หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 40. อยากเก็บนางไว้ใกล้ตัว

แชร์

Chapter 40. อยากเก็บนางไว้ใกล้ตัว

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-25 20:14:28

เมื่อม้าของจ้าวจิ่นสือมาถึง เขากระโดดลงจากหลังม้าแล้ว โจวฟู่หรงก็เดินไปหา ยื่นมือไปหวังช่วยประคองหญิงสาวลงจากหลังม้า แต่จ้าวจิ่นสือกลับเร็วกว่า พอตัวเองลงจากม้าแล้วก็อุ้มนางทันที โดยที่เท้าของนางยังไม่ทันแตะพื้นดินด้วยซ้ำ การกระทำอันไม่ไว้หน้าของจ้าวจิ่นสือทำให้โจวฟู่หรงได้แต่ขบฟันกลั้นโทสะ หากไม่เห็นแก่นางผู้มอบถุงหอมให้เขาแล้วละก็ อาจเป็นเขาที่ชกหน้า ‘สหาย’ ไปแล้วก็ได้

“ให้พักที่ห้องปีกซ้าย”

จ้าวจิ่นสือชะงักเท้าไป แล้วค้อมศีรษะลงเล็กน้อย พานางไปห้องทางปีกซ้ายที่เจ้าของบ้านเอ่ยบอก เรือนพักของเขาอยู่ทางปีกขวา นี่คงไม่ได้เจตนาให้เขาและนางพักไกลกันคนละฟากของคฤหาสน์กระมัง พลันเขาฉุกคิดได้ว่าตนเองเป็นเพียงผู้อาศัย แต่แสดงตนประหนึ่งเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง เขาอุ้มนางไปตามทางที่คนรับใช้ผู้หนึ่งบอกทาง เมื่อถึงห้องของนางแล้วก็บรรจงวางร่างบางบนเตียงอย่างเบามือ เพียงช่วงจังหวะที่เขากำลังเงยหัวขึ้น ใบหน้าหวานก็ช้อนตามองขึ้น ดวงตาประสานกันนิ่งจนเห็นเงาในตาของกันและกัน

“หมอผู้เฒ่ามาแล้ว”

น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเอ่ยขึ้น ทำให้อิงฮวาเป็นฝ่ายละสายตาจากใบหน้าของเขาไปก่อน และเพราะนางก้มหน้าจึงไม่เห็นมุมป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 41.  เป็นไปได้อย่างไร

    “หากเจ้าเป็นสหายของจ้าวจิ่นสือก็เสมือนเป็นสหายของข้าด้วย เช่นนั้นข้าควรดูแลเจ้าให้ดี พักเสียที่นี่ สืบเรื่องราวทั้งหมดได้ค่อยว่ากัน”ไม่หรอก เขาแค่อยากเก็บนางไว้ใกล้ตัวก็เท่านั้นผู้ชายด้วยกันย่อมดูออก แต่จ้าวจิ่นสือไม่ได้กล่าวทักท้วงอะไร ตอนนี้ยังต้องพึ่งพาโจวฟู่หรงอยู่“ข้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด” นางรีบพูดขึ้นด้วยท่าทางร้อนรน“ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เป็นเสียงตอบของบุรุษทั้งสองที่พูดขึ้นพร้อมกัน พอรู้ตัวก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น“ท่านหมอบอกแล้วว่าเจ้าอย่าเพิ่งคิดอะไรมาก” โจวฟู่หรงพูดขึ้น“เจ้าพักผ่อนเสียก่อน ตื่นขึ้นค่อยพูดกัน”บุรุษทั้งสองเพียงแค่มองกันด้วยหางตาก็เข้าใจความหมาย เดินออกมาจากห้องนอนของนางเสีย ทิ้งให้หญิงสาวอยู่ลำพังเพื่อยืนยันว่าต้องการให้นางหลับพักผ่อนจริงๆ จ้าวจิ่นสือแสร้งยืนอยู่หน้าห้อง เพื่อรอฟังเสียงลมหายใจของนางที่เริ่มสงบคล้ายว่าเข้าสู่นิทราแล้ว แล้วเดินตามโจวฟู่หรงไปที่ห้องโถงกลางเห็นทีเขาต้องเขียนจดหมายสอบถามไปทางบ้านเกิดว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นกับพ่อลูกแซ่มู่คู่นี้. ในห้องโถงกลางของคฤหาสน์ตระกูลโจวมีกลุ่มพ่อค้ากองคาราวานที่เพิ่งกลับมาจากเมือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 42.  เป็นนางจริงๆ

    “ไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตา แต่เรื่องที่นางจดจำสมุนไพรในการรักษาโรคได้ก็ย้ำชัดว่าเป็นนางจริงๆ” จ้าวจิ่นสือยืนยัน“แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อ” ในบ้านของข้า ในที่ของข้า... ประโยคหลังไม่ได้พูดออกไป แน่นอนว่าถ้าเอ่ยปากก็จะกลายเป็นคนจิตใจคับแคบ เป็นคนป่าเถื่อนแบบที่พวกเมืองหลวงย้ำหนักหนา“ข้าจะเขียนจดหมายกลับไปที่จวนแม่ทัพจ้าวให้สืบเรื่องราวและติดตามหาพ่อของนาง หากนางและพ่อถูกคนลอบทำร้ายจริง ก็เกรงว่าการส่งนางกลับจะเป็นอันตรายกับตัวนางเอง ระหว่างนี้คงต้องรบกวนหัวหน้าโจวแล้ว”เมื่อครั้งที่นางจากมา เขาทำร้ายจิตใจนางไว้มากนัก บางทีนี่อาจเป็นเรื่องดีที่นางจำเรื่องนั้นไม่ได้ นั่นหมายความว่าเขาจะได้แก้ตัวชดใช้ความผิดในครั้งนั้น ใช่แล้ว...เขาแค่รู้สึกผิดต่อนาง ไม่ได้คิดเป็นอื่น และการปกป้องนางจากโจวฟู่หรงก็เป็นหน้าที่ของเขาด้วยโจวฟู่หรงพยักหน้ารับ นางลืมอดีตของนางไปก็ช่างปะไร อยู่กับปัจจุบันสิสำคัญกว่า นักรบอย่างเขาเชื่อมั่นว่าตนเองมองคนไม่ผิด สายตาอ่อนโยนของนางยามที่ยื่นถุงหอมให้เขานั้น ประทับในหัวใจของเขาจนยากจะลบเลือน“ให้คนไปตามปาน่ามาช่วยดูแลอิงฮวา”เขาสั่งทหารที่ยืนประจำการอยู่ใกล้ๆ โจวฟู่หร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 43. นางกับเขาเป็นอะไรกันแน่

    “ตอนนี้เจ้าต้องอยู่ที่นี่ ยังไงก็ต้องเจอข้าอยู่ดีนั่นแหละ” ปาน่าพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง“อยู่ที่นี่? ทำไมข้าต้องอยู่ที่นี่” นางส่ายหน้าไปมา “จินปู๋ล่ะ ข้าจะไปหาเขา”“จินปู๋กลับไปแล้ว” นางทำหน้าหงุดหงิดขึ้นมา “ตอนนี้ไม่มีใครอยู่หรอก หมาป่าเข้ามากินแพะของชาวบ้าน ท่านโจวออกไปดูอยู่”อิงฮวาสงบใจลงและพยักหน้ารับรู้ ถึงนางจะอยากรู้เรื่องของตนเองมากเพียงใดแต่คงไม่ใช่เวลานี้ ปาน่าเห็นหญิงสาวสงบได้ก็ยื่นเสื้อผ้าให้ ครู่ต่อมาบ่าวรับใช้ก็ยกน้ำเข้ามา“ตรงนั้นแหละ” ปาน่าชี้นิ้วสั่ง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าบ่าวรู้หน้าที่ของตัวเอง “อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย แล้วข้าจะยกอาหารมาให้”“ไม่ต้องยกมาให้ข้าก็ได้ ข้าไปกินในครัวได้นะ” “ไม่ได้หรอก ท่านโจวให้ข้าดูแลเจ้า จะปล่อยให้เจ้าไปกินข้าวในครัวได้อย่างไรกัน”“แต่ว่า...ข้าอยากช่วยอะไรบ้าง”“ถ้าอยากช่วยข้า ก็ช่วยอย่าทำให้ข้าต้องเหนื่อยหรือโดนหัวหน้าโจวดุเอา เจ้าทำตามที่ข้าบอกดีที่สุด”เมื่อโดนพูดใส่แบบนี้แล้ว นางก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ ยื่นมือรับเสื้อผ้าชุดใหม่ มือเรียวเล็กวางบนเนื้อผ้านุ่มมือ มันแตกต่างจากเสื้อผ้าที่นางสวมอยู่ “เอ้า! ไปลงอ่างอาบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 44.หลงทางอีกแล้วสินะ

    จ้าวจิ่นสืออยากเดินไปหามู่ฟางเหนียง แต่มองท้องฟ้าก็มืดค่ำแล้ว เขาอยากให้นางได้พักผ่อนมากกว่า ไม่เป็นไร อย่างไรแล้วรุ่งเช้านางต้องรีบมาหาเขาเป็นแน่ เขาเดินผ่านสวนหย่อมที่เรียบง่ายแต่แลดูชวนให้ใจสงบ มีทางเดินรูปแบบอิสระเป็นเส้นโค้งนุ่มนวลไหลเวียนไปตามจุดต่างๆ จนถึงศาลาหกเหลี่ยมที่กลางสวน สายตาของเขาปะทะกับร่างหญิงสาวในชุดประจำเผ่าเอ้อหลุนชุนสีแดงสด นางยืนกระสับกระส่ายอยู่ตามลำพัง ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้ม แม้อยู่ภายใต้แสงจันทร์ เขาก็รู้ว่าหญิงสาวผู้นั้นคือ...“ฟางเหนียง” เขาเรียกเสียงไม่ดังนักแต่ก้องกังวาน ทำให้ร่างบางสะดุ้ง เพียงจังหวะที่นางหมุนตัวกลับมา เขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโจนแผ่วไปหยุดยืนเบื้องหน้าของนางแล้ว“ท่าน” อิงฮวายกมือขึ้นแตะหน้าอก กดมันไว้ไม่ให้ตื่นตระหนกจนเกินไป ไยชายผู้นี้ชอบทำให้นางตกใจเสียจริง“จ้าวจิ่นสือ” “หือ?” นางเอียงคอมองเขาอย่างงุนงง แล้วก็เห็นมุมปากของเขายกยิ้มขึ้น“เรียกชื่อข้าสิ เจ้าจะได้จำข้าได้” ‘ข้าอยากเป็นคนแรกที่เจ้าคิดออก’ เขาเก็บคำประโยคหลังในกระเพาะ เพราะเหล้ารสแรงที่ดื่มไปหรือไร ถึงเห็นนางงดงามกว่าที่เคย“ท่านมั่นใจเกินไปหรือไม่ บางทีข้าอาจไม่ใช่คนที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 45 เขาจูบนาง

    นางถลึงตาใส่เขารีบปิดประตูทันที จะบ้าเรอะ! นางจะไปฝันถึงเขาทำไมกัน! หญิงสาวใจสั่นรัว ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงียบไป เขาคงใช้วิชาตัวเบากระโดดหายไปราวกับบินได้ละสินะนางเดินไปรินน้ำชา มือไม้สั่นขนาดทำน้ำชาหกเลอะเทอะ หงุดหงิดถึงกับสบถก่นด่าตัวเอง ไม่คิดว่า...เขาจะจูบนางแบบนั้น!หญิงสาวรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวนอกประตูห้องนอน นางวางถ้วยน้ำชาลงแล้วเดินไปแง้มประตูแอบมองไปด้านนอก ร่างสูงใหญ่เดินวนไปวนมาท่าทางกระสับกระส่ายทำให้นางเปิดประตูกว้าง เขาหมุนตัวกลับมาแล้วส่งยิ้มให้“ท่านโจว”“ข้าคิดว่าเจ้านอนแล้ว”“ข้ากำลังจะเข้านอนเจ้าค่ะ” นางยิ้มน้อยๆ มองดูชายเบื้องหน้าที่สวมเสื้อผ้าแบบง่ายๆ คล้ายคนเตรียมเข้านอนแล้วเช่นกัน ก่อนนี้นางเจอเขาก็มักอยู่ในชุดดำทมิฬเสมอ“ท่านหัวหน้ามาหาข้าถึงที่นี่มีอะไรหรือไม่”“ไม่มีอะไร เจ้าไปนอนเถิด” เขายกมือโบกไปมาอย่างเคยชิน เสื้อแขนกว้างร่นไปถึงข้อศอก แล้วก็เป็นเขาที่ตกใจที่เห็นนางยื่นมือมาจับแขน ทำให้เขาลดแขนลงมาแล้วมองใบหน้าหวานที่ขมวดคิ้วยุ่ง“แขนของท่าน”“อ้อ!” เขาเพิ่งสังเกตว่ามีรอยข่วนและเลือดซึมออกมา คงเพราะเมื่อครู่อาบน้ำขัดถูแรงไปนิด เลือดที่แห้งกรังไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 46.จะยุ่งยากไปไย

    “อืม” นางพยักหน้าแล้วยื่นมือไปรับมากัดกินคำน้อยๆ นางทำเองชิมเองจะไม่รู้รสชาติได้อย่างไร โจวฟู่หรงข่มโทสะหยิบซาลาเปามากินคำโต เดี๋ยวนะ ข้าแค่อยากทำซาลาเปาตอบแทนที่ให้ที่อยู่ที่อาศัย ไยต้องทำให้ข้าลำบากใจเช่นนี้เล่า อิงฮวาได้แต่ร้องครวญในใจ “รสชาติดียิ่งนัก” โจวฟู่หรงเอ่ยชมจากใจจริง“เนื้อกวางมีกลิ่นสาบ ข้าหมักกับเครื่องเทศเล็กน้อยก่อนนำไปทำเป็นไส้ซาลาเปา” หญิงสาวอธิบาย “เมื่อครั้งที่อยู่บ้านท่านน้าลู่อู๋กับจินปู๋ ข้าก็ทำให้เขากินบ่อยๆ”ไอ้ยักษ์จินปู๋ได้กินของดีแบบนี้ทุกวันเลยรึ! ความริษยาแล่นเข้ามาในอกจนโจวฟู่หรงต้องหยิบมากินอีกลูก“ถ้าเช่นนั้น ขนมจินเด (งาทอด) ที่คราวก่อนเขาถือมาก็เป็นฝีมือเจ้าสินะ” จ้าวจิ่นสือนึกถึงหลายวันก่อนที่เห็นจินปู๋เอาขนมจินเดออกมาจากอกเสื้อของเขาแล้วยื่นให้ซุนเย่ผิงกิน“เป็นข้าที่ทำเอง” นางเอียงคอมองอย่างสงสัย “จินปู๋เอามาแบ่งท่านรึ”จ้าวจิ่นสือส่ายหน้าไปมา “เจ้าเคยทำให้ข้า”เคอหลิ่งหลิน ข้าขอยืมขนมจินเดของเจ้าก่อนนะ!จ้าวจิ่นสือแสร้งทำเป็นกัดกินซาลาเปาในมืออย่างตั้งใจ จะเรียกว่าโกหกก็ไม่ถูกนัก นางเคยทำให้เคอหลิ่งหลิน แต่ตอนนั้นเคอหลิ่งหลินยังหลับไม่ได้สติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 47.  ข้าโง่งมขนาดนั้นเชียวรึ

    “ตอนข้าเจอเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าเผ่านี่” นางโคลงศีรษะไปมา “ตื่นมาพวกท่านก็หิวหรือไร ถึงได้บุกไปในครัวแต่เช้า” “ข้าแค่ไปรับเจ้ามาเขียนจดหมายต่างหาก” เขาลอบมองนางเล็กน้อย “ข้ากลัวเจ้าหลงทาง เลยจะเดินไปรับ” ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ “ข้าโง่งมขนาดนั้นเชียวรึ” ตั้งแต่มาที่นี่ นางก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ถ้าเข้าป่าก็ไปกับจินปู๋ตลอด แต่พอเข้ามาคฤหาสน์ของโจวฟู่หรงกลับทำให้นางงุนงงกับห้องหับมากมาย จนนางจำไม่ได้ว่าต้องไปทางไหน “ก็นิดหน่อย” “อะไรนะ!” นางถลึงตามองเขา เรื่องแบบนี้ไม่ต้องพูดชัดเจนนักก็ได้กระมัง “ข้ารู้จักท่านได้อย่างไรกัน!” “พี่สาวข้า...” เขานิ่งไปครู่หนึ่ง “เจ้ากับเคอหลิ่งหลิน พี่สาวของข้าสนิทกัน เมื่อหนึ่งเดือนก่อนนางได้รับบาดเจ็บหลับไม่ได้สติหนึ่งเดือนเต็ม ช่วงนั้นเจ้ามาดูแลนาง ข้าจึงได้ใกล้ชิดกับเจ้า” “อย่างนั้นรึ” นางเสมองไปทางอื่น รู้สึกร้อนผ่าวกับสายตาลุ่มลึกของเขา “แท้จริงเป็นเจ้ารู้จักข้าก่อนที่ข้าจะรู้จักเจ้า” เขาเชิดปลายคางขึ้นพูดเหมือนโอ้อวด “เจ้ายังเคยให้ของฝากข้า!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 48. ข้าไม่เคยไว้ใจใครทั้งนั้น 

    “เมื่อวานพี่ฟู่หรงไปปราบหมาป่ามารึ แล้วไหนล่ะหนังหมาป่าของข้า” “เจ้าจะเอาไปทำอะไรเยอะแยะ” ราชครูส่ายหน้าไปมา “หมาป่าที่พี่ฟู่หรงฆ่า ควรจะเป็นของข้าเท่านั้น” นางเชิดหน้าพูดอย่างเอาแต่ใจ “มันไม่สวย ข้าเลยยกให้ชาวบ้านไปแล้ว” เขาตอบตามจริง แล้วเงยหน้ามองไปทางทหารที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้าเป็นเชิงส่งสัญญาณให้ออกไปได้แล้ว แต่กระนั้นเด็กสาวเอาแต่ใจก็ปรายตามองไปยังลังสินค้าแล้วถลาไปยืนจ้องมองดู “พ่อค้าเอาสินค้ามาให้พี่ฟู่หรงกับท่านพ่อตรวจสอบรึ” ซุนเย่ผิงถามแล้วยื่นมือไปรื้อค้นดูด้วยความสนใจตามประสาผู้หญิงที่ชอบของสวยๆ งามๆ พ่อค้าตัวปลอมถึงกับผวาเฮือกแต่ไม่กล้าห้าม ร้อนถึงราชครูยื่นมือไปตีหลังมือของลูกสาว แม้ไม่แรงแต่ส่งเสียงดังจนเด็กสาวรีบชักมือกลับ แล้วถลึงตามองบิดาด้วยความน้อยใจ “ท่านพ่อ!” “เสียมารยาทจริงเด็กคนนี้ เจ้าจะทำสินค้าของพวกเขาเสียหายหมด!” “จะเสียหายสักเท่าไหร่” นางหยิบผ้าคลุมไหล่ขึ้นมา “ข้าชอบผืนนี้ ข้าจะเอา!” “เย่ผิง!” บิดาดุด้วยเสียงดัง แต่ก็ไม่เคยกล้าลงโทษลูกสาว นอกจากจะเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status