Share

บทที่ 0009

last update Last Updated: 2024-12-04 14:48:03

9 : ยึดทรัพย์ตระกูลหลี่

พอได้อยู่เพียงลำพัง หยวนเหวินเซียวอดนึกถึงเสียงเล็ก ๆ ของเด็กน้อยเสี่ยวหยวนไม่ได้ ทำให้หัวใจอันมืดมนของเขาพลันสดชื่นขึ้นมา ย้อนเหตุการณ์ไปยามที่ได้พูดคุย กับเสี่ยวหยวนตัวน้อยนั่น

“พี่ชายเหตุใดมีผ้าคาดตาด้วยเล่า”

เขาสัมผัสได้ถึงฝ่ามือน้อย ๆ จับตรงต้นขาของเขา ท่าทางคงเขย่งเท้าขึ้นอีกด้วย

“ข้ามองไม่เห็น”

“อ่อ ที่นั่นมืดมากไหม”

“ก็เหมือนตอนเจ้าปิดไฟนอนนั่นแหละ”

“ไอหยา เช่นนั้นต้องน่ากลัวแน่ ๆ”

“ข้าไม่กลัว”

“นี่ ๆ พี่ชายพี่หญิงใหญ่ของข้ารักษาเก่งมาก ตอนที่ข้าหกล้มนางเอายามาทาให้ วันเดียวก็หายเลย ท่านว่าข้าให้นางมารักษาท่านดีหรือไม่”

เมื่อเห็นเขาเอาแต่ยิ้ม เสี่ยวหยวนน้อยเลยเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ “ทายาที่ตาท่านวันเดียวต้องหายแน่ ๆ ท่านต้องมองเห็นแน่นอน”

หยวนเหวินเซียวยื่นมือไปประคอง ใบหน้ากลมนุ่มนิ่มราวเจ้าก้อนซาลาเปาน้อย จากนั้นอุ้มเขาขึ้นมานั่งอยู่บนตักของตนเอง

"พี่ชายท่านจะหนักเอานะ ให้ข้ายืนเองเถอะ" เด็กน้อยรีบขืนตัวออก แต่กลับถูกคนบนรถเข็นรวบเอาไว้ไม่ให้ขยับ

“เสี่ยวหยวนเจ้านั่งอยู่เงียบ ๆ ครู่หนึ่งได้หรือไม่”

เสี่ยวหยวนไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมนั่งนิ่งให้อีกฝ่ายกอดเอาไว้ หยวนเหวินเซียวให้หลินซ่งต๋า เข็นรถเข็นพาเที่ยวชมรอบ ๆ เรือนไปด้วย

ตอนแรกเสี่ยวหยวนก็สนุกสนาน ชี้มือชี้ไม้บรรยายสิ่งที่ตนพบเห็นให้เขาฟัง แต่ผ่านไปสักพัก เริ่มอ้าปากหาวทีสองที จากนั้นก็เงียบเสียงลงไปในที่สุด

“คุณชายเขาหลับไปแล้วขอรับ” ซ่งหลินต๋าเกรงว่าผู้เป็นนายจะไม่รู้เลยรีบบอก

“ไม่เป็นไร เจ้าเข็นต่อไป”

เอ่ยแล้วเอนศีรษะของเด็กน้อย ให้พิงอกในท่าที่สบายที่สุด เหตุใดจิตใจที่เคยหมองหม่น กลับเบาสบายขึ้น ยามได้กอดเจ้าตัวนุ่มนิ่มคนนี้

“หลินต๋าหากข้ามีลูกจะน่ารักเหมือนเขาไหม”

ซ่งหลินต๋าหลุบตาลงต่ำ “ต้องน่ารักกว่าเขาแน่นอนขอรับ”

เอ่ยแล้วนึกหนักใจขึ้นมา คุณชายของเขากับคู่หมั้นหมายผู้นั้น จะยังสามารถแต่งงานกันได้อีกหรือ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว

ไม่ผิดจากที่ซ่งหลินต๋าคิดไว้ ตระกูลคู่หมั้นหมายที่เมืองหลวง กำลังให้คนเตรียมการถอนหมั้นแล้วจริง ๆ เพียงแต่พวกเขาต้องเข้าไปเจรจาที่ตระกูลหยวนก่อน จากนั้นค่อยเดินทางมาถอนหมั้นกับคนที่เมืองฉาง เพราะหนังสือหมั้นหมายกับของหมั้น อยู่กับหม่าหลิงเฟยที่นี่

ณ เมืองถัง

กองทหารหน่วยหนึ่งกำลังเข้าจับกุมคนตระกูลหลี่ ข้อหายักยอกเสบียงที่ส่งไปยังชายแดน เมื่อเสบียงไม่เพียงพอทำให้ทหารชายแดน ไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ในสงครามที่ดุเดือด แม่ทัพจำเป็นต้องสั่งให้ถอยร่นออกมาตั้งหลักใหม่ ไม่อาจพิชิตศัตรูได้อย่างที่วางแผนกันไว้ สร้างความโกรธแค้นให้ผู้คนในค่ายทหารเป็นอย่างมาก

เมืองถังเป็นเพียงทางผ่าน ของคลังเสบียงไปยังชายแดน และผู้ที่ดูแลการขนส่งในครั้งนี้คือหลี่ปิ่งเฉิง บุตรชายคนโตของหลี่หงซวน เขาเกิดละโมบโลภมาก ร่วมมือกับสหายเก่าที่เป็นรองแม่ทัพ มีหน้าที่ดูแลในการขนส่งนำเสบียง พวกเขาร่วมมือกันลักลอบนำเสบียงออกไปขาย ยังเมืองที่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนอาหาร โดยขึ้นราคาข้าวสาร จากปกติเป็นเท่าตัว

แม่ทัพที่ดูแลกองทัพ เห็นว่าเสบียงมีจำนวนน้อยผิดปกติ ถึงขั้นขาดแคลน จนทำให้ทหารได้รับอาหารไม่เพียงพอ จึงได้ให้คนตามสืบอย่างลับ ๆ จนพบเจอหลักฐาน และรายงานขึ้นไปยังเบื้องบน

เดิมทีตระกูลหลี่ต้องถูกสั่งประหารทั้งตระกูล เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ขุนนางทั้งหลาย แต่ท่านโหรหลวงได้ร้องขอเอาไว้ เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ฮ่องเต้ กำลังสะสมบุญบารมี ให้งดสังหารหมู่ผู้คนไปเสียก่อน

ดังนั้นจึงได้ประหารเพียงผู้ที่กระทำความผิด หลี่หงซวนถึงกับล้มทั้งยืน ตำแหน่งเจ้าเมืองถังถูกสั่งปลด บุตรชายคนโตถูกประหารชีวิต คนทั้งตระกูลถูกยึดทรัพย์ ไม่มีผู้ใดกล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพราะเป็นความผิดอาญาร้ายแรง เกรงจะติดร่างแหไปด้วย

“ข้าเลี้ยงลูกไม่ดี เป็นความผิดของข้า” ฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้พลางทุบอกตัวเองไปด้วย

“ข้าก็ผิดเหมือนกัน เจ้าอย่าโทษตัวเองเลย”

หลี่หงซวนไม่เคยคิดมาก่อน บุตรชายคนโตที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยมคนนั้น จะสิ้นคิดถึงขั้นยักยอกเสบียงของกองทัพได้

“หรือเพราะตำแหน่งเจ้าเมืองเล็ก ๆ ของข้า ไม่อาจทำให้เขาพึงพอใจ ช่างโลภมากจนทำลายคนทั้งตระกูลไปแล้ว” ชายชราเอ่ยพร้อมดวงตามองเหม่อลอยไปข้างหน้า

“กรี๊ด !” สาวใช้บ้านรองวิ่งหน้าตาตื่นออกมา

ทุกคนจึงได้รู้ว่าชุนเสี่ยวหลิน ภรรยาของหลี่ปิ่งเฉิง ได้ผูกคอตายตามสามีไปด้วย นางไม่ได้รักใคร่สามีมากเพียงนั้น แต่นางสิ้นหวังและไม่อยากมีชีวิตต่อไป เหลือไว้เพียงหลี่เยี่ยนจือบุตรสาวคนเดียวของนาง

ส่วนอนุภรรยาอีกสองคนนั้น ตระกูลหลี่ได้มอบหนังสือปลดปล่อยอนุภรรยาให้ พวกนางจึงพาบุตรสาวของตนเอง กลับบ้านเดิมไป

หลี่เยี่ยนจือในวัยสิบหกปี ต้องมาสูญเสียบิดามารดาพร้อมกัน อีกทั้งชีวิตต่อจากนี้ไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้อีกแล้ว นางร้องไห้จนน้ำตาแห้งขอด ดวงตาบวมเป่งน่าสงสารเป็นอย่างมาก

พวกทหารปลดเครื่องประดับบนตัวของนางไปจนหมด ท่านปู่ของนางเขียนหนังสือปล่อยตัว เหล่าอนุและบ่าวไพร่ในเรือนไปจนหมด ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาร่วมชะตากรรมไปด้วย บ้านใหญ่จึงเลือกนางเพียงคนเดียว

ยามนี้ตระกูลหลี่จึงเหลือเพียง หลี่หงซวนกับฮูหยินผู้เฒ่า บ้านใหญ่มีเพียงหลี่เยี่ยนจือเพียงผู้เดียว ส่วนบ้านรองนั้นบุตรสาวที่เคยแต่งงานออกไป ถูกทางบ้านสามีสั่งหย่าในทันที เลือกเก็บหลานชายเอาไว้แค่คนเดียว

หลี่ย่าหลินจึงต้องกลับมารวมกับคนในตระกูลหลี่ พี่ชายของนาง หลี่หลินฮ่านมีกำหนดแต่งงานเดือนหน้าที่จะถึงนี้ ทุกอย่างกลับพังทลายลงในชั่วพริบตา

บ้านสามนั้นหลี่หย่วนเจ๋ออยากหย่าขาดกับภรรยา เพื่อให้นางได้กลับบ้านเดิมไป ไม่ต้องทนลำบากกับเขาในภายภาคหน้า แต่จี้ชิวหรงไม่ยินยอม นางพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปกับเขา พร้อมกับบุตรชายตัวน้อย วัยสามขวบอย่างหลี่ซืออี้

หลี่หงซวนมองดูรายการทรัพย์สินที่ถูกทางการยึดไป เขามองเห็นคนรู้จักอยู่คนหนึ่ง จึงรีบเรียกเขาไปคุยกันเงียบ ๆ

“อาเฉินข้ามีเรือนแห่งหนึ่งที่เมืองฉาง เจ้าละเว้นไม่ยึดได้หรือไม่ ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเป็นเรือนของตระกูลหลี่ เห็นแก่ที่ข้าเคยช่วยเหลือบิดาเจ้าไว้ได้หรือไม่”

โจวเฉินทำหน้าหนักใจ เขามองโฉนดในมือก่อนยื่นให้หลี่หงซวนไป “ไปถึงที่นั่นท่านรีบเปลี่ยนชื่อเป็นของผู้อื่นเสีย ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนมาถึงข้าด้วย”

“ได้ ๆ ขอบคุณเจ้ามาก” ชายชรารีบยัดโฉนดใส่อกเสื้อ

หลังจากถูกขับไล่ออกมาจากจวนเจ้าเมืองถัง หลี่หงซวนได้เช่ารถม้า ให้คนพาเดินทางไปยังเมืองฉาง คนที่หนักใจเป็นที่สุดคงไม่พ้นคนบ้านสาม

จี้ชิวหรงอุตส่าห์ลืมเลือนเรื่องนั้นไปแล้ว แต่หากต้องพบเจอกันอีกครั้ง นางจะทำใจยอมรับได้หรือไม่

หลี่หย่วนเจ๋อจับมือนางมาลูบเบา ๆ “ฮูหยินเจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่มีทางรับพวกนาง กลับเข้ามาในตระกูลอีกแน่”

“แต่เหยาเอ๋อร์นางเป็นบุตรสาวของท่านนะเจ้าคะ” จี้ชิวหรงลูบศีรษะบุตรชายตัวน้อย ที่กำลังนอนหลับอยู่ตรงอกของนาง

“ข้าไม่ได้ติดต่อพวกนางมาถึงห้าปีแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้นางออกเรือนไปแล้วกระมัง”

“ไม่หรอก หากออกเรือนต้องมาแจ้งท่านพี่แล้ว อย่างไรก็ยังไม่ได้เขียนหนังสือปลดปล่อยอนุภรรยา ท่านอย่าเข้าใจผิดว่าข้าอยากให้ท่านตัดขาดจากพวกนาง แต่ว่ายามนี้ฐานะของท่าน ไม่สามารถเลี้ยงดูพวกนางได้อย่างแน่นอน”

“เดิมทีข้าก็ไม่เคยเลี้ยงดูพวกนางอยู่แล้ว เจ้าอย่าห่วงไปเลย ข้าไม่มีทางหลงผิดแน่นอน”

จี้ชิวหรงไม่สบายใจเป็นอย่างมาก นางรู้อยู่เต็มอกว่าเฉาซูหลิ่ง ไม่มีทางทำร้ายตัวเองแน่ แต่กลับไม่คิดเอ่ยปากขอร้องแทนนาง

ยามนั้นเพราะโกรธที่นางโง่ จนถูกคนหลอกใช้ ไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้านางอีกต่อไป แล้วยามนี้เล่าต้องมาพบเจอกัน ในสถานการณ์ยุ่งยากเช่นนี้ คิดไม่ออกว่าจะมองหน้ากันติดได้อย่างไร

สองวันต่อมา

ณ เมืองฉาง ตรอกหนิงอัน

เฉาซูหลิ่งได้เห็นหน้าสามีของตนเองเป็นครั้งแรก นับจากถูกขับไล่ออกมาจากจวนตระกูลหลี่ นางมีความคิดถึงคะนึงหาเขาเป็นอย่างมาก แต่เขากลับไม่แม้แต่จะปรายตา มามองนางด้วยซ้ำ

ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลี่แล้ว ทำให้นางตกใจเป็นอย่างมาก แล้วผู้คนมากมายเช่นนี้ จะมาอยู่ในเรือนนี้หมดได้อย่างไร

“เหยาเอ๋อร์ไปไหนแล้วล่ะ ไม่เห็นออกมาทักทายท่านย่าเช่นข้า”

ฮูหยินผู้เฒ่าหันมองซ้ายขวา นางพยักหน้าพึงพอใจในสภาพของเรือน ที่ถูกดูแลรักษาเป็นอย่างดี ครั้นมาถึงบ่าวรับใช้ก็นำน้ำชา มาบริการให้อย่างรู้มารยาท

“นางออกไปเดินเล่นที่ตลาดเจ้าค่ะ”

เฉาซูหลิ่งไม่ได้บอกว่าตนเองมีบุตรชาย เพราะนางเห็นแล้วว่าจี้ชิวหรง ก็มีบุตรชายแล้วเหมือนกัน เสี่ยวหยวนน้อยของนาง จะไปมีความหมายอันใดกับพวกเขา

แม่นมสวีได้รับมอบหมาย ให้ไปตรวจดูบริเวณเรือนทั้งหมด เพื่อที่จะได้แบ่งแยกที่อยู่อาศัยกันได้อย่างเหมาะสม เมื่อได้ความมาแล้ว จึงนำมาบอกให้แก่หลี่หงซวนและฮูหยินผู้เฒ่า พวกเขาหารือกันโดยไม่คิดให้เฉาซูหลิ่งรับรู้ด้วย

เฉาซูหลิ่งรู้สึกว่า พวกเขากำลังจะยึดที่นี่กลับคืนไป ไหนเลยจะมีที่ให้นางได้ยืน นางกำหมัดแน่นน้ำตาคลอเบ้า มองไปทางสามีผู้ไม่เคยสนใจไยดีตัวเองกับลูกแม้แต่น้อย

และเป็นไปตามที่นางคิด เรือนหลักของนาง เป็นของหลี่หงซวนกับฮูหยินผู้เฒ่า ส่วนเรือนของหลี่เมิ่งเหยาเป็นของคนบ้านรอง เรือนอีกหลังเป็นของคนบ้านสาม ที่เรือนหลังเล็กมอบให้บุตรสาวจากบ้านใหญ่

“ท่านพ่อท่านแม่เจ้าคะ เช่นนั้นข้ากับลูก ๆ และป้าหลูกับลุงจง จะไปอยู่ที่ไหนกัน”

คำถามของเฉาซูหลิ่งทำให้คนอื่น ๆ พากันหันมามองนางกันหมด เป็นฮูหยินผู้เฒ่าที่ออกปากเอ่ยขึ้นมา

“เจ้ากับเหยาเอ๋อร์ต้องย้ายออกไปจากที่นี่” เอ่ยแล้วทำหน้าหนักใจขึ้นมา

เฉาซูหลิ่งเซไปด้านหลังในทันที ดีที่ป้าหลูช่วยประคองนางเอาไว้ ลุงจงที่อยู่ในเหตุการณ์คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น เขาไม่เดือดร้อนใจแต่อย่างใด คุณหนูของเขามีเงินทองมากมาย จะซื้อเรือนสักหลังคงไม่ยาก แต่ว่าความสัมพันธ์เลวร้ายตรงหน้านี่สิ หากสองพี่น้องคู่นั้นกลับมาจะรู้สึกอย่างไร

“ท่านพี่เจ้าคะ ท่านจะไล่ข้ากับลูก ๆ ออกไปจริงหรือเจ้าคะ”

เฉาซูหลิ่งหันไปหาสามีของตน น้ำตาไหลอาบนองหน้าออกมา แต่เขากลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

“ท่านแม่เอ่ยสิ่งใด เจ้าก็แค่ทำตามเป็นพอ”

ความเย็นชาที่ได้รับกลับคืนมา ทำให้หัวใจของเฉาซูหลิ่งแหลกสลายกลายเป็นผง นางเฝ้ารอเขามาตลอดห้าปีเต็ม แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมา มีเพียงความเฉยชาเท่านั้น

“อนุเฉาเจ้ารีบไปเก็บของออกไปเถอะ พวกข้าเดินทางมาเหนื่อย ๆ ต้องการพักผ่อน” หลี่หวงซวนต้องเลือกคนในตระกูลหลี่มาก่อน

“ฮูหยินไปเก็บของกันเถอะเจ้าค่ะ ท่านพี่ไปตามคุณหนูกลับมาเถอะ” ป้าหลูพยุงเฉาฮูหยินพร้อมกันหันไปบอกสามีของตน

“ไม่ต้องตามข้ามาแล้ว”

เสียงของหลี่เมิ่งเหยาดังก้องกังวานขึ้น นางยืนฟังอยู่ข้างนอกตั้งนานแล้ว และเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างดี จูงมือเสี่ยวหยวนน้อยเดินเข้าไปหามารดา

เขาดูตื่นตกใจกับจำนวนคนในบ้านเล็กน้อย แต่สายตาก็มองสอดส่องไปมา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น โดยเฉพาะเด็กชายตัวน้อย ที่อยู่ยืนอยู่ข้างบิดามารดาผู้นั้น

Related chapters

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0010

    10 : อยากตายก็เข้ามาสิ เสี่ยวหยวนน้อยเห็นคนวัยเดียวกันก็ใจชื้นขึ้นมา ยกมือขึ้นมาโบกส่ายเล่นกับเขา เด็กน้อยหลี่ซืออี้ยกมือโบกตอบกลับเขาด้วยความเขินอาย จี้ชิวหรงดึงมือน้อย ๆ ของบุตรชายลงแทบไม่ทัน “เจ้าคือเหยาเอ๋อร์รึ” หลี่หงซวนมองหลานสาวตนเองด้วยความประหลาดใจ เด็กน้

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0011

    11 : อี้เอ๋อร์นี่เป็นของขวัญพบหน้าจากพี่สาว หลี่เมิ่งเหยาให้มารดาพาน้องชายกับป้าหลู เข้าไปสอบถามเรื่องเช่าเรือนกับหม่าหลิงเฟย ให้ลุงจงทำหน้าที่ขนของขึ้นรถม้าเพียงลำพัง ส่วนตัวนางเดินไปทวงหนังสือปลดปล่อยอนุภรรยากับบิดา “เหลวไหล ! นี่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กจะมาพูดกับผู้ใหญ่ได้”

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0012

    12 : สามีที่ดีคือสามีใหม่นะท่านแม่ หลังจัดแจงที่พัก ให้ครอบครัวของเฉาซูหลิ่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่นมหูยกของว่างกับน้ำชา มาให้หม่าหลิงเฟยในห้องนั่งเล่น “ฮูหยินท่านใจอ่อนไปแล้วนะเจ้าคะ” มีความห่วงใยในน้ำเสียงของแม่นมหู หม่าหลิงเฟยอมยิ้มในหน้า

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0013

    13 : นางไม่ใช่คนดีเท่าใดนัก ในใจของหลี่ปิงซืออดเสียดายไม่ได้ หากพวกนางยังอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าจะช่วยเหลือตระกูลหลี่ได้หรอกหรือ ไม่น่าหุนหันพลันแล่น ขับไล่พวกนางออกไปเลย ครึ่งชั่วยามต่อมา พ่อบ้านหลัวได้กลับมารายงานผู้เป็นนาย หลังจากได้ไปสอบถามกับผู้คนที่อยู่ละแวกนี้แล้ว

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0014

    14 : หาที่ปลูกเรือนหลังใหม่ สะใภ้ทั้งสองหันไปมองหน้ากัน แล้วหลุบสายตาลงต่ำ พวกนางไม่เคยคิด ว่าการแต่งงานเข้าตระกูลหลี่ จะต้องมาพบกับจุดจบเช่นนี้ หากพวกนางไม่ได้รักสามีด้วยใจจริง หรือหากก่อนหน้าสามีใจร้ายกับพวกนาง คงตัดสินใจรับหนังสือหย่ากลับบ้านเดิมไปแล้ว แต่เมื่อเลือกติดตามสามีมาเช่นนี้

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0015

    15 : พี่หญิงใหญ่นางค่อนข้างจะร่ำรวย หลี่เมิ่งเหยามองเห็นความโลภในดวงตาของเขา พวกเถ้าแก่เป็นเช่นนี้ทุกคนหรือไม่ “ใครก็ช่วยหาไม่ได้หรอก มีเพียงข้าเท่านั้นที่เข้าไปสถานที่แห่งนั้นได้” สมุนไพรบางตัวมีอยู่บนยอดภูเขา ในกำไลหยกโลกันตร์เท่านั้น ไหนเลยนางจะรู้ได้ว่า ข้างนอกน

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0016

    16 : ท่านอยากเป็นหนูลองยาของข้าหรือไม่ หลี่เมิ่งเหยาเดินเข้าไปใกล้ ๆ กับน้องชาย ยกนิ้วขึ้นไล้แก้มนุ่มนิ่มของเขาอย่างแผ่วเบา “ข้าไม่ได้ซื้อมาให้น้องชายอีกคนหรอก เอามาเผื่อยามเจ้าไม่อิ่มต่างหาก” “เช่นนั้นรึ” เขาแลบลิ้นเลียผลชานจาสด ที่ถูกเคลือบด้วยน้ำตาลกรวดอย่างเอร

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0017

    17 : ไม่รู้ตระกูลจี้มอบความช่วยเหลือมาหรือไม่ “ข้าถึงได้มาคุยกับท่านด้วยตัวเองนี่อย่างไร ข้ารับรองยาของข้าไม่มีทางเป็นอันตราย ต่อร่างกายของท่านอย่างแน่นอน” หลี่เมิ่งเหยามองเห็นความสิ้นหวังในท่าทางของเขา “ข้าขอดูดวงตาของท่านได้หรือไม่” “มีอะไรให้น่าดูกัน” “ข้าจะได้

    Last Updated : 2024-12-10

Latest chapter

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0282

    ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0281

    “เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0280

    147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0279

    “ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0278

    “เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0277

    146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0276

    ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0275

    145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0274

    “ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว

DMCA.com Protection Status