"หลีเออร์ เจ้ากำลังพูดเหลวไหลอะไร? กู้อวิ๋นซีเป็นพระชายาของเจ้า เมื่อหนึ่งปีก่อน เจ้าก็เป็นคนช่วยนางกลับมา เดิมทีนางก็ควรจะเป็นของเจ้า"พระสนมหรงมองเขา ฉับพลันก็รู้สึกปวดใจ "บนพื้นมันเย็น หลีเออร์ เจ้ารีบลุกขึ้นเถอะ"เมื่อเห็นจวินฉู่หลีไม่ยอมขยับเลยสักนิด พระสนมหรงก็ร้อนใจ ทิ้งแส้ลงแล้วไปช่วยประคองเขาขึ้นมาแต่จวินฉู่หลีกลับผลักนางออกเบาๆ "เสด็จแม่ ท่านรักและห่วงใยลูกขนาดนี้ แต่ทำไมกลับเข้มงวดกับท่านพี่สี่ถึงเพียงนั้น? เขาก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของท่านนะพ่ะย่ะค่ะ!"จวินฉู่หลีไม่เข้าใจเลยจริงๆ หลังจากที่ตัวเองถูกพิษ ร่างกายก็อ่อนแอ เป็นที่พึ่งพาไม่ได้เลยสักนิดแต่ท่านพี่สี่ไม่เหมือนกัน ท่านพี่สี่มีผลงานอันยิ่งใหญ่ ความสามารถก็โดดเด่น เขาควรที่จะเป็นที่พึ่งพาและความหวังเดียวของเสด็จแม่เสด็จแม่เป็นสตรีในวังหลวง เหตุใดจึงไม่เข้าใจหลักการที่ว่าแม่ได้ดีเพราะลูกกัน?พระสนมหรงจ้องมองไปที่จวินเย่เสวียน ด้วยอารมณ์โกรธที่ยังไม่อาจระงับได้ "ข้า ไม่มีลูกที่อกตัญญูเช่นนี้!""เสด็จแม่...""หลีเออร์ เจ้าร่างกายไม่แข็งแรง รีบลุกขึ้นเถิด อย่าคุกเข่าอีกเลย""นอกจากว่าเสด็จแม่จะรับปากว่าจะไม่ตีท่านพี
เด็กคนนี้ช่างโง่นัก!ในใจของพระสนมหรงรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส!แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีไม่นาน หลานโจวก็มาถึงแต่ครั้งนี้ หลานโจวเองก็ไม่อาจรักษาได้"พระสนม หลีอ๋องไม่สามารถตื่นเต้นได้ เหตุใดพวกท่านถึง...เหตุใดจึงให้เขา...""ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?" พระสนมหรงรู้ นางก็ไม่ได้คิดจะทำให้ลูกชายต้องตื่นเต้นเลย!ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ เขาจะบุกเข้ามา?นางยิ่งไม่รู้เลยว่า การที่พูดถึงเรื่องของกู้อวิ๋นซี จะทำให้หลีเออร์ตื่นเต้นถึงเพียงนี้!"คุณหลาน สรุปแล้วตอนนี้จะทำเช่นไร? เจ้ารีบคิดหาวิธีสิ!"หลานโจวฝังเข็มให้จวินฉู่หลีเรียบร้อยแล้ว แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนเข็มเงินของเขาก็จะไม่เป็นผลแล้วจวินฉู่หลียังคงกระอักเลือดอยู่เช่นเดิม เลือดที่อาเจียนออกมาล้วนเป็นสีดำทั้งหมด!"ทำยังไงดี? ทำยังไงดี?"พระสนมหรงร้อนใจจนสติหลุด คว้าจับแขนของจวินเย่เสวียนเอาไว้ "เสวียนเออร์ เจ้ารีบคิดหาวิธีสิ! น้องชายเจ้าจะไม่ไหวแล้วนะ! เจ้ารีบหาวิธีสิ!"ถึงแม้นางจะเข้มงวดกับจวินเย่เสวียนค่อนข้างมาก แต่หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ คนเดียวที่พระสนมหรงสามารถพึ่งพาได้ก็มีเพียงลูกชายคนนี้เท่านั้นจวินเย่เสวียนกระแอมไอเบ
เรื่องที่เกิดขึ้นที่หออวิ๋นหลีเมื่อคืน กู้อวิ๋นซีไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิดหอหนิงซีคลื่นลมสงบไม่มีเรื่องราวใดนกพิราบสื่อสารที่อันเซี่ยส่งออกไปเมื่อวาน วันนี้ได้รับจดหมายตอบกลับแล้ว"ได้ยินว่าหลีอ๋องป่วยเป็นโรคประหลาดตั้งแต่เด็กๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย""ตอนที่ดีก็เป็นปกติไม่ต่างจากคนทั่วไป ดังนั้นบางครั้งเขาก็จะติดตามเสวียนอ๋องไปออกรบบ้าง""ตอนที่ร่างกายไม่แข็งแรง เขาก็จะหลบอยู่ในจวนเสวียนอ๋องเพื่อรักษาตัว เรื่องเล่าลือเกี่ยวกับสาเหตุอาการป่วยของหลีอ๋องมีไม่มาก คนที่เคยเห็นเขาอาการกำเริบเกรงว่าก็จะมีเพียงไม่กี่คน""ล้วนรู้เพียงว่าถ้าอาการกำเริบก็จะหลบซ่อนตัวเพื่อรักษาอาการ ส่วนอาการป่วยถึงขั้นไหน นอกจากเสวียนอ๋องและพระสนมหรงที่รู้ ขนาดคนสนิทของไทเฮาก็ยังไม่รู้เลยเจ้าค่ะ"กู้อวิ๋นซีขมวดคิ้วมุ่น ไม่พูดอะไรถึงแม้วรยุทธ์ของอันเซี่ยจะไม่ดี แต่วิชาตัวเบายอดเยี่ยมมาก นางไม่เคยสงสัยความสามารถในการสืบข่าวของอันเซี่ยแต่ว่า มีเรื่องหนึ่งที่แม้แต่อันเซี่ยเองก็สืบมาไม่ได้ "จวินฉู่หลีไม่ได้ป่วย เขาถูกพิษ"เป็นพิษร้ายแรงซะด้วย"ถูกพิษ?" ฉับพลันอันเซี่ยก็เริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเองแต่ท
เจ้าสาวแต่งงาน แต่ไหนแต่ไรล้วนต้องเป็นเจ้าบ่าวที่กลับบ้านเดิมไปด้วยกันการที่พี่ชายของเจ้าบ่าวจะกลับไปด้วย ไม่เคยได้ยินมาก่อนครั้งนี้ กู้อวิ๋นซียืนยันที่จะนั่งรถม้าของตัวเองเยียนเป่ยจนใจ จึงทำได้เพียงไปเอารถม้าของนางมาคิดไม่ถึงว่าตอนที่กำลังจะออกเดินทาง ผ้าม่านของรถม้าจะถูกเปิดออก และมีร่างเย็นชาร่างหนึ่งก้าวเข้ามาเขาที่สวมชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าเย็นชาหล่อเหลาแต่ที่ทำให้กู้อวิ๋นซีประหลาดใจก็คือ ที่หางตาของเขามีไฝเสน่ห์อยู่เม็ดหนึ่ง!"ท่าน!" กู้อวิ๋นซีตกใจสะดุ้งโหยง หลบตัวเข้าไปด้านในของรถม้าอย่างไม่รู้ตัว"ที่หางตาของข้าก็มีไฝเสน่ห์อยู่เม็ดหนึ่งไม่ใช่เหรอ? เหตุใดเจ้าจึงต้องตื่นตระหนกถึงเพียงนี้?"จวินเย่เสวียนยกยิ้มริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชา "หรือข้าไม่ใช่ฉู่หลีหรือยังไง?""เสวียนอ๋อง รักษาเกียรติของตัวเองด้วย!" กู้อวิ๋นซีเกลียดท่าทางเผด็จการเอาแต่ใจของเขาแบบนี้เป็นที่สุด!แต่นางก็รู้ดีว่า ถ้าเรื่องไหนที่เขาตัดสินใจที่จะทำแล้ว ตัวนางก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเขาได้จวินเย่เสวียนเก็บรอยยิ้มมุมปากของตัวเอง ค้อมตัวเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้างๆ นาง"รถม้าคันนี้ช่างเล็กจนน่าสงสาร!" ขนาดต้องใ
จวินเย่เสวียนไม่สนใจกับอาการตกตะลึงของนาง เพียงพูดอย่างเย็นชา "ดังนั้น ไม่ว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้า เขาก็จะไม่โกรธ""บางที หากว่าข้าทำให้เจ้าท้องขึ้นมาได้ สามีของเจ้าอาจจะยิ่งชอบใจก็ได้นะ""ท่าน..." กู้อวิ๋นซีกำหมัดแน่น รู้สึกหวาดหวั่นในใจทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัดบริเวณเอว จวินเย่เสวียนกอดนางไว้แน่นกู้อวิ๋นซีคิดจะขัดขืนในทันทีแต่กลับได้ยินเสียงเย็นชาทิ่มแทงจนถึงกระดูกของเสวียนอ๋องดังขึ้นที่ข้างหู"ท่าทางตอนที่ข้าเสียสติขึ้นมา ขนาดตัวข้าเองยังกลัวเลย ทางที่ดีเจ้าอย่าท้าทายข้าจะดีกว่า! ไม่เช่นนั้น เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะจัดการเจ้าบนรถม้านี่แหละ?"ฉับพลันนางก็สงบจิตใจลงมือเล็กๆ กำหมัดแน่น แต่ก็ไม่กล้าที่จะปล่อยออกไปหมาป่าที่โหดร้ายป่าเถื่อนเอาแต่ใจแถมเผด็จการตัวนี้! สักวัน นางจะต้องเหยียบเขาให้จมอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนางแน่!รถม้ายังคงวิ่งต่อไปในทางข้างหน้าเรื่อยๆจิตใจที่กระเพื่อมไหวของกู้อวิ๋นซีก็ค่อยๆ สงบลงเรื่องนี้ จะต้องคุยกับอาหลีให้รู้เรื่องจวินเย่เสวียนไม่มีทางที่จะปกป้องนางไปได้ตลอดชีวิต ถึงอย่างไรสักวันเขาก็ต้องมีภรรยา มีลูกเป็นของตัวเอง!อาหลีเอาแต่ใจเกินไปแล้ว!โชคดีที
เสวียนอ๋อง?ทุกคนอึ้งแต่ละคนตกใจตาโตอ้าปากค้าง มองดูผู้ชายที่ยืนอยู่กับกู้อวิ๋นซีจังหวะหัวใจของกู้อวิ๋นซีเต้นระรัวเร็วมือเล็กๆ ที่จวินเย่เสวียนกอบกุมเอาไว้อยู่ พลันเย็นเฉียบขึ้นทันตาไอเย็นในดวงตาตามความเคยชินของจวินเย่เสวียนถูกเขาเก็บซ่อนไว้ในทันทีเมื่อมองไปที่แม่ทัพอาวุโสกู้อีกครั้ง เขาก็ฉีกยิ้มให้อย่างสดใส "แม่ทัพอาวุโสกู้ ข้าคือฉู่หลีนะ"เขาคือหลีอ๋อง!ผู้ชายในจวนเกินกว่าครึ่งต่างก็พากันอึ้งตะลึงไปหญิงสาวในจวนกลับถูกรอยยิ้มมุมปากที่งดงามสะดุดตาของเขาทำให้หลงไหลจนเคลิบเคลิ้มแม่ทัพอาวุโสกู้ถึงได้มีสติกลับมา สีหน้าพลันส่อแววประหลาด "คะ คารวะหลีอ๋อง!"เมื่อแม่ทัพอาวุโสกู้ทำความเคารพ ทุกคนก็ราวกับได้สติคืนมา แค่ละคนต่างค้อมตัวทำความเคารพ "คารวะท่านอ๋อง!"ผู้ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นหลีอ๋องผู้ชายบางคนในจวน เคยได้เจอกับเสวียนอ๋องในราชสำนักมาบ้างวันนี้หลีอ๋องสวมชุดสีดำทั้งชุด ไม่ได้แตกต่างกับเสวียนอ๋องเลยจริงๆสิ่งเดียวที่ต่างก็คือไฝเสน่ห์ตามคำเล่าลือเม็ดนั้นในใจทุกคนต่างก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากกู้อวิ๋นซียืนอยู่ข้างกายจวินเย่เสวียน รอให้ทุกคนในจวนทำความ
พี่น้องหญิงสาวต่างก็เกร็งเครียดในใจคำพูดนี้หมายความว่ายังไง?หรือว่า น้องซีเออร์กับเสวียนอ๋อง...ยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกันอีก?"คำพูดแบบนี้จะมาพูดเหลวไหลได้ยังไง?" ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเครียดขึงอีก "น้องซีเออร์กับหลีอ๋องรักกันขนาดไหนทุกคนไม่เห็นกันหรือยังไง?"คำนินทาสามารถฆ่าคนได้ ช่างไม่รู้จักเก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้บ้างเลย?คุณหนูแปดกู้หรูชิวรีบพูดเสียงเบา "น้องซีเออร์ก็เพียงพูดล้อเล่นเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าน้องกับเสวียนอ๋องก็อยู่ร่วมกันได้ดีมาก ใช่หรือไม่?"กู้อวิ๋นซีอยากจะพูดว่า "ไม่ใช่" ออกไปเหลือเกินกู้หรูชิวแอบสะกิดนางไว้เบาๆ ไม่ให้นางพูดจาเหลวไหลอีกความซวยออกจากปากคน หากว่าเกิดผิดใจกับเสวียนอ๋องด้วยเรื่องนี้ ต่อไปชีวิตในจวนเสวียนอ๋องของนางก็ไม่มีความสุขแล้วกู้อวิ๋นซียิ้มให้นางและไม่ได้พูดอะไรอีกส่วนพี่น้องหญิงสาวคนอื่นที่เห็นกู้หรูชิวกล้าทำตัวสนิทสนมกับกู้อวิ๋นซีก็ไม่พอใจขึ้นมาทันทีคุณหนูเจ็ดกูเพียนหรานเดินเข้าไป ผลักตัวกู้หรูชิวออก ก่อนจะมองกู้อวิ๋นซีแล้วยกรอยยิ้มให้"น้องซีเออร์ ได้ยินว่าช่วงนี้เสวียนอ๋องต้องการคัดเลือกพระชายา พี่
กู้อวิ๋นซีสีหน้าเคร่งขรึม "ท่านก็รู้ดีว่าท่านไม่..."แววตาของจวินเย่เสวียน เข้มขึ้นในบัดดลกู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปากไว้ ไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีกจู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหานางกู้อวิ๋นซีคิดอยากจะหนีโดยสัญชาตญาณประตูห้องอยู่ตรงด้านหลังห่างจากนางไม่ไกล ในสวนด้านนอกประตู กู้หรูชิวเพิ่งจะเดินจากไป ไม่รู้ว่าเดินไปได้ไกลขนาดไหนแล้วในตอนนี้เวลานี้ การเข้าใกล้ของเขา ทำให้กู้อวิ๋นซีรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวคิดอยากที่จะวิ่งออกไป แต่ก็กลัวจะถูกกู้หรูชิวเห็นเข้า จะทำให้ท่านพี่เป็นห่วงได้ในขณะที่คิดอยู่นั้น จวินเย่เสวียนก็ได้เดินมาถึงตรงหน้าของนางแล้วกู้อวิ๋นซีถอยไปจนถึงประตูด้านหลัง เมื่อเงยหน้าก็เห็นว่าเขากำลังก้มหน้าลงมามองนาง ด้วยท่าทีสูงส่งจู่ๆ นางก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาเหตุใด ทุกคนจึงเดินกันมาถึงตรงจุดนี้ได้?"เจ้ากลัวข้าเหรอ?" ถึงแม้ จวินเย่เสวียนก็รู้ ว่าคำถามนี้ของเขามันโง่เง่าเพียงใด"หลังจากที่ท่านอ๋องกระทำเรื่องล่วงเดินข้าเหล่านั้นไป ท่านอ๋องคิดว่า ข้าไม่ควรกลัวเหรอ?""เมื่อก่อนเจ้าไม่เคยกลัวข้าเลย"กู้อวิ๋นซีกลับกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า "คนที่ข้าไม่กลัวก็คือฉู่หลี!"จวินเย