หวังหยวนได้วางแผนไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะยอมไปหาหมานอี๋อย่างง่ายดายได้อย่างไร?“พวกเราหรือ?”หลี่ซื่อหานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าหวังหยวนจะสื่ออะไร“ครั้งนี้เราจะผ่านเมืองหยางและเมืองสู่ สถานที่ทั้งสองนี้อุดมสมบูรณ์มาก ธุรกิจของเราก็สามารถก่อร่างสร้างตัวที่นั่นได้”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม ทำให้สตรีทั้งสามตกตะลึง!“สามี สถานการณ์เช่นนี้ ท่านยังคิดทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?”หลี่ซื่อหานพูดด้วยความหงุดหงิด“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าตกลงกับตระกูลไป๋เพราะว่าอยากทำธุรกิจ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงไม่เกิดประโยชน์กับข้า แล้วเหตุใดข้าต้องไปด้วยล่ะ?”หลังจากที่หวังหยวนพูดเช่นนี้ หูเมิ่งอิ๋งก็อุทานออกมาทันที“คุณชาย ท่านกำลังบอกว่า... นี่คือแผนการของท่านตั้งแต่แรกหรือ?”“แต่ว่า... ระหว่างทางก็ต้องเผชิญกับอันตรายมามากมาย พวกเราจะทำธุรกิจดี ๆ ได้อย่างไร?”คนธรรมดาย่อมเข้าใจว่าต้องเป็นเช่นนี้เพราะตระกูลเซิ่งจะไม่ยอมให้หวังหยวนไปเป็นทูต!เกรงว่าตระกูลเซิ่งต้องลงมือเป็นแน่!ตราบใดที่หมานอี๋กดดันต้าเย่ ความเจริญรุ่งเรืองของพวกเขาก็จะยิ่งเพิ่มมมากขึ้นหลังจากนั้น...องค์ชายใหญ่แห่งตระกูลเซิ่งฉลาดที่ส
หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม หลังจากได้ยินดังนั้น สตรีทั้งสามก็หัวเราะกันหมดตราบใดที่พวกนางสามารถอยู่กับหวังหยวนได้ ย่อมไม่รู้สึกว่าตนต้องลำบากเลย!ยิ่งไปกว่านั้น พวกนางยังต้องการติดตามหวังหยวนไปอยู่แล้วด้วย!แทนที่จะเฝ้ารอเขาทั้งวันทั้งคืนอยู่ในหมู่บ้านต้าหวัง พวกนางอยากไปกับเขามากกว่า ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ พวกนางก็ไม่หวั่น!เนื่องจากเขากำลังจะเป็นทูตไปหาหมานอี๋ หวังหยวนจึงต้องเตรียมการล่วงหน้าระหว่างทาง เขาแค่อยากหาเงิน ดังนั้นแทนที่จะเอาสินค้าราคาถูกไป เขากลับนำรถเข็นที่เต็มไปด้วยแก้วคริสตัลมา!สิ่งนี้มีราคาแพง และเป็นที่ชื่นชอบคนรวย!ส่วนสินค้าอื่น หวังหยวนก็เอาบางส่วนไปด้วย เขาไม่จำเป็นต้องเปิดร้านทำธุรกิจที่นี่เพียงที่เดียว เขาสามารถหาพ่อค้าที่สนใจได้สองสามคนที่นี่ หากพวกเขาถูกใจ ก็สามารถซื้อตุนไปชายที่เมืองหลิงได้แนวคิดปัจจุบันของหวังหยวน คือการสร้างตลาดค้าส่งเหมือนยุคสมัยใหม่!ในเวลาเดียวกัน แก้วคริสตัลนี้มีไว้ใช้สร้างรายได้อยู่แล้ว อย่างไรเสีย ก็ต้องได้ทองหลายหมื่นตำลึงแน่!นอกจากนี้ยังมีหมานอี๋ด้วย!ที่นั่นมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากคริสตัลน้อย ดังนั้นราคาจึงอาจสูงกว่าเดิม!
หลังจากที่จ้าวต้าฉุยทำสิ่งนี้สำเร็จ เขาก็ต้องตกใจมากเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากภาพวาดที่วาดโดยหวังหยวน เขากับจู่ปันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้!หวังหยวนก็มีความสุขมากเช่นกัน ตอนนี้เมื่อผลิตปืนทรงอานุภาพเช่นนี้ได้แล้ว พวกเขาควรจะได้รับอนุญาตให้รู้วิธีใช้มันดังนั้นหวังหยวนจึงเรียกสตรีทั้งสามและต้าหู่มา คราวนี้เขาไม่ได้วางแผนจะพาคนไปเมืองหมานอี๋เยอะเกินไป เขาคัดเลือกคนมีฝีมือสิบคนในหมู่ทหารเกราะทมิฬไปด้วย กลุ่มสิบคนนี้ก็เพียงพอแล้ว!แต่ละคนจะได้รับปืนคาบศิลารุ่นพัฒนาแล้ว หลังจากสอนวิธีใช้ กลุ่มติดอาวุธของพวกเขามากกว่าสิบคนก็พร้อมรบ!ในกรณีนี้ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับกองโจร ก็จะไม่กลัวอีกต่อไป!เขาไม่เชื่อว่าในฐานะที่เขาก็เป็นข้าราชการ ตระกูลเซิ่งจะสามารถส่งกองทหารไปจัดการกับพวกเขาได้หรือ?ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตระกูลไป๋ด้วย!เมื่อมีตระกูลไป๋ที่นี่ ก็เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้จะปลอดภัยขึ้นมาก!ท้ายที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลอื่นแล้ว ตระกูลไป๋หวังว่าพวกเขาจะสามารถเข้าถึงหมานอี๋ และแก้ไขปัญหานี้ได้!หลังจากตัดไฟแต่ต้นลมแล้ว ก็สามารถจบเรื่องนี้ได้!หลังจากที่หวัง
แน่นอนว่าหวังหยวนเข้าใจ เนื่องจากตระกูลเซิ่งบรรลุข้อตกลงระหว่างหมานอี๋และราชวงศ์ได้ พวกเขาย่อมต้องอำนาจมาก!วิกฤตที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ต้าเย่ แต่อยู่ที่หมานอี๋!นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับคนอื่น แต่สำหรับหวังหยวน มันไม่ได้น่าเกรงกลัวเลย!หมานอี๋...ฮ่าฮ่า...คิดว่าการร่วมมือกับตระกูลเซิ่ง จะสร้างความสงบสุขและปลอดภัยได้จริงหรือ?เหลวไหล!“พี่หวัง นี่คือนักดาบจากตระกูลไป๋ของข้า นามของเขาคือเป่ยซาน ชายคนนี้มีทักษะพิเศษ ด้วยกำลังคนและม้าของเขาจะคุ้มกันพี่หวังในต้าเย่ได้แน่นอน มีหลายคนที่เข้าไปในแดนหมานอี๋ แล้วพลังการต่อสู้ลดลงมาก ท่านต้องระวังให้ดี!”หลังจากพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็มองเป่ยซาน แล้วพูดว่า“เป่ยซาน ทำความเคารพท่านหมิงถันสิ”ชายคนนี้ที่ชื่อเป่ยซานพยักหน้าทันที แล้วโค้งคำนับหวังหยวนด้วยความเคารพ!“เป่ยซานขอคำนับท่านหมิงถันขอรับ”หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “ด้วยความยินดี เนื่องจากเจ้าเป็นนักดาบของน้องไป๋ เช่นนั้นก็ถือเป็นครอบครัวกันได้! แต่... คนและม้าของเจ้า... อยู่ที่ไหน?”จนถึงตอนนี้ก็เห็นเขาเพียงคนเดียว แต่ไม่มีใครเห็นอีกเลยได้ยินเช่นนั้น เป่ยซานก็หยิบนกหวีดออกมาเป่าส่งเสียง
พวกนางรู้ดีว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ง่ายเลยอาจมีอันตรายมากมายแต่พวกนางเต็มใจที่จะอยู่กับหวังหยวน แม้ว่าพวกนางจะต้องสิ้นชีพก็ตามเช้าวันรุ่งขึ้น คณะเดินทางก็เตรียมสัมภาระออกเดินทางจากหมู่บ้านต้าหวังคนกลุ่มนี้รีบรุดไปข้างหน้า หลังจากเดินไปหนึ่งวัน แม้จะอยู่บนรถม้า แต่สตรีทั้งสามก็ยังเหนื่อยอยู่เล็กน้อย“พวกเจ้าต้องการน้ำหรือไม่?”หวังหยวนมองสตรีทั้งสามคน แล้วถามด้วยความเป็นห่วง“ขอบคุณสามี”หลี่ซื่อหานหยิบน้ำขึ้นมาจิบ จากนั้นได้ยินหวงเจียวเจียวพูดขึ้น ในขณะชี้อย่างตื่นเต้นไปในระยะไกล “คุณชาย มีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งอยู่ไกลออกไป!”หวังหยวนมองแล้วพยักหน้าทันทีเขาหันกลับมามองทุกคนด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเบา ๆ “หลังจากเดินทางมานานถึงเพียงนี้ ข้าคิดว่าทุกคนคงเหนื่อยกันแล้วใช่หรือไม่?”“เราสามารถแวะพักที่โรงเตี๊ยมข้างหน้า พักผ่อนสักหนึ่งคืนก่อนที่จะเดินทางต่อได้”“ดีเลย คุณชาย เราเหนื่อยมากเหมือนกัน มีสถานที่พักผ่อนเติมความสดชื่นเช่นนี้ก็ดี”หูเมิ่งอิ๋งก็พูดด้วยรอยยิ้ม แล้วพยักหน้าเห็นด้วยเป่ยซานไม่มีอะไรจะพูด ตราบใดที่หวังหยวนตัดสินใจ เขาก็ยินดีติดตามไปไม่นานทั้งคณะก็มาถึงโรงเตี๊ยมห
หลี่ซื่อหานกับหวงเจียวเจียวกำลังใช้ซอสทาอาหารปิ้งย่างส่วนหูเมิ่งอิ๋งที่อยู่ข้าง ๆ กำลังทำตาม 'สูตรลับ' ที่หวังหยวนเพิ่งมอบให้นาง“งาบดสองช้อน น้ำส้มสายชูหนึ่งช้อน...”“ใส่ทุกอย่างตามที่คุณชายเขียนไว้แล้ว ท่านรีบมาดูสิ!”หวังหยวนรับมาดูด้วยสีหน้ากระตือรือร้น ราวกับว่าเขารอไม่ไหวอีกต่อไป!“ฮ่าฮ่า ดีแล้ว ตราบใดที่เจ้าทำตามวิธีที่ข้าให้ไป ก็จะไม่มีปัญหา!”หวังหยวนชิมดูแล้ว รสชาติดีมาก!เขาย่างอาหารทั้งหมด ก่อนจะหยิบออกมาวางลงบนโต๊ะ“มามามา ลองชิมดูว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็พากันมารวมตัวกันด้วยความอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าของเต็มไปด้วยความคาดหวัง ทุกคนหยิบของปิ้งย่างเสียบไม้ขึ้นมาชิมอย่างระมัดระวังต้าหู่ประหลาดใจ “พี่หยวน สิ่งที่ท่านทำมีรสชาติอร่อยจริง ๆ มันแตกต่างจากสิ่งที่ข้าเคยกินมาทั้งชีวิต!”“ใช่แล้ว”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าหมักสิ่งนี้ด้วยน้ำจิ้มสูตรลับ แน่นอนว่ารสชาติต้องดีแน่”อาหารปรุงในร้านอาหารส่วนใหญ่ใช้แค่เกลือปรุงรส รสชาติจึงไม่เป็นที่พอใจแน่นอนกินไปแล้วก็เรียกได้ว่าแค่อิ่มท้องเท่านั้นหลี่ซื่อหานได้กินของปิ้งย่างที่ปรุงโดยหวังหยว
ทว่าดูเหมือนชายคนนั้นจะไม่มีเจตนาร้ายใด ๆ เขาเพียงวางทองคำลงแท่งหนึ่งแล้วพูดกับหวังหยวนพร้อมหัวเราะเบา ๆ “พวกเจ้า ข้าได้ยินเสี่ยวเอ้อร์ของร้านบอกว่าพวกเจ้าเป็นคนทำอาหารทั้งโต๊ะนี้ด้วยตัวเองหรือ?” “ถูกต้อง” หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “มีเรื่องอันใดหรือ?” “พวกข้าก็อยากลองชิมเสียหน่อย หากพวกเจ้ายินดีที่จะช่วยทำให้เราอีกหนึ่งชุดล่ะก็ แท่งทองคำนี้ ข้าก็จะมอบให้กับพวกเจ้า” เมื่อหวังหยวนเห็นว่าเงินถูกส่งมอบมาแล้ว นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเต็มไปด้วยความซื่อสัตย์จริงใจ! ดังนั้นเขาจึงรับทองคำทันทีพร้อมหัวเราะเบา ๆ เขายืนขึ้นและพูดอย่างสุภาพว่า “ไม่มีปัญหา ตราบใดที่เงินมาถึง ก็จะได้กินอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ!” ในไม่ช้า หวังหยวนก็พาทุกคนไปทำปิ้งย่างอีกชุด และมอบให้ชายผู้มั่งคั่งผู้นั้น ขณะที่หลายคนกำลังกินอยู่ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีของอร่อยแบบนี้อยู่บนโลกได้ ช่างทำให้ผู้คนประหลาดใจยิ่งนัก! หวังหยวนรวบรวมเงินด้วยรอยยิ้มและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะหารายได้จากค่าเดินทางทั้งหมดด้วยอาหารมื้อเดียว มันไม่ไร้ประโยชน์เลย ที่ข้าต้องผ่านความยากลำบา
นึกว่าจะมีโจรมา ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งผู้นั้นรีบกุมกระเป๋าเงินใบเล็กของตัวเองอย่างร้อนรน! ทว่าผ่านไปเป็นเวลานานแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครกระโจนเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นท่าทางสงบของหวังหยวนและคนอื่น ๆ พวกเขาจึงหยุดกังวลทันที ผ่านไปประมาณสิบนาที เสียงข้างนอกก็ค่อย ๆ หยุดลง เป่ยซานเดินก้าวเท้าเข้ามา ใบหน้าของเขายังคงดูสง่าและนั่งลงบนเก้าอี้ทันที แล้วพูดเสียงเบา “ข้าจัดการเรื่องที่เกิดด้านนอกเรียบร้อยแล้ว” หวังหยวนยิ้มเล็กน้อย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ! มีคนจากตระกูลไป๋มาปกป้องพวกเขาตลอดทาง นี่ทำให้เขาผ่อนคลายขึ้นมากจริง ๆ หลังจากทุกคนรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องพักแขกของโรงเตี๊ยม เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เดินทางต่อ สตรีทั้งสามคนนั่งอยู่ในรถม้าและมองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ในช่วงบ่าย พวกเขาก็มาถึงเมืองอัน หวังหยวนพาทุกคนไปยังบริเวณใกล้เคียงของบ้านประมูล จากนั้นหาโรงเตี๊ยมแล้วตั้งหลักแหล่ง หลังจากปักหลักแล้ว หวังหยวนก็พาทุกคนไปที่บ้านประมูล ทันทีที่เดินเข้าไปในประตู เขาก็เห็นบ่าวรับใช้หนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างกระตือรื