หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาร่ายรัก / Chapter  40.   กลับมาเป็นคนเดิม

แชร์

Chapter  40.   กลับมาเป็นคนเดิม

ผู้แต่ง: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56

“อยู่ในอ้อมกอดข้า ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้น ข้าเพียงแต่ช่วยเจ้ามิให้ทหารยามเห็นเจ้าก็เท่านั้น”

“ขอบพระทัยที่ช่วยเหลือเพคะ”

ทำบ่อยละซิ! ชิ! นางเม้มปากกัดกลืนคำพูดที่คิดไว้ลงท้องเสียหมดสิ้น

“ข้างนอกอากาศเย็น เข้าไปในตำหนักเถิด” เขายอมถอยให้ก่อน แต่ไหนแต่ไรนางมักเอาอกเอาใจเขาเสมอ ตั้งแต่พบหน้ากัน ได้รู้ฐานะที่แท้จริงของอีกฝ่าย ยังมิได้พูดจากันดีๆ สักคราเดียว

“พระองค์รู้ว่าหม่อมฉันจะมาหรือเพคะ” นางถามอย่างแปลกใจ มองไหล่ซ้ายที่มือใหญ่ประคองให้ก้าวเดินไปข้างหน้า “หม่อมฉันเดินเองได้ มิต้องลำบากพระองค์ประคองให้เช่นนี้ก็ได้”

บุรุษหนุ่มเผยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่มิยอมปล่อยให้หญิงสาวเดินเองตามลำพังตามที่นางร้องขอ

“เมื่อคราวที่ดวงตาของข้าพร่าเลือน ข้าก็ห้ามมิให้เจ้าประคองข้า แล้วเจ้ายอมทำตามที่ข้าขอหรือไม่”

“ตะ...ตอนนั้น...มัน...มันไม่เหมือนตอนนี้นี่เพคะ” นางเถียงตะกุกตะกัก

หญิงสาวยอมเดินเข้ามาในตำหนักอย่างว่าง่าย ด้วยไม่รู้ว่า

จะทำอย่างไรดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดแค่ว่าจะเอายาสมานแผลมาแอบวางไว้ให้เขา แต่เมื่อถูกจับได้แล้ว นางก็เป็นอันทำสิ่งใดไม่ถูก ไท่หยางพาหญิงสาวเข้ามาในห้องทรงอักษรที่เขาทำงานอยู่และแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 41. ข้ารู้

    “ไยตอนที่เราพบกันเจ้ามิเคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ข้ารู้”“ไม่สำคัญอันใด ข้าก็มิได้โกหกอะไรท่าน ข้าก็บอกท่านแล้วว่าข้าอยู่จวนแม่ทัพจ้าว” หญิงสาวไหวไหล่ “ท่านจะเห็นข้าเป็นคนเลี้ยงม้าหรือบ่าวไพร่ก็หาใช่เรื่องที่ข้าใส่ใจ ทีท่านเองก็มิเคยบอกข้าว่าท่านเป็นใคร”“น้ำเสียงเจ้าเหมือนเคืองข้าอยู่นะ”“เปล่าเสียหน่อย ท่านคิดไปเอง” นางแย้มยิ้ม ราวกับเด็กน้อย “ไหนๆ ข้าก็ทำนิ้วท่านเจ็บ ข้าเขียนแผนที่ให้ท่านใหม่ก็แล้วกัน เส้นทางบ้างเส้นเป็นความลับทางการทหาร แต่ในฐานะที่ท่านเป็นองค์ชาย ข้าคงเปิดเผยได้ไม่ผิดกฏอะไร”นางนั่งลงแล้วพับแขนเสื้อขึ้น หยิบพู่กันแล้วจุ่มหมึกวาดเส้นทางใหม่ลงบนกระดาษ“ได้ยินว่าท่านเตรียมเรื่องที่จะไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ข้าจะเขียนแผนที่เส้นทางลัดให้จะย่นเวลาได้หนึ่งหรือสองวันเลยทีเดียว”ไท่หยางนั่งลงเคียงข้างเคอหลิ่งหลิน ข้อมือที่จับพู่กันตวัดพลิ้วไปมาปรากฏเส้นทางที่เข้าใจได้ง่าย แม้จะมองเพียงเสี้ยวหน้าแต่ก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง“เรื่องแต่งโคลงกลอนหรือเขียนภาพข้าไม่ถนัด แต่ถ้าเป็นเรื่องแผนที่ข้าชำนาญนัก” นางพูดอวดตัวแต่กลับหัวเราะอย่างร่าเริง“ข้ามักเดินทางคนเดียว แฝงตัวกับช

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 42. จุมพิต

    “เจ้าจะปีนป่ายต้นไม้กลับไปหรือไรกัน” ถามคล้ายไม่ต้องการคำตอบ น้ำเสียงยากจะคาดเดาว่าห่วงใยหรือขบขัน ทำให้เคอหลิ่งหลินยืนหลังตรงใบหน้าหวานเชิดหน้าขึ้นวางมาดเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ขึ้นมาทันที ใช่ซิ! นางเหมือนลิงค่างในป่านักนี่! จะไปน่ารักงดงามอย่างแม่นางเจี้ยนเหิงเยว่ได้เล่า!“ดึกมากแล้ว หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ”“ก็ข้าบอกว่าจะไปส่งไง” ไท่หยางหัวเราะในลำคอ นิสัยนางเหมือนเด็กนัก เปิดเผย ใสซื่อ และนางคือความสบายใจทุกครั้งคราวที่พบหน้า ในวังหลวงก็มิต่างอะไรจากสนามรบ รู้หน้ามิรู้ใจ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแต่อาจซ่อนคมมีดไว้พร้อมจะปลิดชีพกัน แม้จะร่วมสายเลือดกันก็ตามเคอหลิ่งหลินอ้าปากจะโต้เถียง แต่กลัวถูกปิดปากด้วยปากของเขาอีก นางจึงปิดปากแน่น ปรายตาไปที่มุมหนึ่งของห้อง แล้วนิ้วเรียวชี้ไปทิศทางที่องครักษ์ร่างใหญ่ยืนซ่อนตัวในเงามืดอยู่“ถ้าพระองค์ทรงเมตตา ก็ให้องครักษ์ของพระองค์ไปส่งหม่อมฉันเถิดเพคะ”ไยนางชอบโยนเผือกร้อนใส่เขาเสียจริง ต้าซื่อได้แต่สูดลมหายใจลึกก่อนก้าวเท้าออกมาเพื่อรอรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย ใบหน้าที่สุขุมอยู่เป็นนิจปรากฏความไม่พอใจขึ้นเล็กน้อย แต่เอาเถิด ถ้านางขอ เขาก็ต้องให้จะได้รู

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 43. เพียงหวังว่า

    เคอหลิ่งหลินนึกถึงสายตาของเจี้ยนเหิงเยว่ที่มองนางอย่างไม่ชอบใจนัก ทั้งที่นางเองก็มิรู้ว่าเคยทำสิ่งใดให้นางไม่พอใจมาก่อนหรือไม่ แต่นางไม่เคยเจอเจี้ยนเหิงเยว่มาก่อนนี่นา คนเราจะไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่ครั้งแรกเชียวรึ หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนไม่สนใจชุนเอ๋อร์ที่พยายามดึงให้นางลุกขึ้นนั่ง“คุณหนู! ลุกขึ้นจากที่นอนเดี๋ยวนี้นะเจ้าคะ”“ขอข้าหลับสักงีบเถอะ แล้วข้าจะยอมให้เจ้าแต่งตัวข้าเป็นตุ๊กตาเลยล่ะ”หญิงสาวหลับตาลง เพราะใครกันที่ทำให้นางนอนไม่หลับจนต้องนั่งเขียนแผนที่ถึงเช้าอย่างนี้เล่า ถ้าเข้ามาก่อกวนในความฝันของนางด้วยละก็...นางจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุดเลย แต่ถ้านางฝันถึงเขาจริง นางจะไปทำอะไรเขาได้ นั้นองค์ชายไท่หยาง พระโอรสพระองค์โตขององค์ฮ่องเต้เชียวนะ แล้วนางล่ะ ก็แค่ลิงน้อยตนหนึ่งเท่านั้น‘ข้าก็เพียงหวังว่า หัวใจของเจ้าจะยังมีข้าอยู่ในนั้น’เสียงของเขาดังแว่วขึ้นมาอีกครั้ง เคอหลิ่งหลินดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง คนผู้นั้นเป็นคนเดียวกับ ‘คุณชายเฉิน’ ของนางจริงๆนะหรือ นี่นางหลงชอบคนแบบนี้ได้อย่างไรกันแน่.เคอหลิ่งหลินได้หลับเพียงครึ่งชั่วยามก็ถูกชุนเอ๋อร์จับแปลงโฉมเป็นหญิงงาม อาภรณ์สีฟ้าละมุนทำให้นาง

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 44. อย่าทำดีต่อกันนัก

    Chapter 44. อย่าทำดีต่อกันนัก“ดูนายของเจ้าซิ ยามติดตามสามีข้าออกรบ ยังมิทำหน้ากระอักกระอ่วนใจเช่นนี้”“จริงด้วยเจ้าค่ะฮูหยิน”หญิงสาวได้แต่ทำเสียงไม่พอใจในคอ สายตากวาดมองไปรอบๆ หญิงสาวแต่งกายงดงามมากมายมาร่วมดื่มน้ำชา นางแทบไม่รู้จักอะไรเลย น้ำชาก็คือน้ำชาถ้ารสไหนที่ดื่มบ่อยคุ้นลิ้นก็จำกลิ่นได้ หากมิได้ฝึกซ้อมทหารก็ต้องฝึกเพลงกระบี่ ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องแบบนี้นักดวงตาของเคอหลิ่งหลินมีแววยินดีเมื่อเห็นเจี้ยนเหิงเยว่ นางคิดว่านางยิ้มให้แล้วนะ แต่เจี้ยนเหิงเยว่กลับมองนางกลับด้วยสีหน้ามึนตึง“คนที่นี่เป็นอะไรกันนะ” เคอหลิ่งหลินพึมพำ แต่ฮูหยินอี้ซิ่วก็ได้ยินชัดทุกถ้อยคำ“ก็เป็นธรรมดา เจ้าไปแย่งชายในดวงใจของนาง จะให้นางแย้มยิ้มเบิกบานเมื่อเห็นเจ้าได้อย่างไร”“ข้าเปล่านะท่านแม่ ข้ามิเคยทำอะไรเช่นนั้น” นางตกใจนัก เรื่องแบบนี้ นางจะทำได้อย่างไรกัน หากนางรู้ว่าองค์ชายไท่หยางมีคนที่จะแต่งงานด้วย นางจะมิเข้าใกล้หรือวุ่นวายเลย“อย่าคิดมากหลินเอ๋อร์” ฮูหยินอี้ซิ่วหัวเราะ “เจ้าออกตัวเช่นนี้เรื่องจริงรึ นี่แม่น้อยใจนัก มิรู้ว่าเจ้ากับองค์ชายสนิทสนมกันเมื่อใด”“ท่านแม่ อย่าพูดเรื่องนี้เลย ข้าก็เพิ

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 45 . เรื่องในกองทัพไม่มีอะไรน่าสนุก

    เคอหลิ่งหลิยคลี่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ท่าทางไม่ถือพระองค์ขององค์หญิงทั้งสองทำให้นางเบาใจอยู่บ้าง“เรื่องในกองทัพไม่มีอะไรสนุกสนานหรอกเพคะ” จะเล่าอะไรดี แค่หลับตาและนึกถึง นางก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้งในอากาศแล้ว“แต่ถ้าท่านหญิงติดตามแม่ทัพจ้าวออกรบจริง ก็แสดงว่าต้องมีวรยุทธแน่ๆ เช่นนั้นแล้วจะแสดงให้พวกเราชมสักหน่อยจะเป็นไรไป”หากรอยยิ้มเจี้ยนเหิงเยว่เป็นดังคมมีด คงบาดผิดจนนับไม่ถ้วน นางหวังเพียงจะได้สอบถามเรื่องผู้ที่นำไข่มุกหมื่นราตรีมาถอนพิษให้องค์ชายไท่หยาง แต่ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเห็นที่จะยาก นางคงต้องยอมถอยให้หลายก้าวแล้วครานี้“นั้นซิๆ” องค์หญิงซิ่นฮวาองค์หญิงฟู่เหมยทรงเอ่ยแทบพร้อมกัน รบเร้าเหมือนเด็กเล็กอยากเล่นสนุก หากเป็นสถานการณ์ปกติเคอ-หลิ่งหลินคงชื่นชอบองค์หญิงทั้งสองมิน้อย แต่เวลานี้นางมิอาจทำอะไรได้ เพราะถูกทำลายกำลังภายใน ซ้ำภายในยังบอบช้ำ ร่างกายก็ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ หากร่ายรำกระบี่ยามนี้เห็นที่จะได้กระอักเลือดออกมาอีกเป็นแน่“ต้องขออภัยองค์หญิงทั้งสอง เวลานี้ไม่สะดวกที่จะรำกระบี่ให้ชมได้” เคอหลิ่งหลินเอ่ยเสียงเบาและยิ้มน้อยๆ“ถ้าเช่นนั้นท่านหญิงทำอะไรได้บ้างเล่า” เจี้ยนเหิ

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 46. เจ้าจะเอาอะไรกับข้าอีก

    หญิงสาวอ่านท่าทางของหญิงรับใช้แล้วก็ตั้งสติ จะเป็นอะไรไป นางคงไม่อยู่ที่นี่ทั้งชีวิตหรอกใบหน้าหวานค่อยๆ คลี่ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก จะว่าไปนางก็เลียนแบบการยิ้มของเจี้ยนเหิงเยว่ สตรีในวังหลวงนี่ลำบากนัก จะยิ้มให้เต็มปากก็มิได้ ต้องค่อยๆ ยิ้มที่ละนิด หรือไม่ก็ต้องถือพัดกลมไว้ปิดใบหน้า“พวกเราแค่ขอให้แม่นางหลิ่งหลินร่ายรำกระบี่ให้ชมแค่นั้นเองนะเพคะพี่ชายใหญ่” องค์หญิงฟู่เหมยพูดเสียงอ่อน“เห็นทีจะมิได้เพคะองค์หญิงทั้งสอง” ฮูหยินอี้ซิ่วเห็นลูกสาวเอาแต่นิ่งเงียบไป “ตอนนี้สภาพร่างกายไม่สู้แข็งแรงนัก หลายเดือนก่อนนางได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ็บหนักปางตาย หม่อมฉันเที่ยวไหว้พระแทบทุกวัดเพื่อขอพรให้นางตื่นฟื้น”“ท่านแม่!” เคอหลิ่งหลินรีบเรียกไว้ แต่ดูเหมือนจะช้าไป เพราะนางรู้สึกถึงสายตาคมกริบที่จ้องมองมาทางนาง หญิงสาวจึงได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาคู่นั้น“บาดเจ็บสาหัส?” องค์ชายไท่หยางทวนสิ่งที่ตนได้ยิน“หม่อมฉันสบายดีแล้วเพคะ” นางรีบชิงออกตัว ไม่ต้องการให้เขารู้ว่านางบาดเจ็บเพราะเขา แต่ก็มิอาจเป็นคนช่วยเขาได้“นางเป็นเช่นนี้เสมอ เพื่อช่วยผู้อื่น ตนเองต้องบาดเจ็บปางตายอย่างไรไม่สนใจ อยู่ในสนามรบก็เช่นกัน นางกิ

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 47. บอกมา

    “เจ้ายังมิได้หลับเลยหรือ”“ได้หลับเพคะ”“ถ้าเช่นนั้นเจ้าเอาเวลาที่ไหนมาเขียนแผนที่ให้ข้า?”“ก็...” เพราะปลายนิ้วที่เชยคางนางอยู่ทำให้นางไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน ยิ่งรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดอยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้สมองของนางสับสนวุ่นวนนัก“หลินเอ๋อร์”“เพราะท่านทำให้หม่อมฉันนอนไม่หลับ จนต้องลุกมานั่งเขียนแผนที่ให้” องค์ชายไท่หยางเผยรอยยิ้มออกมา นางพูดเร็วรัวเสียจนเหมือนคนหอบหายใจ เขากลับยินดีที่เป็นต้นเหตุในนางนอนไม่หลับ แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจคือ...“เมื่อครู่ข้าคุยกับฮูหยินแล้ว” น้ำเสียงเจือความเคร่งเครียดจนยากเกิดคาดเดา “ไยเจ้าบาดเจ็บช่วงเวลาเดียวกับข้า”นางอึกอักไม่กล้าเอ่ยความจริง ที่ผ่านมานางช่วยคุณชายเฉินด้วยความเต็มใจ มิคิดได้สิ่งใดตอบแทน แม้นางจะแอบชอบเขาอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่ต้องการให้การที่นางบาดเจ็บมาเป็นเหตุผลหรือข้ออ้างให้รู้สึกติดค้างหรือต้องตอบแทนบุญคุณกัน แม้ร่างสูงจะยืนนิ่งแต่เคอหลิ่งหลินกลับรู้สึกเหมือนเขากำลังรุกคืบคลานเข้ามาใกล้จนต้องถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว“หลินเอ๋อร์” น้ำเสียงที่เรียกนั้นอ่อนลง จับข้อมือเล็กนั้นไว้ก่อนที่นางจะหลบหนี“หม่อนฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเพคะ”“เจ้าไม่สบ

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 48. ความจริง

    “เราเป็นหญิงเหมือนกัน เรื่องแค่นี้ไยจะไม่เข้าใจ ถ้าเจ้าได้แต่งตัวงดงามจับตาเช่นนี้ มีหรือชายใดจะกล้าเมินเฉย” “คุณหนูคิดอย่างนั้นหรือเจ้าคะ” นางเป็นบ่าว มิกล้าคิดไปไกล แต่เพราะคุณหนูของนางจริงใจกับนางเสมอ นางจึงโอนอ่อนไปกับคำพูดหว่านล้อมของคุณหนู “ก็จริงซิ ถ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดเจ้าก็ลองใส่ชุดนี้ดูก่อนได้ รูปร่างเจ้ากับข้าพอๆ กัน เจ้าใส่ได้อยู่แล้ว ลองใส่ดูเถิดจะได้รู้ว่าตัวเองงดงามแค่ไหน” “แต่ว่านี่ของคุณหนู บ่าวมิกล้า” “ใส่อยู่ในห้องนี้จะเป็นไรไป” นางคะยันคะยอแล้วชุนเอ๋อร์ก็ใจอ่อน เพราะนางเองก็อยากลองใส่เสื้อผ้างดงามเช่นนี้ดูบ้าง “ถ้าเช่นนั้น บ่าวเปลี่ยนในห้องนี้เลยนะเจ้าคะ” “ฮืม ในห้องนี้แหละ จะได้ถอดคืนให้ข้าไง” “เจ้าค่ะ” ชุนเอ๋อร์เดินไปตรงฉากกั้น ถอดเสื้อผ้าที่ตนสวมอยู่พาดที่ฉากแล้วสวมอาภรณ์งดงามที่ตนเองใฝ่ฝันจะได้ใส่สักคราในชีวิต เนื้อผ้านุ่มเบาต่างจากผ้าเนื้อหยาบที่นางเคยสวม แม้อยู่จวนแม่ทัพจ้าวจะมิได้อดอยากอะไร แต่นางก็อยู่อย่างเจียมตัวว่าตนเป็นเพียงบ่าว มือเรียวทาบบนเนื

บทล่าสุด

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 90 จบ.

    นางจึงให้กินยาบำรุงไป ส่วนคนอื่นก็เจ็บป่วยตามประสาโรคของผู้หญิงจึงมิกล้าเอ่ยปากพูดไป พอเห็นนางเป็นหญิงจึงแทบจะเรียกว่ารุมล้อม จากที่คิดจะเสร็จเร็วจึงใช้เวลาไปมากกว่าที่คิด “อ้อ! ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อไปส่งเจ้านะ” คณิกานางหนึ่งเอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้ เชิญตัวนางมารักษา ต้องมีคนไปส่งนางกลับ เหตุเพราะท่านหมอหญิงผู้นี้ ฝีมือเก่งกาจนัก ทว่ากลับมักจะหลงทิศหลงทางบ่อยๆ “อืม” นางได้แต่พยักหน้ารับ กำลังง่วนกับการเก็บสัมภาระ มือบางก็ถูกยื้อไว้แล้วกำไลหยกวงหนึ่งก็ถูกวางใส่ฝ่ามือของนาง “เห็นว่าเจ้าไม่รับเงิน เจ้าก็เอาสิ่งนี้ไปแทนเถิด หากจำเป็นเจ้าจะขายหรือทำอย่างไรก็ย่อมได้” “ไม่เป็นไรเจ้าคะ เรื่องเล็กน้อยจริงๆ” มู่ฟางเหนียงปฏิเสธแต่อีกฝ่ายยืนกรานนางจึงรับไว้ เสี่ยวเอ้อเดินมารับมู่ฟางเหนียง หญิงสาวกล่าวลาแล้วเดินออกมา ทว่าเมื่อเดินผ่านห้องๆ หนึ่ง นางกลับเห็นเงาร่างที่คุ้นตา ยิ่งเมื่อเพ่งตามองผ่านช่องประตูกลับเห็นชายผู้นั้นชัดเจน เขานั่งดื่มสุราอย่างเมามาย “ท่านรองแม่ทัพ” มู่ฟางเหนียงร้องอย่างตกใจ นางรีบผลักบานประตูเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจว่าใครจะร้องห้าม “นี่ๆ ใครให้เจ้าเข้ามา” คณิกานางหนึ่งโวยว

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 89.  โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผา 3

    “มิคิดว่าโรงเตี๊ยมเล็กๆ จะมีสุราเลิศรสอย่างนี้” พูดพลางชิมอาหาร “อาหารรสชาติก็ใช้ได้ อีกหน่อยคงโด่งดังมิแพ้โรงเตี๊ยมอื่น” “เป็นอย่างไรล่ะ ผลงานของข้า” นางอวดขึ้นมาทันที “ว่าแต่ท่านรู้ได้อย่างไร ข้าอุตส่าห์แอบเก็บเป็นความลับ ตั้งใจว่าให้โรงเตี๊ยมเข้าที่เข้าทางกว่านี้อีกหน่อยค่อยบอกท่าน” “เจ้าออกจากวังอย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้” องค์ชายไท่หยางส่ายหน้าไปมา ยังดีที่นางบอกใครต่อใครว่าแต่งงานแล้ว มิใช่ทำตัวเป็นสาวน้อย นางคงไม่รู้ตัวว่านับวันนางยิ่งดูเปล่งปลั่งงดงามขึ้นมากกว่าเดิมนัก “ท่านหมอมู่มา เจ้าได้ให้ท่านหมอตรวจร่างกายบ้างหรือไม่” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เขารู้เรื่องที่ท่านหมอมู่กับบุตรสาวมาเมืองหลวงในช่วงที่เขาไปราชการต่างเมืองพอดี“ข้าให้น้องฟางเหนียงตรวจแล้ว” นางแย้มยิ้ม “นางเขียนใบสั่งยา เป็นยาบำรุงร่างกาย ร่างกายข้าขับพิษออกไปเกือบหมดแล้ว บำรุงตัวเองอีกนิดก็พร้อมมีทายาทให้ท่านได้”เพราะนางบาดเจ็บในครั้งนั้น แม้กำลังภายในจะกลับคืนแต่ร่างกายก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มทีนัก“ข้าห่วงเจ้ามากกว่า เรื่องนั้น ข้ารอได้” เขาแตะหลังมือนาง “สามีไม่โกรธภรรยานะ ข้าแค่อยากช่วยเหลือคนเหล่านี้” นางเคย

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 88.  โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผา 2

    เสี่ยวหลิวกับอาปู้-ลูกชายวัยสิบขวบและอาเหลียง-ลูกสาววัยเจ็ดขวบ รวมถึงคนเฒ่าคนแก่หลายคนที่นางเคยเจอที่ศาลเจ้าร้างเมื่อครั้งที่แอบย่องหนีออกจากวังมาตามหาหัตถ์เทวะ คราแรกนางคิดแค่ว่าอยากมาดูว่าพวกเขายังอยู่ที่นี่หรืออพยพไปแล้ว แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าทุกคนยังอยู่ คนไหนที่พอแข็งแรงหน่อยก็ออกไปหาทำงานรับจ้างทั่วๆ ไป พอได้มีข้าวสารมาจุนเจือคนอื่น จากที่คิดว่าจะหาบ้านให้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งพอคุยกันไปกันมาก็กลายเป็นโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งนี้ “คนพอใช้งานหรือเปล่า เมื่อครู่ข้าเห็นอาปู้ยกอาหารส่งลูกค้า” เคอหลิ่งหลินถามอย่างเป็นห่วง เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายวัยสิบขวบ เพื่อนวัยเดียวกันวิ่งเล่นสนุกสนาน แต่เขากลับต้องทำงานหนัก ครั้งแรกที่เจอกันเขาผายผอมมากแต่ตอนนี้เริ่มมีเนื้อมีหนัง ยามว่างนางก็ให้เขาฝึกหัดเพลงมวยขั้นพื้นฐาน คิดอยู่ว่าจะหาทางให้อาปู้ได้ร่ำเรียนหนังสือหนังหาจะได้มีความรู้และมาช่วยดูแลคนอื่นๆ ได้ “ร้านเพิ่งเปิดค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า อย่าเพิ่งรีบร้อนเลยเจ้าคะ” เสี่ยวหลิวพูดขึ้น “อีกหน่อยอาปู้ต้องไปเรียนหนังสือจะไม่มีคนช่วยงานนะซิ” เคอหลิ่งหลินถอน

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 87.  โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผา 1   

    “ก็ได้ ข้าถามใหม่ก็ได้ ท่านจะกลับเมืองหลวงเมื่อไหร่” นางถามทั้งที่ยังเคี้ยวขนมอยู่ “ข้ามาหลายวันแล้ว พรุ่งนี้ได้กำหนดกลับ ยังคิดอยู่ว่าจะได้เจอเจ้าหรือไม่” “โชคดีที่ได้พบกันก่อนท่านจะไป” นางพึมพำ “ระหว่างที่ท่านไม่อยู่ ข้าจะแวะเวียนไปดูแลแม่นมเหมยให้ท่านก็แล้วกัน” ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ยังเอร็ดอร่อยกับขนมในตะกร้า แม่นมเหมยดูแลเขาอยู่หลายปีตั้งแต่อยู่เมืองหลวง เมื่ออายุมากขึ้นจึงขอกลับมาอยู่บ้านเดิม เมื่อเขาเดินทางมาพักฟื้นรักษาร่างกายจึงได้พบกับแม่นมเหมยอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ใช่เด็กน้อยแล้วแต่แม่นมเหมยก็ยังคอยทำขนมของกินอร่อยๆ ให้เขาเสมอ ที่ไหนๆ ก็มีบ่อน้ำพุร้อน ทว่าแต่ละที่ที่เคยไป เขามักเบื่อหน่ายกับสตรีมากหน้าหลายตาที่พยายามเข้ามาทำให้ชีวีตคนใกล้ตายอย่างเขาวุ่นวายนัก ร่างกายของเขาอ่อนแอตั้งแต่กำเนิดจะตายวันตายพรุ่งมิอาจรู้ แต่เมื่อมาที่นี่ตามคำเชื้อเชิญของเหวินเฮ่าหลัน กลับได้พบหญิงสาวนิสัยตรงไปตรงมาผู้นี้ นางตรงเสียจนพูดต่อหน้าว่าชอบเขา แต่กลับไม่ได้วุ่นวายในชีวิตเขาเหมือนผู้หญิงคนอื่น ไปๆ มาๆ เขากลับรู้สึกชอบมองผู้หญิงที่ย

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 86 . ได้ยินว่า

    “แต่คุณหนูเพิ่งเข้ามานะคะ” “ข้าจะพาเมฆเหินไปแช่น้ำร้อน มันอ่อนเพลียมาก” นางบอกไปตามตรง “แต่นายท่านทั้งสองรอคุณหนูอยู่นะเจ้าคะ” “ก็ไปรายงานอย่างที่ข้าบอกนั้นแหละ” หญิงสาวยืนยัน และเมื่อได้เสื้อผ้าเนื้อหยาบแบบสาวชาวบ้านแล้วก็รีบผลัดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ชุนเอ๋อร์รีบสางผมและเกล้าขึ้นให้คุณหนูใจร้อนของตนเอง ยามอยู่ในชุดทหารนางดูเคร่งขรึมไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ แต่เมื่อถอดเกราะออกแล้ว นางก็เป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและซุกซนราวเด็กน้อย หากคุณหนูของนางแต่งกายงดงามเหมือนคุณหนูบ้านอื่นละก็ นางก็งดงามไม่แพ้หญิงใดเลยทีเดียว ร่างเพรียวยกมือขึ้นแตะแก้มชุนเอ๋อร์หยอกล้อเหมือนทุกครั้ง “ข้าไปนะ เดี๋ยวมา” “คุณหนู” ทำได้แค่เรียก แต่คุณหนูของนางก็กระโจนออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับกับหายตัวได้อย่างไรอย่างนั้น ทำให้คนรับใช้อย่างนางต้องแบกภาระไปรายงานท่านแม่ทัพและฮูหยิน เคอหลิ่งหลินแอบย่องเข้าไปในห้องครัวได้หมั่นโถวมาสองลูกแล้วเดินกัดกินอย่างไม่กังวลเรื่องกิริยามารยาทแล้วเดินมาทางคอกม้า เมฆเหินเห็นนางก็ยกหัวสะบัดไปมาคล้ายจะบ่นที

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 85 จบแล้วสินะ

    หญิงสาวอดคิดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้ นางเองก็ไม่รู้หรอกว่า โม่ชิงถงถูกหมอกหลอนประสาทไปเห็นภาพอะไรจึงได้ปลิดชีพตนเช่นนั้น แต่นางเข้าใจลวดลายดอกไม้แดงที่ปรากฏแผ่นหลังของนางนั้น เป็นการเผยค่ายกลและที่ซ่อนกระบี่ผงาดฟ้า นางขอร้องให้เหวินเฮ่าหลันหาช่างทำลายดอกไม้แดงบนแผ่นหนังให้เพื่อเก็บไว้ยามจำเป็น เพราะนางจะไม่สำแดงดอกไม้ให้ผู้ใดเห็นอีกนอกจากชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางองค์ชายไท่หยางยื่นมือไปดึงร่างบางมานั่งบนตัก กอดรัดนางไว้ดื่มด่ำความอบอุ่นที่ละลายความโดดเดี่ยวในใจของเขาที่เกาะกุมอยู่เนิ่นนาน ‘ทายาทหญิงรุ่นต่อไปเมื่ออายุครบยี่สิบปีดอกไม้แดงจะปรากฏ แม้การปรากฏตัวของดอกไม้แดงจะนำความเจ็บปวดมาให้เจ้าของ ทว่าเมื่อเหยื่อพรหมจรรย์ถูกทำลายความเจ็บปวดนั้นก็มลายไปด้วย เพราะหมายความว่านางจะยอมเสียพรหมจรรย์กับชายคนที่นางรักและเชื่อใจ’เขาไม่ได้เล่าเรื่องที่สอบถามท่านนักพรตหญิง ปล่อยให้นางเข้าใจไปเถิด เขาจะเก็บความลับรอยสักดอกไม้แดงไว้เอง มือเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้และเอียงคอมองเขาด้วยกิริยาน่ารักจนอีกฝ่ายต้องขมวดคิ้ว“ท่านรู้แล้วอย่าแสร้งทำไม่เป็นรู้ซิ” นางทำท่าแง่งอนออกมา“หาเรื่องไปเที่ย

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 84.  ส่งท้าย

    ใครเลยจะคาดคิดว่าบุตรสาวบุญธรรมของแม่ทัพจ้าวซื่อก่วงและฮูหยินอี้ซิ่วจะถูกตาต้องใจองค์ชายไท่หยาง หลังจากเสร็จงานดูแลราษฏรผู้ประสบอุทกภัยได้เดือนเศษ ทางวังหลวงก็ส่งเกี้ยวมารับเจ้าสาวอย่างสมเกียรติ จ้าวหลิ่งหลินหรือเคอหลิ่งหลิน แม้อยู่ในกองทัพจะแลดูดุดันและใบหน้าเรียบนิ่งอยู่เสมอ ทว่าเมื่อมีข่าวมงคลเช่นนี้ เหล่าทหารที่เคยร่วมรบก็อดดีใจมิได้ แน่ชัดแล้วว่านางเป็นที่รักของทุกคนแม้จะโดนนางเคี่ยวกรำฝึกฝนหนักมืออยู่บ้าง กลายเป็นเรื่องเล่าของผู้คนไปทั่ว คราวนั้นนางติดตามฮูหยินอี้ซิ่วเข้าวังหลวง เพียงการพบหน้าครั้งแรก พรหมลิขิตก็บันดาลให้ องค์ชายไท่หยางถึงกับตกหลุมรักบุตรสาวบุญธรรมของแม่ทัพจ้าวเข้าให้จนถอนตัวมิขึ้น บุรุษผู้มีใบหน้าอ่อนโยนแสสุขภาพอ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิด กลับหลงรักหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นมือขวาของจ้าวจิ่นสือ บุตรชายของแม่ทัพจ้าวซื่อก่วง องค์ชายไท่หยางขอจัดงานอภิเษกอย่างเรียบง่ายแต่กระนั้นองค์ฮ่องเต้ก็ทรงพระราชทานงานเลี้ยงให้อย่างสมเกียรติ จ้าวหลิ่งหลินขอให้มีการเลี้ยงอาหารแจกทานให้คนยากไร้แทนการมอบของขวัญให้นาง นำพาซึ่งเสียงสรรเสริญแก่คนทั้งสอง ว

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 83. นางยิ่งงดงามเปล่งปลั่งขึ้นเหลือเกิน

    “ข้าโง่งมนักมิรู้จะทำอย่างไรให้ท่านเชื่อใจข้าได้” นางใช้ปลายจมูกถูกไถแผงอกเขาอย่างหยอกล้อ “แล้วท่านมาหาข้าได้อย่างไรกัน” “ก็ใช้สิทธิ์ขององค์ชายขี้โรคหลบออกมาตามหาเจ้าไงล่ะ” องค์ชายไท่หยางจับมือข้างหนึ่งของนางมากุมไว้แล้วยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตน “เป็นข้าที่ทำให้ท่านเสียการเสียงาน” นางรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าอีกแล้ว “ใช่...แต่จ้าวจิ่นสือก็บัญชาการได้อย่างดี ทุกอย่างราบรื่น ข้ามิอยู่ตรงนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอก” เขาเริ่มแทะเล็มปลายนิ้วที่ละนิ้วของนาง “เห็นทีข้าต้องไปส่งเจ้าถึงจวนแม่ทัพจ้าวเสียแล้ว” “ข้าไม่อยากเป็นตัวปัญหาของท่าน” นางหายใจติดขัดกับลิ้นชื้นที่ไล้เลียปลายนิ้วของนางอยู่ “หลินเอ๋อร์” เขาเรียกนางด้วยน้ำเสียงรักใคร่ “ข้าควรคุยกับเจ้าให้รู้เข้าใจเสียที” “หือ?” นางช้อนตาขึ้นมอง เห็นแววตาชวนให้หัวใจไหวสั่นแต่ก็ไม่อาจหลบดวงตาคมคู่นี้ได้“อย่างที่เจ้ารู้ ข้าอ่อนแอมาแต่เกิด มิอาจคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้ได้ ดังนั้นจึงใช้ชีวิตไปในแต่ละวัน จนเมื่อเจ้าเข้ามาพร้อมไข่มุกหมื่นราตรี ข้าได้มีหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป” เขานิ่

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 82. ลงทัณฑ์

    คนผู้นี้ยามโกรธก็น่ากลัวเหลือเกิน จะขยับร่างกายหนีแต่เตียงก็ไม่ได้กว้างสักเท่าใด เคอหลิ่งหลินทำได้เพียงเบือนหน้าหนีเพราะต้องการตั้งหลักเตรียมรับมือกับโทสะของเขาที่นางเป็นผู้ก่อ ทว่ามือใหญ่กลับยื่นมาจับปลายคางของนางให้หันมามองเขา เห็นเขาอ้าปากจะพูด นางก็ชิงพูดออกมา“ข้าขอโทษๆ ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว” เคอหลิ่งหลิงจำใจทำใจกล้าสบตากับดวงตาคู่คมของเขา นางรู้ว่าตนเองทำผิดไป แต่นางตั้งสติได้จะถามว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ก็กลายเป็นริมฝีปากของเขาก็จู่โจมนางอย่างไม่ทันตั้งตัว “อุ๊บ!” ร่างสูงโถมเข้าใส่ปิดปากนางด้วยจุมพิตรุนแรง บดขยี้และขบเม้มริมฝีปากนางจนนางรู้สึกเจ็บ มือเรียวยกดันแผงอกเขาเป็นการประท้วงการลงทัณฑ์อันแสนร้ายกาจของเขา หัวใจชายหนุ่มร้อนระอุ ทั้งห่วงหาอาทร ปวดร้าวใจยิ่งนัก หากไม่เอะใจกับข่าวที่เหวินเฮ่าหลันส่งมากับนกพิราบสื่อสารแล้วละก็ เขาคงควบม้าเร็วตามมาไม่ทันช่วยนางเป็นแน่ มิรู้ว่าเกิดสิ่งใดกับนางบ้าง เขามาถึงเป็นจังหวะที่ร่างใหญ่ยักษ์ของโม่ชิงถงร่วงลงสู่บึงมรกต พอแหงนหน้าขึ้นไปก็เห็นร่างของหญิงสา

DMCA.com Protection Status