"ข้าไม่ได้คิดอะไรกับองค์ชายสี่เลยนะ!"กู้อวิ๋นซีพยายามจะดิ้นหนี ถึงได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกขังอยู่ระหว่างร่างกายของจวินเย่เสวียนและภูเขาจำลองร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาทาบทับลงมาบนร่างของเธอในทุกส่วน!ระยะห่างเท่านี้ มันเกินเส้นไปหน่อยแล้ว!กู้อวิ๋นซีโมโหหน้าตึง "ปล่อยนะ! องค์ชายสี่โปรดรักษามารยาทด้วยเพคะ!""คนที่ควรรักษามารยาทไม่ใช่ควรจะเป็นเจ้าหรือไง" จวินเย่เสวียนเหน็บแนม "ใครกันที่เสนอตัวมาให้ข้ากอดเอง"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 建议改为ข้า"เจ้าเป็นชายาของฉู่หลี แต่กลับมาแอบซบอกข้าตั้งหลายครั้ง กู้อวิ๋นซี เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋อง มีเป้าหมายอะไรกันแน่"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 同上สายตาของเขา หยุดอยู่ตรงที่ลำคอของเธอร่อยรอยสีแดงเรื่อที่ผู้ชายทิ้งเครื่องหมายไว้มันช่างชัดเจนเมื่ออยู่บนลำคอขาวสะอาดแค่ดูจากเครื่องหมายนี้ ก็สามารถจินตนาการได้แล้วว่า ตอนที่เธอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย เธอต้องถูกกระทำการรุนแรงขนาดไหน!ยิ่งมองเครื่องหมายบนคอของกู้อวิ๋นซี สายตาของจวินเย่เสวียนก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอกของเขา คิดจะออกแรงผลักเขาให้ออกไ
ในที่สุดจวินเย่เสวียนก็ยอมปล่อยกู้อวิ๋นซีกู้อวิ๋นซีเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ก็เห็นว่าจวินเย่เสวียนหมุนตัวเดินออกไปทางนางกำนัลคนนั้นแล้วไม่รู้ทำไมแต่เธอรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างประหลาด "องค์ชายสี่ อย่านะ!"เสวียนอ๋องตามที่เล่าลือกัน โหดเหี้ยมอำมหิต แข็งแกร่งไร้หัวใจ!เมื่อมีคนเห็นว่าเธอกับเขามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เขาจะฆ่าคนๆ นั้นเพื่อปิดปากหรือไม่"เสวียนอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วย..." เมื่อรู้สึกได้ว่าจวินเย่เสวียนกำลังเดินมาหาตัวเอง นางกำนัลตัวน้อยก็เสียงสั่นเครือไปหมด"เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" จวินเย่เสวียนมายืนอยู่เบื้องหน้าของนางกำนัล สายตาคมกริบดุจคมมีดมองจ้องลงไปที่ตัวนาง "ว่ามา ข้าคือใคร""เสวียน...อ๊า! อ๊า..." เท้าของจวินเย่เสวียน เหยียบลงไปบนหลังมือของนางกำนัล ทำให้นางกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด"องค์ชายสี่!" กู้อวิ๋นซีรีบวิ่งตามเข้ามา ก่อนจะส่ายหน้าให้เขาอย่าฆ่าใครเลย นางกำนัลคนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร"พูดมา เจ้าเรียกข้าว่าอะไร" จวินเย่เสวียนออกแรงเหยียบที่เท้าหนักขึ้นกู้อวิ๋นซีคล้ายกับจะได้ยินเสียงกระดูกข้อมือของนางกำนัลที่ถูกเหยียบแตก!นางกำนัลเจ็บปว
ก่อนที่แม่เฒ่าจะเข้ามา กู้อวิ๋นซีเพิ่งจะวาดไฝเสน่ห์ให้กับจวินเย่เสวียนเสร็จไปเธอเพิ่งจะโยนดินสอเขียนคิ้วทิ้งไปทาง แม่เฒ่าก็เปิดประตูก้าวเข้ามาด้านในพอดีเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสองคนตอนนี้ แม่เฒ่าก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข "อุ๊ยตาย ท่านอ๋องกับพระชายาช่างรักใคร่กันเหลือเกินเพคะ!"กู้อวิ๋นซีไม่เข้าใจในตอนแรก แต่เมื่อก้มลงมองตามสายตาของแม่เฒ่าแล้ว...ตอนไม่มองก็ไม่มีอะไร แต่พอมองก็ต้องเขินจนหน้าแดงก่ำ รีบลนลานจะลงมาทันทีเมื่อครู่ตอนที่จะวาดไฝเสน่ห์ให้จวินเย่เสวียนเธอดันใจร้อนไปหน่อย ก็เลยนั่งคร่อมลงไปบนตักของเขา!กริยาท่าทางแบบนี้ เธอจะมองหน้าฉู่หลีได้ยังไงกู้อวิ๋นซีรีบลงจากตักเขาอย่างหวาดหวั่น แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ที่เอวด้านหลังของเธอจะรู้สึกอึดอัดขึ้นมาจวินเย่เสวียนเอื้อมมือมากอดเธอไว้ให้อยู่ในอ้อมแขนของเขาต่อไป"องค์...ฉู่หลี อย่าทำแบบนี้ แม่เฒ่าก็อยู่นะ!" กู้อวิ๋นซีหน้าแดง รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากแต่จวินเย่เสวียนกลับหรี่ตาเล็กลง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นๆ "หรือว่าแม่เฒ่าจะขัดขวางไม่ให้ข้ากับภรรยาของตัวเองได้ใกล้ชิดกันล่ะ"Comment by mzmmmwl9477@163.com: 建议改为ข้ากู้อวิ๋
ค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิ เหตุใดจึงรู้สึกร้อนได้ น่าแปลกจริงกู้อวิ๋นซีหมุนตัวกลับ เธอคิดจะเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศสักหน่อยคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเดินไปได้แค่สองก้าว เธอจะเกิดอาการเข่าอ่อน โงนเงนจนจะร่วงลงบนพื้นซะก่อนแต่เธอก็ไม่ได้ร่วงลงไปบนพื้นจริงๆ แต่กลับตกอยู่ในอ้อมแขนของจวินเย่เสวียนแทนต่างหาก"องค์ชายสี่ เมื่อครู่ท่าน...ยังนั่งอยู่...บนเก้าอี้ไม่ใช่หรือ"ทำไมเขาถึงเดินมาเร็วขนาดนี้ แค่พริบตาเดียวก็เข้ามาประชิดตัวเธอได้แล้วแต่ไม่นานกู้อวิ๋นซีก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญประเด็นสำคัญคือ..."ร้อนจัง..." ทำไมมันถึงร้อนขึ้นเรื่อยๆ นะจวินเย่เสวียนเองก็ขมวดคิ้วมุ่นไม่ใช่แค่นางร้อนคนเดียว เขาก็ร้อน!ไอร้อนมันเหมือนจะลามขึ้นมาจากท้องน้อย เพียงครู่ก็พุ่งปรี๊ดขึ้นสมองไปเลย!เขาเข้าใจแล้วที่แท้น้ำแกงบุตรหลานที่เล่าลือกัน ก็คือ...น้ำยาปลุกอารมณ์นั่นเอง"องค์ชายสี่ ข้าไม่ไหวแล้ว" พลังปราณภายในของกู้อวิ๋นซีไม่แข็งแกร่งเท่าเขา จึงไม่อาจต้านทานฤทธิ์ของน้ำแกงบุตรหลานได้ในเวลารวดเร็วจวินเย่เสวียนช่วยพยุงตัวของเธอไปที่ข้างเตียงนอน ตอนที่กำลังจะปล่อยเท่านั้น จู่ๆ นางก็ยื่นมือออก
การกระทำของกู้อวิ๋นซี ทำให้จวินเย่เสวียนยิ่งบ้าคลั่งขึ้นไปอีกจิตสำนึกถูกละทิ้งไปหมดสิ้นภายใต้ฤทธิ์ของยานี้เขาดึงทึ้งเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรีบร้อนหัวไหล่ที่ขาวผ่องราวหิมะ ถูกเปิดเผยสู่สายตาของเขาในทันทีฝ่ามือที่หยาบกร้านจากการกรำศึกมานานหลายปี ค่อยๆ สอดลงไปครอบครองร่างกายบอบบางของเธอจากด้านบน!ตอนที่ถูกเขากอบกุม กู้อวิ๋นซีรู้สึกสูญสิ้นพละกำลัง ได้เพียงแค่ทิ้งตัวที่อ่อนปวกเปียกของเธอแนบชิดไปกับร่างกายของเขา"องค์ชายสี่..." เธอครางเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆจวินเย่เสวียนยิ่งกอดรัดนางแรงขึ้น เสียงแหบพร่าของเขาดังขึ้นจากลำคอที่ร้อนรุ่ม "ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่..."เสียงของเขา ฟังดูช่างไพเราะยิ่งนักแค่ได้ยินก็ทำให้เธอรู้สึกลุ่มหลง"องค์ชายสี่..."ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ ทั้งสองก็กลิ้งตัวลงไปลมหายใจที่บ้าคลั่ง เอาแต่ใจของเขา ทำให้เธอจมดิ่งไม่อาจต้านทานร้อนมากจูบของเขา ทั้งเอาแต่ใจและหอมหวานยิ่งเขาดูดดื่มมากขึ้นเท่าไร กู้อวิ๋นซีก็อดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าขึ้นเพื่อประสานทำนองไปพร้อมกับเขาหยดน้ำตาของเธอ ไหลร่วงรินลงมาจากหางตาของเธออย่างไม่มีเสียงใดๆความจริงแล้วเธอยังมีสติอยู่ เธอรู้อ
สติที่เพิ่งจะเรียกคืนกลับมาได้ของจวินเย่เสวียน เกือบจะต้องหายไปเพราะเสียงครางร้องเรียกของเธออีกครั้ง!โดยเฉพาะ ตอนที่ร่างกายของเธอเปลือยเปล่าด้วยเช่นนี้แล้วเมื่อผ้าห่มผืนบางร่วงลงมา ร่างกายขาวละเอียดดุจหิมะ ผิวกายนุ่มเด้งจนสามารถจิ้มให้แตกได้ก็ปรากฎออกมาสู่สายตาเขาอย่างชัดเจนอีกครั้ง...จวินเย่เสวียนปิดตาลง สองมือกำแน่นกู้อวิ๋นซีไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แต่เมื่อกำลังจะเอื้อมไปกอดเขาก็เห็นที่มุมปากเขามีเลือดสีแดงสดไหลลงมาจากมุมปากสิ่งนี้ช่วยเรียกคืนสติของเธอให้กลับมาได้อีกครั้งองค์ชายสี่ กำลังเดินลมปราณเพื่อต้านทานฤทธิ์ยาอยู่แต่เธอไม่มีวรยุทธ์เก่งกาจเทียมเขา เธอทำไม่ได้!เธอในตอนนี้ แม้แต่พละกำลังที่จะเอาตัวเองให้หลุดออกมาจากอ้อมกอดเขายังไม่มีเลยสติของเธอ สับสนขึ้นทุกที มือเล็กๆ นั่น ยังคงปัดป่ายไปมาอยู่ที่บริเวณอกของจวินเย่เสวียนแต่ครูต่อมาก็ถูกเขาจับให้หยุดไว้พลังลมปราณแข็งแกร่งล้ำลึก ถูกถ่ายทอดสู่ร่างกายของกู้อวิ๋นซีความร้อนในร่างกายของเธอ ค่อยๆ ถูกควบคุมกดทับเอาไว้ดูเหมือนตอนนี้ร่างกายของเธอจะไม่ทรมานมากเท่าเดิมแล้วเธอซบตัวลงบนอกเขาอย่างอ่อนแรงไม่รู้ว่าผ่าน
สุดท้าย จวินเย่เสวียนก็ยอมหันไป ถึงแม้จะยังมีอาการไม่พอใจอยู่บ้างก็ตามแต่เหมือนกู้อวิ๋นซีจะได้พบกับความจริงข้อหนึ่ง นั่นก็คือ องค์ชายสี่ผู้นี้แท้จริงแล้วก็ไม่ได้เย็นชาไร้เมตตาขนาดนั้น เขาไม่ใช่คนเอาแต่ใจไม่คิดถึงคนอื่นขนาดนั้นเขาถึงขั้นช่วยเธอหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาส่งให้เธอที่เตียงด้วยจากนั้นเขาก็เดินไปนั่งพักที่ด้านข้าง มองดูบาดแผลที่ขาของตัวเอง แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจเยียนเป่ยถูกแยกตัวออกไปแล้ว ส่วนจะให้ไปตามหมอหลวงมาทำแผลให้ตอนนี้ก็ไม่ได้อีกก็เลยได้แต่นั่งมองเลือดที่ไหลออกจากปากแผลตัวเองอยู่อย่างนั้นในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นจวินเย่เสวียนกำลังฉีกผ้าผืนยาว คิดจะทำแผลให้ตัวเองอย่างลวกๆเธอรีบห้ามเขาอย่างรีบร้อน "องค์ชายสี่ มีเศษกระเบื้องฝังอยู่ที่แผลด้วยนะเพคะ ต้องทำความสะอาดแผลก่อน!"เธอพยายามคลำทางลงมาจากเตียง เพื่อจะเดินไปหยิบกล่องๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ทั้งๆ ที่ตอนนี้ขาของเธอก็ยังคงรู้สึกอ่อนแรงอยู่กล่องๆ นั้นบ่าวรับใช้เป็นคนเตรียมไว้ให้เธอ ข้างในมีห่อเก็บเข็มของเธออยู่ด้วยเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับห่อเข็ม
กู้อวิ๋นซีคิดไปถึงคืนวันเข้าหอที่บ้าระห่ำราวกับพายุคลั่งคืนนั้นทันทีผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเธอ จับใบหน้าของเธอให้หันไปรับจูบที่ดูดดื่มของเขาจูบนั้นทั้งลึกซึ้งและทรงพลังเธออยากจะมองหน้าเขา แต่เขาก็ไม่เคยเปิดโอกาสทุกครั้งที่เธอจะหันหลังกลับไปมองเขา ก็จะถูกเขากระทำรุนแรงด้วยพละกำลังมหาศาลจนเธอต้องกรีดร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษาตั้งแต่ต้นจนจบเธอจึงไม่มีโอกาสได้มองใบหน้าเขาชัดๆ เลย เธอเลยมองไม่ชัดว่าในดวงตาของเขาคู่นั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่กันแน่...ในเวลานี้กู้อวิ๋นซีมองไปที่จวินเย่เสวียน ร่างกายที่บอบบางของเธอเริ่มสั่นน้อยๆทันใดนั้น เขาก็ซ้อนมืออุ้มเธอขึ้นมากู้อวิ๋นซีตกใจจนใช้ฝ่ามือผลักเขาออกอย่างแรง "อย่ามาแตะต้องตัวข้า!"จวินเย่เสวียนใช้หน้าอกของเขารับแรงกระแทกจากฝ่ามือของเธอไปเต็มๆ โดยไม่ทันได้เตรียมตัวป้องกันใดๆเลือดสดๆ ค่อยๆ ไหลออกจากบริเวณมุมปากของเขาทันทีกู้อวิ๋นซีได้สติในทันใด เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าคืนนี้ตอนที่เขาใช้กำลังภายในควบคุมฤทธิ์ยา ก็ได้รับบาดเจ็บภายในมาประมาณหนึ่งแล้วเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเรี่ยวแรงใดๆ แต่กลับสามารถรวบรวมพลังปราณม