กู้อวิ๋นซีรู้ว่าจวินเย่เสวียนกับจวินฉู่หลีหน้าตาเหมือนกันมากแต่เธอคิดไม่ถึงเลย ว่าทั้งสองคนจะเหมือนกันมากขนาดนี้!เขาค่อยๆ สาวเท้าลงบันไดมา เงาร่างสูงใหญ่ แผ่กระจายไอเย็นเยียบราวกับเป็นก้อนน้ำแข็งเดินได้ทั้งแข็งกระด้าง เผด็จการ และเย็นชา!เป็นคนที่แค่ได้มองแว๊บแรก ก็ต้องรีบละสายตาไม่กล้ามองอีกเป็นครั้งที่สองทั้งตัวเขามีรัศมีความเป็นราชนิกูลผู้สูงส่งมาแต่กำเนิด มีความน่าเกรงขาม ที่แค่เข้าใกล้ก็สามารถกดดันให้เธอแทบจะหายใจไม่ออกอย่างที่คิด เขาช่างเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างจากสามีของเธอโดยสิ้นเชิงเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา กู้อวิ๋นซีก็รีบถวายความเคารพอย่างรวดเร็ว "คารวะองค์ชายสี่"คนที่เดินมาไม่ได้มีปฏิกริยาตอบรับอะไรจวินเย่เสวียนเดินผ่านตัวของเธอไป ราวกับตัวเธอเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตนในสายตาเขาเขาเดินขึ้นรถม้าไป ม่านที่ปิดลงช่วยบดบังความเย็นชาจากตัวเขาไปได้บ้างกู้อวิ๋นซีถอนหายออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะได้ยินองค์รักษ์เยียนเป่ยพูดว่า "พระชายา รถม้าของพระชายาเกิดปัญหานิดหน่อย ไม่สามารถใช้การได้พ่ะย่ะค่ะ""เหลือเวลาไม่มากแล้ว สามารถซ่อมได้หรือไม่?" กู้อวิ๋นซีถามออกไปอย่างร้อน
"ขอประทานอภัยเพคะ!" กู้อวิ๋นซีรีบร้อนจะลุกขึ้นมาแต่คิดไม่ถึงว่ารถม้าจะเกิดการสั่นไหวขึ้นอีก ทำให้กู้อวิ๋นซีที่เพิ่งพยุงตัวขึ้นได้ต้องล้มลงไปอีกครั้งครั้งนี้เธอล้มลงไปบนตัวของจวินเย่เสวียนพอดีแถมมือของเธอก็ดันไปทับเข้ากับอะไรบางอย่างที่แม้จะปกปิดไว้ด้วยเสื้อผ้าก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุและแข็งขืน!"อ๊ะ!" กู้อวิ๋นซีตกใจจนตัวโยน เธอรีบชักมือกลับมาทันทีหน้าเธอแดงจัดจนแทบจะบีบเป็นหยดเลือดออกมาได้แล้ว!เธอไม่ทันระวัง ดันจับไปโดน...ขององค์ชายสี่ซะได้แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ ตอนที่ถูกเธอสัมผัสโดนอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายขององค์ชายสี่กลับเกิดปฏิกริยาตอบสนองซะได้!มันถึงขั้นสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตาเปล่าเลยเชียวนะ!กู้อวิ๋นซีไม่รู้แล้วว่าเธอควรจะวางสายตาไว้ที่จุดไหนดี"บังอาจ!" แววตาของจวินเย่เสวียนมืดลง เขาใช้มือบีบไปที่คางของเธอนิ้วทั้งห้ากำแน่น จากนั้นก็ดันใบหน้าของเธอให้เงยขึ้นมามอง"เจ้าแต่งงานกับฉู่หลีไปแล้ว แต่ยังบังอาจมาให้ท่าข้าอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ไม่รักษากฎของภรรยา ต้องได้รับโทษเช่นไร""องค์ชายสี่ หม่อมฉันเปล่านะเพคะ!" กู้อวิ๋นซีจับไปที่มือของเขาเพื่อจะผลั
กู้อวิ๋นซีไม่อยากทำให้เขาโกรธ เธอกลัวว่าถ้าหากเขาโกรธ เขาจะทำเรื่องที่เธอรับไม่ได้ขึ้นมาอีกแล้วเธอก็เชื่อว่าเขาจะทำมันแน่!เสวียนอ๋องน่ากลัวเสียยิ่งกว่าที่เขาเล่าลือกันเสียอีกไม่เพียงนิสัยเย็นชามุทะลุ อีกทั้งยังไม่มีความรู้สึกเห็นใจคนอื่นเลยสักนิด!บทจะน่ากลัวขึ้นมาก็ไม่สนความเป็นความเป็นความตายของคนอื่นเลยในใต้หล้านี้ ทำไมถึงได้มีปีศาจบ้าคลั่งเช่นนี้อยู่ได้นะแต่เขาก็ดันเป็นพี่ชายที่ฉู่หลีให้ความเคารพมาก...กู้อวิ๋นซีพูดขอโทษอย่างระมัดระวัง"ขอประทานอภัยเพคะ องค์ชายสี่ หม่อมฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วย ต่อไปหม่อมฉันจะไม่ทำอีกแล้ว"ตั้งแต่เกิดมากู้อวิ๋นซีก็ไม่เคยกลัวใครมาก่อน แต่ตอนนี้ เธอกลัวเขามาก!ฝ่ามือของชายหนุ่มยังคงจับอยู่บนแก้มก้นของเธอ นิ้วมือเรียวยาวของเขาดูเหมือนจะกำลังเคาะอยู่เบาๆคล้ายกับว่าเขากำลังพิจรณาอยู่ว่าจะลงโทษเธอต่อไปดีหรือไม่รถม้ายังคงวิ่งไปข้างหน้า กู้อวิ๋นซีก็ยังคงนอนทาบอยู่บนตักของจวินเย่เสวียนเหมือนกับปลาที่นอนอยู่บนเขียง ความรู้สึกรอคอยให้ใครสักคนมาตัดสินชีวิตของตัวเองแบบนี้ มันรู้สึกแย่มากจริงๆไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร แต
"อ๊ะ..." กู้อวิ๋นซีส่งเสียงร้องออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจก็เธอถูกจวินเย่เสวียนกระแทกหัวเข้ามาแต็มแรงแบบนั้น ก็ต้องเผลอร้องออกไปบ้างสิกระแทกมาซะแรง เจ็บจะแย่!เธอขมวดคิ้วมุ่นแต่ทันใดนั้นก็เหมือนจะเข้าใจในเจตนาของจวินเย่เสวียนแต่ว่า วิธีนี้มันจะเสี่ยงไปหน่อยหรือเปล่า? ถ้าหากว่าองค์หญิงแปดเกิดเปิดม่านขึ้นมาจริงๆ...เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าขององค์หญิงแปดใกล้รถม้าขึ้นมาเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีก็ไม่คิดอะไรมากอีก เธอกัดริมฝีปากแน่น และเมื่อจวินเย่เสวียนกดทับลงมาอีกครั้งเธอก็ค่อยๆ ส่งเสียงครางออกไปเบาๆ "อ๊า..."องค์หญิงแปดหยุดชะงักฝีเท้าก่อนจะเบิกตาโพลงอย่างตกใจสุดขีดนั่นเสียงอะไรน่ะ?คล้ายกับว่า มีอะไรกระทบกัน แล้วยัง เสียงผู้หญิงครางต่ำๆ นั่นอีก..."หลิวหลี ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง!" องค์ชายรองหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาในทันใด ก่อนจะรีบลากตัวองค์หญิงแปดออกจากตรงนั้นทันทีคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างน้องห้า จะไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจถึงเพียงนี้ ถึงขั้น...กันบนรถม้าทำตามอำเภอใจเกินไปแล้ว!เยียนเป่ยที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับรถม้าย่อมรู้สถานการณ์ดี แต่เมื่อได้ยินเสียงครางของกู้อวิ๋นซีก็ยังอด
กู้อวิ๋นซีอึ้งมากหัวใจเธอเต้นระรัวเร็วไปหมดจวินเย่เสวียนเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเดินลงจากรถม้าไปก่อนจากนั้นก็หันกลับมา ก่อนจะยื่นมือออกมาให้กู้อวิ๋นซีจับในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็เหมือนกับว่าจะตั้งสติได้แล้วเขาไม่ใช่ฉู่หลี จะเป็นไปได้อย่างไรไฝเสน่ห์เม็ดนี้ เธอเป็นคนวาดเพิ่มเข้าไปเอง มันลบออกได้!แต่ไฝเสน่ห์เม็ดเมื่อคืนของฉู่หลี เธอลบมันไม่ออก!นี่เธอคิดอะไรไร้สาระอยู่กันเนี่ยกู้อวิ๋นซีสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะค่อยๆ เอามือไปเปิดม่านออกเมื่อเห็นฝ่ามือของจวินเย่เสวียนที่ยื่นมาทางเธอแล้ว เธอก็หลบเองโดยสัญชาตญาณ แล้วหันไปคว้าจับเอาขอบของรถม้าแทน ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงมาอย่างระมัดระวังจวินเย่เสวียนทำเสียงเย็นๆ ในลำคออย่างขัดใจ ก่อนจะชักมือกลับไปไม่ไกลนัก องค์หญิงแปดส่งยิ้มจนตาหยีก่อนจะวิ่งเข้ามาทัก "ท่านพี่ห้า ไม่ได้พบกันนานเลยนะเพคะ!"องค์ชายรองจวินหนานถิงเองก็เดินอย่างรวดเร็วเข้ามาหาเช่นกัน "น้องห้า วันนี้พาภรรยาเข้าวังมาคารวะผู้ใหญ่หรือ ยินดีด้วยๆ!"แผ่นหลังที่ทั้งเย็นชาและเคร่งเครียดของจวินเย่เสวียนทำให้กู้อวิ๋นซีที่มองอยู่ รู้สึกกระวนกระวายในใจเขายังคงเย็นชาเช่นเดิม ช่างด
"ท่านจะทำอะไร" กู้อวิ๋นซีตกใจจนรีบผลักจวินเย่เสวียนออกทันทีจวินเย่เสวียนแสดงสีหน้าเย็นชา สายตาแสดงออกถึงความไม่พอใจ "ข้ากับเสด็จพ่อ เสด็จแม่ไม่ค่อยได้พบเจอกัน แต่กับเสด็จย่าพบกันบ่อย!"เพียงไม่กี่ประโยค กู้อวิ๋นซีก็เข้าใจได้ในทันทีเธอสูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างพยายามระงับอารมณ์ เพียงครู่เดียวก็ใจเย็นลงได้เธอพยายามทำความคุ้นชินที่จะต้องยืนอยู่เคียงข้างเขา จากนั้น เธอก็เอาแขนไปคล้องกับแขนของเขาแต่ก่อนจะที่เดินเข้าประตูไป ก็อดที่จะกระซิบถามเขาเสียงเบาไม่ได้ว่า "ตกลงแล้วฉู่หลีไปไหนเหรอเพคะ""เรื่องในวัง เจ้าอยากเข้ามาวุ่นวายด้วยหรือไง" จวินเย่เสวียนจ้องตาเธอกลับไปตรงๆกู้อวิ๋นซีส่ายหน้า "ไม่เพคะ!"เธอก็เพียงอยากรู้ว่าเธอจะได้เจอฉู่หลีเมื่อไรบางที ถ้าฉู่หลีกลับมา ทุกอย่างอาจจะเรียบร้อยดีแล้วก็ได้เธอไม่อยากอยู่กับจวินเย่เสวียนอีกต่อไปแล้วจริงๆถ้าต้องอยู่อย่างหวาดกลัวแบบนี้ จิตใจเธอคงรับความกดดันนี้ไม่ไหวที่ในวังหนิงอัน ไทเฮารอพวกเขาทั้งคู่อยู่นานแล้ววันนั้นทั้งวัน กู้อวิ๋นซีรับหน้าที่เป็นคนคอยอยู่พูดคุยสนทนากับไทเฮา โดยที่จวินเย่เสวียนแทบจะไม่ได้เปิดปากพูดสิ่งใดเลยแต่ว่า ต
"ข้าไม่ได้คิดอะไรกับองค์ชายสี่เลยนะ!"กู้อวิ๋นซีพยายามจะดิ้นหนี ถึงได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกขังอยู่ระหว่างร่างกายของจวินเย่เสวียนและภูเขาจำลองร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาทาบทับลงมาบนร่างของเธอในทุกส่วน!ระยะห่างเท่านี้ มันเกินเส้นไปหน่อยแล้ว!กู้อวิ๋นซีโมโหหน้าตึง "ปล่อยนะ! องค์ชายสี่โปรดรักษามารยาทด้วยเพคะ!""คนที่ควรรักษามารยาทไม่ใช่ควรจะเป็นเจ้าหรือไง" จวินเย่เสวียนเหน็บแนม "ใครกันที่เสนอตัวมาให้ข้ากอดเอง"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 建议改为ข้า"เจ้าเป็นชายาของฉู่หลี แต่กลับมาแอบซบอกข้าตั้งหลายครั้ง กู้อวิ๋นซี เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋อง มีเป้าหมายอะไรกันแน่"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 同上สายตาของเขา หยุดอยู่ตรงที่ลำคอของเธอร่อยรอยสีแดงเรื่อที่ผู้ชายทิ้งเครื่องหมายไว้มันช่างชัดเจนเมื่ออยู่บนลำคอขาวสะอาดแค่ดูจากเครื่องหมายนี้ ก็สามารถจินตนาการได้แล้วว่า ตอนที่เธอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย เธอต้องถูกกระทำการรุนแรงขนาดไหน!ยิ่งมองเครื่องหมายบนคอของกู้อวิ๋นซี สายตาของจวินเย่เสวียนก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอกของเขา คิดจะออกแรงผลักเขาให้ออกไ
ในที่สุดจวินเย่เสวียนก็ยอมปล่อยกู้อวิ๋นซีกู้อวิ๋นซีเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ก็เห็นว่าจวินเย่เสวียนหมุนตัวเดินออกไปทางนางกำนัลคนนั้นแล้วไม่รู้ทำไมแต่เธอรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างประหลาด "องค์ชายสี่ อย่านะ!"เสวียนอ๋องตามที่เล่าลือกัน โหดเหี้ยมอำมหิต แข็งแกร่งไร้หัวใจ!เมื่อมีคนเห็นว่าเธอกับเขามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เขาจะฆ่าคนๆ นั้นเพื่อปิดปากหรือไม่"เสวียนอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วย..." เมื่อรู้สึกได้ว่าจวินเย่เสวียนกำลังเดินมาหาตัวเอง นางกำนัลตัวน้อยก็เสียงสั่นเครือไปหมด"เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" จวินเย่เสวียนมายืนอยู่เบื้องหน้าของนางกำนัล สายตาคมกริบดุจคมมีดมองจ้องลงไปที่ตัวนาง "ว่ามา ข้าคือใคร""เสวียน...อ๊า! อ๊า..." เท้าของจวินเย่เสวียน เหยียบลงไปบนหลังมือของนางกำนัล ทำให้นางกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด"องค์ชายสี่!" กู้อวิ๋นซีรีบวิ่งตามเข้ามา ก่อนจะส่ายหน้าให้เขาอย่าฆ่าใครเลย นางกำนัลคนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร"พูดมา เจ้าเรียกข้าว่าอะไร" จวินเย่เสวียนออกแรงเหยียบที่เท้าหนักขึ้นกู้อวิ๋นซีคล้ายกับจะได้ยินเสียงกระดูกข้อมือของนางกำนัลที่ถูกเหยียบแตก!นางกำนัลเจ็บปว