จวินเย่เสวียนกลับมาในเวลากลางคืนอีกครั้งแต่ว่าวันนี้ไม่เหมือนทุกวัน กู้อวิ๋นซียังไม่นอนหลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ ก็เปลี่ยนเป็นชุดสะอาดชุดใหม่แล้วก็มาทันทีคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงของเขาจะยังนั่งรอเขาอยู่ที่ข้างโต๊ะ"ดึกขนาดนี้แล้วเหตุใดยังไม่พักผ่อน?" หลังจากจวินเย่เสวียนเข้าประตูไปก็อดพูดตำหนิไม่ได้ "เดี๋ยวก็เหนื่อยหรอก""ไม่เหนื่อย คืนนี้ ข้าอยากจะพูดคุยกับท่าน"กู้อวิ๋นซีมองไปที่เขา จนใจ นางได้กลิ่นคาวเลือดอีกแล้ว"นี่เสด็จพ่อกะจะให้ท่านสังหารศัตรูทั้งวันทั้งคืนเลยหรือยังไง?"ไม่รู้จักสงสารลูกชายของตัวเองบ้างเลยนางพูดอย่างไม่พอใจ "ทุกแคว้นไม่รู้ว่าปีๆ หนึ่งส่งสายลับเข้ามาสอดแนมเท่าไร หนานหลิงของเราเองก็เช่นกัน ก็ส่งสายลับออกไปทุกหนแห่งไม่ใช่เหรอ?"ดังนั้นสายลับพวกนี้ ไม่มีทางกำจัดหมดได้เขาไม่คิดจะพักบ้างเลยหรือยังไง?ร่างกายนี้ มีเลือดให้ไหลมากเท่าไรกันเชียว?ไม่รู้จักเหน็ดเนื่อยจริงๆ หรือยังไง?จวินเย่เสวียนเดินเข้ามาหยุดที่ข้างกายนาง ลากเก้าอี้ออกมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็อุ้มนางมานั่งลงบนตักของตัวเอง"สงสารสามีของเจ้าเหรอ?"แต่กู้อวิ๋นซีกลับเบือนหน้าหนี สะบัดเสียงอย่างงอน
กู้อวิ๋นซีเข้าใจแล้วจวินเย่เสวียนคิดว่าตัวเองติดหนี้จวินฉู่หลีตลอดชีวิต ดังนั้น ไม่ว่าจวินฉู่หลีต้องการอะไร ต่อให้เป็นชีวิตของเขา เขาก็ให้ได้"แล้วถ้าหากว่า อาหลีต้องการข้าล่ะ?" ในใจของนางรู้สึกหนักอึ้งจวินเย่เสวียรู้ว่านางกำลังคิดอะไร จึงดึงมือของนางเข้ามากุมไว้ พูดว่า "ช่วงเวลาที่ผ่านมาข้ามีชีวิตที่ยากลำบาก อีกทั้งยังไม่รู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร"กู้อวิ๋นซีรู้สึกเกร็งเครียดในใจ รู้สึกเจ็บปวดใจเหมือนถูกทิ่มแทง"แต่ตอนนี้ข้า รู้แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร"เขาซดน้ำแกงในชามรวดเดียวหมด จากนั้นก็กินอะไรอีกสักสองสามคำ จากนั้นก็สั่งให้คนเอาไปเก็บ เขาอุ้มผู้หญิงของตัวเองไปยังข้างเตียง จากนั้นก็วางนางลงเบาๆกู้อวิ๋นซีพยายามกดมือที่เริ่มยุกยิกอยู่บนร่างกายของตัวเอง "ขะ ข้ายังมีเรื่องจะพูดอีก""อืม" แต่เขาไม่ได้หยุดมือของตัวเอง ไม่นานก็ถอดชุดท่อนบนของนางออกได้สำเร็จ"เย่เสวียน"เขาตัวสั่นไปทั้งตัวนี่เป็นครั้งแรกที่นางเรียกชื่อเขาออกมาตรงๆ แบบนี้!คิดไม่ถึงเลยว่าชื่อของเขาที่ถูกเรียกออกมาจากปากของนาง จะให้ความรู้สึกแบบนี้ทั้งตื่นเต้น นุ่มนวลและร้อนแรงในคราวเดียวจวินเย่เส
เพื่อที่จะทำภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้สำเร็จลุล่วงก่อนกำหนด หลายวันต่อจากนั้น หลังจากที่จวินเย่เสวียนออกจากจวนไปก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถึงแม้เขาจะไม่ได้สั่งอะไรไว้ แต่กู้อวิ๋นซีก็เชื่อมั่นในตัวเขาเขาบอกว่าอีกห้าวันกลับ ก็จะต้องกลับมาแน่นอนดังนั้นในห้าวันนี้ นางจึงเตรียมการรักษาจวินฉู่หลีครั้งสุดท้ายกับหลานโจวในช่วงนี้ จวินฉู่หลีไม่กล้าไปหากู้อวิ๋นซีเลยแต่ความจริงแล้ว เขาจะคอยเฝ้าอยู่ที่หอหนิงซีทุกวันเพียงแค่นางไม่ยอมให้เขาเข้าไปเท่านั้นเอง เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปเองโดยพลการพระสนมหรงที่เห็นลูกชายตัวเองเศร้าหมอง ก็เลยพูดปลอบใจว่า "หากว่าเจ้าชอบนางจริงๆ เจ้าก็ไปพูดกับท่านพี่สี่ของเจ้าเถอะ เขาจะต้องยกกู้อวิ๋นซีให้เจ้าแน่"แต่นางไม่พูดคำนี้ออกมาจะยังดีกว่า หลังจากจวินฉู่หลีได้ฟังแล้วก็ยิ่งรู้สึกแย่ในใจ"ซีเออร์ไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่วัตถุ ไม่ใช่ใครจะมายกให้กันแล้วนางจะกลายเป็นของใคร""นางก็เป็นเพียงแค่คุณหนูจวนแม่ทัพคนหนึ่งเท่านั้น เจ้าเป็นถึงท่านอ๋องแห่งแคว้น อยากได้อะไรไม่ใช่หาได้โดยง่ายหรอกเหรอ?"พระสนมหรงเป็นห่วงว่าการที่ลูกชายเศร้าหมอง จะทำให้เกิดเป็นอาการป่วยขึ้นมาอีกนาง
"คุณหนู" อันเซี่ยยังคงกอดข้อมือของกู้อวิ๋นซีไว้เบาๆ ไม่กล้าที่จะปล่อย"คุณหนู คิดถึงเสวียนอ๋อง คิดถึงอนาคตของพวกท่านสิเจ้าคะ ท่านก็ไม่อยากทำใช่ไหม?"กู้อวิ๋นซีไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มือที่ถือเข็มฉีดยาไว้กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงระยะเวลาในช่วงนี้ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมาก็ไม่ปานได้ทำตามใจ ได้หัวเราะ ได้มีความสุขกระทั่งว่ามีความสุขยิ่งกว่าในอดีตซะอีกเพราะว่านางสามารถเรียกชื่อจริงๆ ของเขาออกมาได้ เย่เสวียนไม่ใช่ชื่อปลอมอย่างฉู่หลีอีก"คุณหนู หลีอ๋องอาการดีขึ้นทุกวัน ความจริงยังสามารถคิดหาวิธีการอื่นได้อีกใช่หรือไม่?"อันเซี่ยเชื่อว่าด้วยความสามารถของคุณหนู นางจะต้องมีวิธีการอื่นในการสกัดซีรั่มออกมาเพื่อรักษาหลีอ๋องได้แน่ไม่ใช่จำเป็นต้องทำแบบนี้เท่านั้น ใช่ไหม?"นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด" เสียงของกู้อวิ๋นซีเบาหวิวอันเซี่ยรีบพูดอย่างร้อนใจ "แต่ไม่ใช่วิธีการเดียว ใช่ไหมเจ้าคะ?"กู้อวิ๋นซีมองไปที่นางอย่างจนใจ "แต่ลูกในท้องของข้า..."ด้วยฐานะหมอที่มีความรู้ของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด นางไม่มีเหตุผลใดที่จะเก็บเด็กคนนี้ไว้แต่ว่า ในฐานะแม่คนหนึ่ง..."คุณหนู..
"กู้อวิ๋นซี เจ้าเป็นภรรยาของหลีเออร์ ตอนนี้กลับจะปล่อยให้หลีเออร์ตายเพื่อจะไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง!"ยิ่งพระสนมหรงมองดูเข็มฉีดยาที่ไม่ได้ใช้นั้นก็ยิ่งรู้สึกโมโหในใจ"เจ้าไม่รู้สึกผิดต่อสามีของเจ้าบ้างเลยเหรอ?"แต่กลับไม่สนใจนาง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "มีเรื่องหนึ่ง ข้าคิดว่าเสด็จแม่ท่านเข้าใจผิดมาตั้งแต่แรกแล้ว""เจ้าบอกว่าข้าเข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ?" พระสนมหรงโมโห "เจ้าไม่ยินดีที่จะใช้ร่างกายของตัวเองช่วยรักษาให้กับหลีเออร์ ทำผิดสัญญา เจ้ายังกล้าบอกว่าข้าเข้าใจผิดเหรอ?""พระสนมหรง"คำเรียกนี้ยิ่งทำให้พระสนมหรงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่นี่นางบังอาจไม่เรียกแม้แต่คำว่าเสด็จแม่แล้วเหรอ!"พระสนม" เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของนาง กู้อวิ๋นซีก็ยังคงความสงบนิ่งไว้ได้ "ข้าไม่เคยพูดว่าจะยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิตอาหลี จุดนี้ ขอให้พระสนมเข้าใจให้ถูกต้องด้วยเพคะ""เจ้าว่าอะไรนะ?" เมื่อพระสนมหรงได้ยินดังนั้น ยิ่งโมโหจนหน้าแดงก่ำ"นี่เจ้ากล้ากลับคำเหรอ เจ้า...นังผู้หญิงแพศยา! เจ้า...""ขอถามหน่อย พระสนมได้ยินเมื่อไรว่าข้าตอบตกลงว่าจำเป็นต้องเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยอาหลีเหรอเพคะ?"กู
หลานโจวมองเข็มฉีดยาที่ถูกบรรจุเต็มไปด้วยพิษ จากนั้นก็มองที่กู้อวิ๋นซี ด้วยสีหน้าลำบากใจเขาทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการตัดโอกาสการมีชีวิตรอดของเด็กในท้องพระชายาถึงแม้เขาจะรู้อยู่เต็มอกว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางมีชีวิตรอดได้ก็ตามทีแต่การที่เด็กเสียชีวิตเองเนื่องจากไม่แข็งแรงกับการเสียชีวิตจากการถูกเขาฉีดสารพิษเข้าไปมันเป็นคนละเรื่องกันเช่นนี้ โหดร้ายเกินไปแล้ว!"หลานโจว!" พระสนมหรงถลึงตามองเขาแล้วพูดอย่างโมโห "เจ้าลืมแล้วหรือไงว่าเคยสาบานอะไรไว้ต่อหน้าข้า? ข้าบอกความลับทุกอย่างกับเจ้าไปแล้วหรือว่ามันยังไม่พอที่จะทำให้เจ้าตัดสินใจได้หรือไง?"เมื่อหลานโจวได้ยินดังนั้นเขาก็สะดุ้งจนตัวสั่นในที่สุดก็ก้าวขาแข็งๆ เดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบเอาเข็มฉีดยาขึ้นมากู้อวิ๋นซีก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกันนางรู้มาตลอดว่า จวนเสวียนอ๋องมีความลับสุดยอดที่น่ากลัวและไม่สามารถบอกใครได้นางไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็รู้ว่าเมื่อพูดออกไป ผลของมันจะต้องสามารถย้อมแผ่นดินให้แดงฉานด้วยเลือดได้แน่นอนแต่ทุกอย่างนี้ มันเกี่ยวอะไรกับนาง กับอาหลีและกับลูกในท้องด้วยล่ะ?"หลานโจว ข้ารู้ว่าเจ้าเคยตรวจอาการให้กับเด็กใ
"พระชายา ลูกในท้องของท่าน ไม่สมควรให้คลอดออกมาจริงๆ"หลานโจวหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา เดินไปอยู่ตรงหน้าของกู้อวิ๋นซีถึงแม้ในแววตาของเขาจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ตอนนี้สายตาของเขากลับแน่วแน่"พระชายา เพื่อท่านอ๋อง ท่านก็ไม่ควรคลอดเขาออกมา หากว่าท่านอ๋องมีลูกที่พิการ จะต้องเป็นภาระของเขาในภายหน้าแน่!"หลานโจวรู้ว่าตัวเองโหดร้าย แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกทุกอย่างก็ทำเพื่อท่านอ๋องทั้งสิ้น!สิ่งไหนที่ไม่เป็นผลดีกับท่านอ๋อง ก็จะต้องถูกกำจัดทิ้ง!"เขาจะต้องเกลียดเจ้าแน่" กู้อวิ๋นซีไม่มีแรงที่จะต่อต้านอีกแล้ว ทำได้เพียงพยายามพูดโน้มน้าวเขา "ให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง ข้าจะต้องรักษาเขาให้หายได้แน่ หลานโจว...""หลานโจว! อย่าไปฟังนาง เจ้าก็เคยตรวจชีพจรให้นาง เจ้ารู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางรักษาให้หายได้ไม่ใช่เหรอ?"พระสนมหรงยืนอยู่ข้างหลังของหลานโจวเช่นเดียวกับมู่อันหนิงนางพูดอย่างโมโห "เจ้ารู้ว่าในภายหน้าเขาจะต้องทำภาระกิจยิ่งใหญ่ขนาดไหน ลูกของเขาจะต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแผ่นดิน!"หลานโจวหลับตาลง เก็บซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดไว้ภายในใช่แล้ว ลูกของเสวียนอ๋องจะต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุ
"เพราะเหตุใด! คุณหนู ท่านใจดีช่วยหลีอ๋องไว้ เหตุใดสุดท้ายถึงกลายเป็นแบบนี้ได้? พวกเขาทำอะไรกับท่านกันแน่?"อันเซี่ยไม่เข้าใจเลยจริงๆ เพื่อช่วยหลีอ๋องแล้ว คุณหนูของนางยอมทำร้ายได้แม้แต่ร่างกายของตัวเองคุณหนูมีเมตตา จิตใจดี เหตุใดสุดท้ายถึงได้รับผลเช่นนี้?หลังจากพวกเขาใช้คุณหนูเสร็จ ก็ไม่สนเลยจริงๆ เหรอว่าคุณหนูจะเป็นหรือตายอย่างไร?พวกเขาทุกคนต่างก็ไปดูแลหลีอ๋อง แล้วทิ้งพระชายาหลีอ๋องที่จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ไว้ที่นี่เนี่ยนะ?คนพวกนี้ เหตุใดจึงไร้มนุษยธรรมเหลือเกิน?"คุณหนู...""ลูก..." กู้อวิ๋นซีคว้ามือของอันเซี่ยเอาไว้ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้กว่าครึ่งค่อนคืนในที่สุดก็ไหลรินลงมาเมื่อเห็นนางร้องไห้ อันเซี่ยก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ จากนั้นก็ร้องไห้ตามนางไปด้วย "คุณหนู ขออภัย เป็นข้าที่ปกป้องท่านไม่ดี ขออภัยด้วย...""อันเซี่ย ตอนนี้...ไม่ใช่เวลาจะมาร้องไห้"ถึงแม้ตอนนี้กู้อวิ๋นซีจะร้องไห้อยู่ แต่ในแววตาของนาง ยังมีความปรารถนาอย่างหนึ่ง"ข้าจะต้องมีชีวิตต่อไป ข้าจะต้อง...มีชีวิตต่อไป..."พระสนมหรงไม่สนใจความเป็นความตายของนาง เพื่อได้ซีรั่มที่ดีที่สุด กลับให้หลานโจวดูดเอาพิษมาใส่ในร่า