หลังจากที่จวินฉู่หลีถูกฉีดซีรั่มเข้าไปในร่างกายแล้ว เขาก็เริ่มหลับไปไม่ได้สติช่วงเวลากลางดึก กองกำลังทหารของพระสนมหรงก็มารวมตัวกันอยู่ที่ลานด้านหน้าภายในรถม้า ดวงตาทั้งคู่ของจวินฉู่หลีปิดสนิท แต่ริมฝีปากบางกลับขมุมขมิมไปมา ไม่รู้ว่ากำลังเรียกหาใครพระสนมหรงมองไปที่หลานโจวแล้วถามอย่างร้อนใจ "เป็นอย่างไรบ้าง?""อาการของหลีอ๋องไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ว่า ผลลัพธ์ของซีรั่มนี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก เกรงว่าหลายวันนี้หลีอ๋องคงจะไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆ แน่"พระสนมหรงขมวดคิ้วมุ่นอย่างใช้ความคิดแต่มู่อันหนิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับพูดว่า "ความจริงการที่หลายวันนี้หลีอ๋องจะไม่ตื่นขึ้นมา ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีกับเขาก็ได้นะเพคะ"พระสนมหรงหันหน้าไปมองนาง "อย่างไร?""หากว่าหลีอ๋องตื่นขึ้นมา อย่างแรกที่จะทำเขาจะไปหาใครล่ะเพคะ? เขาคงไม่มีทางไปสถานที่หนาวเย็นจัดกับพระสนมเพื่อพักรักษาตัวอย่างว่าง่ายแน่เพคะ"เมื่อมู่อันหนิงพูดเช่นนี้ พระสนมหรงก็รู้สึกเหมือนถูกเตือนสติเข้าทันทีนางมองไปที่หลานโจว "รีบหาวิธีให้หลีเออร์หลับไปสักหลายวันหน่อย แต่ว่า ห้ามใช้วิธีที่เป็นการทำร้ายหลีเออร์เด็ดขาด!""พ่ะย่ะค่ะ" หลานโจวพูดด
เมื่อคืนจวินเย่เสวียนรู้สึกจิตใจไม่สงบอย่างเห็นได้ชัดตอนที่กำลังไล่สังหารพวกกบฎอยู่นั้น เขาก็ถูกธนูยิงเข้าที่หลังเนื่องจากสติไม่อยู่กับตัวแต่เขาก็กลับมาถึงจวนได้ก่อนเวลารุ่งสาง"ท่านอ๋อง ท่านจำเป็นต้องทำแผลก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ" เยียนเป่ยเดินตามเขาจนมาถึงห้องนอนตามความเคยชินของท่านอ๋องแล้ว ทุกครั้งที่กลับถึงจวน ก็จะกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอนก่อนเป็นอย่างแรกจากนั้นก็จะรีบไปหอหนิงซีเพื่ออยู่เป็นเพื่อนกับพระชายา โดยไม่ยอมเสียเวลาเลยแต่วันนี้แผลจากธนูของท่านอ๋องลึกไม่เบาหากไม่ใส่ยาทำแผลก่อน เกรงว่าคงจะไม่หายง่ายในเวลาเพียงสั้นๆ แน่แต่จวินเย่เสวียนกลับไม่ยอมฟังเขา หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็จะเดินออกไปด้านนอกทันทีเยียนเป่ยรีบพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า "ท่านอ๋อง หากท่านไปหาพระชายาด้วยสภาพเช่นนี้ พระชายาจะต้องตกใจมากแน่พ่ะย่ะค่ะ"จวินเย่เสวียนชะงักฝีเท้าในทันทีจมูกของเด็กคนนั้นดีมาก หากได้กลิ่นเลือดบนตัวของเขา เกรงว่าคงจะทำให้นางตกใจจริงๆเขาควรจะทำแผลสักหน่อยก่อนไปจริงๆ แต่ไม่รู้ทำไม ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ในใจของเขากลับมีความรู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาดแ
เมื่อจวินเย่เสวียนผลักประตูเข้ามา กู้อวิ๋นซียังคงนอนอยู่บนเตียง ตอนนี้ อันเซี่ยกำลังป้อนยาให้นางดื่มอยู่"เจ้ากำลังดื่มอะไร?"จวินเย่เสวียนรวดเร็วดั่งสายลม พริบตาเดียวก็เดินมาถึงข้างเตียง แย่งเอาชามในมือของอันเซี่ยมาอันเซี่ยถูกพลังไอเย็นของเขากดดันจนต้องถอยร่นออกไปสองก้าว ตึง นางทรุดนั่งลงกับพื้น"ทะ ท่านอ๋อง..." กำลังจะพูดอะไรออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าแค่อ้าปากก็ต้องกระอักเลือดออกมาเสียก่อนกู้อวิ๋นซีก็ถูกพลังไอเย็นของเขา กดดันจนเลือดลมในร่างไหลเวียนอย่างรวดเร็วจนเกือบจะกระอักเลือดออกมาเช่นกัน"เจ้ากำลังดื่มอะไรอยู่กันแน่?" มือของจวินเย่เสวียนที่ถือชามยาอยู่สั่นระริกไม่หยุดเมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดขาวของกู้อวิ๋นซี เขาก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ อยากจะเข้าไปช่วยประคองตัวนางโดยสัญชาตญาณแต่เสียงคำพูดของคนรับใช้ที่เฝ้าห้องยากลับวนเวียนอยู่ข้างหูเขาตลอดเวลาอันเซี่ยไปหยิบยาขับเลือดมา!ไม่มีใครบังคับนาง เป็นอันเซี่ยที่ไปเอาด้วยตัวเอง!"กู้อวิ๋นซี บอกข้าสิ เจ้ากำลังดื่มอะไรอยู่กันแน่ เจ้ากำลังดื่มอะไรอยู่?"มือของเขาสั่นเทา สายตามองไปที่มุมหนึ่งที่มีชุดกระโปรงเปื้อนเลือดกองอยู่เขาโยนชามยาทิ้
ราวกับเวลาหยุดเดินไปอย่างนั้นโลกทั้งใบของจวินเย่เสวียน กลายเป็นว่างเปล่าไปในฉับพลันเขาไม่ได้ยินว่าคนอื่นกำลังพูดอะไรในสายตา ผู้หญิงของเขาล้มลงไปเนื่องจากร่างกายอ่อนแอราวกับหลานโจวกำลังจับชีพจรให้นาง จากนั้น ราวกับกำลังฝังเข็มให้นางจวินเย่เสวียนรู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างมาก ราวกับมีมือคู่หนึ่ง ฉีกกระชากดวงใจของเขาออกไปก็ไม่ปานแต่เขาก็ยังคงกุมมือของกู้อวิ๋นซีเอาไว้โดยสัญชาตญาณ ส่งพลังปราณให้นาง จนนางฟื้นคืนสติกลับมาจากนั้น เขาก็ปล่อยมือนาง หันหน้ากลับไปมองชุดกระโปรงที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดตัวนั้นลูกของเขา กลายเป็นเลือดไปแล้ว ไม่อยู่แล้วตายไปแล้วทั้งอย่างนี้"เพราะอะไร?" สายตาของจวินเย่เสวียน หันกลับมามองกู้อวิ๋นซีอีกครั้ง "เหตุใดเจ้าต้องลงมือฆ่าเขาด้วยตัวเอง เพราะอะไร?""เย่เสวียน" กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก ยื่นมือออกไปจะดึงเขาไว้แต่เขากลับหลบออก สายตาไร้ซึ่งประกายความสดใส จ้องใบหน้าของนางอยู่อย่างนั้น "มันเพราะอะไรกันแน่? เหตุใดเจ้า...ถึงไม่ต้องการเขาแล้ว?""เป็นความผิดของข้าเอง ข้าผิดเองตั้งแต่ต้น...""เหตุใดเจ้าจึงไม่ต้องการเขา?" เขาไม่อยากรู้ว่าเป็นความผิดของใคร โลกของ
"ท่านอ๋อง!" เยียนเป่ยรีบพุ่งตัวเข้าไปประคองตัวจวินเย่เสวียนขึ้นมาทันทีท่านอ๋องใบหน้าซีดเผือด ที่มุมปากยังคงมีเลือดไหล ร่างกายไม่ตอบสนองใดๆเยียนเป่ยกับหลานโจวตกใจกันอย่างมากเยี่ยนอีเองก็พุ่งตัวเข้ามาเช่นกัน เขาอุ้มจวินเย่เสวียนขึ้นมาแล้วรีบวิ่งออกไปทันที "หลานโจว เร็ว! รีบมารักษาให้ท่านอ๋อง!"เยียนเป่ยรีบวิ่งตามออกไปหลานโจวเองก็ลุกขึ้นมา กำลังจะวิ่งตามออกไปแต่น้ำเสียงแหบพร่าของกู้อวิ๋นซีก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง "เพราะอะไร...ทำไมต้องใส่ร้ายข้า?"หลานโจวชะงักฝีเท้า หันหน้ากลับไปมองนางหนึ่งทีการมองครั้งนั้น ทำให้หลานโจวต้องตกใจจนตัวสั่นไปทั้งตัวกู้อวิ๋นซีทรุดตัวอยู่ข้างเตียง ที่มุมปากยังคงมีเลือดไหล สายตาคู่นั้นที่ไร้ซึ่งประกายแห่งความสดใสใดๆ กำลังจ้องมองมาที่เขาราวกับนางเป็นผู้หญิงจนตรอกที่ใกล้ตาย พยายามรวบรวมกำลังทั้งหมด ถามคำถามที่ติดค้างในใจกับเขา "เพราะอะไร...ทำไมต้อง...ใส่ร้ายข้า?"หลานโจวรู้สึกปวดใจมาก ตั้งแต่โตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาน้ำตาไหลต่อหน้าคนนอก"ขออภัย พระชายา ขออภัย..."เมื่อเขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจบ ก็หมุนตัววิ่งตามออกไปทันที "ใครก็ไ
อันเซี่ยกลับเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าสิ้นหวังแต่เมื่อเห็นคุณหนูที่ยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ นางก็พยายามทำใจฮึดสู้ขึ้นมานางเดินไปตักน้ำมาอ่างหนึ่งจากสวนด้านหลัง ระหว่างทางก็ไม่รู้ว่าทำหกไปเท่าไรเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอแต่อย่างน้อยก็ยังพอที่จะใช้บิดผ้าขนหนูเพื่อมาแปะไว้บนหน้าผากของกู้อวิ๋นซี เพื่อช่วยลดอุณหภูมิให้นางนางใช้ยาไม่เป็น ในหอหนิงซีแห่งนี้ นอกจากยาในกล่องยาของคุณหนูก็ไม่มียาอื่นๆ อีกเคราะห์กรรมในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่ถูกวางยา แท้งลูก มีไข้สูง..."คุณหนู ท่านจะต้องเข้มแข็งไว้นะเจ้าคะ จะต้องกลับมาแข็งแรงดีนะเจ้าคะ"อันเซี่ยกุมมือที่เย็นเยียบของกู้อวิ๋นซีเอาไว้ ไอออกมาสองที ตอนที่ไอก็มีเลือดกระเด็นออกมาติดอยู่ข้างริมฝีปาก ทำให้ตอนนี้มีแต่กลิ่นคาวเลือดเต็มไปหมดแต่นางไม่สนใจ ยังคงกุมมือเล็กๆ ของกู้อวิ๋นซีเอาไว้แน่น "คุณหนู จวนอ๋องแห่งนี้ นอกจากท่านอ๋องสองคนแล้ว คนอื่นๆ ต่างก็อยากให้พวกเราตายไปกันทั้งนั้น""แต่พวกเขาไม่กล้าฆ่าพวกเราตรงๆ พวกเขาอยากจะขังพวกเราไว้จนตายอยู่ในนี้ ให้พวกเราค่อยๆ ตายไปเอง""คุณหนู ท่านจะต้องหายดี จะต้องไม่ทำใ
พวกนางถูกขังมาครึ่งเดือนแล้วทหารองครักษ์ไม่อนุญาตให้พวกนางก้าวออกไปด้านนอกเลยแม้แต่ครึ่งก้าวและก็ไม่มีใครเข้ามาส่งข้าวของให้หอหนิงซีแห่งนี้ ราวกับเป็นเรือนร้างในเรือนที่กว้างขวางเช่นนี้ นอกจากนายบ่าวสองคนที่เดินออกไปข้างนอกบ้างเป็นบางครั้ง ก็ไม่มีคนอื่นอีก"คุณหนู คืนนี้ข้าจะออกไปดู ไปดูสิว่าเสวียนอ๋องทำอะไรอยู่กันแน่!"ครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่เคยมาเยี่ยมหาคุณหนูเลยสักครั้ง!อันเซี่ยพูดอย่างโมโห "หรือว่า เขาเชื่อคำพูดของหลานโจวจริงๆ เชื่อว่าคุณหนูจงใจที่จะไม่เก็บ...ไม่เก็บ..."สายตาของอันเซี่ยมองไปยังตรงบริเวณท้องน้อยของกู้อวิ๋นซีคำพูดต่อจากนั้น นางไม่กล้าพูดออกไปอีกเด็กได้จากร่างกายของคุณหนูไปกว่าครึ่งเดือนแล้วชุดกระโปรงที่เปื้อนเลือดนั้น นางได้นำไปฝังไว้ที่ด้านหลังหอ ราวกับว่า นางได้ฝังลูกของคุณหนูไปแล้วจริงๆนางรู้ดีจนถึงตอนนี้ แค่คุณหนูคิดถึงลูกนางก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดใจแต่ว่า กู้อวิ๋นซีไม่ได้อ่อนแออย่างที่นางคิดเรื่องที่ไม่มีทางแก้ไข นางก็ทำได้เพียงยอมรับความจริงเท่านั้น"ใช้ร่างกายตัวเองทดสอบพิษ เพื่อปรุงซีรั่มให้อาหลี เป็นเรื่องที่ข้าทำเองอย่างเต็มใจจริงๆ เคร
พลังปราณวิชาตัวเบาของอันเซี่ยฟื้นฟูกลับมาแล้วตอนนี้การจะกระโดดขึ้นบนกำแพงสูงก็เป็นเรื่องง่ายดายทีเดียวเดิมทีนางคิดแค่จะไปหยิบเอาวัตถุดิบออกมาจากห้องครัวใหญ่ในเรือนด้านหลังบางส่วนเท่านั้นแต่ว่าเมื่อได้ออกมาก็รู้สึกไม่พอใจไม่รู้อะไรดลใจถึงได้ไปที่หอชมจันทร์บรรยากาศในหอชมจันทร์เหมือนกับหอหนิงซีไม่มีผิด ช่างเงียบสงบไม่ออกมานานขนาดนี้ อันเซี่ยเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่จวนอ๋องบ้างแต่การคุ้มกันที่หอชมจันทร์ดูจะมากกว่าเมื่อก่อนอีกอย่างน้อยหนึ่งเท่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?อันเซี่ยจำที่คุณหนูกำชับไว้ได้ ห้ามบุ่มบ่าม แต่ว่า นางอยากจะเข้าไปพูดกับเสวียนอ๋องด้วยตัวเองสักประโยคว่าเขาเข้าใจคุณหนูผิดแล้ว!ความรู้สึกที่คุณหนูมีต่อเสวียนอ๋อง เป็นเรื่องจริงสิ่งที่หลานโจวพูดทั้งหมด ล้วนเป็นเรื่องโกหก!อันเซี่ยลังเลอยู่นาน แต่สุดท้ายก็อดไม่ไหว กระโดดขึ้นไปบนหลังคาหอชมจันทร์นางรู้ว่าห้องนอนของเสวียนอ๋องอยู่ที่ไหนพยายามคลำไปตลอดทาง ในที่สุดก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากด้านนอกห้องนอนของจวินเย่เสวียน"ข้าก็เพียงเข้าไปดูเขาเท่านั้น เหตุใดเจ้าเอาแต่ขวางข้าเช่นนี้? ข้าก็เรียนหม