Home / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 32. ข้ายังไม่ได้แต่งงาน

Share

Chapter 32. ข้ายังไม่ได้แต่งงาน

last update Last Updated: 2024-11-24 10:51:31

“ข้าซุนเย่ผิงเป็นลูกสาวท่านราชครูซุนถงฉี” นางแนะนำตัว ผมยาวของนางถักเป็นเปียเส้นเล็กๆ ประดับด้วยลูกปัดหลากสี

เขาเพียงผงกศีรษะเล็กน้อย

“ขอโทษที่เสียงดังไปหน่อย” นางหัวเราะออกมา “กำลังจัดเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับท่าน”

“ลำบากท่านหญิงแล้ว”

“ลำบากที่ไหนกัน ข้าชอบเรื่องสนุกแบบนี้มาก”

‘เรื่องสนุก?’

เขาได้แต่ทวนสิ่งที่ได้ยินในใจ และไม่ถนัดพูดคุยกับสตรีเสียด้วย จึงได้แต่แย้มมุมปากยิ้มออกมา

“อ้อ! ที่นี่วุ่นวาย ท่านไปเล่นที่อื่นก่อนเถิด งานเลี้ยงเริ่มตอนเย็น ท่านค่อยเข้ามาอีกที”

“เช่นนั้น ข้าขอตัว”

ไปเล่น! นางช่างกล้าใช้คำนี้กับเขาได้นะ

จ้าวจิ่นสือหมุนตัวเดินออกมาแล้วถอนหายใจเบาๆ เด็กสาวผู้คนนั้นอายุคงสักสิบสี่หรือสิบห้ากระมัง ยังเด็กปานนั้นคงใช้คำพูดผิดไป เขาไม่อยากถือสาเอาความอะไร เพราะที่นี่เองก็ไม่ใช่ถิ่นของเขา และนางก็เป็นถึงลูกสาวท่านราชครู เขาไม่รู้ว่าที่นี่มีเบื้องหลังเบื้องลึกอันใดบ้าง หรือมีคลื่นใต้น้ำให้ต้องระวังหรือไม่ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตัดสินอะไรไปดีกว่า

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 33. ดวลยิงธนู

    ทั้งสองดวลยิงธนูอยู่เกือบสองชั่วยาม โจวฟู่หรงไม่เจอคนมีฝีมือทัดเทียมกันมานานแล้วจึงเพลิดเพลินนัก แต่คิดว่าซุนเย่ผิงคงจัดการคฤหาสน์ของเขาเรียบร้อยแล้ว หลังจากทำใจยอมว่าต้องกลับไปเจอการตบแต่งอันวิจิตรตระการตาของเย่ผิงแล้วก็ชวนจ้าวจิ่นสือกลับ ขณะยื่นธนูให้ทหารรับไปเก็บ พลันเขาก็นึกได้จึงออกคำสั่งไป “ส่งคนไปตามจินปู๋ให้มาช่วยในงานเลี้ยงด้วย” “ขอรับ!” สั่งทหารเสร็จแล้วก็ชวนจ้าวจิ่นสือกลับ ทั้งสองเหงื่อท่วมตัว คงต้องเสียเวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันหน่อยแล้ว ราวครึ่งชั่วยาม ทหารที่รับคำสั่งของหัวหน้าเผ่าก็ควบม้าไปถึงบ้านของจินปู๋ เพียงหยุดม้าก็ได้ยินเสียงกลั้นสะอื้นราวเด็กน้อยของจินปู๋ ทหารผู้นั้นถึงกับส่ายหน้า จินปู๋เป็นคนที่มีพละกำลังมากที่สุดในเผ่า แต่ก็ควบตำแหน่งคนโง่ที่สุดด้วยเช่นกัน “จินปู๋! ท่านหัวหน้าโจวให้มาตามเจ้าไปช่วยงานในคฤหาสน์!” “ขะ ข้า ข้าเหรอ” จินปู๋ที่นั่งกอดเข่าร้องไห้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าสี่เหลี่ยมแต่ดวงตาเหมือนเด็กน้อยฉ่ำน้ำตาและน้ำมูก “ใช่! รีบไปล่ะ” เขาส่ายหน้ากับภา

    Last Updated : 2024-11-24
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 34.ครุ่นคิด

    นอกจากการร่ายรำของหญิงงามในชนเผ่าแล้ว การประลองกำลังของชายหนุ่มก็เป็นความบันเทิงที่เรียกเสียงโห่ร้องจากคนที่มาร่วมงานเลี้ยง โจวฟู่หรงนั่งบนบัลลังก์อยู่เหนือผู้คน ด้านล่างที่ตำแหน่งสำคัญซ้ายขวามีคนของเขา ราชครูซุนถงฉีและบุตรสาวนั่งอยู่ด้านขวา จ้าวจิ่นสือนั่งข้างทหารคนสนิทของโจวฟู่หรง แต่ละคนล้วนร่างกายใหญ่โตท่าทางน่าเกรงขาม ทว่าเมื่อเหล้าเข้าปากไปก็เผยนิสัยคล้ายเด็กซุกซน หัวเราะเสียงดัง ใช้มือจับฉีกอาหารเข้าปาก ส่วนเขายังไม่คุ้นนัก จึงใช้ตะเกียบคีบเนื้อแพะเข้าปาก ส่วนในใจนั้นเขาพอใจอยู่หลายส่วนที่โจวฟู่หรงแนะนำเขากับผู้อื่นด้วยท่าทีเป็นกันเอง ทำให้เขาได้รู้จักคนสนิทของโจวฟู่หรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมากฝีมือทางการรบ คนเหล่านี้มองผิวเผินเหมือนคนโง่ ใช้เป็นเพียงแค่เรี่ยวแรง ทว่าจิตใจกลับเป็นหนึ่งเดียวกับโจวฟู่หรง เพียงปรายตาหรือถอนหายใจก็รับรู้ว่าผู้เป็นนายต้องการสิ่งใด แม้รูปร่างใหญ่โตแต่เคลื่อนไหวรวดเร็ว จ้าวจิ่นสือนึกถึงบิดา คนในวังหลวงมักแอบกระซิบกระซาบนินทาบิดาของเขา การเลือกใช้คนเป็นทหารแต่ละนายล้วนเป็นคนแปลกประหลาด มีอดีตที่มาไม่น่าไว้ใจ บ้างเป็นโจร บ้างเป็นขโม

    Last Updated : 2024-11-24
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 35. ถุงหอม

    “ดึกแล้ว ข้าขอตัวก่อน” “มืดค่ำแล้ว ท่านราชครูเดินระวังด้วย” จ้าวจิ่นสือก้มศีรษะลงเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าสวยของซุนเย่ผิงส่งยิ้มกว้างให้แล้วเดินตามหลังบิดาไป เขายืนมองจินปู๋อย่างประเมิน หากถูกมือใหญ่นี่บีบคอเข้าไป น่าจะยากที่จะเอาชีวิตรอดได้ ขณะที่กำลังจะกลับเข้าไปเพื่อขอตัวไปพักผ่อน โจวฟู่หรงก็เดินออกมาด้านหน้าพอดี “นึกว่าเจ้าหลบไปนอนแล้วเสียอีก” “ข้ากำลังจะไปพักผ่อนพอดี” “เช่นนั้นก็ไปเถิด ที่นี่เราอยู่กันเรียบง่าย หิวก็กิน ง่วงก็นอน ไม่ต้องมารายงานข้า แต่ถ้าถูกใจหญิงบ้านไหนก็ต้องบอกกล่าว ที่นี่เราให้เกียรติผู้หญิง ผู้หญิงมีสิทธิ์เลือกสามีของตนได้” คำพูดของโจวฟู่หรงเล่นเอาจ้าวจิ่นสือสำลักน้ำลายตัวเอง แต่ยังเก็บอาการได้ทัน “ข้ามิได้คิดเรื่องนั้น” “เอาเถอะๆ เราผู้ชายด้วยกัน เรื่องแค่นี้ไม่ต้องคิดมาก” มือใหญ่ตบไหล่จ้าวจิ่นสือ “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดอีกจึงรีบเดินออกไป โจวฟู่หรงเห็นไม่มีใครอื่นแล้วก็เรียกจินปู๋ไว้ก่อน เขาไม่ได้จะ

    Last Updated : 2024-11-24
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 36. ล่าสัตว์

    นางเพียงพยักหน้ารับแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน หากไม่เพราะว่านางได้รับความช่วยเหลือจากคนในละแวกนี้ นางคงไม่กล้าโผล่หน้าออกมานอกบ้านยามดึกเช่นนี้หรอก หญิงสาวรีบเดินเข้าไปในบ้านอย่างเบาที่สุด เกรงว่าน้าลู่อู๋จะตื่น อากาศเย็นจริงๆ เหมือนร่างกายนางจะไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศเช่นนี้โจวฟู่หรงมั่นใจแล้วว่านางจะไม่โผล่หน้าออกมาอีก ก็กระโดดขึ้นหลังม้า ยกถุงหอมขึ้นมาแตะปลายจมูก พลันเกิดรอยยิ้มที่มุมปาก เพียงแวบเดียวนางก็มองออกแล้วรึว่าเขานอนหลับไม่สนิท หากไม่อ่อนเพลียเป็นจริงเป็นจัง เขาก็ไม่ค่อยได้หลับลึกเท่าไหร่นักหากแต่คืนนี้โจวฟู่หรงกลับหลับได้อย่างสนิท ไม่ฝันและไม่ผวาตื่น เพียงแค่ถุงหอมที่นางให้มา เขายังหลับดีถึงเพียงนี้ หากได้นางไว้กกกอด จะดีเพียงใดกัน!. ขบวนล่าสัตว์ของโจวฟู่หรงออกจากคฤหาสน์แต่เช้าตรู่ ร่างงามของซุนเย่ผิงวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ก็เห็นเพียงฝุ่นแล้ว หญิงสาวยืนกระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความไม่พอใจ ร่างใหญ่ยักษ์ของจินปู๋เพิ่งโผล่มาจากด้านใน เมื่อคืนกว่างานเลี้ยงจะเลิกรา กว่าจะได้ขนย้ายข้าวของเข้าที่ก็เล่นเอาเกือบใกล้เช้า เขาจึงอาศัยหลับงีบเอาเสียที่นี่ซึ่งก็มักเป็นเช่นนี้อยู่บ่อ

    Last Updated : 2024-11-25
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 37. เจ็บจนไม่มีเสียงร้อง

    ทั้งอิงฮวากับลู่อู๋ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เพราะจินปู๋ตื่นเต้นเกินไป พานจะทำให้บ้านหลังน้อยถล่มลงมาด้วย“เจ้าต้องรีบไปตอนนี้เลยรึ เจ้าเพิ่งกลับมานะ” ลู่อู๋ถามเพราะสงสารลูกชาย แม้เขาจะพละกำลังมากแต่ก็เหมือนเด็กที่เล่นซนก็หมดแรงหลับไปดื้อๆ“ขะ ข้าไม่เหนื่อย” เขาส่ายหน้าแรงๆ “ทะ ท่าน แม่ หะ ให้ข้าไปนะ”“ดีเลย ข้าก็อยากเข้าป่าเหมือนกัน” อิงฮวาพูดขึ้น ทำให้จินปู๋ยิ้มกว้างออกมา “ท่านน้า ข้าอยากได้สมุนไพรมาเพิ่ม ช่วงนี้ข้าโดนอากาศเย็นเข้าไป เลยรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย”ลู่อู๋ได้แต่ถอนหายใจแล้วพยักหน้าอนุญาต “จินปู๋ เจ้าต้องดูแลอิงฮวาให้ดีนะ”“ขะ ขอรับ ทะ ท่านแม่”“อิงฮวา เจ้าก็สวมเสื้อคลุมเสียด้วย ร่างกายเจ้ายังไม่คุ้นกับสภาพอากาศที่นี่” นางย้ำหลายครั้ง“ข้าทราบแล้ว”จินปู๋เตรียมตะกร้าเอาไว้ใส่กระต่ายที่เขาจะไปจับมาให้ซุนเย่ผิง อิงฮวาเองก็เตรียมตะกร้าสำหรับใส่สมุนไพรรวมทั้งอาหารและน้ำดื่ม เมื่อพร้อมแล้วทั้งสองก็เดินออกมา จินปู๋หยุดยืนแล้วเอื้อมมือไปดึงหมวกเสื้อขึ้นคลุมศีรษะให้นาง“ดะ แดด ระ แรง”“ขอบใจจินปู๋” อิงฮวายิ้มให้กับความใจดีของจินปู๋ เขาทำแบบนี้ให้นางเสมอ ทั

    Last Updated : 2024-11-25
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 38. หมาป่า

    เป็นหมาป่าตัวใหญ่สีดำดวงตาแดงก่ำพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เขาเองก็ปล่อยลูกธนูออกไป ลูกธนูพุ่งเข้าเบ้าตาของหมาป่าจนมันคำรามก้องด้วยความเจ็บปวด ทว่ามันกลับไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด มันตั้งท่าแล้วกระโจนใส่อีกครั้ง เขาเสียจังหวะ ไม่ทันหยิบธนูดอกใหม่ มันก็พุ่งเข้าใส่ แม้จะกระโจนกลิ้งตัวหลบทันก็ตาม แต่เขากลับไถลลื่นลงไปใกล้สระน้ำ“ว้าย!!” อิงฮวาร้องเสียงหลง จินปู๋ไปวางกับดักดักกระต่ายอยู่อีกทาง นางเห็นมีสระน้ำซึ่งมีดอกบัวขึ้นอยู่มากมายจึงขอตัวแยกมาหวังจะเก็บบัวไปทำสมุนไพร ทว่านางกลับเห็นเพียงชายคนหนึ่งม้วนตัวลงมายืนอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของเขาดุดันและน่ากลัวจนนางเผลอหวีดร้องออกมาผู้หญิง! ไยมีผู้หญิงอยู่ในป่า ซ้ำยังเป็นเวลาล่าสัตว์ที่ติดธงสัญญาณไว้แล้ว!จ้าวจิ่นสือสบถ มองเห็นใบหน้าหญิงสาวไม่ชัดเพราะนางสวมเสื้อคลุมแบบมีหมวกคลุมศีรษะอยู่ หญิงสาวถอยหนีลนลานแต่เขาไม่มีเวลาอธิบาย ตอนกลิ้งลงมากระบอกใส่ธนูตกหล่นไป ธนูไร้ลูกศรก็ไร้ความหมาย เขาโยนมันทิ้งแล้วชักกระบี่ที่พกอยู่ออกมา หมาป่ากระหายเลือดกระโจนเข้าใส่หมายจะฝังคมเขี้ยวที่ลำคอของผู้ที่ทำมันบาดเจ็บแสนสาหัส ทว่าจ้าวจิ่นสือก็ตั้งรับ รอจังหวะที

    Last Updated : 2024-11-25
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 39 ลองคิดดีๆ นี่ข้าเอง...

    อิงฮวาหยุดกวาดสายตาแล้วจ้องที่ใบหน้าของชายผู้นี้ ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนเรียบตึง นางรู้สึก ‘คุ้นเคย’ แต่นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร “ลองคิดดีๆ สิ นี่ข้าเอง จ้าวจิ่นสือ”เขากดน้ำเสียงให้อ่อนลง เกรงจะทำให้นางตกใจอีก ดูท่าทางนางจะเจออะไรเลวร้ายทำให้เสียขวัญ ผู้หญิงที่เคยโต้เถียงเพราะเขาไปฆ่างูตัวที่นางหมายปอง เขาไม่อยากเชื่อว่าจะเห็นนางแสดงอาการหวาดผวาได้ถึงเพียงนี้ ซ้ำร้ายนางยังทำเหมือนจำเขาไม่ได้เสียอีก นางเริ่มสงบใจได้ก็กวาดสายตามองบุรุษเบื้องหน้า เขาไม่ได้มีใบหน้าดุดันเหมือนผู้ชายในเผ่าเอ้อหลุนชุน รูปร่างก็ดูจะบางกว่าสักเล็กน้อย คิ้วเรียงเป็นระเบียบ รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักสวย พลันนางกลับรู้สึกร้อนวูบในอกจนต้องเบือนหน้าไปทางอื่น “ขออภัย ข้าจำท่านไม่ได้” นางพูดตามตรง “จำไม่ได้?” จ้าวจิ่นสือผงะไปเล็กน้อย เขามั่นใจว่านางคือมู่ฟางเหนียง แต่นางกลับจำเขาไม่ได้! “นางจำอะไรไม่ได้” โจวฟู่หรงพูดแทรกขึ้น กดความหงุดหงิดไว้ในอกตั้งแต่ตอนที่จ้าวจิ่นสืออุ้มร่างที่หมดสติของนางมาพักในกระโจมของเขาแล้ว แต่เพราะจ้าวจิ่นสือไม่ยอม

    Last Updated : 2024-11-25
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 40. อยากเก็บนางไว้ใกล้ตัว

    เมื่อม้าของจ้าวจิ่นสือมาถึง เขากระโดดลงจากหลังม้าแล้ว โจวฟู่หรงก็เดินไปหา ยื่นมือไปหวังช่วยประคองหญิงสาวลงจากหลังม้า แต่จ้าวจิ่นสือกลับเร็วกว่า พอตัวเองลงจากม้าแล้วก็อุ้มนางทันที โดยที่เท้าของนางยังไม่ทันแตะพื้นดินด้วยซ้ำ การกระทำอันไม่ไว้หน้าของจ้าวจิ่นสือทำให้โจวฟู่หรงได้แต่ขบฟันกลั้นโทสะ หากไม่เห็นแก่นางผู้มอบถุงหอมให้เขาแล้วละก็ อาจเป็นเขาที่ชกหน้า ‘สหาย’ ไปแล้วก็ได้“ให้พักที่ห้องปีกซ้าย”จ้าวจิ่นสือชะงักเท้าไป แล้วค้อมศีรษะลงเล็กน้อย พานางไปห้องทางปีกซ้ายที่เจ้าของบ้านเอ่ยบอก เรือนพักของเขาอยู่ทางปีกขวา นี่คงไม่ได้เจตนาให้เขาและนางพักไกลกันคนละฟากของคฤหาสน์กระมัง พลันเขาฉุกคิดได้ว่าตนเองเป็นเพียงผู้อาศัย แต่แสดงตนประหนึ่งเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง เขาอุ้มนางไปตามทางที่คนรับใช้ผู้หนึ่งบอกทาง เมื่อถึงห้องของนางแล้วก็บรรจงวางร่างบางบนเตียงอย่างเบามือ เพียงช่วงจังหวะที่เขากำลังเงยหัวขึ้น ใบหน้าหวานก็ช้อนตามองขึ้น ดวงตาประสานกันนิ่งจนเห็นเงาในตาของกันและกัน“หมอผู้เฒ่ามาแล้ว” น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเอ่ยขึ้น ทำให้อิงฮวาเป็นฝ่ายละสายตาจากใบหน้าของเขาไปก่อน และเพราะนางก้มหน้าจึงไม่เห็นมุมป

    Last Updated : 2024-11-25

Latest chapter

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status