ฮูหยินใหญ่เจียงโบกมือไปทางเจียงหวานหว่าน ให้นางออกไปตั้งแต่เจียงหวานหว่านกลับมาที่จวนไม่กี่วัน ฮูหยินใหญ่เจียงก็รู้สึกว่าตนเองชีวิตสั้นลงไปหลายปี เหมือนตัวซวยกลับชาติมาเกิดเลยฮูหยินหลิ่วนิสัยอ่อนโอน บีบคั้นได้ง่าย ถ้าหากไม่มีเจียงหวานหว่าน ฮูหยินหลิ่วก็คงทำอะไรไม่ได้มันน่านัก!ฮูหยินใหญ่เจียงแผ่ความเย็นเยียบออกมาทั้งร่าง เพื่ออนาคตของลูกชาย ต้องหาวิธีจัดการเอาแม่ลูกสกิลหลิ่วเข้ามาอยู่ในกำมือเสียแล้วเจียงอวิ้นสังเกตคำพูดและสีหน้า พอเห็นความรังเกียจขยะแขยงของฮูหยินใหญ่เจียงต่อเจียงหวานหว่าน ในใจก็แอบยินดีท่านย่าเกลียดชังเจียงหวานหว่านที่ท้าทายต่ออำนาจนางขอแค่ท่านย่าอยู่ข้างท่านแม่ แม่ลูกสกิลหลิ่วก็ไม่มีอะไรต้องกังวล!เจียงอวิ้นมุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่สังเกตได้ยากฮูหยินใหญ่เจียงกวาดสายตาไปทางเจียงอวิ้น ความโกรธในใจไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้น"อวิ้นเจี่ยเออร์ ดวงตาก็อย่าได้ตื่นเขินนัก!"เจียงอวิ้นได้ยินคำเตือนของฮูหยินใหญ่เจียง ก็แสร้งทำตัวว่าง่ายขึ้นในพริบตา"ท่านย่า ข้าคิดไม่รอบคอบ ข้าจะไปขอขมาท่านพี่เดี๋ยวนี้!"ฮูหยินใหญ่เจียงโบกมือให้นางออกไป ไม่อยากจะตำหนิให้มากนัก ถ
เจียงหวานหว่านพอเห็นที่ชายเสื้อแวบหนึ่งที่มุมเรือน ก็ยิ่งมั่นใจความคิดในใจ"คุณหนู ท่านหาตัวข้าน้อยหรือ?"มู่เซียงประคองชุนฮว๋ากะเผลกเดินเข้ามายืนที่หน้าประตูห้องเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหรี่ตาลง "ชุนฮว๋า วันนี้มีคนเข้ามาในห้องข้าหรือไม่!?""ไม่มี!"ชุนฮว๋าพูดออกมาสีหน้าเจียงหวานหว่านค่อยๆ ขรึมลงมา"เจ้าค่อยๆ คิด ไม่ต้องรีบตอบ"แขนทั้งสองที่ห้อยลงของชุนฮว๋า คว้าชายเสื้อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวในดวงตาเปล่งประกายลนลาน กลืนน้ำลายลงอย่างไม่รู้เนื้อตัว"ไม่มีใครจริงๆ ข้าน้อยคุกเข่าอยู่ในเรือนตลอด!"เจียงหวานหว่านร้องเชอะเสียงหนึ่ง โบกมือไปทางชุนฮว๋า เป็นสัญญาณให้นางเข้ามาชุนฮว๋าใจตุ้มต่อม เดินไปเบื้องหน้าเจียงหวานหว่านอย่างระมัดระวัง"กินอาหารเหล่านี้เสีย!"ชุนฮว๋าคิดจะอ้าปากปฏิเสธ พอเงยตาก็พบกับความเย็นชาของเจียงหวานหว่าน ไม่กล้าต่อต้านกินลงไปพอกินไปไม่กี่คำ ลำไส้ของชุนฮว๋าก็เหมือนมีสายน้ำตีเกลียว ท้องส่งเสียงโครกครากชุนฮว๋ารู้สึกว่าลมในท้องไหลลงด้านล่าง ท้องส่งเสียงโครกคราก นางต้องเข้าห้องน้ำแล้วนางกุมท้องอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่กล้าหายใจแรง"ถ้ายังมีครั้งต่อไ
ฟันบนและฟันล่างของสือหลิ่วกระทบกัน ลมหายใจกระชั้น หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว วิ่งพรวดออกไปด้านนอก หลังจากที่เจียงหวานหว่านส่งหลิ่วซู่กลับห้องแล้ว ให้สือหลิ่วเฝ้าหลิ่วซู่ให้ดี จากนั้นนางก็หาข้ออ้างกลับห้องไป เจียงหวานหว่านหาตะกร้าไผ่มาใบหนึ่ง จับงูทั้งหมดใส่เข้าไปในตะกร้าเจียงหวานหว่านถือตะกร้าไผ่ออกจากเรือนเหมยเจียงจิ่นหนิงกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ในลานเรือนตัวเองอย่างได้ใจงูเป็นสัตว์ที่สตรีกลัวมากที่สุด ตอนนี้เขาเหมือนได้เห็นภาพที่เจียงหวานหว่านกลัวงูแล้ว “ปัง” ประตูห้องถูกผลักออกอย่างแรง เจียงหวานหว่านเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เจียงจิ่นหนิงยังไม่ทันได้ตอบสนอง เจียงหวานหว่านต่อยเข้าไปที่หน้าเขาหนึ่งที น้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้าคนสารเลวชาติชั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขี้ยวพิษของงูถูกดึงออกไปแล้ว วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง!” เจียงจิ่นหนิงโมโหขึ้นทันที “คุณชายอย่างข้า...” เจียงหวานหว่านถือตะกร้าไว้ ปากตะกร้าอยู่ด้านล่าง งูตกลงบนหัวของเจียงจิ่นหนิงทีละตัวสัมผัสเย็นเยือกแผ่ซ่านไปทั่วตัว เจียงจิ่นหนิงทนไม่ไหวทันที “อ้าก...” เสียงร้องแหลมของเจียงจิ่นหนิงดังไปทั่วเรือนมือไม้ปัดเอาง
สกุลฉางใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตบมือของเฉาหยูเฟิ่งอย่างปลอบโยน "น้องสาวไม่ต้องห่วงทุกอย่างมีพี่ชายของเจ้าจัดการให้ สกุลหลิ่วผู้นั้นไม่สามารถดีกว่าเจ้าได้" ความคิดของเฉาหยูเฟิ่ง กาลังหมุนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางก็ไม่สามารถเป็นอนุภรรยาได้ไม่ว่าจะแย่แค่ไหนนางก็ต้องเป็นภรรยารอง! ความเยาะเย้ยเล็ดลอดผ่านในดวงตาของสกุลฉางที่นั่งอยู่ด้านข้าง ลูกสาวของครอบครัวขุนนางผู้มีเกียรติกลับถูกเหยียบย่ำและต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าของสาวบ้าน เป็นเรื่องน่าขบขันอย่างยิ่งในการกลายเป็นอนุภรรยา! เฉาหยูเฟิ่งจัดให้สกุลฉางนั่งลง เวลานี้ หลิ่วซู่พาเจียงหวานหว่านไปปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ฝ่ามือของหลิ่วซู่มีเหงื่อออก นางก็ทําอะไรไม่ถูกเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ "ท่านแม่ ท่านคือภรรยาที่ตบแต่งอย่างถูกต้องของท่านพ่อ ไม่มีใครดูหมิ่นท่านได้" หลิ่วซู่พยักหน้า เงยหน้าขึ้นแล้วเดินเข้าไป การปรากฏตัวของพวกนางดึงดูดความสนใจของทุกคน เพียงเดินเข้ามาบรรดาฮูหยินและคุณหนูต่างกระซิบกระซาบตามๆ กัน "สกุลหลิ่ว หวานเจี่ยเออร์ มานี่เร็ว" ฮูหยินใหญ่เจียงพูดอย่างอ่อนโยนผิดแผกไปจากปกติเจียงหวานหว่าน ลดเสียงลงและกระ
"คุณชายรองให้โสมอายุพันปี " “คุณชายสามให้ปะการัง”“คุณชายสี่ให้กำไลหยกชั้นดีหนึ่งคู่”“นายท่านฮูหยินให้ฉากกั้นหยกหนึ่งชิ้น”โจวฝู ผู้ดูแลจวนนำของขวัญทั้งหมดมาจัดแสดง“ท่านย่า พวกพี่ชายตามหาของล้ำค่าทั่วสารทิศเพื่อให้ของขวัญในวันเกิดของท่านย่าแหน่ะเจ้าค่ะ”สายตาอิจฉามาจากรอบตัว ความเย่อหยิ่งในใจของฮูหยินใหญ่เจียงถึงจุดสูงสุดแล้ว“ท่านย่า ยังมีของขวัญจากข้าด้วย”เสียงของเจียงจิ่นหนิงดังมาจากปากประตูพอหลิ่วซู่ได้ยินเสียงนี้จึงเงยหน้าขึ้นมอง สายตาจับจ้องตามเจียงจิ่นหนิงเจียงจิ่นหนิงสัมผัสได้ถึงสายตาลึกซึ้งของหลิ่วซู จึงมองนางดูถูกไปทีหนึ่งหลิ่วซู่ก้มหน้าลงอย่างเสียใจ มีความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากลูกชายที่นางเฝ้าคิดถึงทุกคืนวัน กลับรังเกียจนางดั่งอสรพิษ ในใจของนางปวดบิดเป็นอย่างมากเจียงหวานหว่านดึงมือของหลิ่วซู่ไว้ ปลอบโยนนาง แล้วหันศีรษะไปทางเจียงจิ่นหนิง สายตาคมดั่งมีด“ขอให้ท่านย่าอายุยืนร้อยปี มีพรให้เสพสมจากเทพเซียนไม่ขาดสาย”。 เจียงจิ่นหนิงมอบของขวัญเป็นเครื่องประดับเซียนท้อที่ทำมาจากทองคำ“พี่ห้า สวยมากจริงๆ”เจียงอวิ้นชมขึ้นมาอย่างปากไม่ตรงกับใจเจียงจ
หรงซีสวมเสื้อคลุมผ้าไหมชั้นดีสีเข้ม ปักลายดอกไม้ประดับด้วยเส้นไหมสีเงินและขาวนวลราวกับดวงจันทร์ สวมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวเหมือนหิมะ ผิวสีน้ำผึ้งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นชาย ใบหน้าทั้งห้าส่วนแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ทำให้ผู้คนลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเจียงหวานหว่านพอเห็นการปรากฏตัวของหรงซี ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สองตาเป็นประกาย เขามาแล้ว“อ้า!” ไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูของบ้านใดเผลอร้องออกมากหรงซีขมวดคิ้วมุ่นหนึ่งที ไม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจที่มีคนร้อง แต่เขาไม่ชอบงานเช่นนี้“คารวะท่านอ๋อง” ทุกคนคำนับไปทางหรงซีหรงซีเหลือบมองเจียงหว่านหว่านในฝูงชนโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ“ลุกขึ้นยืน”“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”ฮูหยินใหญ่เจียงหนังตากระตุก ในใจคาดเดา ที่ท่านอ๋องเสด็จ หรือจะเป็นเพราะเจียงหวานหว่านหรงซีและหรงมู่หานนั่งร่วมโต๊ะกัน“เสด็จอา” มู่หรงหานประสานมือคารวะหรงซีมองไปที่เขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เก็บสายตาหรงมู่หานรู้สึกกระอักกระอ่วน ในใจโกรธเคือง ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้แต่หรงซีถึงกับไม่ให้หน้าเขาเลยแต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องราวใดๆ รอยยิ้มเต็มหน้ารอให้เขาได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์มัง
“คุณหนูหก ของขวัญของเจ้านี้เป็นภาพวาดของนักวาดชื่อดังท่านใดรึ” ฮูหยินหลิวถามขึ้นอย่างสงสัยเจียงหวานหว่านตอบกลับอย่างมั่นใจ “ข้าวาดเอง”“คุณหนูหกช่างเป็นเด็กกตัญญูเสียจริง เพียงแต่ภาพวาดไก่กาคงไม่สามารถนำมาแขวนในห้องโถงหลักได้”หลิวฮูหยินหัวเราะประชดประชัน“ฮ่าๆๆ”ทั้งห้องโถงส่งเสียงหัวเราะจนหยุดไม่ได้เด็กบ้านนอกนี่เอามาเชิดหน้าชูตาไม่ได้เลยจริงๆเฉาหยูเฟิ่งแอบหัวเราะอยู่ด้านข้างเจียงหวานหว่านก็ไม่ได้อธิบาย สั่งให้สือหลิ่วกับมู่เซียงเปิดม้วนภาพวาดภาพดอกไม้และนกอันน่าตื่นตาตื่นใจปรากฏต่อหน้าทุกคน“พี่หก ฝีมือวาดภาพไม่เลวเลยจริงๆ เพียงแต่ภาพวาดเช่นนี้ ในเมืองหลวงหาซื้อได้ในราคาสิบอีแปะ จะคู่ควรกับท่านย่าได้อย่างไร”มีความดูถูกพาดผ่านแววตาของเจียงอวิ้นไป ของเช่นนี้ก็กล้าเอาออกให้ผู้อื่น ฮูหยินใหญ่โกรธเคืองเป็นอย่างมากในใจของเจียงหวานหว่าน นางไม่คู่ควรกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับของหอหนีซาง คู่ควรกับแต่ภาพใบละสิบอีแปะนางไม่ควรไม่สองแม่ลูกสกุลหลิ่วเข้าร่วมงานฉลองแต่แรกเจียงหวานหว่านมุมปากโค้งขึ้น พูดขึ้นทีละคำว่า“สือหลิ่ว นำภาพเข้ามาใกล้หน่อย คุณหนูเจ็ดตาไม่ดี นางมองไ
ฮูหยินใหญ่เจียงรับรู้ได้ถึงการต่อต้านของหลิ่วซู่จึงรู้สึกไม่พอใจ“สกุลหลิว อนาคตของป๋อเหนียนกับพวกเกอเออร์อยู่ในหนึ่งห้วงความคิดของเจ้า”หลิ่วซู่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางยอมรับความขมขื่นเพื่อลูกๆ ได้ เจียงหวานหว่านกดมือของนางไว้ใต้โต๊ะ หลิ่วซู่หันศีรษะกลับไปมองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านส่ายหน้าอย่างไม่เห็นดู เกิดการต่อสู้ขึ้นในใจหลิ่วซู่มีแววตาเหยียดหยามพาดผ่านดวงตาของฮูหยินใหญ่เจียงตำแหน่งของป๋อเหนียนในเวลานี้ สกุลหลิ่วจะคู่ควรได้อย่างไรแต่วันนี้ท่านอ๋องกลัวปรากฏตัวที่นี่อย่างน่าขัดใจ ต้องคิดให้ถี่ถ้วนขึ้นกว่าเดิม เพื่ออนาคตของป๋อเหนียน ต้องไม่ให้ผู้คนมาด่าว่าเขาหลงในตัวอนุแล้วทิ้งภรรยาเอกฮูหยินเอกแห่งจวนเจียงต้องเป็นสกุลหลิ่วเท่านั้น นางช่างโชคดีจริงๆ เจียงหวานหว่านโมโหในใจ สิ่งใดที่ควรมาก็มาแล้ว เหมือนดั่งชาติก่อน ฮูหยินใหญ่เจียงใช้ลูกมาข่มขู่ท่านแม่ เฉาหยูเฟิ่งก็ไม่พอใจ กรอกตาบนมองหลิ่วซู่ ได้เปรียบไปแล้วยังทำตัวน่าเอ็นดูอีก ฮูหยินใหญ่เจียงกระแอมไอ พูดขึ้นเสียงสูง “ทุกท่าน สิบปีก่อน ป๋อเหนียนได้ยินข่าวร้ายของสกุลหลิ่วผู้เป็นภรรยา เพื่อดูแลทุกคนในครอบครัว