Share

บทที่ 3

Author: เหยียนซี
สิบวันต่อมา

รถม้าที่สภาพทรุดโทรมหยุดจอดอยู่หน้าประตูของจวนเจียง

เจียงหวานหว่านให้สือหลิ่วไปเคาะประตู อีกทั้งยังแจ้งฐานะของพวกนางด้วย

เมื่อเด็กรับใช้ที่เฝ้าประตูอยู่ได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปยกใหญ่

หลังจากที่มองพวกนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว "ปึง" เสียงปิดประตูดัง หันกลับวิ่งไปรายงานที่เรือนกลางทันที

เฉาหยูเฟิ่งกำลังถือช้อนชิมรังนกหิมะชั้นดีอยู่

เมื่อได้ยินที่สาวใช้บอก ช้อนในมือก็ร่วงลงในชามทันที ทำให้เกิดเสียงแตกดังลั่น

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ นางส่งคนไปฆ่าแม่ลูกคู่นี้แล้วนี่นา

คนยังไม่ตาย แถมยังปล่อยให้พวกนางวิ่งแจ่นมาจนถึงเมืองหลวงได้

ในใจของเฉาหยูเฟิ่งรู้สึกเดือดปุดๆ จนแทบจะกัดฟันเงินจนแตกได้

"นายหญิง คราวนี้จะทำยังไงดีเจ้าคะ"

"หึ! อะไรทำยังไง ก็เป็นแค่พวกคนยากจน ออกไปพบพร้อมกับข้าก็พอ!"

เมื่อพูดจบ นางก็ลุกขึ้นเดินอย่างองอาจไปที่ประตูใหญ่พร้อมกับสาวใช้ทันที

ประตูใหญ่ของจวนเจียงค่อยๆ เปิดออก เฉาหยูเฟิ่งเดินนำสาวใช้ออกมา

ร่างที่สวมใส่ชุดหรูหราราคาแพง ยืนอยู่ตรงหน้าคู่แม่ลูกหลิ่วซู่ด้วยความดูถูก จ้องไปที่พวกนางด้วยสายตาเย็นเยียบ

"เป็นพวกเจ้าเองเหรอที่แอบอ้างตัวว่าเป็นนายหญิงกับบุตรสาวของจวนเจียง ช่างบังอาจเสียเหลือเกินนะ!"

หลิ่วซู่มองไปที่ผู้หญิงซึ่งสวมเครื่องประดับหรูหราตรงหน้า ก่อนที่นางจับมือลูกสาวไว้อย่างตื่นเต้น

"เจ้าเป็นใครกัน ข้าคือภรรยาที่เจียงป๋อเหนียนแต่งงานด้วยอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม จะเป็นการแอบอ้างได้อย่างไร"

เฉาหยูเฟิ่งเหลือบมองไปที่นางอย่างไม่พอใจ "เดี๋ยวนี้พวกนักต้มตุ๋นพัฒนาฝีมือการหลอกคนได้ดีขึ้นทุกวันแล้วนะ! ใครก็ได้ ไล่ออกไปให้ข้าซะ!"

เมื่อนางพูดจบ

เจียงหวานหว่านก็สลัดมือของหลิ่วซู่ออกทันที เดินเข้าไปตบหน้าของเฉาหยูเฟิ่งอย่างแรง

"นังแพศยา! เจ้าคู่ควรมาพูดจาเช่นนี้กับแม่ของข้าด้วยเหรอ เป็นแค่ภรรยาน้อย บังอาจไม่รักษาระเบียบถึงเพียงนี้เลยเหรอ"

เฉาหยูเฟิ่งโดนตบจนมึน ยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้ใดๆ ก็ถูกเจียงหวานหว่านเตะเข้าที่น่องขาไปอีกที

ความรู้สึกเจ็บปวดมหาศาลก็ตามมา

"ปึก" เสียงนางล้มคุกเข่าลงไปบนพื้นอย่างแรง

"อ๊าก..."

นางล้มลงไปกับพื้น รู้สึกเจ็บมาก

พวกบ่าวไพร่ที่อยู่ด้านหลังถึงจะค่อยได้สติกลับคืนมา

เพิ่งคิดจะเดินขึ้นมา ก็ถูกเสียงเย็นๆ ขู่ให้ต้องหยุดชะงัก

"ใครก็ห้ามเข้ามา!"

เจียงหวานหว่านจ้องไปที่เฉาหยูเฟิ่ง สายตาแผ่รังสีไอเย็นออกมาอย่างรุนแรง

"นังแพศยาน้อย! นี่เจ้ากล้า...อ๊าก..."

เฉาหยูเฟิ่งยังไม่ทันจะได้พูดระบายความแค้นจบ ก็ถูกเจียงหวานหว่านเหยียบลงไปที่มืออย่างโหดร้าย

เจียงหวานหว่านหรี่ตาลง ค้อมเอวลงไปเล็กน้อย ถามเสียงเย็น "เรียกใครว่านังแพศยาน้อย"

"อ๊ากกก! ปล่อยข้านะ!" เฉาหยูเฟิ่งเจ็บปวดมากจนต้องกรีดร้องออกมา

แต่เจียงหวานหว่านยังรู้สึกไม่สะใจพอ มุมปากยิ้มอย่างเย็นชาโหดเหี้ยม ใช้ปลายเท้ากดย้ำลงไปบนหลังมือของนางอย่างแรง

ได้ยินเพียเสียง "แกร๊ก" เบาๆ

เสียงร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือดของเฉาหยูเฟิ่งดังขึ้นมาข้างหู

มือข้างนี้ พิการแล้ว!

เจียงหวานหว่านยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา แค่นี้ก็เจ็บแล้วเหรอ

ความเจ็บปวดในชาติก่อนของนาง ยิ่งกว่านี้อีกเป็นพันเป็นหมื่นเท่า!

ชาตินี้ นางก็คือผีร้ายที่จะมาเอาชีวิตของสองแม่ลูกนี่ ใครก็อย่าคิดจะรอดไปได้!

นางจะลากตัวพวกเขาลงนรกไปทีละนิดๆ!

ในเวลานี้เอง

เสียงตะโกนลั่นอย่างโมโหก็ดังขึ้น "ใครกล้าทำร้ายแม่ของข้า ข้าจะฆ่ามันทิ้งซะ"

เจียงหวานหว่านมองไปตามเสียง

ก็เห็นว่าคนที่มาคือพี่ห้าคนดีของนาง ลูกแหง่ชื่อดังของเมืองหลวง เจียงจิ่นหนิง!

เจียงหวานหว่านหรี่ตาที่เยือกเย็นของนาง

แม่แท้ๆ อยู่ตรงนี้ แต่กลับกล้าเรียกคนอื่นว่าแม่

สมแล้วที่เป็นคนอกตัญญู!

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจียงจิ่นหนิงที่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางตัวเอง

ความโกรธในใจของนางก็ทะปุขึ้น ยกขาถีบเฉาหยูเฟิ่งออกไปอย่างแรง

เฉาหยูเฟิ่งหน้าคว่ำลงบนพื้น

ฟันถูกก้อนหินบนพื้นกระแทก ทำให้เลือดกลบปาก

เจียงจิ่นหนิงดวงตาแดงก่ำ พูดด้วยหน้าตาถมึงทึง "นังตัวดี! นี่เจ้ากล้าตบตีแม่ข้างั้นรึ"

พูดไป เขาก็เดินเข้ามาหมายจะลงมือกับเจียงหวานหว่าน

Related chapters

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 4

    "หนิงเกอเออร์..."หลิ่วซู่มองไปที่ลูกชายที่อยู่ใกล้แค่คืบอย่างเหม่อลอย ร้องเรียกชื่อของเขาออกมาเจียงจิ่นหนิงชะงักไปครู่หนึ่งจ้องมองไปที่ผู้หญิงสูงวัยที่สวมใส่เสื้อผ้าโทรมๆ จนดูน่าอนาถเขาขมวดคิ้วมุ่น "เจ้าเป็นใคร บังอาจมาเรียกชื่อของข้า"ชัดเจน เขาจำหน้าตาของแม่ตัวเองไม่ได้แล้วหลิ่วซู่โซเซถอยหลังไปสองก้าว ถึงจะค่อยถูกสือหลิ่วช่วยประคองตัวเอาไว้ในใจก็อดที่จะรู้สึกเศร้าเสียใจไม่ได้ น้ำตาเริ่มไหลลงมาอย่างช้าๆเจียงหวานหว่านที่เห็นว่าเขาทำร้ายแม่แบบนี้ ก็อดกลั้นความโกรธในใจต่อไปไม่ไหวแล้วแต่แล้วยังไม่ทันรอให้นางได้มีปฏิกริยาตอบสนองอะไร เฉาหยูเฟิ่งก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาก่อน"หนิงเกอเออร์ พวกมันสองคนแม่ลูกเป็นพวกหลอกลวง แอบอ้างว่าตัวเองเป็นแม่และน้องสาวของเจ้า เจ้ารีบมาช่วยแม่เร็วเข้า!"เสียงร้องของเฉาหยูเฟิ่งทำให้เจียงจิ่นหนิงได้สติกลับมามองไปที่บาดแผลบนใบหน้าของเฉาหยูเฟิ่ง ในใจของเขาก็คุกรุ่นขึ้นมา"ปล่อยแม่ของข้านะ!""เจียงจิ่นหนิง เจ้าเอาโจรมาเป็นแม่ ไม่สมควรจะเป็นคน!"พูดไป นางก็ใช้เท้าเหยียบลงไปแรงๆ อีกครั้งเฉาหยูเฟิ่งร้องโหยหวนเป็นหมูโดนเชือดออกมาเจียงจิ่นหน

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 5

    เจียงหวานหว่านส่งเสียงไม่พอใจทีหนึ่ง แล้วหยิบเอาหนังสือสมรสที่หลิ่วซู่พกติดตัวไว้ตลอดออกมา"หนังสือสมรสอยู่นี่ เจียงป๋อเหนียน รู้กฎหมายแต่ยังทำผิด"หนังสือสมรสตรงหน้า เป็นเหมือนหลักฐานมัดตัวที่แน่นหนาเจียงป๋อเหนียนรู้สึกเหมือนพังทลาย ริมฝีปากสั่นน้อยๆ"ปลอมแปลงหนังสือสมรส นักต้มตุ๋นนี่มีชั้นเชิงไม่เบา ใครก็ได้ ไปเอาหนังสือสมรสมาให้ข้า!"เจียงป๋อเหนียนหรี่ตาลง ภรรยาเอกของเขาจะเป็นผู้หญิงบ้านนอกไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวคนอื่นจะหัวเราะเยาะกันพอดีในจังหวะที่พวกคนใช้กำลังจะกรูกันเข้ามานั่นเองน้ำเสียงทุ้มหนามีเสน่ห์ก็ดังขึ้นมาก่อน"ฮูหยินเจียง มีเรื่องอันใดกันถึงได้คึกคักเพียงนี้"ตึก ตึก เสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ผู้ชายคนหนึ่งกำลังขี่ม้าชั้นดีสีขาวราวหิมะเข้ามาอย่างองอาจรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีทองแดง เครื่องหน้าคมเข้มชัดเจนลึกล้ำดวงตาเรียวยาวรูปดอกท้อภายใต้คิ้วคมดุจกระบี่ มองทุกคนอย่างดูมีอำนาจชายหนุ่มในชุดสีม่วงที่บังเอิญบุกเข้ามา ทำให้ร่างกายของเจียงหวานหว่านแข็งทื่อ ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้นเมื่อเจียงป๋อเหนียนเห็นเป็นเขา ก็ใจกระตุก"คารวะอ๋องซี แค่ชาวบ้านก่อความวุ่นวาย เดี๋ยวข

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 6

    สีหน้าของเจียงป๋อเหนียนดูไม่ได้ สองมือกำหมัดแน่นกำลังทหารครึ่งหนึ่งของแคว้นตงหลิงอยู่ในมือของหรงซีเขาไม่กล้าจะผิดใจกับหรงซีท่าทีของหรงซีในตอนนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะช่วยหลิ่วซู่แม่ลูก เขาไม่อาจเอาอนาคตของตัวเองไปเสี่ยงได้หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเจียงป๋อเหนียนก็กัดฟันยอมรับ "ใช่ นางหลิ่วเป็นภรรยาเอกของข้าน้อยเองขอรับ""อ๋องซี ข้าน้อยแก่แล้วสายตาไม่ดี ไม่ได้พบฮูหยินมาหลายปี หน้าตาฮูหยินก็เปลี่ยนไป ก็เลยจำไม่ได้ในตอนแรก อีกทั้งยังเคยได้รับจดหมายบอกว่าฮูหยินกับลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้เกิดเรื่องเข้าใจผิดในวันนี้ได้"หรงซีมองไปที่เจียงหวานหว่าน "แม่นางเจียง ใต้เท้าเจียงบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด เจ้าคิดว่ายังไง"เจียงป๋อเหนียนมองไปทางหลิ่วซู่ สายตาเหมือนมีความหมาย "ซู่เหนียง พวกลูกๆ ต่างก็คิดถึงเจ้ามาก เจ้ากลับมาได้ พวกเขาจะต้องดีใจกันมากแน่"เขากำลังเตือนหลิ่วซู่ว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ให้คิดถึงอนาคตของพวกลูกชายด้วยเจียงหวานหว่านมองไปที่เจียงป๋อเหนียนอย่างดูถูก รังแกคนอ่อนแอหวาดกลัวคนแข็งแกร่งหลิ่วซู่ยังคงกัดริมฝีปากล่างอยู่อย่างนั้น ส่า

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 7

    เจียงหวานหว่านจึงสั่งให้แม่เฒ่างานหยาบไปเอาอาหารมาแม่เฒ่างานหยาบรับคำสั่ง เอาอาหารมาวางไว้แล้วก็ออกไปกับข้าวสองอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่างชามที่ใช้ใส่ข้าว ขอบชามแตกเป็นรู ข้าวที่ให้มาก็เก่าสีออกเหลืองนิดๆ แล้ว แถมยังมีทรายเม็ดเล็กๆ ปะปนมาด้วยปลานึ่ง ดูเหมือนจะไม่เลว แต่กลับมีกลิ่นฉุนคลุ้งขึ้นจมูก แค่ได้กลิ่นก็อยากจะอาเจียนแล้วหมูผัดซีอิ๊ว ดูไปแล้วก็ไม่มีเนื้อแดงเลยสักนิด เป็นมันหมูล้วนๆสือหลิ่วเบ้ปาก หยิบช้อนมาลองตักน้ำแกงที่ดูเหมือนปกติขึ้นมาชิมคำหนึ่งคิ้วขมวดแน่น หน้าตาเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาให้ได้วินาทีต่อไปก็อาเจียนออกมา"คุณหนูคะ เมื่อครู่เหมือนข้าได้กินเยี่ยวเข้าไปเลยเจ้าค่ะ!"พูดจบก็บ้วนน้ำล้างปากไปหลายครั้งเจียงหวานหว่านสีหน้าแย่มาก บอกให้สือหลิ่วไปเรียกแม่นมหวังมาสือหลิ่วไปแล้วก่อนจะกลับมาอย่างรวดเร็ว"คุณหนูคะ แม่นมหวังบอกว่าตอนนี้นางต้องดูแลฮูหยินและคุณชายที่บาดเจ็บ ไม่สามารถมาได้ หากมีเรื่องอะไร รอให้นางเสร็จธุระก่อนค่อยว่ากันเจ้าค่ะ"หึ วางอำนาจเหรอ ไม่มีทางหรอกเจียงหวานหว่านให้หลิ่วซู่รอก่อน สั่งให้สือหลิ่วถืออาหารตามนางมา เพื่อไปหานางหวังนางหวังเป

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 8

    แม่นมหวังถูกกรอกอาหารจนเต็มปาก ใบหน้าแดงก่ำ กลิ่นรสที่อยู่ในปากทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียนคิดอยากจะตะโกนร้องออกไป แต่ก็ร้องไม่ออก จึงได้แค่ส่งเสียงครวญครางอย่างน่าสงสารเซียงเออร์ที่แอบดูอยู่เห็นแล้วว่าแม่นมหวังถูกตบ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปห้าม จึงหมุนตัววิ่งกลับไปในเรือน"ฮูหยิน แย่แล้ว แม่นมหวังถูกตบเจ้าค่ะ""ใคร ใครกล้าตบแม่นมหวัง ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน!"เฉาหยูเฟิ่งโมโหจัดเซียงเออร์หอบหายใจแรง เม้มปากก่อนตอบว่า "เจียงหวานหว่านเจ้าค่ะ!"เฉาหยูเฟิ่งรีบพูด "นังแพศยาสมควรตายนัก! ไปจับตัวนางมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!""เจ้าค่ะ"เซียงเออร์ตะโกนเรียกสาวใช้ในเรือน แล้ววิ่งออกไปด้วยท่าทีขึงขังเฉาหยูเฟิ่งกัดฟันกรอด กำหมัดตีไปบนผ้านวมอย่างแรง แม่นมหวังเป็นแม่นมของนางตอนนี้พวกเจียงหวานหว่านเข้ามาอยู่ในจวน ตกอยู่ในกำมือของนางแล้วรอให้แผลนางหายดีก่อน จะไม่ยอมให้นังแพศยาสองคนนั่นอยู่อย่างมีความสุขแน่เมื่อเซียงเออร์พาคนออกมา เจียงหวานหว่านก็พาสือหลิ่วกลับไปตั้งนานแล้วพวกสาวใช้ต่างรีบช่วยกันประคองแม่นมหวังเข้าไปข้างในเจียงหวานหว่านไม่ได้พาสือหลิ่วกลับไปเลย แต่อ้อมไปทางห้องครัวแม่เฒ่าที่ด

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 9

    แม่เฒ่าอู๋กรอกตา ขนาดฮูหยินยังกล้าตี นางเป็นแค่คนใช้ ไม่หาเรื่องจะดีกว่าถุยน้ำลายลงพื้นทีหนึ่งอย่างแค้นใจ ก่อนจะโบกมือ"แยกย้ายๆ ไปทำงานไป"ถือซะว่านางซวยไป นังแพศยา ลงมือรุนแรงจริงเชียวเจียงหวานหว่านกับสือหลิ่วถืออาหารที่ทั้งหอมยั่วใจและหน้าตาน่ากินกลับไปหลิ่วซู่กำลังยืนรอพวกนางอยู่ที่หน้าประตูอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นพวกนางกลับมา นางถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก"หวานเจี่ยเออร์" อย่าไปต่อกรกับพวกเขาโต้งๆ แบบนั้น แม่เป็นห่วงเจ้าเจียงหวานหว่านคล้องแขนของหลิ่วซู่ ทั้งคู่เดินเข้าไปในเรือนด้วยกันอาหารอร่อยมาก ทั้งสามคนกินกันจนพุงกาง รู้สึกพอใจอย่างที่สุดหลังจากกินข้าวเสร็จ หลิ่วซู่ก็เอาเงินทั้งหมดออกมา เหลือแค่มัดเดียวแล้วถอนหายใจยาว ถ้าไม่มีเงิน แล้วต่อไปพวกนางแม่ลูกจะอยู่กันยังไง"ท่านแม่ ไม่ต้องกังวล เรื่องเงินให้เป็นหน้าที่ข้าเอง"หลิ่วซู่อ้าปากคล้ายกับว่าจะพูดอะไร เจียงหวานหว่านก็เร่งให้นางรีบเข้าไปพักผ่อนประตูเรือนถูกเคาะเสียงดัง สือหลิ่วเดินออกไปดู เพิ่งจะเปิดประตูออกสาวใช้กับแม่เฒ่ากลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาสือหลิ่วไม่อาจกันไว้ได้ จึงวิ่งไปพลางตะโกนไปพลาง "คุณหนู มีคนบุ

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 10

    เจียงหวานหว่านนั่งลงไปบนเก้าอี้ ยกกาน้ำชาเพื่อรินชาจอกหนึ่งให้ตัวเองดื่ม"ชารสชาติไม่เลว"เฉาหยูเฟิ่งกัดฟันพูด "อย่าคิดนะว่าได้เข้ามาอยู่ในจวนเจียงแล้ว ทุกอย่างจะราบรื่น ข้าต่างหากที่เป็นเจียงฮูหยิน!"เจียงหวานหว่านเลิกคิ้ว"อ่อ หรือเจ้าคิดว่าท่านพ่อจะยอมสละอนาคตขุนนางเพื่อเจ้ากัน!"เฉาหยูเฟิ่งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็ใจหายวาบ นายท่านให้ความสำคัญกับอำนาจและตำแหน่งของเขาเป็นที่สุด ไม่มีทางยอมเสียสละเพื่อใครแน่เจียงหวานหว่านหลุบตามองต่ำ บีบไปที่หัวคิ้วตัวเอง "แย่งครอบครัวของคนอื่น ผิดครรลองครองธรรม!""เจ้าต้องการอะไรกันแน่"เจียงหวานหว่านยกมุมปากขึ้น "เงินไง ดูแลจวนเจียงมาตั้งนานหลายปี ตักตวงผลประโยชน์ไปไม่รู้แล้วตั้งเท่าไร สมควรคายออกมาบ้างแล้ว""บังอาจ! พูดเหลวไหลอะไรของเจ้า!"เจียงหวานหว่านใช้ฝาแก้วชาเขี่ยใบชาในถ้วยเล่น "หอหยางชุน ปีหนึ่งมีกำไรตั้งสองหมื่นสองเหลียง แต่เจ้าบอกกับท่านพ่อว่าปีหนึ่งได้กำไรเพียงแค่สามพันเหลียง!"เมื่อเฉาหยูเฟิ่งได้ยินที่เจียงหวานหว่านพูด สีหน้าก็ซีดเผือด"พูดจาเหลวไหล โกหกทั้งนั้น"นังแพศยาน้อยนี่รู้ได้ยังไงว่าหอหยางชุนเป็นกิจการของจวนเจียงนะ อี

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 11

    วันต่อมา เจียงหวานหว่านไปที่จวนอ๋องซีทหารองค์รักษ์เดินนำเจียงหวานหว่านเข้าไปในจวนอ๋องเจียงหวานหว่านรู้จักคนคนนี้ เขาคือเซี่ยงหรง องค์รักษ์คู่กายของหรงซีเซี่ยงหรงเดินนำอยู่ข้างหน้า เจียงหวานหว่านเดินตามอยู่ข้างหลังจู่ๆ ข้างหน้าก็มีเสียงกระทบกันของโลหะ เป็นเสียงการใช้อาวุธปะทะกันเซี่ยงหรงสีหน้าเปลี่ยนไป ทิ้งเจียงหวานหว่านที่เดินตามอยู่ข้างหลังไว้ แล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็วทำไมในเวลากลางวันจวนอ๋องถึงเกิดเสียงครึกโครมขนาดนี้ได้ เจียงหวานหว่านรู้สึกว่ามันแปลกประหลาด สองมือยกชายกระโปรงขึ้นแล้วรีบวิ่งไปดูทันทีเมื่อนางมาถึงอย่างเหนื่อยหอบ เหล่าองค์รักษ์ในจวนอ๋องต่างก็กำลังต่อสู้กับคนชุดดำปิดหน้าอยู่เจียงหวานหว่านมองแว๊บเดียวก็เห็นเงาร่างของหรงซี มีหลายคนกำลังล้อมวงโจมตีเขาอยู่ไอสังหารแผ่ซ่านออกจากตัวเขา ราวกับยมฑูตจากนรก ฆ่าได้อย่างเด็ดขาดคนชุดดำดูก็รู้ว่าเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีนางเพียงต่อสู้ได้เล็กน้อย ต่อกรกับพวกนักเลงก็พอไหว ถ้าจะไปสู้กับคนชุดดำ นั่นก็จะไม่ประมาณตนเกินไปถึงแม้จะเป็นห่วงหรงซี อยากที่จะช่วยเขา แต่ก็ไม่กล้าผลีผลาม กลัวจะกลายเป็นตัวถ่วงหรงซีเปล่

Latest chapter

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 210

    เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 209

    “เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 208

    เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 207

    “ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 206

    เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 205

    นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 204

    เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 203

    เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 202

    วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status