใจเสด็จพ่อของตนด้วยสีหน้าจริงจังไม่แพ้กัน“หัวหน้าเผ่าส่งสาส์นมาถึงจ้า ต้องการให้องค์หญิงบุญธรรมเฮ่อหลินจือแต่งกับเจ้า”“กระหม่อมของปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ” โม่หลงอวี้ตอกกลับออกมาทันทีโดยไม่ต้องคิด“เพร

DMCA.com Protection Status