สุดท้ายเยี่ยนอีก็ยอมแต่ก็เพียงแค่ให้กู้อวิ๋นซีอยู่ในห้อง ส่วนเขาเฝ้าอยู่นอกประตู ไม่ยอมห่างไปไหนแม้เพียงครึ่งก้าวส่วนเยียนเป่ย กู้อวิ๋นซีไหว้วานให้เขาช่วยงานสักหน่อยถึงแม้จะไม่เต็มใจเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยอมไปทำให้หลานโจวเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกไปกู้อวิ๋นซีจงใจเหลือเขาไว้แต่หลานโจวกลับชิงพูดขึ้นก่อนที่กู้อวิ๋นซีจะได้พูดอะไร "พระชายาหลีอ๋อง ข้ารู้ว่าท่านอยากจะพูดอะไร แต่คำตอบของข้าก็ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น พระชายาไม่จำเป็นต้องถามแล้ว"แต่กู้อวิ๋นซีกลับเพียงมองเขาเฉยๆ ไม่พูดอะไรสายตาที่เรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ราวกับผิวน้ำที่เรียบสนิท ทำให้หลานโจวยิ่งก้มหน้าต่ำลงไปอีกยังคงไม่ยอมสบสายตากับนางตรงๆ"ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร ข้าเพียงอยากถามสักประโยค ทุกคืนหมอหลานหลับสนิทดีหรือ?""พระชายา กระหม่อมไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ย่อมต้องหลับสนิทอยู่แล้วเป็นธรรมดา" หลานโจวพูดอย่างเย็นชาแต่กู้อวิ๋นซีกลับยกริมฝีปากบางขึ้น แล้วพูดอย่างยิ้มๆ ว่า "ในเมื่อสามารถนอนหลับสนิท เหตุใดข้าเข้ามาตั้งนาน หมอหลานถึงไม่กล้าสบตากับข้าเลยสักครั้งล่ะ?""ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดอะไร" หลานโจวลุกขึ้นยืน ย่อตัวทำความเคารพ
อันเซี่ยถูกเสียงถีบประตูเข้ามาของเยียนเป่ยจนทำให้ตกใจ หันหน้ากลับไปมองเขา จนถึงตอนนี้นางก็ยังตั้งสติไม่ได้เศษข้าวต้ม ในปากยังไม่ทันจะได้กลืนลงไปดูแล้วก็น่าอนาจจริงๆ นั่นแหละ!"เจ้ากินอะไรอยู่?" เยียนเป่ยรีบเดินเข้าไป แย่งเอาหม้อในมือของอันเซี่ยออกมาแล้วเอามาใกล้จมูกเพื่อดมกลิ่น"ยัง ยังไม่เสีย" ถึงแม้อันเซี่ยจะดูน่าอนาจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะต้องกินของที่บูดเน่าแล้วนางกระพริบตาปริบๆ หลังจากที่กลืนเศษข้าวต้มในปากลงไปได้อย่างยากลำบากแล้วก็พูดขึ้นว่า "เป็น...ของที่คุณหนูกินเหลือไว้เมื่อตอนค่ำ...""พระชายากินของนี่เป็นอาหารเย็นเนี่ยนะ?" ข้าวต้มสีขาวเปล่าๆ ไม่มีเนื้อเลยสักชิ้นเดียว!"เนื้อตากแห้งชิ้นสุดท้ายกินหมดไปกับข้าวต้มมื้อกลางวันแล้ว"ความจริงอาหารที่เหลืออยู่ในหอหนิงซีของพวกนางมีไม่เยอะแล้ว ตอนที่นางทำอาหารเย็นให้คุณหนู บอกคุณหนูไปว่านางกินแล้วความจริง ขนาดตอนมื้อเที่ยงนางยังกินเพียงแค่เศษข้าวต้มที่คุณหนูกินเหลือเพียงไม่กี่คำเท่านั้นตอนนี้ ทั้งบาดเจ็บ ทั้งถูกพิษ เรี่ยวแรงไม่มี จู่ๆ นางก็รู้สึกอยากที่จะเติมพลังขึ้นมานางหิวมากจริงๆ ไม่เช่นนั้น ตอนที่ทั้งเจ็บทั้งเหนื่อยขน
"มู่อันหนิงทำร้ายเจ้าขนาดนี้เชียว!" แววตาของเยียนเป่ยเต็มไปด้วยโทสะเด็กอันเซี่ยว่าง่ายคล่องแคล่ว โดยปกติก็เป็นที่รักของคนที่พบเห็นวิชาตัวเบาของนางดีมาก เยียนเป่ยรู้ แต่วรยุทธ์ของนางอ่อนมาก!ต่อกรกับหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง มู่อันหนิงกลับกล้าลงมือขนาดนี้!ปากเล็กๆ ของอันเซี่ยเบะออกเล็กน้อย "หากไม่ใช่ใต้เท้าเยี่ยนอีมาทันเวลา คืนนี้ข้ากับคุณหนูก็คงจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว...""ไม่ต้องมาทำตัวน่าสงสารต่อหน้าข้า!" ตอนนี้เยียนเป่ยยังคงโกรธแค้นในตัวของกู้อวิ๋นซีอยู่!อันเซี่ยถลึงตามองเขา "ข้าไม่ได้ทำตัวน่าสงสารต่อหน้าท่านสักหน่อย ข้าเพียงแค่พูดความจริง...ช่างเถอะ ไม่มีอะไรจะพูดกับท่าน เอายามาให้ข้า ข้าจะใส่ยาเอง"นี่เป็นยาที่คุณหนูบอกให้เขาเอามาให้ อันเซี่ยใช้ก็รู้สึกสบายใจนางไม่ทำตัวน่าสงสารต่อหน้าเขาหรอก!คนๆ นี้เกลียดคุณหนู นางก็จะเกลียดเขาด้วย ไม่มีอะไรให้พูดกันอีก"ใต้เท้าเยียนเป่ย ท่านไปเถอะ ตรงนี้ไม่มีอะไรที่น่าดูหรอก"เยียนเป่ยรู้ว่านางมีอคติกับเขาแล้ว เขาเองก็อยากออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่แผลของเด็กคนนี้ มันรุนแรงเกินไป!"เรื่องนี้ รอให้ท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาก่อน ข้าจะรายงานท่านอ๋องต
ตอนที่เยียนเป่ยกลับไปถึงหอชมจันทร์ ในใจรู้สึกว่างเปล่าอย่างประหลาด ไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกอย่างไรเขาค้นดูทุกห้องในหอหนิงซีแล้ว ไม่มีของกินอยู่เลยจริงๆบ่าวรับใช้สักคนก็ไม่มีทหารองครักษ์สี่นางที่เฝ้าอยู่หน้าประตูหอเขาก็สอบถามมาแล้ววันนั้นมีทหารองครักษ์เข้ามาแจ้ง บอกว่าพระชายาหลีอ๋องทำร้ายทายาทของราชวงศ์ เป็นผู้ที่มีความผิด ต้องให้พวกเขาคอยเฝ้าประตูไว้ ไม่อนุญาตให้พระชายาและบ่าวรับใช้สองคนเข้าออกส่วนเรื่องบ่าวรับใช้คนอื่นๆ หลังจากวันนั้นที่เสวียนอ๋องหมดสติถูกนำตัวออกไป พวกเขาก็ถูกแยกย้ายแล้วเมื่อมาคิดดูในตอนนี้ เป็นทหารองครักษ์คนไหนพูด ทุกคนก็บอกไม่ได้แต่มีเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องจริง นั่นก็คือ หลังจากคืนนั้นที่ท่านอ๋องหมดสติไป หอหนิงซีก็ถูกกักบริเวณปิดตายด้านในมีเพียงกู้อวิ๋นซีและอันเซี่ยสองคนคืนนั้นสภาพของกู้อวิ๋นซีแย่มาก ก่อนที่เยียนเป่ยจะจากไป อย่างน้อยเขาได้มองพวกนางอยู่บ้างแท้งลูก ถูกพิษ มีไข้ร่างกายอ่อนแอ ล้วนเป็นเรื่องจริงไม่มียา ไม่มีหมอ ไม่มีอะไรสักอย่างส่วนอันเซี่ย ตอนนั้นก็ถูกท่านอ๋องทำร้ายจนบาดเจ็บ เป็นลมหมดสตินายบ่าวสองคนนี้ยังสามารถมีชีวิตรอดมาจ
"ใคร?" กู้อวิ๋นซีตกใจจนรีบหันหลับไปดู ฟึ่บ นางชักเอามีดที่เหน็บเอวไว้อยู่ออกมาไว้ด้านหน้าตัวเองเพื่อป้องกันตัวคนที่อยู่ด้านหลัง สวมชุดสีขาว ผมสีดำสนิทปลิวพลิ้วไหวไปตามสายลมความจริงนางมองไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขาหรอก ตอนที่ได้เจอกันวันนั้นเขาก็นั่งอยู่ด้านหลังม่านแต่วันนี้เมื่อได้เจอ นางกลับสามารถจำเข้าได้ในทันที"คุณชายมู่?"กู้อวิ๋นซีขมวดคิ้วน้อยๆนี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกันอย่างเป็นทางการ คุณชายมู่คนนี้มีหน้าตาไม่ธรรมดา ถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาเสวียนอ๋องหน้าตาหล่อแบบเพียบพร้อมทั้งบู้บุ๋น หลีอ๋องหล่อแบบสูงศักดิ์มีราศี ส่วนคุณชายมู่คนนี้ต่อให้ต้องยืนระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยหน้าตาดีขนาดไหน ก็พอจะรู้ได้แต่ว่าเมื่อได้เห็นคนหล่อไร้ที่ติอย่างจวินเย่เสวียนกับจวินฉู่หลีจนชินแล้ว ไม่ว่าจะมองผู้ชายคนไหนก็ไม่สามารถทำให้กู้อวิ๋นซีหลงไหลได้ดังนั้น นางก็เพียงแค่ตะลึงนิดหน่อยเท่านั้น จากนั้นก็สงบใจลงได้"เหตุใดคุณชายมู่ต้องใช้วิธีนี้ในการออกมาพบข้าด้วย?"เมื่อคิดไปถึงก่อนที่จวินเย่เสวียนจะหมดสติเขากำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่ กู้อวิ๋นซีก็ต
กู้อวิ๋นซีชักเอามีดสั้นที่เหน็บไว้ข้างเอวออกมาอีกครั้งต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากที่จะยอมจำนนคุณชายมู่ยังคงยิ้มบางๆ อยู่อย่างนั้น ยังคงหาของต่อไปเขานั่งคุกเข่าลงไปที่ข้างหน้าซากปรักหักพังอีกครั้งราวกับกำลังหาอะไรหาไปพลางก็พูดช้าๆ เนิบๆ ออกมาพลาง "หากว่าพระชายาจับตัวข้าออกไปส่งให้ทางการ นั่นไม่เท่ากับท่านช่วยเหลือเจิ้งอ๋องหรอกเหรอ? ไม่เป็นผลดีกับจวนเสวียนอ๋องของท่านเลยสักนิด"กู้อวิ๋นซีพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ท่านต้องการที่จะพูดสิ่งใดกันแน่?"เขาไม่มีเจตนาที่จะฆ่านาง จุดนี้ กู้อวิ๋นซีสามารถสัมผัสได้"ข้าก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอเพียงคนเดียวไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับเรื่องในราชสำนัก ยิ่งไม่สนใจที่จะถามด้วย ท่านจะเป็นใคร ข้าไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว ข้าเพียงต้องการ...""อยากจะให้ข้าผลิตของให้อีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?"ไม่รู้ว่าคุณชายมู่หาอะไรเจอ จู่ๆ สายตาเขาก็ส่อประกายแห่งความสุข จากนั้นก็หยิบเอาของชิ้นนั้นออกมาจากกองไม้เป็นกระดาษแผ่นหนึ่งกู้อวิ๋นซีมองไปหนึ่งทีก็ต้องตกใจในทันทีนั่นเป็นแบบแปลนกลองชุดที่นางวาด!ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอมองไปที่รอบๆ อีกที ก็เห็นได้ชัดว่า
ตอนนี้คุณชายมู่พักอยู่ในกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางป่าลึกกระท่อมหลังนี้เห็นได้ชัดว่าถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเรียบง่ายมาก สามารถใช้พักอาศัยได้แค่ไม่กี่วัน ไม่สามารถอยู่ยาวได้"ข้า...อยากให้คุณชายช่วยผลิตเข็มฉีดยาให้ข้าอีกสักสิบอัน ความยาวจะต้องยาวกว่าเข็มปกติทั่วไปสองเท่า"กู้อวิ๋นซีไล่ตามเขาจนหอบ กว่าจะไล่ตามมาทัน คุณชายมู่ก็นั่งดื่มชาอยู่ในกระท่อมแล้ว"ค่าตอบแทนล่ะ?" เขาถาม"ไม่ทราบว่าคุณชายอยากจะได้อะไร?" เงิน ดูแล้วเขาก็ไม่ได้ขาด แต่เขาเป็นสายลับจากแคว้นอื่นเกรงว่าคงต้องการข่าวสารภายในกระมังกู้อวิ๋นซีรีบพูดขึ้นก่อนว่า "นอกจากข่าวเกี่ยวกับเรื่องในจวนเสวียนอ๋องทั้งหมด นอกนั้น คุณชายบอกมาได้เลย"คุณชายมู่จ้องมองใบหน้าที่ค่อนข้างซีดขาวของนางแล้วหัวเราะ "หากข้าบอกว่า ต้องการตัวเจ้าสักหนึ่งคืนล่ะ?"กู้อวิ๋นซีแววตาเคร่งขรึม ก่อนจะตอบอย่างไม่พอใจ "ข้าเป็นหญิงที่มีสามีแล้ว อีกทั้งยังเพิ่งแท้งลูกไปได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ต่อให้ข้ายินดี หรือว่าคุณชายจะไม่รังเกียจ?""เช่นนั้นเจ้าก็เข้ามา นอนลงไปบนเตียงข้า ดูสิว่าข้าจะรังเกียจไหม"เขาหันหน้ามองไปทางเตียงนอนที่อยู่ไม่ไกล ท่าทางแ
คนๆ นั้นยังถอดเสื้อผ้าของนางอยู่กู้อวิ๋นซีรู้สึกเหมือนโลกกำลังแตกสลาย จู่ๆ นางก็อยากจะร้องไห้ออกมามากๆนางหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว เหตุใดต้องทำแบบนี้กับนางอีกนางพยายามทำให้ตัวเองสงบเยือกเย็นลงไม่ต้องกลัว!อย่างมากก็แค่ถูกทำลายความบริสุทธื์เท่านั้น อย่างมากก็แค่ตายชีวิตของนาง ความจริงก็ไม่ได้เหลืออะไรให้สูญเสียให้อีกแล้วคิดว่าตัวเองจะต้องถูกขืนใจ คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่คนๆ นั้นถอดเสื้อผ้าของนางออก นางก็รู้สึกเพียงรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ตำแหน่งหัวใจราวกับว่าเขากำลังฝังเข็มให้นาง?หลังจากที่ถูกเข็มเงินปักลงไปที่ตำแหน่งหัวใจ คนที่อยู่ข้างเตียงก็เปิดเสื้อผ้าในส่วนหน้าท้องของนางออกกู้อวิ๋นซีรับรู้ได้ถึงความเย็นขณะหนึ่งการกระทำนี้ไม่เหมาะสมอย่างมากแต่ถ้าหากเป็นหมอ คนในยุคปัจจุบันอย่างนางก็สามารถยอมรับได้แต่ว่าที่ตรงนี้ สำหรับนางมันเหมือนที่สถานที่ต้องห้าม ทั้งๆ ที่สามารถฝังเข็มรักษาตัวเองได้ แต่นางก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องมันเป็นที่ๆ เด็กคนนั้นเคยอาศัยนอนมาก่อน...มือของชายหนุ่ม แตะไปตรงส่วนหน้าท้องของนาง ฉับพลัน พลังงานอุ่นๆ ก็เคลื่อนจากฝ่ามือของเขาลงสู่หน้าท้องของนางจากนั้นก็ลา