“ต้องขอบคุณเจ้ามากเมิ่งเหยา ที่ช่วยข้าตอกหน้าคนตระกูลโจว อย่างน้อยคนพวกนั้นจะได้รู้ ว่าลูกชายของข้ายังมีสตรีดี ๆ ต้องการอยู่ ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะมาโยนทิ้งได้ง่าย ๆ” น้ำเสียงเศร้า ๆ ของหม่าหลินเฟย แสดงออกว่านางผิดหวังกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย “ข้าช่วยท่านป้าได้ นับว่าเป็นเรื่องสม
20 : กับคนข้าไม่เคยใช้ แต่กับสัตว์ได้ผลดีนักเชียวล่ะ ส่วนเรือนที่อยู่ด้านข้างนั้น ลุงจงออกไปดูแลการซ่อมแซมปรับปรุงเรือนที่เพิ่งซื้อมา เขาต้องทำตามแบบร่างของผู้เป็นนายอย่างจริงจัง ด้านหลี่เมิ่งเหยากำลังเริ่มต้น ทำการรักษาให้แก่หยวนเหวินเซียว “คุณชายท่านคิดใหม่ยังทั
“พวกเจ้าทั้งคู่หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เมิ่งเหยาเอามาให้ข้ากินเถอะ” “อยู่นี่ ๆ” หลี่เมิ่งเหยานำเม็ดยาไปจ่อที่ปากของเขา จากนั้นเทน้ำดื่มลงบนถ้วยยื่นให้เขาตามไป “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง” นางเองก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน ยารักษาดวงตา นี่ครั้งแรกของนางจริง ๆ “ข้ารู้สึกเหมือนความร
21 : เจ้าหลินต๋าคนเลว กล้าฟ้องเรื่องนี้ด้วยรึ “ท่านปู่ของคุณหนูเป็นอดีตเจ้าเมืองถัง ย่อมมีคนรู้จักมากหน้าหลายตา เกรงว่าคงมีคนแอบช่วยเหลืออยู่ วันก่อนข้าเห็นว่ามีคนของตระกูลจี้จากเมืองหลวง มาเยี่ยมเยือนที่เรือนข้าง ๆ คงมอบเงินช่วยเหลือมาบ้าง อย่างไรเสียจี้ฮูหยินกับบุตรชายก็อยู่ที่นี่”
“เช่นนี้ดีแล้ว ยามรักษาข้าจะอยู่ดูด้วย” อืม นั่นคือไม่ไว้ใจข้าสินะ ทั้งคู่กลับเข้ามาในห้องนอนของหยวนเหวินเซียวอีกครั้ง ซ่งหลินต๋าคอตก เหมือนถูกดุด่ามาอย่างหนักหน่วง หลี่เมิ่งเหยาปรายตามองเขาแล้วเบ้ปากใส่ “เมิ่งเหยาอธิบายวิธีการรักษาให้ข้าเข้าใจแล้ว ข้าอนุญาตให้รัก
22 : ไอหยา ! ข้าเป็นพี่ชายแล้ว ราวหนึ่งเค่อต่อมา เหงื่อบนหน้าผากของหลี่เมิ่งเหยาเริ่มผุดขึ้น นางค่อย ๆ ดึงพลังลมปราณกลับคืนแล้วลืมตาขึ้น “วันนี้พอเท่านี้ก่อนเถอะ” หันไปทางซ่งหลินต๋า “มาผูกตาให้พี่เหวินเซียวตามเดิม” ซ่งหลินต๋ารีบนำผ้า มาผูกปิดตาของผู้เป็นนายไว้ “คุณช
“เรือนก็หลังแค่นี้ เหตุใดเขาถึงหายตัวไปได้เล่า หรือว่าจะมีคนร้าย เข้ามาจับตัวเขาไปเจ้าคะ” จี้ชิวหรงหัวใจแทบแตกสลาย “เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปในแง่ร้ายเลย” หลี่หย่วนเจ๋อเองก็ไม่รู้จะปลอบนางอย่างไรดี ได้แต่โอบกอดอยู่เป็นเพื่อนนางไปก่อน เมื่อหาทั่วทั้งเรือนแล้วยังไม่เจอ หนึ่งชั่วยามต่อ
23 : ท่านแม่ข้าแค่อยากเล่นกับน้องชาย ระหว่างทางหลี่หย่วนเจ๋อได้สังเกตรอบ ๆ ไปด้วย ไม่มีบุรุษอื่นอยู่ในเรือนด้านหลังของสตรี นับว่าหม่าหลินเฟยดูแลพวกนางดีอยู่ “ป้าหลูท่านแม่ล่ะ” หลี่เมิ่งเหยาถามป้าหลู ที่กำลังนั่งพับผ้าอยู่ในห้องโถงเล็กของเรือน “ฮูหยินนอนกลางวันอยู่
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว