มู่เซียงเพิ่งเดินออกไป ชุนฮว๋าก็ยกน้ำชาเดินเข้ามา"คุณหนู อีกไม่กี่วัน ก็จะถึงวันเกิดครบรอบหกสิบปีของฮูหยินใหญ่แล้ว คุณหนูรบกวนเตรียมของขวัญด้วย!"ชุนฮว๋าคิดเพื่อเจียงหวานหว่านด้วยใบหน้าจริงใจเจียงหวานหว่านยิ้มอย่างสงบ "เจ้านี่ช่างมีน้ำใจเสียจริง!"ชุนฮว๋าก้มหน้าค้อมรับ"ข้าน้อยตินนี้ติดตามคุณหนูอยู่ แน่นอนว่าต้องคิดเพื่อคุณหนู"เจียงหวานหว่านเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม"เจ้านี่ฉลาดเสียจริง"มุมปากชุนฮว๋ายกขึ้นเย้ยหยัน แต่เพียงไม่นานก็ถูกพรางลงไปด้วยรอยยิ้มจริงใจของนาง"คุณหนู คนในจวนล้วนรู้กันว่า ฮูหยินใหญ่ชอบเสื้อผ้าเครื่องประดับจากหอหนีซางที่สุด"เจียงหวานหว่านร้องเชอะเย็นชาในใจ ชุนฮว๋าเห็นนางเป็นคนบ้านนอกไปแล้วจริงๆ สินะเสื้อผ้าเครื่องประดับของหอหนีซาง เป็นสัญลักษณ์ของตัวตนฐานะ เลื่องชื่อเรื่องความดี และเลื่องชื่อเรื่องความแพงด้วยและทุกคนที่สามารถสวมเสื้อผ้าของหอหนีซาง ต้องเป็นผู้ที่สูงส่งสุงศักดิ์จุดที่สำคัญที่สุด เสื้อผ้าของหอหนีซางต้องสั่งล่วงหน้าถึงหนึ่งเดือนวันเกิดของท่านย่าก็อีกแค่ไม่กี่วันแล้ว เจตนาไม่ดีชัดๆแค่คนใช้คนหนึ่งกลับคิดจะเล่นตุกติกกับนาง เหลือจะเชื่อเส
เจียงหวานหว่านวุ่นในห้องครัวเล็กอยู่นาน มู่เซียงก็คอยเป็นลูกมือให้น้ำแกงบำรุงสองหม้อร้อนๆ ตุ๋นเสร็จแล้ว เพิ่มขนมก้อนรูปปลา กับขนมสมปรารถนาเข้าไปเจียงหวานหว่านยิ่งดูก็ยิ่งพอใจ"คุณหนู ไม่คิดเลยว่าฝีมือทำอาหารของท่านจะดีขนาดนี้!"มู่เซียวเอ่ยชมขึ้นมาเจียงหวานหว่านชิมรสชาติ "นำน้ำแกงกับขนมสมปรารถนานี้ส่งไปให้ฮูหยิน"ร่างกายของท่านแม่ต้องการการบำรุง พวกยาของบำรุงในจวนเจียงก็มีอยู่ไม่น้อยเลย เอามาบำรุงท่านแม่ได้พอดีจากนั้นจึงหยิบกล่องอาหารออกมา เจียงหวานหว่านนำน้ำแกงอีกส่วนและขนมก้อนรูปปลาใส่ไว้อย่างดี ปิดฝาลง"สือหลิ่ว"เจียงหวานหว่านตะโกนเข้าไปในเรือนสือหลิ่วพอได้ยินก็ออกมา"เอากล่องอาหารนี้ส่งไปที่จวนอ๋อง"เจียงหวานหว่านนำกล่องอาหารส่งให้สือหลิ่วสือหลิ่วเบ้ปาก "คุณหนู หลายวันนี้ ท่านเอาแต่ส่งของไปที่จวนอ๋อง ถุงหอมบ้าง ยาลูกกลอนบ้าง ขนมบ้าง น้ำแกงบ้าง...ท่านไม่เหนื่อยหรือไรกัน!"เจียงหวานหว่านใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากสือหลิ่ว "ถ้าไม่ใช่ท่านอ๋องมาช่วยเหลือ พวกเราจะเข้ามาในจวนตระกูลเจียงคงต้องลงแรงอีกมาก ส่งน้ำใจไปบ้างมันก็แน่นอนอยู่แล้วนี่!""คุณหนู ทุกครั้งที่ข้าออกจ
พอเห็นการแต่งกายของคนที่เข้ามา เจียงหวานหว่านรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้คือคนที่ตนเองหาอยู่"แม่เล้าไช่ ตายอดเยี่ยมจริงๆ สมกับที่มองคนมานับไม่ถ้วน ข้าน้อยนับถือ!"ถูกคนมองออกว่าเป็นผู้หญิง เจียงหวานหว่านไม่ใส่ใจแม่เล้าไช่สองมือซ้อนทับด้วยกัน พูดหยอกล้อขึ้น "แม่นาง คณิกาชายของที่นี่ก็ไม่เลวนะ อยากจะลองดูเสียหน่อยไหม?"เจียงหวานหว่านพอได้ยินคำนี้ หน้าก็แดงเถือก แม่เล้าไช่เข้าใจนางผิดเสียแล้ว"แม่เล้า วันนี้ข้ามาหารือเรื่องธุรกิจกับท่าน"เจียงหวานหว่านพูดเจตจำนงที่มาอย่างชัดเจน"มาหารือธุรกิจที่หอเทียนเยว่ แม่นางเกรงว่าจะมาผิดที่เสียแล้ว!"แม่เล้าไช่ส่ายหัว เตรียมตัวจะลุกหนี"องค์ชายใหญ่แคว้นซีหลิงเซี่ยโหวอี๋มาถึงเมืองหลวงแล้ว ถ้าหากหอเทียนเยว่สามารถต้อนรับแขกคนนี้ได้ จะต้องยกระดับขึ้นอีกชั้นแน่นอน!"แม่เล้าไช่สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม "แม่นางชื่อว่าอะไร?""ข้าน้อยสกุลหลิ่ว ข้ามีวิธีทำให้หอเทียนเยว่โด่งดังขึ้นในคราวเดียว กลายเป็นผู้นำแห่งหอเทียนเยว่ไปเลย"เจียงหวานหว่านปิดบังชื่อจริงตนเองแม่เล้าไช่ครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย "แม่นางหลิ่วพูดเรื่องจริงหรือ? คงไม่ใช่แค่มาฆ่าเวลากับหญิงก
ชายชุดดำก็คือหรงซีนั่นเอง เขาถูกซ่างกวนอวิ๋นเฟยลากเข้ามา"เจอร่องรอยของเซี่ยโหวอี๋บ้างไหม?"ซ่างกวนอวิ๋นเฟยโบกมือตอบว่า "ท่านอ๋อง ไม่รีบร้อน หอเทียนเยว่คึกโครมเสียขนาดนี้ เซี่ยโหวอี๋จะต้องมาแน่นอน!"หรงซีหลับตาตั้งสมาธิ ไม่สนใจเสียงโหวกเหวกของซ่างกวนอวิ๋นเฟยแม่เล้าไช่รีบร้อนวิ่งเข้ามาหาเจียงหวานหว่าน"แม่นางหลิ่ว แย่แล้ว มู่ตันจู่ๆ ก็ท้องเสีย หมดเรี่ยวหมดแรง แล้วจะขึ้นไปเต้นรำได้อย่างไร?"เจียงหวานหว่านพอได้ยิน ก็คิดวิธีแก้ปัญหาได้แล้ว"แม่เล้าไช่ไม่ต้องรีบร้อน พาข้าไปหาแม่นางมู่ตันหน่อย ข้ามีความรู้วิชาแพทย์""ได้ๆๆ แม่นางหลิ่วโปรดตามข้ามา"หลังจากจับชีพจรมู่ตันแล้ว เจียงหวานหว่านก็เขียนใบสั่งยาทันที"แม่เล้าไช่ ดื่มยาเสียหน่อย อีกหนึ่งชั่วยาม แม่นางมู่ตันก็จะดีขึ้น"แม่เล้าไช่หยิบใบสั่งยา หน้านิ่วคิ้วขมวด กระโดดเหยงๆ อย่างร้อนใจ"แม่นางหลิ่ว อีกครึ่งชั่วยามมู่ตันต้องขึ้นเวทีแล้ว จะทำอย่างไรดี!?"เจียงหวานหว่านครุ่นคิดครู่หนึ่งตอบกลับว่า"แม่เล้าไช่ ข้าจะสวมผ้าคลุมหน้าขึ้นเวทีแสดงแทนนางเอง"แม่เล้าไช่พอได้ยินคำนี้ ความกังวลบนใบหน้าก็หายไป ฉีกยิ้มเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าเช่นนั้
ล่างเวทีมีเสียงเกรียวกราว หนึ่งล้านตำลึง นี่เป็นพวกคนที่เงินเหลือจนเอามาเผาทิ้งได้แล้วพอเห็นว่าไม่มีใครให้ราคาสูงกว่าหนึ่งล้านตำลึง แม่เล้าไช่ก็กระแอมลำคอ"สุภาพบุรุษทุกท่าน เหล่าหญิงสาวกำลังรอพวกท่านอยู่!"ในกลุ่มคนมีเสียงโห่ร้องกึกก้อง เหล่าชายหนุ่มแยกกันไปหาหญิงสาวที่ตนเองหมายปองไว้หลังจากแม่เล้าไช่ลงจากเวที ก็นำเซี่ยโหวอี๋ไปยังประตูห้องของมู่ตันเจียงหวานหว่านเดินวนไปมาอยู่ในห้อง มู่ตันทำไมยังไม่กลับมาอีกตอนนี้เองแม่เล้าไช่ก็ผลักประตูเปิดออก เซี่ยโหวอี๋เข้ามาในห้อง องครักษ์จุดธูปขึ้น จากนั้นก็ถอยตัวออกไปคุ้มกันที่ประตูกลิ่นธูปกระจายออกในห้องอย่างรวดเร็ว เจียงหวานหว่านขมวดคิ้ว ในใจแอบรู้สึกว่าแย่แล้วในควันธูปที่จุดเผาคือยาปลุกกำหนัด ที่พิษรุนแรงที่สุดธูปนี้มีผลแต่กับหญิงสาวเท่านั้น กับผู้ชายไม่มีผลคิดไม่ถึงว่าเซี่ยโหวอี๋จะระมัดระวังถึงเพียงนี้!แผนการตอนนี้คือพยายามกลั้นหายใจให้มากที่สุด!เซี่ยโหวอี๋สายตาจับจ้องยังเรือนร่างของเจียงหวานหว่าน โบกมือให้แม่เล้าไช่ออกไปแม่เล้าไช่เองก็ได้กลิ่นของธูปปลุกกำหนัดแล้ว เหลือบมองเจียงหวานหว่านอย่างกังวลเจียงหวานหว่านส่งสาย
องครักษ์ของเซี่ยโหวอี๋ได้ยินการเคลื่อนไหวในห้อง กำลังจะเคาะประตูสอบถาม ทหารรักษาพระองค์กลุ่มหนึ่งก็เข้ามาในหอเทียนเยว่องค์รักษ์ไม่คิดจะเปิดเผยตัวเซี่ยโหวอี๋ จึงกดเสียงลงต่ำ"นายท่าน ด้านนอกมีทหารหลวงกลุ่มหนึ่งเข้ามา!"ถ้าหาาเซี่ยโหวอี๋ไม่ตอบกลับ องครักษ์ที่ประตูคงได้บุกเข้ามาแน่หรงซีจึงบีบกระเดือก เลียนแบบเสียงเซี่ยโหวอี๋ออกมา"รู้แล้ว พวกเจ้าดึงทหารหลวงออกไปก่อน ข้าจะตามไปทีหลัง!""พะย่ะค่ะ"ร่างขององครักษ์หายไปจากหน้าประตู"ท่านอ๋อง ท่านนี่เยี่ยมจริงๆ!"มือน้อยเจียงหวานหว่านลูบไล้ที่ติ่งหูของหรงซีลูกกระเดือกหรงซีขยับเล็กน้อยกลิ่นหอมบนตัวหญิงสาวลอยเข้าจมูกเขา ในใจหรงซีเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นเขาเป็นพวกรักสะอาด ไม่ชอบการเข้ามาใกล้ของหญิงสาว ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่รังเกียจหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ดวงตาเจียงหวานหว่านจ้องเขม็งที่หรงซีตนเองชาติที่แล้วทำไมจึงเข้าใจเขาผิดมาตลอดกันนะผู้ชายที่ดีขนาดนี้ นางกลับตามืดบอดไม่แลมอง แต่กลับไปชอบเจ้าขยะอย่างหรงมู่หานแทนในใจนางเกิดความบุ่มบ่าม คล้องคอหรงซีเอาไว้ค่อยๆ ดึงหน้าออกไป ใช้สายตาร้อนแรงมองหรงซีหนังตาหรงซีสั่นเล็กน้อย นี่เป
ตอนที่เจียงหวานหว่านตื่นขึ้นมา ก็พบว่านอนอยู่บนเตียงห้องนอนตนเองพอจับชีพจรตรวจดูพิษยาปลุกกำหนัด ก็พบว่าถูกรักษาไปแล้วพอจำเรื่องที่นางทำกับหรงซีเมื่อคืนได้ นางก็ปิดหน้าตนเอง ไม่มีหน้าไปพบใครแล้ว...สามวันต่อมา บาดแผลของเจียงหวานหว่านตกสะเก็ดแล้วชุนฮว๋าหลายวันนี้เห็นว่าเจียงหวานหว่านไม่ออกไปไหนเลย จึงร้อนรนขึ้นมา ในใจก็ไม่สงบรู้ถึงความชื่นชอบของฮูหยินใหญ่ แล้วทำไมคุณหนูจึงไม่ออกไปข้างนอกล่ะ!?ชุนฮว๋ากังวลว่าจะทำเรื่องเสีย ถ้าหากเจียงหวานหว่านไม่ออกไปไหนเลย ฮูหยินทางนั้นนางก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรนางจับตาดูการเคลื่อนไหวในห้องเจียงหวานหว่านสือหลิ่วเพิ่งช่วยเจียงหวานหว่านทายาที่ปากแผล ที่ประตูก็มีเสียงเคาะประตู"คุณหนู คุณหนูเจ็ดมาเข้าพบ!"เสียงของสาวใช้ชุนฮว๋าดังลอดเข้ามาจากนอกประตูพอได้ยินชื่อของเจียงอวิ้น เจียงหวานหว่านหน้าก็ขรึมลงทันที"คุณหนู!"ชุนฮว๋าพอเห็นในห้องเจียงหวานหว่านไม่มีการตอบกลับ จึงผลักประตูห้องเจียงหวานหว่านออกมาเอง"ซูม"เพิ่งจะผลักประตูเปิด ชุนฮว๋ายังไม่ทันตั้งตัว สือหลิ่วก็จัดการสาดน้ำสกปรกใส่ตัวชุนฮว๋าชุนฮว๋าเปียกมะลอกมะแลกไปทั้งตัวชุนฮว๋าโ
รอยยิ้มบนหน้าเจียงอวิ้นดูจอมปลอมขึ้นมาทันที"เสื้อผ้าเหล่านี้ท่านย่าเตรียมมาให้ ท่านพี่ไม่ชอบ น้องเอากลับไปก็จบแล้ว ทำไมต้องย่ำยีความเมตตาของท่านย่าเช่นนี้ด้วย!"สาวใช้ชิวจวี๋เดินกระฟัดกระเฟียดไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาเจียงหวานหว่านไม่สนใจคำพูดของเจียงอวิ้น สายตายังคร้านจะยกขึ้นมาด้วยซ้ำ"เฮ้อ!น้องคนนี้ก็ไม่รู้จะไปบอกกับท่านย่าอย่างไรแล้ว ท่านพี่พักผ่อนเถิด!"พูดจบ เจียงอวิ้นก็พาสาวใช้หมุนตัวเดินจากไป มือในแขนเสื้อกำหมัด เจ้าพวกไม่รู้จักความหวังดีของผู้อื่น!สือหลิ่วมองแผ่นหลังเจียงอวิ้น ถ่มน้ำลายออกมา บ้าอะไรกัน!"คุณหนู คุณหนูเจ็ดเหมือนจะออกไปฟ้องแล้ว!"เจียงหวานหว่านร้องเชอะ "ตัดคำว่าเหมือนจะออกไปเลย นางก็จะไปฟ้องนั่นล่ะ!"และก็เป็นไปตามที่เจียงหวานหว่านคาด เจียงอวิ้นร้องห่มร้องไห้ไปฟ้องฮูหยินใหญ่จริงๆเพียงไม่นานฮูหยินใหญ่เจียงก็สั่งให้ไปพบนางที่เรือนซูจิ่งเพื่อถามไถ่เจียงหวานหว่านพอเข้าประตูไปก็เห็นเจียงอวิ้นยืนอยู่ข้างๆฮูหยินใหญ่เจียงหลังจากโค้งเข่าคารวะฮูหยินใหญ่เจียง เจียงหวานหว่านก็ยืดตัวตรง"หวานเจี่ยเออร์ ทำไมจึงทำลายเสื้อผ้าทิ้งเสียล่ะ?"ฮูหยินใหญ่เจียงเอ่ยขึ้นด
เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง
“เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย
เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”
“ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข
เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น
นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ
เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย
เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง
วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม