Share

บทที่ 0015

last update Last Updated: 2024-12-10 17:22:46

15 : พี่หญิงใหญ่นางค่อนข้างจะร่ำรวย

หลี่เมิ่งเหยามองเห็นความโลภในดวงตาของเขา พวกเถ้าแก่เป็นเช่นนี้ทุกคนหรือไม่

“ใครก็ช่วยหาไม่ได้หรอก มีเพียงข้าเท่านั้นที่เข้าไปสถานที่แห่งนั้นได้” สมุนไพรบางตัวมีอยู่บนยอดภูเขา ในกำไลหยกโลกันตร์เท่านั้น ไหนเลยนางจะรู้ได้ว่า ข้างนอกนี่มีหรือไม่

“เช่นนั้นรึ เรามาว่าเรื่องของราคากันเถอะ”

เถ้าแก่จางเกรงว่านางจะเปลี่ยนใจ ยิ่งได้รู้ว่านางนำยามาขายให้เพียงห้าเม็ดเท่านั้น จึงเสนอราคาไปที่เม็ดละหนึ่งพันตำลึง ซึ่งนางก็ไม่ได้ต่อรองราคาแต่อย่างใด มอบยาแล้วรับเงิน จากไปในทันที กระทั่งสัญญาซื้อขายก็ไม่คิดเขียนด้วยซ้ำ

“พิลึกคนจริง ๆ เจ้าตามสะกดรอยนางไป ข้าอยากรู้ว่านางอยู่ที่ใดกันแน่” เขาหันไปสั่งคนของตัวเอง

หลี่เมิ่งเหยาที่ฝึกฝีมือ ในเรือนโลกันตร์มาตลอดห้าปีเต็ม อีกทั้งมีลุงจงคอยสอนวรยุทธ์อยู่ด้านนอก มีหรือจะถูกสะกดรอยได้ง่ายดายปานนั้น นางหลบหนีเขาพ้นได้อย่างง่ายดาย

ความอยากรู้อยากเห็นไม่เลือกคนสินะ

ฝ่ายคนที่ไล่ตามนาง กลับไปรายงานด้วยสีหน้าสลด เถ้าแก่จางรีบโบกมือให้เขาออกไป ดวงตาฉายแววไม่สบายใจขึ้นมา หากแม่นางหลี่โกรธ จนเลิกค้าขายกับตนเล่า หาเรื่องใส่ตัวเองเข้าแล้ว

หลี่เมิ่งเหยาเปลี่ยนเสื้อคลุม เก็บหมวกตาข่ายเอาไว้ นางไปรอที่ภัตตาคารที่นัดหมายกับลุงจง ราวสองเค่อลุงจงก็ปรากฏตัว พร้อมกับแผนที่ ของสถานที่ที่นายหน้าพาไปดู

“ข้าเห็นว่าสองผืนนี่กำลังเหมาะขอรับคุณหนู” ลุงจงชี้นิ้วไปบนแผนที่ตรงหน้า

“อืม ตรงนี้ข้าเคยเห็นแล้วแม้จะทำเลดี แต่ผู้คนรอบข้างไม่ดีเท่าใดนัก กลางคืนจะมีพวกนักเลงอันธพาล มามั่วสุมกันบ่อย ๆ เกรงว่าจะไม่เหมาะ”

นางรู้เพราะเคยพลัดหลงไปทางนั้น ในคืนเทศกาลหยวนเซียวเมื่อปีก่อน นางเลยปัดที่แรกทิ้งไป เหลือเพียงที่อีกผืนที่นางยังไม่เคยสำรวจ “พาข้าไปดูที่นี่”

ทำเลที่ลุงจงพามาดูนั้น อยู่ห่างจากตอกหนิงอันไปราวสองลี้ นับว่าไม่ใกล้ไม่ไกลจากเรือนหลังเดิม

“ที่นี่คือตรอกหลันเซ่อขอรับ เดิมทีเป็นแหล่งรวมที่อยู่อาศัยของตระกูลเศรษฐีในเมืองฉาง แต่ยามนี้ตระกูลพวกนั้น ต่างย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองหลวงเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียงบ่าวไพร่เก่าแก่ดูแลเรือนอยู่ที่นี่ นับไปแล้วมีเรือนอยู่ราวสี่หลังขอรับ หลังที่เปิดขายอยู่ด้านในสุด เป็นของตระกูลกู้เขามีบุตรสาวเพียงคนเดียว ออกเรือนไปอยู่กับตระกูลสามีที่เมืองหลวง บิดามารดาล้วนเป็นห่วง จึงได้ขายเรือนย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงด้วยกัน ข้าเห็นว่าเรือนยังมีสภาพดีอยู่ บางทีคุณหนูอาจไม่ต้องสร้างใหม่ก็เป็นได้” ลุงจงชี้แนะด้วยความหวังดี

“เป็นจริงดังที่ลุงจงว่ามา เรือนอีกสามหลังยังมีบ่าวไพร่อยู่ดูแล คงไม่เงียบเหงาเหมือนตรอกหนิงอัน” นางเดินสำรวจตลอดทั้งตรอกแล้ว พบว่าเป็นสถานที่ที่ดีอยู่ไม่น้อย

“ขอรับคุณหนู”

“เข้าไปดูในเรือนได้หรือไม่ ข้าอยากรู้ว่าภายในเป็นอย่างไร มองแค่ภายนอกยังดูไม่ออก”

“ได้ขอรับข้านัดนายหน้าไว้แล้ว สักครู่เขาคงมาถึง”

เมื่อนายหน้ามาถึง ก็พาทั้งคู่ตรวจดูสภาพของเรือนทุกซอกทุกมุม เรือนมีขนาดใหญ่กว่าเรือนในตรอกหนิงอันเกือบเท่าตัว สภาพดูใหม่ราวกับได้รับการดูแลมาอย่างดี

“หากพวกท่านตัดสินใจซื้อเลย ข้าขายให้ในราคา หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงขอรับ” นายหน้ารีบเสนอราคา

หลี่เมิ่งเหยาย่นคิ้วเล็กน้อย “หนึ่งพันตำลึงเป็นอย่างไร”

“แม่นางท่านเอ่ยมา ก็ต่อรองราคาถึงห้าร้อยตำลึง ข้าจะมีหน้าไปตอบเจ้าของเรือนได้อย่างไร” นายหน้าทำท่าหนักอกหนักใจขึ้นมา

แสดงได้ดี

“เรือนเก่าก็คือเรือนเก่า ไม้พวกนี้ถูกปลวกเจาะข้างในหรือไม่ใครจะรู้” นางเดินไปเคาะเสาไม้เบา ๆ ทำท่าเหมือนไม่ค่อยอยากได้เท่าไร “เฮ้อ หากซื้อแล้วยังต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ ต้องเสียเงินอีกมากโข”

นางปัดมือที่เปื้อนฝุ่นเบา ๆ มองไปรอบ ๆ คล้ายไม่ใส่ใจเท่าใดนัก

“แม่นางท่านกำลังทำให้ข้าลำบากใจนะขอรับ”

“หนึ่งพันตำลึงถ้วน หากไม่ใช่ราคานี้ข้าไม่ซื้อ” นางขยิบตาให้ลุงจงคุยต่อ ส่วนตัวนางเดินออกไปนั่งรออยู่ในรถม้า

เป็นดังคาดลุงจงตกลงกับนายหน้าค้าที่ ได้ที่หนึ่งพันตำลึงจริง ๆ นางกล้าต่อรองเพราะก่อนหน้า เคยสอบถามราคาเรือนของเมืองฉางมาบ้าง ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่หนึ่งพัน ถึงหนึ่งพันสามร้อยตำลึงจริง ๆ แต่หากร้อนเงินต้องการขายด่วน ก็ควรถูกกว่านั้นเล็กน้อย

“เรือนยังอยู่ในสภาพดี แค่ปรับปรุงเรื่องต่อน้ำมาใช้ กับทำห้องสุขาใหม่ก็พอ”

“ขอรับคุณหนู”

ลุงจงเข้าใจในคำพูดของหลี่เมิ่งเหยา ตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่กับนางได้ราวครึ่งปี นางก็วาดภาพห้องสุขาแบบใหม่ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน นางทำท่อไม้ต่อน้ำเข้ามาใช้ในห้องครัว อีกทั้งความสะดวกสบายมากมายตามมา

“คุณหนูขอรับเมื่อหลายวันก่อน พ่อบ้านหลัวมาถามข้า เรื่องการใช้น้ำกับห้องสุขาในเรือนด้วย ข้าไม่ได้เรียนคุณหนูไว้ ว่าข้าเข้าไปอธิบายให้พวกเขาฟังแล้ว”

ลุงจงภายนอกเหมือนคนหน้าตาดุร้าย แต่ภายในจิตใจดีมากเลยทีเดียว เขาคิดว่าในเมืองนี้น่าจะมีเรือนคุณหนูเรือนเดียว ที่ใช้น้ำกับห้องสุขาแปลกใหม่เช่นนี้ กระทั่งตัวเขายังได้รับผลพลอยได้ตามไปด้วย

“ข้าไม่ว่าอะไรหรอก อย่างไรเสียก็สายเลือดเดียวกันกับข้า ลุงจงทำถูกแล้วล่ะ”

นางแค่นขำออกมาเบา ๆ นางไม่เดือดร้อนเพราะมีเงินมีทองกองอยู่เต็มเรือนสมบัติ ที่นำมาใช้ยังไม่ถึงเสี้ยวหนึ่ง ของทั้งหมดด้วยซ้ำ

นางคิดว่านี่คือของรางวัล จากการทะลุเวลามาอยู่ที่นี่ นางไม่มีความรู้มากมายติดตัว เป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา ชื่นชอบดอกไม้จนเปิดร้านเป็นของตัวเอง

ยุคโบราณเช่นนี้ การจัดดอกไม้สวยงามเป็น จะมีประโยชน์อันใดกัน ทุกคนต่างมุ่งหน้าหาเลี้ยงปากท้องตัวเอง นอกจากนั้นนางไม่รู้อะไรเลย กำไลหยกโลกันตร์นับว่าเป็นของขวัญล้ำค่า ที่ตามมาเพื่อช่วยหาทางออกให้นางจริง ๆ

“คุณหนูขอรับเงินที่ได้จากการเช่าเรือน คุณหนูให้ข้าไปซื้อเรือนปล่อยเช่าหลังใหม่ที่เมืองหลวง ตอนนี้เงินที่เหลืออยู่ในบัญชี มีเพียงสองพันตำลึงเองนะขอรับ”

ลุงจงนึกห่วงเรื่องนี้ หากไม่ได้ไปซื้อเรือนที่เมืองหลวงเมื่อสามเดือนก่อน คงมีเงินเหลืออยู่นับสองหมื่นตำลึงเลยทีเดียว แต่ว่าเรือนที่เมืองหลวงราคาแพงเอาเรื่อง

“ลุงจงไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องเงินข้ามีหนทางหามาได้” ขายทองคำอีกสักแท่งสองแท่งก็พอแล้ว

“ขอรับคุณหนู”

แม้ประหลาดใจแต่ก็ไม่คิดละลาบละล้วงถามต่อ หลี่เมิ่งเหยามีความซับซ้อน มากกว่าที่เขาจะเข้าใจได้ นางเหมือนมีบ่อเงินบ่อทองให้ใช้ไม่มีวันหมด แต่กลับไม่รู้ว่าเอามาจากไหนกันแน่

เมื่อกลับถึงเรือนของหม่าหลินเฟย หลี่เมิ่งเหยาตั้งใจนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวให้นางรับรู้ อย่างไรเสียก็เป็นคนมีน้ำใจดีต่อกัน ทำอะไรย่อมเปิดเผยเป็นการดีที่สุด

ระหว่างกินข้าวมื้อเย็นอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นางจึงเล่าเรื่องซื้อเรือน ในตรอกหลันเซ่อให้ทุกคนฟัง

“เดิมทีข้าคิดจะปลูกเรือนใหม่ แต่ว่าที่นั่นตัวเรือนยังอยู่ในสภาพดี แค่ทำการปรับปรุงก่อนเข้าอยู่เป็นพอ เกรงว่าอาจใช้เวลาร่วมเดือนกว่าจะเข้าอยู่ได้ ต้องรบกวนท่านป้าต่ออีกเป็นเดือน ข้ารู้สึกเกรงใจยิ่งนัก”

ลำพังแค่ตัวเรือนไม่เท่าไร แต่นางต้องการห้องสุขาสมัยใหม่ ท่อน้ำใช้แบบสะดวกสบาย ย่อมใช้เวลาในการทำ

“รบกวนอะไรกัน ข้ามีซูหลิ่งอยู่เป็นเพื่อนไม่เงียบเหงาดี เสี่ยวหยวนก็ไปเล่นกับพี่เหวินเซียวทุกวัน นี่ไม่ใช่ว่าทำให้ข้าสองแม่ลูกไม่เหงาหรอกหรือ” หม่าหลินเฟยลอบดีใจอยู่ลึก ๆ อย่างน้อยก็ตั้งหนึ่งเดือนกว่าพวกนางจะจากไป

“ตรอกหลันเซ่อที่นั่นมีแต่เรือนใหญ่โต ไม่ใช่ราคาแสนแพงหรอกหรือ” หยวนเหวินเซียวนึกแปลกใจ ในฐานะทางการเงินของพวกนาง

หลี่เมิ่งเหยาเอ่ย “ข้าพอมีเงิน”

“ข้าบอกพี่ชายหยวนแล้ว ว่าพี่หญิงใหญ่นางค่อนข้างจะร่ำรวย” เสี่ยวหยวนเอ่ยแทรกขึ้น สีหน้าแววตาแสดงความโอ้อวดออกมา

“โอ๊ย !” เลยถูกพี่สาวดึงแก้มยืดออกแรง ๆ

“ใครสั่งสอนให้เจ้าเอ่ยวาจาโอ้อวดเช่นนี้ ข้าเพียงแต่พอมีเงิน ไม่ได้ร่ำรวยเสียหน่อย หัดรู้จักถ่อมตนเสียบ้าง ที่ข้าพูดนี่ เจ้าเข้าใจหรือไม่ !”

“ขะข้าเข้าใจแล้วพี่หญิงใหญ่”

เสี่ยวหยวนน้อยถูแก้มเบา ๆ ทำหน้าเศร้าเล็กน้อย เอนตัวไปหาที่พึ่งทางหยวนเหวินเซียวแทน

“เจ้านี่ก็ดุยังกะอะไรดี” เฉาซูหลิ่งแอบสงสารบุตรชาย

“ท่านแม่ก็อย่าให้ท้ายเขานักล่ะ” นางขึงสายตามองมารดาเล็กน้อย ก่อนหันไปทางเจ้าของเรือน “ต้องขออภัยพวกท่านด้วย เสี่ยวหยวนยังเด็กไม่รู้ความ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด เจ้าก็ทำเกินไป”

หยวนเหวินเซียวตำหนิ นางพร้อมกับลูบศีรษะเสี่ยวหยวนปลอบเขา เพราะมองไม่เห็นจึงไม่รู้ ว่านางทำอันใดกับน้องชายบ้าง

“ต้องสอนตั้งแต่เด็กนี่แหละ หากโตไปแล้วจะกลายเป็นไม้แก่ดัดยาก”

“เมิ่งเหยาสั่งสอนน้องชายได้ถูกต้องแล้ว แต่เสี่ยวหยวนเองก็ไม่ได้โอ้อวดอะไรมิใช่หรือ หากเจ้าไม่มีเงินจริง จะไปหาซื้อเรือนในตรอกหลันเซ่อได้อย่างไร” หม่าหลินเฟยไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย ไม่ให้คนใดคนหนึ่งผิด

“เจ้าค่ะท่านป้า” หลี่เมิ่งเหยาอมยิ้มเล็กน้อย

นางหันไปทางน้องชายพร้อมกับยิ้มหวาน ๆ ให้เขา “เสี่ยวหยวนข้าซื้อปิงถังหูลู่มาฝากด้วย แต่อยู่ในห้องของข้า กินข้าวเสร็จแล้วแวะไปเอาที่ห้องข้าล่ะ”

เสี่ยวหยวนน้อยตาโตขึ้นในทันที “ข้าจะไปเอาแน่นอน ขอบคุณพี่หญิงใหญ่ขอรับ” เขาเอนตัวกลับมานั่งตรง ใบหน้าเศร้าสร้อยยามแรกหายวับไปกับตา

หยวนเหวินเซียวรู้สึกว่า สตรีนางนี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ยิ่งกับน้องชายด้วยแล้ว นางปั่นหัวเขาเป็นว่าเล่น

หลังมื้อเย็นผ่านพ้นไปเสี่ยวหยวนเดินไปเอาปิงถังหูลู่ที่ห้องพี่สาวจริง ๆ ครั้นเห็นว่ามีสองไม้ เขากลับฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา

“พี่หญิงใหญ่ซื้อมาให้น้องชายอีกคนใช่ไหม”

“น้องชายอีกคน ?”

“ข้ารู้หรอกน่า ผู้ชายคนนั้นเป็นท่านพ่อของพวกเรา เด็กคนนั้นก็เป็นน้องชายของพวกเราด้วย”

หลี่เมิ่งเหยาไม่คิดว่าเด็กน้อยอายุสี่ขวบ จะสามารถเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วย “เจ้ารู้ได้อย่างไร”

“พวกเขาคุยกัน ข้าก็เข้าใจ” เสี่ยวหยวนได้ยินมารดาคุยกับป้าหลู ได้ยินหม่าหลินเฟยคุยกับบุตรชาย แม้เขาตั้งใจคัดลายมือ แต่หูของเขา ก็รับรู้ได้ทุกเรื่อง

Related chapters

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0016

    16 : ท่านอยากเป็นหนูลองยาของข้าหรือไม่ หลี่เมิ่งเหยาเดินเข้าไปใกล้ ๆ กับน้องชาย ยกนิ้วขึ้นไล้แก้มนุ่มนิ่มของเขาอย่างแผ่วเบา “ข้าไม่ได้ซื้อมาให้น้องชายอีกคนหรอก เอามาเผื่อยามเจ้าไม่อิ่มต่างหาก” “เช่นนั้นรึ” เขาแลบลิ้นเลียผลชานจาสด ที่ถูกเคลือบด้วยน้ำตาลกรวดอย่างเอร

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0017

    17 : ไม่รู้ตระกูลจี้มอบความช่วยเหลือมาหรือไม่ “ข้าถึงได้มาคุยกับท่านด้วยตัวเองนี่อย่างไร ข้ารับรองยาของข้าไม่มีทางเป็นอันตราย ต่อร่างกายของท่านอย่างแน่นอน” หลี่เมิ่งเหยามองเห็นความสิ้นหวังในท่าทางของเขา “ข้าขอดูดวงตาของท่านได้หรือไม่” “มีอะไรให้น่าดูกัน” “ข้าจะได้

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0018

    18 : ท่านแม่ข้าคิดว่าน้องสะใภ้สามไม่จริงใจกับพวกเราตระกูลหลี่ ตระกูลจี้เป็นตระกูลใหญ่ นายท่านจี้เองมีสามภรรยาสี่อนุ และบุตรหลานอีกมากมาย ยามนี้บุตรีจากภรรยาเอก ออกเรือนมาแล้วพบเจอกับปัญหาเข้า พวกนางต่างจ้องจับผิดเรื่องนี้กันอยู่ ทำให้ฮูหยินใหญ่ ไม่สามารถช่วยเหลือบุตรสาวได้อย่างเต็มที่

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0019

    “ข้าก็หวังเช่นนั้น” ฮูหยินผู้เฒ่าได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา มองไปยังท้องฟ้าด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจ กับเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่รู้ด้วยซ้ำตนเองเลี้ยงดูบุตรชายคนโต ผิดพลาดตรงไหนกัน เขาถึงได้ก้าวเดินทางผิด อย่างไร้หนทางให้กลับตัวเช่นนี้ หลายวันมานี้หลี่เมิ่งเหยา หมกตัวอยู่ก

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0020

    19 : เห็นว่าพี่เหวินเซียวของเจ้าพิการ เลยส่งคนมาถอนหมั้น ในเรือนของหยวนเหวินเซียว ฉีห้าวตงได้มารายงานเรื่องของตระกูลโจวแล้ว หลังได้ยินว่าพวกเขาส่งคนมาถอนหมั้น หยวนเหวินเซียวไม่ได้แสดงออกว่าแปลกใจแต่อย่างใด เพียงแค่ถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา “คุณหนูใหญ่ไม่น่าเป็นคน อยากถอนหมั้นหรอกข

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0021

    “ต้องขอบคุณเจ้ามากเมิ่งเหยา ที่ช่วยข้าตอกหน้าคนตระกูลโจว อย่างน้อยคนพวกนั้นจะได้รู้ ว่าลูกชายของข้ายังมีสตรีดี ๆ ต้องการอยู่ ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะมาโยนทิ้งได้ง่าย ๆ” น้ำเสียงเศร้า ๆ ของหม่าหลินเฟย แสดงออกว่านางผิดหวังกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย “ข้าช่วยท่านป้าได้ นับว่าเป็นเรื่องสม

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0022

    20 : กับคนข้าไม่เคยใช้ แต่กับสัตว์ได้ผลดีนักเชียวล่ะ ส่วนเรือนที่อยู่ด้านข้างนั้น ลุงจงออกไปดูแลการซ่อมแซมปรับปรุงเรือนที่เพิ่งซื้อมา เขาต้องทำตามแบบร่างของผู้เป็นนายอย่างจริงจัง ด้านหลี่เมิ่งเหยากำลังเริ่มต้น ทำการรักษาให้แก่หยวนเหวินเซียว “คุณชายท่านคิดใหม่ยังทั

    Last Updated : 2024-12-10
  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0023

    “พวกเจ้าทั้งคู่หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เมิ่งเหยาเอามาให้ข้ากินเถอะ” “อยู่นี่ ๆ” หลี่เมิ่งเหยานำเม็ดยาไปจ่อที่ปากของเขา จากนั้นเทน้ำดื่มลงบนถ้วยยื่นให้เขาตามไป “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง” นางเองก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน ยารักษาดวงตา นี่ครั้งแรกของนางจริง ๆ “ข้ารู้สึกเหมือนความร

    Last Updated : 2024-12-10

Latest chapter

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0282

    ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0281

    “เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0280

    147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0279

    “ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0278

    “เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0277

    146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0276

    ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0275

    145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ

  • บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 0274

    “ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว

DMCA.com Protection Status