แชร์

Chapter  92. แล้วอย่างไร

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 00:02:54

จ้าวจิ่นสือรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมอง เขาตวัดสายตาดุดันจ้องกลับ ต่อให้เป็นผู้หญิงเขาก็ไม่สน หากใครคิดจะทำร้ายผู้หญิงของเขา คนผู้นั้นได้เจอดีแน่!

“ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว” นางพึมพำบอกเขา เพียงเพราะอยากไปให้พ้นจากตรงนี้

“ได้ เจ้าได้เสื้อผ้าที่ต้องการหรือยัง” เขาถามแล้วมองไปยังเสื้อผ้าที่นางเลือกไว้

“ยังเลย ข้าตัดใจไม่ได้ คิดว่าจะซื้อแค่สองสามชุดก็พอ” การชวนคุยของเขาทำให้นางคลายความประหม่าลง

“แล้วอย่างไร เจ้าชอบตัวไหนก็เอาไปสิ” เขาทำหน้าดุใส่นาง เรียกเด็กในร้านที่ยืนคอยอยู่ใกล้ๆ มา “เสื้อผ้าที่นางเลือกมีกี่ชุดเอาไปให้หมด แล้วส่งกลับไปที่จวนแม่ทัพ”

“ขอรับคุณชายจ้าว”

“นี่!” นางห้ามเขาไม่ทันแล้ว เห็นเด็กๆ มาช่วยกันขนเสื้อผ้าไปราวกับกลัวลูกค้าจะเปลี่ยนใจ นางก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้

“อย่าคิดมาก” เขาจิ้มหน้าผากนางเบาๆ ขำท่าทีมักน้อยของนางนัก “ไปหาที่นั่งดื่มน้ำชา เจ้าจะได้พักสักครู่ด้วย”

“ไม่แล้ว ข้าอยากกลับบ้าน” นางส่ายหน้าไปมา แล้วก็นึกได้ว่าพลั้งปากเรียกจวนแม่ทัพจ้าวว่า ‘บ้าน’ ออกไป

“ได้ งั้นเรากลับบ้านกัน”

หัวใจของจ้าวจิ่นสือพองโตจนคับอก แค่ความรู้สึกที่นางยอมรับเขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   93. เบิกตากว้าง

    “ได้” “เอ๋?” นางเบิกตากว้างอย่างงุนงง “ทำไม ก็เจ้าอยากไป ข้าก็จะพาไป ขืนปล่อยให้เจ้าแอบติดตามไป ข้าก็เป็นกังวลจนทำงานการไม่ได้นะสิ เอาเจ้าไว้ข้างกายข้าน่าจะดีที่สุด” “อ้ะ!” นางร้องอย่างตกใจ “ท่านไปด้วยรึ!” “เป็นข้าที่คุมพลทหารไปในครั้งนี้” เขากระตุกยิ้มร้ายกาจออกมา “เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน อีกสองวันจะเดินทางแล้ว แต่ถ้าร่างกายของเจ้าไม่ไหวก็พักผ่อนที่นี่เถิด” “ไม่ๆ ข้าจะไปด้วย” นางเหมือนเด็กถูกจับได้ว่าจะทำผิด ถึงไม่อยากอยู่ข้างกายเขา แต่นางอยากติดตามบิดาไปด้วย อยู่ที่นี่วันๆ นางคงได้แต่นั่งๆ นอนๆ เป็นแน่ “ดี” เขากวาดมือออกไปหมายจะโอบร่างนางไว้ในอ้อมอก แต่นางกลับขยับเท้าถอยหลัง อารามตกใจจึงไม่ทันระวังตัวว่าตนเองยืนอยู่ริมสระบัว เท้าที่เหยียบพื้นดินอ่อนนุ่มทำให้นางเสียหลักจะหงายหลัง แต่จ้าวจิ่นสือยื่นมือไปจับแขนของนาง กระตุกร่างบางเข้ามาซุกซบที่อกได้อย่างหวุดหวิด “ฟางเหนียง” เขาระบายลมหายใจออกทางปาก แล้วลูบแผ่นหลังของนาง “เดินทางครั้งนี้เห็นทีข้าต้องล่ามเจ้าตัวติดกับข้าเสียแล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  94. ข้าไม่ไว้ใจเจ้า

    หญิงสาวเผลอยิ้มแล้วเดินไปเอนตัวลงบนที่นอน วางปิ่นไว้ข้างหมอนอย่างระวังกลัวจะนอนทับ แต่กระนั้นนางก็อดคิดถึงใบหน้าของเขาไม่ได้ ‘ฟางเหนียง’ จะเป็นอะไรไหม? ถ้านางบอกว่าชอบเวลาที่เขาเรียกนางอย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นคู่สามีภรรยาธรรมดาคู่หนึ่ง ชอบยามที่เขากอดนางไว้ราวกับของล้ำค่า เพราะความเหนื่อยอ่อน นางหลับไปอย่างรวดเร็ว และหลับลึกจนไม่รู้ว่าหน้าต่างห้องของนางถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย ร่างสูงกระโดดเข้ามาอย่างเงียบเชียบราวกับสายลมพัดผ่าน แม้ในความมืด เขาก็เห็นใบหน้าอ่อนโยนของนางมีรอยยิ้ม และสิ่งที่ทำให้เขายิ้มกว้างก็คือนางเอาปิ่นที่เขาซื้อให้มาวางข้างหมอน เขาเลิกม่านมุ้ง ยื่นมือไปหยิบปิ่นวางบนโต๊ะ แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอน เพราะไออุ่นที่คุ้นเคย ทำให้นางไม่ผลักไส ขยับศีรษะเข้าซุกกับแผงอกอุ่นเช่นที่เคยทำมาตลอดการเดินทางไกล เขากอดนางไว้ รับเอากลิ่นหอมละมุนของนางเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจของเขา แล้วจ้าวจิ่นสือก็ตระหนักได้ว่า เขาปรารถนาสุดจิตสุดใจที่จะมีนางไว้ในอ้อมกอดอย่างนี้ ทุกวัน ทุกคืน ตลอดไป และต้องเป็นนางเพียงคนเดียวเท่านั้น.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  95. ท่านรังแกข้า

    “ก็ข้าเป็นห่วงเจ้า กลัวผิดที่ผิดทางแล้วเจ้าจะนอนไม่หลับ ไม่คิดว่าพอหัวเจ้าถึงหมอนก็ผล็อยหลับไปทันที” นางเบ้ปากแล้วแสร้งมองไปทางอื่น “ท่านนี่ใจดีกับแขกที่มาเยือนแบบนี้ทุกคนรึ”“ก็ต้องดูก่อนว่าเป็นใคร” น้ำเสียงราบเรียบเหมือนจะยั่วเย้านางอยู่ในที เมื่อสายตาปรับกับความมืดได้แล้ว เขาก็ยิ้มกริ่มที่เห็นดวงตานางเคืองโกรธ เขายื่นหน้าไปขบริมฝีปากล่างของนางอย่างห้ามใจไม่อยู่ ตลอดคืนเห็นนางหลับสบายก็ไม่อยากปลุก นางเหมือนดอกไม้เล็กๆ ที่เขาใช้อุ้งมือประคองไว้ ทะนุถนอมดุจของล้ำค่าที่ไม่อาจสูญเสียไปได้นางยื่นมือจะผลักเขาออก แต่มือใหญ่ประคองมือนางไว้ กลัวนางจะลืมตัวทำตัวเองเจ็บอีก คนปากไม่ตรงกับใจอย่างนาง แต่จูบทีไรก็ทำให้เคลิบเคลิ้มและอุ่นซ่านไปทั่วร่าง ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นผู้หญิงขี้หึงที่ทำตัวน่ารังเกียจอยู่ทั่วไป คิดอยู่ในใจว่าถ้าต้องเจอผู้หญิงแบบนี้คงแย่ แต่เมื่อเห็นนางหึงเขา กลับอารมณ์ดีอย่างประหลาด อยากเห็นนางหึงเขาบ่อยๆ มีนางอยู่ข้างกายเช่นนี้ เขาจะเอาสายตาที่ไหนไปเหลือบแลหญิงอื่น“อื้อ...” นางส่งเสียงประท้วง บังคับตัวเองไม่ให้เผลออ่อนไหวไปกับรสจุมพิตที่ร้อนแรงขึ้นทุกขณะของเขา “พอ..พอแล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  96. นางเป็นของลูกแล้ว

    “ไม่ต้องๆ ข้าจัดการตัวเอง ขอน้ำร้อนให้ข้า ข้าจะเช็ดตัวเสียหน่อย เมื่อคืนข้ามีไข้เหงื่อออกท่วมตัว” จัดการเช็ดตัวเองเสร็จก็อยากไปทำอาหารเช้าให้ท่านพ่อ ให้หญิงรับใช้พาไป แต่พอถึงห้องครัวก็ถูกปฏิเสธ นางถึงได้เดินหน้ามุ่ยมาตามหาเขาเช่นนี้ เห็นเขาร่ายรำเพลงกระบี่แต่เช้าตรู่ นี่เขา... ไม่เหน็ดเหนื่อยบ้างหรือไรจ้าวจิ่นสือรู้นานแล้วว่านางยืนดูเขาอยู่ แต่เห็นนางเหม่อลอยจึงยังรำกระบี่ต่อไปจนจบเพลง หางตาเห็นดอกไป๋ฉาน (ดอกพุดซ้อน) สีขาวคลี่กลีบรับน้ำค้าง เขาตวัดปลายกระบี่ตัดดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมนั่นแล้วยื่นให้นาง“ข้านึกว่าเจ้าจะตื่นสายกว่านี้” เขายิ้มกริ่มมู่ฟางเหนียงรับดอกไม้จากเขาแก้เก้อ มิใช่ครั้งแรกที่เห็นแผ่นอกของเขาเสียหน่อย แต่จะว่าไปก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นชัดๆ เพราะเวลานั้นนางหลับตาอยู่ ไม่กล้ามองเขาตรงๆโอ๊ย! แย่แล้ว! มู่ฟางเหนียงเอ๋ย! ไยเจ้าเป็นคนหมกมุ่นเรื่องกามารมณ์เช่นนี้นะ!เห็นท่าทางประหลาดของนางแล้วเขาก็อดสาวเท้าเข้าไปใกล้ไม่ได้ ยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผาก ร่างกายนางอุ่นเป็นปกติไม่ได้เป็นไข้ ที่หน้าแดงคงเพราะเรื่องก่อนฟ้าสางสินะ ก็เพราะนางนั่นแหละ อุตส่าห์ข่มใจนอนกอดได้ทั้งคืน แต่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  97.  ไม่ได้ข่มเหง

    ทุกวันนี้เขายังคิดเลยว่า ตนเองไม่ได้เก่งกาจเท่าปลายเล็บของท่านพ่อด้วยซ้ำ แม้จะพยายามสร้างผลงานมากเท่าไหร่ ก็คล้ายว่าผู้อื่นจะมองว่าที่มีทุกวันนี้เพราะอำนาจของบิดา “เจ้าลืมไปหรือไม่ พ่อเองก็เป็นคนธรรมดา ชาติตระกูลไม่ได้สูงส่ง เพียงแต่พ่อหมั่นเพียรสร้างผลงานจึงได้มีทุกวันนี้” บิดาเอ่ยย้ำอีกครั้ง “เช่นนั้นแล้วพ่อจะไปรังเกียจแม่นางมู่ทำไม ความจริงนางควรได้รับความดีความชอบไม่น้อยไปกว่าเจ้า นางช่วยรักษาคนเจ็บป่วยก่อนที่โรคประหลาดนั้นจะระบาดไปทั่วมิใช่รึ” คนเป็นลูกได้แต่สูดลมหายใจลึก ก่อนเอ่ยออกมา “นางเป็นของลูกแล้ว อย่างไรลูกก็ไม่มีทางทอดทิ้งนาง” “เรื่องนั้นพ่อมั่นใจว่าเจ้าไม่ทิ้งนาง แต่เจ้าจะให้นางอยู่ฐานะใด เจ้าถามความสมัครใจของนางแล้วรึ” สุดท้ายก็ต้องเอ่ยถามกันอย่างตรงไปตรงมา ต้องมีฐานะใดกันอีกเล่า เขาต้องการนางเพียงผู้เดียว มีนางข้างกายเขา เขาก็ไม่ปรารถนาหญิงใดอีก แม่ทัพจ้าวส่ายหน้าไปมา“นี่พ่อคิดว่าเจ้ามีความสามารถมากพอ อีกไม่กี่ปีถ้าเจ้าขยันขันแข็งหมั่นสร้างผลงาน เจ้าย่อมได้เป็นแม่ทัพใหญ่แทนพ่อได้ในไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  98.  แน่ใจ

    “ขอรับ” พ่อบ้านหมุนตัวกลับออกไป เขาสั่งเด็กรับใช้ให้เตรียมน้ำชาและของว่าง แล้วตนเองก็เดินย้อนกลับไปรายงานให้บิดาทราบ พ่อบ้านพาองครักษ์หน้าตาดุดันเข้ามา เขาประสานมือคารวะแม่ทัพจ้าวและคุณชาย“ข้าน้อยต้าซื่อ เป็นองครักษ์ประจำกายองค์ชายไท่หยางขอรับ” เมื่อแน่ใจแล้วว่าในห้องไม่มีผู้อื่นก็ยื่นจดหมายส่งให้แม่ทัพจ้าว แม่ทัพจ้าวคลี่กระดาษออก กวาดตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนส่งให้จ้าวจิ่นสือแล้วเอ่ยขึ้น“ตอนนี้ท่านหมอมู่พักอยู่กับข้า จริงๆ อีกวันสองวันก็จะเดินทางไปทางเมืองซูโจวอยู่แล้ว” แม่ทัพจ้าวเอ่ยออกมาก่อน การขอยืมหมอไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ยืมตัวไปรักษาคนสำคัญขององค์ชายไท่หยางนั้น เป็นเรื่องที่อดตะขิดตะขวงใจไม่ได้ หากรักษาผิดพลาดขึ้นมา ชีวิตท่านหมอมู่ ว่าที่พ่อตาของบุตรชายเขาจะเป็นอันตรายหรือไม่ “ช่วยคนรั้งรอไม่ได้ ขอท่านแม่ทัพโปรดเมตตาด้วย อีกอย่างท่านหมอมู่เคยรักษาองค์ชายไท่หยางมาก่อนแล้ว”“แท้จริงรู้จักกันมาก่อนแล้วอย่างนั้นรึ” แม่ทัพจ้าวเริ่มเบาใจ “เจ้ามาเพิ่งมาถึงเหนื่อยๆ พักสักหน่อยเถอะ รอท่านหมอมาก่อนแล้วค่อยคุยกัน เด็กๆ จัดอาหารและดูแลองครักษ์ผู้นี้ด้วย”“ขอบคุณท่านแม่ทัพจ้าว”แม่ทัพจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 99.   ทำไมเจ้ายังมีชีวิตอยู่

    “อ้าว แม่นางมู่ก็อยู่ที่นี่รึ” พ่อบ้านเดินเข้ามาในครัวแล้วทักหญิงสาว“พ่อบ้านมีอะไรกับข้าหรือเปล่า” มู่ฟางเหนียงอดถามไม่ได้“ไม่มีอะไรหรอกขอรับ” เขาส่ายหน้าไปมา แล้วหันไปสั่งแม่ครัวให้จัดเตรียมข้าวปลาส่งไปให้องครักษ์ขององค์ชายไท่หยาง“เอ่อ... ไม่ทราบว่าจิ่นสือ เอ่อ... คุณชายจ้าวอยู่หรือไม่เจ้าคะ” มู่ฟางเหนียงถามขึ้นเบาๆ น้ำเสียงมีความลังเลอยู่ ไม่รู้เขาอยู่ที่จวนหรือไปข้างนอกแล้ว“อยู่ขอรับ แม่นางมู่มีอะไรหรือไม่ หรือจะให้ข้าพาแม่นางไปพบคุณชาย...”“ไม่ๆ” นางโบกมือไปมาดูเงอะงะชอบกล “คือข้าจะรบกวนพ่อบ้านให้ยกน้ำชาสมุนไพรนี้ไปให้คุณชายจ้าว”“ได้สิ แล้วไยแม่นางมู่ไม่ยกไปให้เองล่ะ” ถ้านางไปเอง คุณชายของเขาต้องดีใจเป็นแน่“ไม่ดีกว่า” นางก้มหน้า เมื่อเช้าเขาหันหลังไม่กลับมามองนางเลยสักนิด เป็นนางที่ยืนมองเขาจนรู้สึกว่ารอบข้างว่างเปล่าแล้ว “อ้อ! จริงสิ พ่อบ้านรู้จักคนเยอะ พอจะทราบไหมว่าแถวนี้มีบ้านเช่าหลังเล็กๆ ราคาถูกๆ หรือไม่”“บ้านเช่า? เป็นผู้ใดต้องการรึ” พ่อบ้านถามอย่างแปลกใจ“เป็นข้ากับท่านพ่อเอง” นางยิ้มแต่แฝงรอยเศร้าอยู่เต็มแววตา“เกิดอะไรขึ้น พวกเราดูแลท่านสองคนพ่อลูกไม่ดีหรือไรกัน ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  100.   คิดร้าย

    “เพราะเขาชอบเจ้า จะยกเจ้าเป็นเมียเอกไงเล่า” นางกระชากผมยาวของมู่ฟางเหนียงอย่างแรง “ข้าต้องกำจัดผู้หญิงมากี่คนแล้ว เขาก็ยังเว้นตำแหน่งเมียเอกไว้ ไม่ว่าข้าจะเพียรทำดีแค่ไหน ก็ยังเป็นได้แค่อนุ! ข้าจะไม่ยอมเป็นอนุไปตลอดชีวิตหรอก! นังแพศยา นังแมวขโมย!”“หยุดเดี๋ยวนี้! จิวฉิง!”“ท่าน! ท่านกู่หลิน!”จิวฉิงง้างมือค้าง เห็นหน้าคนที่นางรักสุดจิตสุดใจมองนางด้วยสายตารังเกียจ เขาคงได้ยินหมดแล้ว ความลับที่นางเก็บมาเนิ่นนานถูกเปิดเผยก็เพราะผู้หญิงคนนี้!“เจ้าปล่อยแม่นางมู่เดี๋ยวนี้!” เศรษฐีกู่หลินได้ข่าวการกลับมาของมู่ฟางเหนียง ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมนางเสียหน่อยแต่ก็เห็นอนุของตนแอบติดตามมู่ฟางเหนียงที่ออกจากจวนแม่ทัพจ้าวเพียงลำพัง พอตามมาถึงได้ยินเรื่องที่จิวฉิงพูด เขาไม่นึกเลยว่าคนที่เขาไว้ใจ จะเป็นคนที่ร้ายกาจเพียงนี้“ปล่อยนางไปรักกับท่านรึ” จิวฉิงแหงนหน้าหัวเราะเหมือนคนเสียสติ ใช้แขนรัดรอบคอของมู่ฟางเหนียงแน่น แขนขวาทั้งแขนของนางตอนนี้ปวดจนชาไปหมด จะยกขึ้นมาป้องกันตัวเองก็ไม่ได้เลย“จิวฉิง ปล่อยนาง!” กู่หลินตวาดลั่นเดือดดาล แทบจะพุ่งเข้าไปช่วยมู่ฟางเหนียง แต่จิวฉิงกลับกดปลายแหลมของปิ่นที่ลำคอของมู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status