"มู่อันหนิงทำร้ายเจ้าขนาดนี้เชียว!" แววตาของเยียนเป่ยเต็มไปด้วยโทสะเด็กอันเซี่ยว่าง่ายคล่องแคล่ว โดยปกติก็เป็นที่รักของคนที่พบเห็นวิชาตัวเบาของนางดีมาก เยียนเป่ยรู้ แต่วรยุทธ์ของนางอ่อนมาก!ต่อกรกับหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง มู่อันหนิงกลับกล้าลงมือขนาดนี้!ปากเล็กๆ ของอันเซี่ยเบะออกเล็กน้อย "หากไม่ใช่ใต้เท้าเยี่ยนอีมาทันเวลา คืนนี้ข้ากับคุณหนูก็คงจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว...""ไม่ต้องมาทำตัวน่าสงสารต่อหน้าข้า!" ตอนนี้เยียนเป่ยยังคงโกรธแค้นในตัวของกู้อวิ๋นซีอยู่!อันเซี่ยถลึงตามองเขา "ข้าไม่ได้ทำตัวน่าสงสารต่อหน้าท่านสักหน่อย ข้าเพียงแค่พูดความจริง...ช่างเถอะ ไม่มีอะไรจะพูดกับท่าน เอายามาให้ข้า ข้าจะใส่ยาเอง"นี่เป็นยาที่คุณหนูบอกให้เขาเอามาให้ อันเซี่ยใช้ก็รู้สึกสบายใจนางไม่ทำตัวน่าสงสารต่อหน้าเขาหรอก!คนๆ นี้เกลียดคุณหนู นางก็จะเกลียดเขาด้วย ไม่มีอะไรให้พูดกันอีก"ใต้เท้าเยียนเป่ย ท่านไปเถอะ ตรงนี้ไม่มีอะไรที่น่าดูหรอก"เยียนเป่ยรู้ว่านางมีอคติกับเขาแล้ว เขาเองก็อยากออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่แผลของเด็กคนนี้ มันรุนแรงเกินไป!"เรื่องนี้ รอให้ท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาก่อน ข้าจะรายงานท่านอ๋องต
ตอนที่เยียนเป่ยกลับไปถึงหอชมจันทร์ ในใจรู้สึกว่างเปล่าอย่างประหลาด ไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกอย่างไรเขาค้นดูทุกห้องในหอหนิงซีแล้ว ไม่มีของกินอยู่เลยจริงๆบ่าวรับใช้สักคนก็ไม่มีทหารองครักษ์สี่นางที่เฝ้าอยู่หน้าประตูหอเขาก็สอบถามมาแล้ววันนั้นมีทหารองครักษ์เข้ามาแจ้ง บอกว่าพระชายาหลีอ๋องทำร้ายทายาทของราชวงศ์ เป็นผู้ที่มีความผิด ต้องให้พวกเขาคอยเฝ้าประตูไว้ ไม่อนุญาตให้พระชายาและบ่าวรับใช้สองคนเข้าออกส่วนเรื่องบ่าวรับใช้คนอื่นๆ หลังจากวันนั้นที่เสวียนอ๋องหมดสติถูกนำตัวออกไป พวกเขาก็ถูกแยกย้ายแล้วเมื่อมาคิดดูในตอนนี้ เป็นทหารองครักษ์คนไหนพูด ทุกคนก็บอกไม่ได้แต่มีเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องจริง นั่นก็คือ หลังจากคืนนั้นที่ท่านอ๋องหมดสติไป หอหนิงซีก็ถูกกักบริเวณปิดตายด้านในมีเพียงกู้อวิ๋นซีและอันเซี่ยสองคนคืนนั้นสภาพของกู้อวิ๋นซีแย่มาก ก่อนที่เยียนเป่ยจะจากไป อย่างน้อยเขาได้มองพวกนางอยู่บ้างแท้งลูก ถูกพิษ มีไข้ร่างกายอ่อนแอ ล้วนเป็นเรื่องจริงไม่มียา ไม่มีหมอ ไม่มีอะไรสักอย่างส่วนอันเซี่ย ตอนนั้นก็ถูกท่านอ๋องทำร้ายจนบาดเจ็บ เป็นลมหมดสตินายบ่าวสองคนนี้ยังสามารถมีชีวิตรอดมาจ
"ใคร?" กู้อวิ๋นซีตกใจจนรีบหันหลับไปดู ฟึ่บ นางชักเอามีดที่เหน็บเอวไว้อยู่ออกมาไว้ด้านหน้าตัวเองเพื่อป้องกันตัวคนที่อยู่ด้านหลัง สวมชุดสีขาว ผมสีดำสนิทปลิวพลิ้วไหวไปตามสายลมความจริงนางมองไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขาหรอก ตอนที่ได้เจอกันวันนั้นเขาก็นั่งอยู่ด้านหลังม่านแต่วันนี้เมื่อได้เจอ นางกลับสามารถจำเข้าได้ในทันที"คุณชายมู่?"กู้อวิ๋นซีขมวดคิ้วน้อยๆนี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกันอย่างเป็นทางการ คุณชายมู่คนนี้มีหน้าตาไม่ธรรมดา ถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาเสวียนอ๋องหน้าตาหล่อแบบเพียบพร้อมทั้งบู้บุ๋น หลีอ๋องหล่อแบบสูงศักดิ์มีราศี ส่วนคุณชายมู่คนนี้ต่อให้ต้องยืนระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยหน้าตาดีขนาดไหน ก็พอจะรู้ได้แต่ว่าเมื่อได้เห็นคนหล่อไร้ที่ติอย่างจวินเย่เสวียนกับจวินฉู่หลีจนชินแล้ว ไม่ว่าจะมองผู้ชายคนไหนก็ไม่สามารถทำให้กู้อวิ๋นซีหลงไหลได้ดังนั้น นางก็เพียงแค่ตะลึงนิดหน่อยเท่านั้น จากนั้นก็สงบใจลงได้"เหตุใดคุณชายมู่ต้องใช้วิธีนี้ในการออกมาพบข้าด้วย?"เมื่อคิดไปถึงก่อนที่จวินเย่เสวียนจะหมดสติเขากำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่ กู้อวิ๋นซีก็ต
กู้อวิ๋นซีชักเอามีดสั้นที่เหน็บไว้ข้างเอวออกมาอีกครั้งต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากที่จะยอมจำนนคุณชายมู่ยังคงยิ้มบางๆ อยู่อย่างนั้น ยังคงหาของต่อไปเขานั่งคุกเข่าลงไปที่ข้างหน้าซากปรักหักพังอีกครั้งราวกับกำลังหาอะไรหาไปพลางก็พูดช้าๆ เนิบๆ ออกมาพลาง "หากว่าพระชายาจับตัวข้าออกไปส่งให้ทางการ นั่นไม่เท่ากับท่านช่วยเหลือเจิ้งอ๋องหรอกเหรอ? ไม่เป็นผลดีกับจวนเสวียนอ๋องของท่านเลยสักนิด"กู้อวิ๋นซีพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ท่านต้องการที่จะพูดสิ่งใดกันแน่?"เขาไม่มีเจตนาที่จะฆ่านาง จุดนี้ กู้อวิ๋นซีสามารถสัมผัสได้"ข้าก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอเพียงคนเดียวไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับเรื่องในราชสำนัก ยิ่งไม่สนใจที่จะถามด้วย ท่านจะเป็นใคร ข้าไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว ข้าเพียงต้องการ...""อยากจะให้ข้าผลิตของให้อีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?"ไม่รู้ว่าคุณชายมู่หาอะไรเจอ จู่ๆ สายตาเขาก็ส่อประกายแห่งความสุข จากนั้นก็หยิบเอาของชิ้นนั้นออกมาจากกองไม้เป็นกระดาษแผ่นหนึ่งกู้อวิ๋นซีมองไปหนึ่งทีก็ต้องตกใจในทันทีนั่นเป็นแบบแปลนกลองชุดที่นางวาด!ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอมองไปที่รอบๆ อีกที ก็เห็นได้ชัดว่า
ตอนนี้คุณชายมู่พักอยู่ในกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางป่าลึกกระท่อมหลังนี้เห็นได้ชัดว่าถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเรียบง่ายมาก สามารถใช้พักอาศัยได้แค่ไม่กี่วัน ไม่สามารถอยู่ยาวได้"ข้า...อยากให้คุณชายช่วยผลิตเข็มฉีดยาให้ข้าอีกสักสิบอัน ความยาวจะต้องยาวกว่าเข็มปกติทั่วไปสองเท่า"กู้อวิ๋นซีไล่ตามเขาจนหอบ กว่าจะไล่ตามมาทัน คุณชายมู่ก็นั่งดื่มชาอยู่ในกระท่อมแล้ว"ค่าตอบแทนล่ะ?" เขาถาม"ไม่ทราบว่าคุณชายอยากจะได้อะไร?" เงิน ดูแล้วเขาก็ไม่ได้ขาด แต่เขาเป็นสายลับจากแคว้นอื่นเกรงว่าคงต้องการข่าวสารภายในกระมังกู้อวิ๋นซีรีบพูดขึ้นก่อนว่า "นอกจากข่าวเกี่ยวกับเรื่องในจวนเสวียนอ๋องทั้งหมด นอกนั้น คุณชายบอกมาได้เลย"คุณชายมู่จ้องมองใบหน้าที่ค่อนข้างซีดขาวของนางแล้วหัวเราะ "หากข้าบอกว่า ต้องการตัวเจ้าสักหนึ่งคืนล่ะ?"กู้อวิ๋นซีแววตาเคร่งขรึม ก่อนจะตอบอย่างไม่พอใจ "ข้าเป็นหญิงที่มีสามีแล้ว อีกทั้งยังเพิ่งแท้งลูกไปได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ต่อให้ข้ายินดี หรือว่าคุณชายจะไม่รังเกียจ?""เช่นนั้นเจ้าก็เข้ามา นอนลงไปบนเตียงข้า ดูสิว่าข้าจะรังเกียจไหม"เขาหันหน้ามองไปทางเตียงนอนที่อยู่ไม่ไกล ท่าทางแ
คนๆ นั้นยังถอดเสื้อผ้าของนางอยู่กู้อวิ๋นซีรู้สึกเหมือนโลกกำลังแตกสลาย จู่ๆ นางก็อยากจะร้องไห้ออกมามากๆนางหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว เหตุใดต้องทำแบบนี้กับนางอีกนางพยายามทำให้ตัวเองสงบเยือกเย็นลงไม่ต้องกลัว!อย่างมากก็แค่ถูกทำลายความบริสุทธื์เท่านั้น อย่างมากก็แค่ตายชีวิตของนาง ความจริงก็ไม่ได้เหลืออะไรให้สูญเสียให้อีกแล้วคิดว่าตัวเองจะต้องถูกขืนใจ คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่คนๆ นั้นถอดเสื้อผ้าของนางออก นางก็รู้สึกเพียงรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ตำแหน่งหัวใจราวกับว่าเขากำลังฝังเข็มให้นาง?หลังจากที่ถูกเข็มเงินปักลงไปที่ตำแหน่งหัวใจ คนที่อยู่ข้างเตียงก็เปิดเสื้อผ้าในส่วนหน้าท้องของนางออกกู้อวิ๋นซีรับรู้ได้ถึงความเย็นขณะหนึ่งการกระทำนี้ไม่เหมาะสมอย่างมากแต่ถ้าหากเป็นหมอ คนในยุคปัจจุบันอย่างนางก็สามารถยอมรับได้แต่ว่าที่ตรงนี้ สำหรับนางมันเหมือนที่สถานที่ต้องห้าม ทั้งๆ ที่สามารถฝังเข็มรักษาตัวเองได้ แต่นางก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องมันเป็นที่ๆ เด็กคนนั้นเคยอาศัยนอนมาก่อน...มือของชายหนุ่ม แตะไปตรงส่วนหน้าท้องของนาง ฉับพลัน พลังงานอุ่นๆ ก็เคลื่อนจากฝ่ามือของเขาลงสู่หน้าท้องของนางจากนั้นก็ลา
"เหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" ประโยคนี้กู้อวิ๋นซีหันไปพูดกับเยี่ยนอีเยี่ยนอีตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย "นางบอกว่านางมีวิธีรักษาท่านอ๋องให้หายดีได้""วิธีการอะไร?" กู้อวิ๋นซีมองไปที่ผู้หญิงชุดขาวที่นั่งอยู่ข้างเตียง มู่อันหนิง"เจ้ามาถามคำถามนี้กับข้าด้วยฐานะอะไร?" มู่อันหนิงมองกลับไปด้วยสายตาเย็นชาจากนั้น นางก็มองไปที่เยี่ยนอี "ในเมื่อขนาดนางก็ยังไม่มีวิธี เช่นนั้นไม่สู้ลองใช้วิธีของข้าดู แต่ว่า ตอนที่ข้ารักษาให้เย่เสวียน ข้าไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้"เยี่ยนอีลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็เดินมาหยุดตรงหน้าของกู้อวิ๋นซี "พระชายาหลีอ๋อง เชิญ...""นางบอกว่า คืนนี้ก็สามารถทำให้องค์ชายสี่ฟื้นขึ้นมาได้อย่างนั้นเหรอ?" กู้อวิ๋นซีถามอีกครั้งถึงแม้เยี่ยนอีจะไม่ได้อยากสนใจนางมาก แต่สุดท้ายก็พยักหน้าออกไป "ใช่แล้ว"ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาไม่ต้องการกู้อวิ๋นซีแล้วเป็นเพราะว่าเมื่อคืนที่นางจับชีพจรให้ท่านอ๋อง แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้น อีกอย่างนางก็พูดเองว่าตอนนี้ยังหาทางรักษาไม่ได้"เยี่ยนอี เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมแค่ไหน...""ไม่ว่าใคร ขอเพียงช่วยให้ท่านอ่องฟื้นขึ้นมาได้ นาง
ถึงแม้เยียนเป่ยจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ก้าวเข้าไปหากู้อวิ๋นซีอย่างรุกราน!ท่าทางที่น่ากลัว กดดันจนกู้อวิ๋นซีไม่อาจไม่ถอยหลังไปสองก้าวได้วันนี้หากไม่ได้คุณชายมู่ช่วยรักษาให้นางก่อน ด้วยร่างกายที่เดิมทีก็อ่อนแอเป็นทุนเดิมของนาง ตอนนี้คงจะถูกพลังปราณของเยียนเป่ยกดดันจนเป็นลมหมดสติไปแล้ว"สามวัน!"ก่อนที่จะถูกโยนออกไปนอกประตู กู้อวิ๋นซีมองไปที่เยี่ยนอี แล้วพูดขอร้องออกมาอย่างจริงใจ "สามวัน ข้าจะต้องทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้แน่ หากว่าหลังจากสามวันผ่านไปองค์ชายสี่ไม่ฟื้นขึ้นมา จะจัดการข้าอย่างไรก็แล้วแต่พวกเจ้าเลย""เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขาไม่มีทางจัดการเจ้าหรอก!" มู่อันหนิงพูดเหน็บแนม ดูแคลนทุกคำพูดของนาง"เช่นนั้นข้าก็จะปลิดชีพตัวเองซะ ไถ่โทษด้วยการตาย พอใจหรือยัง?"กู้อวิ๋นซีไม่มองนาง มองเพียงเยี่ยนอี "ข้าจะใช้วิธีของข้า หากสามารถทำให้องค์ชายสี่ฟื้นขึ้นมาได้ หรือว่ามันไม่เป็นการดีกว่าการเลี้ยงหนอนกู่ในร่างกายเขาอย่างนั้นเหรอ?""เจ้ากล้าเสี่ยงตัดสินใจแทนเขา ปล่อยให้เขามีหนอนกู่อยู่ในร่างกาย สามารถถูกมู่อันหนิงควบคุมได้ตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอ?"นางเดินขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องไปที่เ
"ท่านอ๋อง ข้าต้องการยาเล็กน้อย อีกทั้งเหล้ากาหนึ่ง" กู้หรูชิวกล่าวจวินเย่เสวียนโบกมือหนึ่งที ความจริงเยียนเป่ยไม่ยินยอม แต่สุดท้ายเขาก็ไปเตรียมของมาให้กู้หรูชิวอย่างรวดเร็วกู้หรูชิวเดินไปอยู่ตรงหน้าของหลานโจว พูดอย่างอ่อนโยนว่า "คุณชายท่านนี้ ขออภัยด้วย"ที่ขมับของหลานโจวมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเยี่ยนอีกำมือแน่น แต่ก็ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรเยียนเป่ยร้อนใจ "ท่านอ๋อง หลานโจวติดตามข้างกายท่านมาสิบกว่า สิบกว่าปี เขา..."จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองด้วยสายตาเย็นชากู้หรูชิวบดยาหลายชนิดให้กลายเป็นผงแล้วใส่ลงไปในเหล้าหลานโจวรู้ว่านั่นเป็นยาที่ทำให้เขาขาดสติ โดยส่วนมากไว้ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อลดความเจ็บปวดของร่างกายเขาไม่รู้เลยว่ายาพวกนี้เมื่อเอามาผสมกับเหล้าแรงจะสามารถดึงวิญญาณของคนๆ หนึ่งได้แต่เมื่อทั้งสองชนิดผสมเข้าด้วยกัน ก็สามารถทำให้คนๆ หนึ่งมีสติเลือนลาน ช้าเชือนได้จริงๆ!เมื่อเห็นว่ากู้หรูชิวผสมยากับเหล้าเข้ากันดีแล้ว เดินถือมาอยู่ตรงหน้าของตัวเอง หลานโจวก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างสงบว่า "ท่านอ๋อง เป็นกระหม่อมที่เอายาพิษรุนแรง
ไม่รอให้หลานโจวได้เอ่ยปาก หมอคนนั้นก็พูดขึ้นว่า "จะไม่มีปัญหาได้อย่างไร? ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นดื่มยาพิษอะไรเข้าไป ซึ่งเป็นการทำร้ายเด็กในท้องตั้งนานแล้ว"เมื่อหมอคิดไปถึงสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นในตอนนั้น ก็อดที่จะสงสารไม่ได้"ผู้หญิงคนนั้นจะต้องรักลูกในท้องของนางมากแน่ ข้าน้อยแนะนำให้นางรีบตัดสินใจ อะ เอาเด็กออก..."เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของเสวียนอ๋อง ที่จู่ๆ ก็เย็นเยียบขึ้นมา หมอคนนั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่น ฉับพลันไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อไปหรือไม่แต่ก็เป็นจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา "พูดต่อ!"หมอคนนั้นถึงได้พูดต่อไปอย่างกลัวๆ กล้าๆ "ข้าน้อยคิดเพื่อร่างกายของผู้หญิงคนนั้นเองถึงได้แนะนำให้ดื่มยาขับเลือด แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยินยอม ข้าน้อยรู้ว่านางยังแอบมีความหวังอยู่"สายตาของจวินเย่เสวียนมองไปยังร่างของหลานโจวหลานโจวรู้สึกสิ้นหวังมากเขารู้อยู่แล้วว่าสักวัน วันนี้ก็จะต้องมาถึงแต่แค่คิดไม่ถึงว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?" ในที่สุดเยียนเป่ยก็ทนไม่ไหวเขาเชื่อใจหลานโจวขนาดนั้น แต่ทำไมตอนนี้ หลานโจว...ดูเหมือนว่าหลานโจวกำลังปกปิดอะไรไว้อยู่จริงๆ
"เสวียนเออร์ เจ้า...เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไร? ข้าจะไปทำอะไรนางได้? นางอยู่ในการคุ้มครองของเจ้าตลอดเวลานะ!"พระสนมหรงรู้สึกละอายใจ แต่ก็พยายามรักษาจิตใจให้สงบนิ่งนางปล่อยมือที่จับชายเสื้อของจวินเย่เสวียนเอาไว้ แล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวลูกชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาอย่างประหลาด"เสวียนเออร์ เจ้าลืมความเจ็บปวดของเจ้าได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ? นางเป็นคนฆ่า...ของเจ้าเองกับมือเพื่อช่วยหลีเออร์นะ...""ลูก" คำนี้พระสนมหรงไม่กล้าที่จะพูดมันออกไปรอบข้างมีทั้งขันทีและนางกำนัลมากมายแต่นางรู้ดีว่าลูกชายของนางเข้าใจจริงดังนั้น ประโยคนี้ทำให้จวินเย่เสวียนกำหมัดแน่นทีเดียวเขาไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้!โชคดีที่หลังจากกลับมา นางได้พบกับมู่อันหนิงแล้ว และได้คุยกับเรื่องคำที่จะพูดแล้วมู่อันหนิงช่างรู้งานจริงๆ!หากว่าไม่มีมู่อันหนิง พระสนมหรงเองคนเดียวคงไม่อาจจัดการเรื่องให้ดีได้เช่นนี้"เสวียนเออร์ แม่ก็แค่สงสารเจ้า หรือว่าเจ้าไม่คิดแค้นนาง...""นางช่วยลูกชายสุดที่รักของท่านไว้ แต่ท่านกลับ แค้นนาง?"จวินเย่เสวียนหรี่ตาลง ฉับพลันก็เดินขึ้นไปข้างหน้าพระสนมหรงตกใจจ
"เจ้า..."พระสนมหรงคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีจะกล้ายอมรับออกมาจริงๆ!นางทำไปเพื่อแก้แค้นนางจริงๆ!แถมนางยังคิดจะให้ลูกชายทั้งสองคนของนางกลายเป็นศัตรู ฆ่ากันเอง!พระสนมหรงโมโหจนตัวสั่น แต่กู้อวิ๋นซีกลับใช้ดวงตาคู่โตชุ่มชื้นนั้นมองมาที่นางด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาอย่างเดิมรอยยิ้มที่มุมปากเหมือนจะอ่อนโยน แต่คำพูดที่ออกมากลับเย็นชาสุดขีด"เสด็จแม่ ข้าเกือบจะถูกท่านฆ่าตายแล้ว หากว่าข้าไม่ทำให้ลูกชายทั้งสองของท่านตายไปบ้าง ข้าจะทำใจเรื่องความแค้นนี้ได้อย่างไร?""นังแพศยา เจ้ากล้า!"พระสนมหรงโมโหจนเสียสติ ยกมือขึ้นมาอย่างเร็ว และกำลังจะตบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงที่น่าแปลกก็คือ การต้องเผชิญกับฝ่ามือของตัวเอง กู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่คิดหลบ แต่ยังกลับยิ้มออกมาอย่างสะใจพระสนมหรงตกใจ จู่ๆ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าตัวเองโดนหลอกแล้ว!แต่แรงตบที่นางอ้างออกไปมันไม่สามารถเก็บกลับได้ทันแล้ว ฝ่ามือนี้ในที่สุดก็จบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงเพราะว่าแรงมาก กู้อวิ๋นซีถึงได้ล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นทันทีตาลายไปหมด ลุกขึ้นมาไม่ได้เลย"ซีเออร์!" เงาของสองร่างปรากฎออกมาในทันทีตอนที่จวินฉู่หลีช่
ความจริงแล้วพระสนมหรงไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่กลับมาจะยังเจอหน้าผู้หญิงคนนี้อีกตอนนั้นที่นางจากมา กู้อวิ๋นซีนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างเตียง ปากก็กระอักเลือดสีดำ ลมหายใจรวยรินถึงแม้นางจะมีความสงสารอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงว่าลูกชายของตัวเองทังสองคนจะต้องผิดใจกันเพราะผู้หญิงคนนี้ นางก็ใจแข็งได้อีกครั้งวันนั้นที่ออกคำสั่งไม่ให้มีใครมา จริงๆ แล้วไม่ใช่ความปรารถนาของมู่อันหนิงแค่คนเดียวแต่เป็นความอนุญาตกลายๆ ของพระสนมหรงอีกด้วยเพียงแค่มู่อันหนิงนับว่ายังดีอยู่บ้างที่รับจบเรื่องนี้เอาไว้เอง ไม่ได้ทำให้ลูกชายทั้งสองของนางเกลียดนางด้วยเรื่องนี้ ทำให้ท่าทีที่พระสนมหรงมีต่อมู่อันหนิงก็ยิ่งดีขึ้นอีกเดิมคิดว่าหลังจากสามเดือนผ่านไป ตอนที่กลับมากู้อวิ๋นซีก็คงจะตายไปนานแล้ว และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ลูกชายทั้งสองของนางก็คงทำใจเรื่องผู้หญิงคนนี้ไปได้แล้วถึงตอนนั้น หลีเออร์ก็จะมีชีวิตใหม่ ส่วนเสวียนเออร์ นางเองก็ชอบมู่อันหนิงถ้าจะให้มู่อันหนิงมาเป็นพระชายาของเสวียนอ๋อง นางก็พอใจอย่างมากสรุปก็คือมันจะต้องเป็นการจบเรื่องที่สมบูรณ์แบบแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังกล้าท
สองวันต่อจากนั้น กู้อวิ๋นซีก็พักอยู่ที่ตำหนักของไทเฮาตลอดสองวันนี้จวินฉู่หลียุ่งมากด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการก่อสร้างจวนหลีอ๋อง อีกด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการย้ายไปประจำการที่เมืองฝานกู้อวิ๋นซีได้พักผ่อนอยู่สองวัน พอถึงเช้าตรู่วันที่สาม ในที่สุดก็ได้รับข่าวดี"คนในจวนแม่ทัพออกนอกเมืองไปแล้วเหรอ?"ข่าวนี้ทำให้นางอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูกไปทั้งวัน"เจ้ากังวลว่าเสวียนอ๋องจะมาขัดขวางเหรอ?" ขนาดมู่เฟยหย่ายังดูออกเลยว่านางเบาใจไปมากกู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบคำถามนี้ความคิดของจวินเย่เสวียน ใครจะเดาออกกัน?สามวันก่อนหน้านี้เขาถูกนางทำให้โกรธจนกลับออกไป เสวียนอ๋องเป็นคนอารมณ์แปรปรวณ อีกทั้งยังรู้ว่านางตั้งใจจะให้คนในจวนแม่ทัพออกห่างจากความวุ่นวายนี้ดังนั้นการที่เขาจะขวางก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"เรื่องนี้ข้าได้ปรึกษากับอาหลีแล้ว อาหลีเองก็เคยคิดวิธีรับมือ หากว่าเสวียนอ๋องตั้งใจจะขวาง อาหลีก็จะทำตามที่ข้าบอก"การที่จวินเย่เสวียนเก็บตัวเงียบแบบนี้ เป็นเรื่องที่เหนือการคาดหมายไปเหมือนกัน"วันนี้เจ้าช่วยข้าออกไปตามหาคุณชายมู่อีกครั้งเถอะ" จู่ๆ กู้อวิ๋นซีก็พูดขึ้นมา"หามาตั้งหลายวันแล้วยังไม่ได้ข
"อื้อ!"หมอนใบหนึ่งกระเด็นมาโดนที่หัวของมู่เฟยหย่าพอดิบพอดีมู่เฟยหย่าจึงทำได้เพียงแค่ต้องเงียบปากไปเท่านั้นแต่ในหัวสมองของนางยังคงมีภาพแผ่นหลังที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง ราวกับถูกคนทั้งโลกละทิ้งของจวินเย่เสวียนตอนเดินจากไปวนเวียนอยู่ไม่หายนางรู้สึกปวดใจจริงๆ นะ!ก็ไม่รู้ว่าทำไมกู้อวิ๋นซีถึงใจร้ายได้แบบนี้กู้อวิ๋นซีในตอนนี้ นิ่งสงบราวกับผิวน้ำที่ไร้คลื่นความเจ็บปวดของเขา มันเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของนางแม้เพียงสักหนึ่งส่วน มีอะไรให้น่าสงสารกัน?อีกอย่าง ต่อไปเสวียนอ๋องก็มีโอกาสอีกกว้างไกลในอนาคตแต่ตัวนางกับคนในจวนแม่ทัพกลับต้องตกอยู่ในสภาพที่ลำบากแค่สถานการณ์ของตัวนางเองในตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิที่จะไปสงสารคนอื่นแล้ว"เอาล่ะ ข้าไม่พูดแล้ว แต่ว่า เจ้าไม่ใช่ต้องการจะแก้แค้นเหรอ? เหตุใดเจ้าถึงไม่ใช้เสวียนอ๋องกับหลีอ๋องมาต่อกรกับพระสนมหรงโดยตรงล่ะ?"ตอนนี้เป็นไง ทำให้เสวียนอ๋องโกรธจนจากไปแล้ว ต่อไปไม่ใช่ว่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนอย่างนั้นเหรอ?กู้อวิ๋นซีได้แต่มองนางอย่างนิ่งสงบ "แล้วถ้าหากว่าเป็นเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร?"มู่เฟยหย่าคิดสักพัก ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้นางแล้วพู
"ข้าชอบอาหลีหรือไม่ ข้าไม่รู้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้ได้ชัดเจน"กู้อวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา อย่างน้อย ครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ"จวินเย่เสวียน ข้าไม่รักท่านแล้ว""เจ้าคิดว่าข้าจะสนหรือยังไง?" น้ำเสียงของจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาแทบจะแค้นมันออกมาจากซอกฟันอยู่แล้วถ้าเป็นในเวลาปกติ กู้อวิ๋นซีจะต้องกลัวแน่แต่ตอนนี้ ไม่รู้ทำไม จู่ๆ นางก็รู้สึกไม่กลัวแล้วจริงๆ"ทางที่ดีท่านอ๋องพูดแล้วก็ทำให้ได้ด้วย ไม่สน ต่อไปก็อย่ามารบกวนชีวิตของพวกเราสองสามีภรรยา"ใบหน้าเขาเรียบเฉย ดูแล้วจิตใจสงบนิ่งราวผิวน้ำแต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าคำพูดของกู้อวิ๋นซี เป็นเหมือนมีดเล่มหนึ่งที่ปักเข้าไปในหัวใจเขาอย่างจังลึกและแรงมาก!ประกายแสงเพียงน้อยนิดในดวงตาของเขา หายไปหมดแล้ว"กู้อวิ๋นซี เจ้าอย่าเสียใจทีหลังล่ะ!"...ในที่สุดเขาก็ไปแล้วกู้อวิ๋นซีนั่งลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแรง หมดอาลัยตายอยากด้านนอกมีคนวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนนางจับขอบเตียงเอาไว้เพื่อพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆเพิ่งจะลุกขึ้นมาได้ ก็เห็นจวินฉู่หลีที่วิ่งเข้ามาในห้องโถงด้วยสีหน้าที่ร้อนรน"ท่านพี่สี่เขา...""ไปแล้ว" กู้
การปรากฎตัวขึ้นของจวินเย่เสวียนเป็นอะไรที่กู้อวิ๋นซีคิดไม่ถึงมาก่อนตอนที่เห็นเงาร่างของเขาเดินเข้ามา นางก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหลายก้าวโดยสัญชาตญาณ"เจ้าคิดเหรอว่ามาหลบอยู่ที่ตำหนักของเสด็จย่าแล้วจะสามารถหลบข้าพ้น?"สายตาเย็นเยียบของจวินเย่เสวียนจับจ้องไปที่ร่างกายของนางตรงๆ"ให้คนของจวนแม่ทัพย้ายไปที่เมืองฝาน เพื่อจะได้รอดพ้นจากขอบเขตอำนาจของข้าก็คิดว่าจะสามารถไปไหนก็ได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?""ก็แค่พวกมดแมลงตัวเล็กๆ ที่ต้องการรักษาชีวิตเท่านั้น ท่านอ๋อง ท่านต้องการปกป้องครอบครัวของท่าน ข้าก็ต้องการให้ครอบครัวของข้าได้มีชีวิตต่อไป เหตุใดท่านอ๋องถึงไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปล่ะ?"กู้อวิ๋นซียังคงเดินถอยหลังอยู่ ไม่ทันระวังก็เลยเดินถอยไปจนถึงเตียงนอน จนไม่อาจถอยหลังได้อีก"ท่านอ๋อง คนที่ท่านแค้นคือข้า ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ท่านอ๋องจะสามารถปล่อยให้พวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่?"ถึงแม้ฝีเท้าของจวินเย่เสวียนจะดูเอื่อยเฉื่อย แต่เพียงไม่นานเขาก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว"ดังนั้น ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเจ้ายังพูดว่าต้องการผู้ชายที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่แบบข้าในอ้อมแขนของข้า แต่คืนนี