และแล้วก็มาถึงฉากสำคัญกู้อวิ๋นซีมีสีหน้าเคร่งขรึมไปนิดหนึ่งพระสนมหรงหรี่ตาลง แล้วพูดเร่งอีกครั้ง "ซีเออร์ เหล้าชั้นดีที่เจ้าเตรียมไว้ล่ะ?"คราวนี้กู้อวิ๋นซีถึงได้สติ ยืนขึ้นแล้วพูดเสียงเบาๆ ว่า "เพคะ ลูกจะไปเตรียมมาเดี๋ยวนี้"เห็นได้ชัดว่าพระสนมหรงไม่พอใจกับคำพูดของนางเพิ่งจะไปเตรียมตอนนี้เนี่ยนะ หมายความว่ายังไงกัน?ไม่ใช่ควรจะเตรียมไว้นานแล้วเหรอ?เด็กคนนี้ บังอาจไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กัยนางเหรอ?ฉินโหรวมองไปยังแผ่นหลังของกู้อวิ๋นซีที่เดินจากไป แววตาเคร่งขรึม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ไม่นาน กู้อวิ๋นซีก็กลับมา ยกกาเหล้าเข้ามาเองกาหนึ่ง มาหยุดอยู่ตรงหน้าของจวินเย่เสวียน"ปรณนิบัติข้าดื่มเหล้าเหรอ?" ไม่รู้ว่าด้วยเพราะจวินเย่เสวียนดื่มเหล้าเข้าไปหรือเปล่า สายตาที่มองนางถึงได้ดูวางอำนาจและเผด็จการเช่นนี้เขายื่นมือออกมากู้อวิ๋นซีตกใจ รีบเบี่ยงตัวหลบมือของเขาอย่างเงียบๆ ไปยืนอยู่ด้านหนึ่งแล้วรินเหล้าให้กับเขาจนเต็มแก้ว"ท่านพี่สี่ นี่เป็นเหล้าชั้นดีที่ข้าตั้งใจเตรียมไว้ให้ท่านเป็นพิเศษ หวังว่าท่านพี่สี่จะชอบเพคะ""คืนนี้ดูเจ้าตั้งใจจะมอมเหล้าข้าอยู่ตลอดเลยนะ?" จวินเย่เสว
เหล้าจอกนี้ ถูกใส่ยาเหรอ?สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังฉินโหรวลู่หงอวี้รู้สึกว้าวุ่นในใจพระสนมหรงกับแม่เฒ่าชิงแอบมองตากัน ไม่รู้ว่าตัวเองมองกู้อวิ๋นซีออกหรือไม่เด็กคนนี้ไปหาฉินโหรวจริงๆ คิดดีแล้วที่จะไม่อยากเกี่ยวข้องกับเสวียนอ๋องอีกอย่างนั้นเหรอ?นางอยากรักเดียวใจเดียวต่อจวินฉู่หลีเหรอ?แต่พวกนางไม่รู้เลยว่า มันเชื่อได้หรือไม่สายตาของจวินเย่เสวียนเพียงแค่มองบนตัวของฉินโหรวแบบผ่านๆ เท่านั้นเขามองกู้อวิ๋นซี ความอบอุ่นที่หาได้ยากในสายตาเมื่อครู่ ตอนนี้มันได้หายไปจนหมดแล้ว"จะอธิบายเช่นไร?" น้ำเสียงเขาเย็นชาจนถึงขีดสุด"ข้าไปหาแม่นางฉินมาจริงๆ หวังให้แม่นางฉินเสนอตัวใกล้ชิดกับท่านพี่สี่"กู้อวิ๋นซีเพิ่งจะพูดจบ สายตาของจวินเย่เสวียนก็เข้มขึ้น จอกที่ถืออยู่ที่ปลายนิ้วของเขา ราวกับจะถูกบีบให้แตกได้ทุกเมื่อ"เจ้าอยากจะส่งข้าให้ผู้หญิงคนอื่นมากจนทนไม่ไหวเช่นนี้เชียวเหรอ?""ท่านอ๋อง..." ฉินโหรวตกใจ!คำพูดนี้ของเสวียนอ๋อง ดูจะมีอะไรบางอย่าง!หรือว่า เขากับพระชายาหลีอ๋อง มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันจริงๆ?กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก ไม่พูดอะไรจวินเย่เสวียนก็ไม่ได้สนใจฉินโหรวเลย ตอนนี้
"ได้" ครั้งนี้กู้อวิ๋นซีไม่ได้ปฏิเสธแต่ก่อนที่จะจากไป นางก็ได้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของลู่หงอวี้ แล้วยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน"ขอโทษด้วยนะ แม่นางลู่ คืนนี้เกิดเรื่องสุดวิสัย ไม่สามารถรับรองได้ดี ขอให้...""เจ้าใส่ยาให้เขาจริงๆ เหรอ?" สายตาที่ลู่หงอวี้มองนางเต็มไปด้วยความสับสนเมื่อครู่นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดในใจเจ็บปวดแทนเสวียนอ๋องบางทีแม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเจ็บปวดอะไรแทนเขาแต่ก็แค่รู้สึกเจ็บมาก"เขา...ดีกับเจ้าขนาดนั้น" ขนาดลู่หงอวี้ยังมองในจุดนี้ออกเลย!สายตาที่เสวียนอ๋องมองพระชายาหลีอ๋อง เป็นสายตาที่เอ็นดูมากเลยจริงๆ!ทั้งๆ ที่โกรธมากขนาดนั้น แต่ก็ยัง เอ็นดูมากสีหน้าของกู้อวิ๋นซีไม่มีการแสดงอารมณ์ที่พิเศษอะไร เพียงแค่ยิ้มบางๆ เท่านั้น "ข้าไม่เข้าใจความหมายของแม่นางลู่ แต่ว่า คืนนี้จวนเสวียนอ๋องของเราค่อนข้างวุ่นวาย ไม่อาจจะรับรองแม่นางลู่ต่อได้จริงๆ""แม่นางลู่ วันหลังข้าจะไปขอโทษท่านที่จวนด้วยตัวเอง ขอตัวก่อน!"เยียนเป่ยรีบพูดขึ้นทันที "ใครก็ได้ ส่งแขก!"จากนั้นก็จ้องไปที่กู้อวิ๋นซี "พระชายา เชิญพ่ะย่ะค่ะ!"
คำพูดของจวินเย่เสวียน ทำให้กู้อวิ๋นซีรู้สึกเครียดทันที เผลอใช้มือลูบไปที่ช่วงเอวอย่างไม่รู้ตัวจวินเย่เสวียนกลับหัวเราะแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "วิธีการเดียวกัน เจ้าคิดว่าข้าจะให้เจ้าทำสำเร็จได้อีกอย่างนั้นเหรอ? หากว่าเจ้ากล้าหยิบมีด ข้ารับรองกับเจ้าได้เลยว่า ของที่มีดของเจ้าจะตัดได้ก็คือเสื้อผ้าของเจ้าแน่นอน!"มือที่แตะอยู่ตรงช่วงเอวของกู้อวิ๋นซี ถูกเก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว"ข้าไม่มีความอดทนมากมายขนาดนั้น มานี่!" เขาพูดเสียงเข้มกู้อวิ๋นซีก็รีบสาวเท้าเข้าไปทันทีอย่างไม่รู้ตัวราวกับโดนของพูดได้เพียงว่า ตอนที่เสวียนอ๋องพูดด้วยน้ำเสียงเข้มๆ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน"ในเมื่อท่านรู้ว่าข้าไม่ได้ใส่ยา ก็ไม่ควรจะโกรธแล้วไม่ใช่เหรอ?"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องเรียกให้นางมาที่นี่อีก ทำราวกับต้องการจะหาเรื่องนางอย่างนั้น?"ข้าเดาว่าเจ้าเองคงสับสนระหว่างจะทำหรือไม่ทำหลายครั้งแน่"ดังนั้น เขาเองก็มีหลายครั้งที่เกือบจะถูกนางวางแผนทำสำเร็จ ไม่ใช่เหรอ?เมื่อคิดเช่นนี้ ขนาดเสวียนอ๋องที่สูงส่งเย็นชาไม่สนใครก็ยังรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเลยหากวันใดวันหนึ่งเด็กคนนี้ต้องการชีวิตของเขาขึ้นมา ก็คงจะ
"องค์ชายสี่...""ถ้าไม่อ่านก็ถอด..."เลือกมาสักอย่าง! เดี๋ยวจะหาว่าเขาเผด็จการไม่ให้สิทธิ์นางได้เลือก!กู้อวิ๋นซีมองค้อนเขาไปอย่างโกรธๆ นี่เรียกว่าให้สิทธิ์เลือกเหรอ?น่าเสียดายที่จวินเย่เสวียนก็ยังคงหลับตาพักผ่อนอยู่ ต่อให้นางจะมองค้อนจนตาแทบถลน ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาอยู่ดีกู้อวิ๋นซีทำใจสงบนิ่งลง ก่อนจะพูดต่อเสียงเบาๆ "จดหมายฉบับนี้ หน่วยสิบสองส่งข่าวมาบอกว่า...พบหลักฐานการแอบสร้างอาวุธของเจิ้งอ๋องบริเวณเทือกเขาอี๋หลิน"จวินเย่เสวียนเบิกตาขึ้นกู้อวิ๋นซีรีบปิดปากทันทีแล้วมองไปที่เขาถ้าหากบอกว่าเสวียนอ๋องในตอนปิดตาดูเกียจคร้านและเงียบสงบแล้วเช่นนั้นเขาในตอนเปิดตาก็ดูโหดเหี้ยมและเย็นชาแววตาของเขาปรากฎร่องรอยของความไม่พอใจ ทำให้กู้อวิ๋นซีรู้สึกเกร็งเครียดในใจในหนานหลิงของพวกเขาไม่อนุญาตให้มีการแอบสร้างโรงงานผลิตอาวุธแน่นอนว่า พวกร้านค้าเล็กๆ สามารถทำได้ ดาบ กระบี่ ธนู หอก มีอยู่มากมายในเมือง ร้านประเภทนี้ราชสำนักไม่สนใจแต่ถ้าเป็นเรื่องที่คนในหน่วยสิบสองหยิบยกขึ้นมาพูดถึงโดยเฉพาะแล้ว เรื่องนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอนยิ่งไม่ต้องพูดถึง สร้างอยู่ในเทือกเขาอี๋หลินด้วยแล
"อื้อออ" กู้อวิ๋นซีขัดขืนขึ้นทันทีมือที่วางอยู่บนร่างกายของจวินเย่เสวียน พยายามออกแรงผลัก แต่ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียวลมหายใจเผด็จการของเขา ปิดผนึกปากนางอย่างรวดเร็วคางของนางยังคงถูกเขาบีบรัดอยู่ ริมฝีปากของนางไม่สามารถมีที่ให้หนีได้ไม่นาน ขนาดริมฝีปากอ่อนนุ่มก็ยังสละอาวุธยอมศิโรราบ ไม่อาจต้านทานการรุกรานที่รุนแรงของเขาได้ถูกเขาบุกเข้ามาด้านในมือน้อยๆ คู่นั้นยังคงดันอยู่ที่หน้าอกของเขา เพียงแต่แรงที่ผลักออกไปค่อยๆ อ่อนลงก็เท่านั้นลมหายใจของเขาหนักหน่วงทุกครั้งที่หายใจกลิ่นอำพันบนร่างกายก็โอบรัดนางไว้อย่างแน่นหนาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นกลิ่นอย่างไร แต่ว่ามันก็หอมอย่างประหลาดในหัวของกู้อวิ๋นซี กลายเป็นสีขาวโพลนอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่รู้สึกได้ว่ามือของเขาเริ่มทำหน้าที่ซุกซนบนร่างกายของนางอีกแล้ว แต่นางก็ไม่มีแรงที่จะปฏิเสธเขาได้เลยนางใช้มือกดข้อมือของเขาเอาไว้ แต่กลับไม่รู้ว่าต้องการจะผลักเขาออกหรือดึงเขาเข้าหาตัวเองกันแน่เป็นอารมณ์ที่ขัดแย้งกันอย่างมากร่างกายร้อนผ่าว แต่จิตใจกลับยิ่งเย็นยะเยือกขึ้นทุกที"เจ้าตัวเล็ก แลบลิ้นออกมาให้ข้าได้ชิมหน่อยสิ"น้
นางนอนกับจวินเย่เสวียน!ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ยิ่งไม่รู้ว่าก่อนที่จะหลับไป พวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่สรุปก็คือ ตอนนี้ทั้งคู่ กำลังนอนเอกขเนกกันอยู่บนเตียงด้วยเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อย มือข้างหนึ่งของเขายังคงประทับอยู่บนหน้าอกของนางแม้แต่ในความฝันก็ยังอาจหาญเพียงนี้!กู้อวิ๋นซีตกใจจนความง่วงงุนหายไปเป็นปลิดทิ้ง รู้สึกตัวได้สติขึ้นมาในทันทีจวินเย่เสวียนกลับยังหลับสนิทอยู่กู้อวิ๋นซีค่อยๆ ดึงมือของเขาออกจากระมัดระวัง จากนั้นค่อยๆ ย่องลงจากเตียงของเขาไม่ได้สนใจว่าเสื้อผ้าของตัวเองจะเรียบร้อยหรือไม่ นางจัดเสื้อผ้าของตัวเองไปพลางก็รีบหนีออกไปจากห้องของเขาพลางรู้สึกเจ็บตรงหน้าอกมาก ก็ไม่รู้เหมือนกับว่าคนสารเลวนั่นเมื่อคืนนี้ทำอะไรกับนางไปบ้างถึงอย่างไรด้านบนก็ยังมีรอยประทับจากนิ้วมือของเขาหลงเหลืออยู่ บวมๆ รู้สึกเจ็บๆหลังจากออกจากห้องนอนของเสวียนอ๋อง กู้อวิ๋นซีก็วิ่งก้มหน้าไปตลอดทาง ราวกับกำลังหนีกลับหอหนิงซีของตัวเองนางไม่รู้ว่าวันนั้นจะมีคนนำเอาข่าวเรื่องนี้ไปบอกให้พระสนมหรงรู้"ดังนั้น เสวียนเออร์ของข้าก็ไม่ได้ถูกวางยา แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเสนอ
อันเซี่ยตกใจจนสติสตังกระเกิดกระเจิง รีบเข้าไปดึงมือของกู้อวิ๋นซีออกมาทันทีแต่กู้อวิ๋นซีกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า "อย่า...แตะต้องข้า อย่า..."นางดึงมือตัวเองกลับมา แล้วปิดกรงกลับไปเช่นเดิมก้าวถอยหลังมาสองก้าว ฝีเท้าสับสน ร่างกายเริ่มจะโงนเงนอันเซี่ยยกมือของนางขึ้นมาดู ที่หลังมือมีแผลอยู่สองรอยจริงๆ แผลนั้นเป็นสีดำสนิทคุณหนูถูกพิษแล้ว!อันเซี่ยกำลังจะวิ่งออกไปทันทีแต่กู้อวิ๋นซีกลับดึงตัวนางไว้ "อย่าไป..."แต่นางคิดไม่ถึงว่าตอนนี้ตัวเองจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ดึงอันเซี่ยไว้ แต่กลับถูกอันเซี่ยลากไปข้างหน้าจนล้มโครมลงไปบนพื้นอันเซี่ยรีบเข้าไปพยุงนางทันที "คุณหนู ท่านไม่ต้องกลัว ข้ารู้ว่าในจวนอ๋องมีหมอเทวดาอยู่ท่านหนึ่งชื่อว่าหลานโจว! ข้าจะไปขอร้องเสวียนอ๋องเดี๋ยวนี้ ให้ท่านหลานโจวมาช่วยถอนพิษให้กับท่าน""ไม่...ต้อง ข้า...กินยาถอนพิษไว้แล้ว"กู้อวิ๋นซีเหงื่อนเย็นออกไปทั่วร่าง ตอนนี้ร่างกายแทบจะไม่มีแรงหลงเหลืออยู่แล้ว แต่นางก็ยังดึงเสื้อของอันเซี่ยไว้แล้วพูดด้วยเสียงแหบพร่า"อย่าไป ข้า...ข้าจงใจทำเอง ข้าต้องการ...ปรุง...ซีรั่ม""คุณหนู!" อันเซี่ยไม่เข้าใจว่าซีรั่มคืออ