แชร์

บทที่ 833

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
ไป๋เฟยเฟยกะพริบตา แล้วรีบพูดว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่คิดว่าหวังหยวนจะเป็นคนเช่นนั้น เขาชอบความสนุกสนานและรักสงบ หากต้องช่วงชิงอำนาจเพื่อปกครองแผ่นดิน เขาก็จะไม่ร่วมมือกับตระกูลไป๋ของเราหรอกเจ้าค่ะ!”

หลังจากพูดจบ ไป๋เจิ้นถังนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ แล้วจึงหัวเราะ

“ฮ่าฮ่าฮ่า เฟยเอ๋อร์ เจ้าต้องมองการณ์ไกลมากขึ้น หากเขาต้องการช่วงชิงอำนาจ เราก็ต้องไม่ร่วมมือกับเขา เพราะเมื่อร่วมมือกัน ก็จะยิ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันมากขึ้น เลี่ยงไม่ได้ที่ตระกูลไป๋ของเราจะเดือดร้อนไปด้วย”

เมื่อไป๋เจิ้นถังเข้าใจแล้ว ก็พูดอีกครั้ง

“แต่ตอนนี้... อยากทำให้ฝ่าบาทประชวร แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จำเป็นต้องคิดให้รอบคอบ!”

ไป๋เจิ้นถังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดความคิดขึ้นมา

“เฟยเอ๋อร์ ไปอธิบายเรื่องนี้ให้อาของเจ้าฟัง ส่วนอย่างอื่น... จะมีคนนำไปส่งมอบให้เจ้า!”

ไป๋เจิ้นถังพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็ยอมรับคำสั่ง และจากไปทันที

หลังจากรับของแล้ว นางก็แอบเข้าไปในวังหลวง

วังหลวง ณ ขณะนี้ ในห้องนอนของฮองเฮาไป๋เหยียนเฟย มีสตรีในชุดสาวใช้ เดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ส่วนตัวของนาง

ไป๋เหยียนเฟยเพิ่งคลอด นางยังคงนอนอยู่บนเตียง สาวใช้คนนี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 834

    พูดจบ ไป๋เหยียนเฟยก็เข้าใจในที่สุด“เอาล่ะ! เช่นนั้นข้าก็รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร!”ไป๋เหยียนเฟยสูดหายใจเข้าลึก ๆ แววตาฉายความกังวล“ท่านอา ถ้าตระกูลเซิ่งลงมือ ท่านต้องระวังคนรอบข้างด้วยนะเจ้าคะ!”ไป๋เฟยเฟยเตือนนางอีกครั้ง เมื่อได้ยิน ไป๋เหยียนเฟยก็ยกยิ้ม แล้วมองไปทางสาวใช้ส่วนตัวที่นางเชื่อใจมากที่สุดฝ่ายหลังพยักหน้าทันที “น้องสาว ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่ข้าอยู่ที่นี่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”“ข้ารู้จักสาวใช้ในวังดี โดยเฉพาะคนที่ตระกูลเซิ่งติดสินบน ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของข้าทั้งสิ้น!”หลังจากสาวใช้กล่าวจบ ไป๋เฟยเฟยก็ยกยิ้มแล้วพูดว่า “มีพี่สาวอยู่ที่นี่ด้วย ข้าย่อมโล่งใจ!”นางผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น นางเป็นคนของตระกูลไป๋ที่ฝึกฝนทักษะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ความสามารถไม่ธรรมดา จึงถูกวางตัวไว้ข้างกายไป๋เหยียนเฟย เพื่อคอยปกป้องนาง!“เฟยเอ๋อร์ สถานการณ์เร่งด่วนเช่นนี้ ข้าจะไม่รั้งเจ้าไว้ที่นี่ ไม่ต้องกังวล ข้าจะทำตามที่พี่ใหญ่บอก”ไป๋เหยียนเฟยยกยิ้ม ย่อมเข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้“ท่านอา เช่นนั้นเฟยเอ๋อร์ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”ไป๋เฟยเฟยยกยิ้มอ่อน จากนั้นหันหลังเดินออกไปพร้อมกับสาวใช้หลั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 835

    แม้นางจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี เพราะตระกูลไป๋ก็ต้องการแย่งชิงอำนาจเช่นกัน!แต่นางก็ยังชอบวีรบุรุษผู้กล้าหาญเช่นนี้!หวังหยวน...ถือว่าเป็นวีรบุรุษได้หรือไม่?แต่ว่าเขาไม่ใช่วีรบุรุษผู้อาจหาญเช่นนั้น...“ช่างเถอะ...”นางส่ายหน้า อย่าคิดเรื่องนี้อีกเลย!หลังจากที่ไป๋เฟยเฟยจากไป ฮองเฮาไป๋เหยียนเฟยก็เริ่มทำหน้าที่ทันที“เตรียมอาหารและสุราดี ๆ ถวายแก่ฝ่าบาท เมื่อเสด็จมายังตำหนักคุนหนิง”ไป๋เหยียนเฟยพูดพร้อมยื่นของให้สาวใช้สาวใช้พยักหน้า แล้วออกไปทันทีในขณะนี้ ฮ่องเต้ซิงหลงยังคงกังวลว่าจะส่งใครเป็นทูตไปหาพวกป่าเถื่อนเขาไม่รู้เลย ว่าอีกไม่นานกำลังจะได้ไปเดินเล่นหน้าประตูนรกหากไม่ใช่เพราะการเสียสละของหวังหยวน เขาคงตายในเวลาไม่ถึงสองวัน!“ฝ่าบาท ฮองเฮาตรัสว่าอยากเชิญท่านไปยังตำหนักคุนหนิงในคืนนี้พ่ะย่ะค่ะ”ขันทีจากไป อดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยิน ฮ่องเต้ซิงหลงก็คลายกังวลเขารักไป๋เหยียนเฟยมาก ยิ่งมีพระโอรสด้วยแล้ว ก็ย่อมอยากไปเยี่ยมนางบ่อยขึ้นคิดเช่นนั้น เมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำแล้ว จึงเสด็จไปยังตำหนักคุนหนิงเมื่อไป๋เหยียนเฟยเห็นฮ่องเต้ซิงหลงเสด็จมาที่ตำหนักของนาง นางก็คำนั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 836

    ณ ส่วนลึกของวังหลวง เสียนกุ้ยเฟยกำลังจัดดอกไม้และดื่มชาอยู่ที่ลานตำหนักทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น สาวใช้ส่วนตัวของเสียนกุ้ยเฟยเดินเข้ามาอย่างระมัดระวังนางยืนอยู่ด้านหน้าเสียนกุ้ยเฟย โค้งคำนับด้วยความเคารพ แล้วพูดว่า “เสียนกุ้ยเฟย มีคนมาขอพบท่านอยู่ด้านนอกประตูเพคะ”เสียนกุ้ยเฟยค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองสาวใช้ส่วนตัว แล้วถามด้วยความสงสัย “ใครมาขอพบข้า?”นี่ก็ดึกมากแล้ว ใครจะมาหาในเวลานี้?สาวใช้ส่วนตัวรีบตอบ “มาจากตระกูลเซิ่งเจ้าค่ะ”“ตระกูลเซิ่งหรือ?”เมื่อได้ยิน เสียนกุ้ยเฟยก็ยิ้มร่า นางโบกมือให้สาวใช้ส่วนตัวด้วยความตื่นเต้น แล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “รีบให้เข้ามาเถิด!”นางไม่ได้เจอคนในครอบครัวมานานแล้ว ตั้งแต่นางเข้ามาอยู่ในวังหลวง เมื่อได้ยินว่าคนที่มาขอพบเป็นคนของตระกูลเซิ่ง ก็ไม่อาจซ่อนสีหน้าที่มีความสุขได้!นางรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู เตรียมทักทายไม่นานสาวใช้ก็เข้ามาพร้อมกับคนผู้หนึ่ง ชายร่างสูงสวมเสื้อคลุมสีดำดั่งความมืดมิดยามราตรีเขาเดินไปหาเสียนกุ้ยเฟย ค่อย ๆ ถอดหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าตัวเอง“น้องรอง”“ท่านพี่หรือ?”เสียนกุ้ยเฟยดีใจมาก นางก้าวเข้าไปหาด้วย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 837

    “ดังนั้นเราจึงต้องฉวยโอกาสจากสถานการณ์ตอนนี้ ชิงกำจัดฮ่องเต้ก่อน!”เมื่อเห็นสีหน้าอันเกรี้ยวกราดของพี่ชาย สีหน้าของเสียนกุ้ยเฟยก็เปลี่ยนไปทันทีนางยังมีความรู้สึกต่อฮ่องเต้อยู่ ไม่อาจกลั้นใจลงมือทำได้เสียนกุ้ยเฟยกัดริมฝีปากสีแดงของตน แล้วกระซิบอย่างลังเล “แต่เด็กคนนั้นอายุเพียงสองหรือสามวันเท่านั้น ยังเด็กนัก หากจะลงมือตอนนี้ ไม่เร็วเกินไปหรือเจ้าคะ?”“เร็วเกินไปหรือ?”เซิ่งฟางสี่พ่นลมหายใจแรง แล้วยืนเอามือไพล่หลัง ดูไม่พอใจนัก“หากฮองเฮาให้กำเนิดธิดา เราคงจะรอดูอีกสองสามปีก่อนที่จะลงมือ แต่นางกลับให้กำเนิดโอรส ชะตาของนางจึงต้องย่ำแย่!”“ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการลงมือ เจ้าวางยาพิษฝ่าบาท ส่วนข้าจะส่งคนไปสังหารฮองเฮา หากไม่มีผู้ใดปกครองแผ่นดิน ก็จะเกิดความวุ่นวาย!”“พวกเขาคงไม่อาจให้เด็กทารกแรกเกิดขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้ ใช่หรือไม่?”เซิ่งฟางสี่เดินไปหาเสียนกุ้ยเฟย แล้วพูดอย่างจริงจัง “บุตรของเจ้าเป็นโอรสองค์โต ซึ่งฉลาดที่สุดในบรรดาองค์ชาย เมื่อเวลานั้นมาถึง เหล่าขุนนางจะต้องเลือกเขาเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แน่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าฝันถึงหรอกหรือ?”หัวใจของเสียนกุ้ยเฟยเต้นระรัว นาง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 838

    หลังจากสาวใช้ในวังพูดจบ สีหน้าของเสียนกุ้ยเฟยและเซิ่งฟางสี่ก็เปลี่ยนไป!“เจ้าพูดเรื่องอะไร! ฝ่าบาททรงหมดสติไปงั้นหรือ?”ใบหน้าของเสียนกุ้ยเฟยเป็นกังวลมาก นางรีบเดินไปหาสาวใช้ส่วนตัว แล้วถามด้วยความร้อนใจ “เกิดอะไรขึ้น อธิบายมาให้ชัดเจน!”“หม่อมฉันไม่ทราบรายละเอียดเพคะ ได้ยินเพียงว่าฮ่องเต้ทรงหมดสติไปในตำหนักฮองเฮา หมอหลวงรายงานว่าพระองค์อาจจะสิ้นพระชนม์แล้วเพคะ!” ได้ยินเช่นนั้น เสียนกุ้ยเฟยก็มองไปที่เซิ่งฟางสี่โดยไม่รู้ตัว“ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปก่อน!”เสียนกุ้ยเฟยรู้ทันทีว่าพี่ชายมีบางอย่างจะพูดกับนาง นางหันหลังให้กับสาวใช้ส่วนตัวทันที มองเซิ่งฟางสี่ด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วรีบถาม “ท่านพี่ ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี?”ใบหน้าของเซิ่งฟางสี่เคร่งขรึม เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “อาการประชวรของฝ่าบาทช่างแปลกนัก...”“เรากำลังจะเริ่มดำเนินการ แต่ฝ่าบาทก็ทรงหมดสติไปเสียก่อน เป็นไปได้หรือไม่ว่าตระกูลไป๋เริ่มลงมือก่อนหน้าเราแล้ว?”เสียนกุ้ยเฟยรู้สึกกังวล ถามอย่างร้อนรน “ฝ่าบาทอาจแค่ทรงประชวร อาจเป็นเพียงความเข้าใจผิดก็ได้ ใช่หรือไม่เจ้าคะ?”“ถึงอย่างไร บุตรของฮองเฮาก็ยังทรงพระเยาว์ แม้นางจะว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 839

    เป็นไปได้หรือไม่ที่การคาดเดาของพี่ชายจะถูกต้อง นี่เป็นฝีมือของฮองเฮาจริงหรือ?เมื่อเงยหน้ามองฮองเฮาอีกครั้ง กลับพบว่าสีหน้าของนางกลายเป็นสงบนิ่งเหมือนทุกครั้ง ราวกับว่าสีหน้าท่าทางที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ นางตาฝาดไปเองขณะนี้ ในใจฮองเฮาไม่ได้มีความมั่นใจมากนักนางกังวลว่าหมอหลวงจะรู้ว่านางวางยาพิษฝ่าบาท หากการกระทำที่เสี่ยงนี้ผิดพลาด นางจะต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่!แต่สิ่งที่หมอหลวงพูดต่อจากนั้น ก็ทำให้ความกังวลใจและความกระวนกระวายของนางหายไป!หมอหลวงจางถอนมือออก ลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก้มหัวให้ฮองเฮา แล้วกล่าวว่า “ฮองเฮา ไม่ต้องกังวลพระทัย ฝ่าบาทเพียงหมดสติไปเนื่องจากการทำงานหนักในช่วงนี้เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”“พักผ่อนให้มาก พรุ่งนี้เช้าอาการพระองค์ก็จะดีขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาได้ยินเช่นนั้น ความเครียดและความไม่สบายใจบนใบหน้าก็คลายไปในที่สุดนางสนมหลายคนที่กำลังร้องไห้ ต่างก็หยุดร้องไห้ทีละคนโชคดีที่ฝ่าบาทไม่เป็นอะไร!หลังจากพบหมอหลวงแล้ว ฮองเฮาก็โบกมือให้พวกนางสนมทันที พร้อมตรัสเบา ๆ ว่า “เอาล่ะ ในเมื่อฝ่าบาทสบายดี ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด พวกเจ้าทุกคนก็กลับไปได้แล้ว”ฮองเฮาโบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 840

    ความเคร่งขรึมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสียนกุ้ยเฟย นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเบา ๆ “ตอนแรกข้าก็สงสัยว่าฮองเฮาเป็นคนทำเจ้าค่ะ …”“แต่มีหมอหลวงหลายคนมารักษาฮ่องเต้ การวินิจฉัยไม่อาจผิดพลาดได้ แต่ว่าท่านพี่เจ้าคะ มีบางอย่างน่าสงสัยมาก ขณะที่หมอหลวงกำลังรักษาฮ่องเต้ สีหน้าของฮองเฮาดูมีความกังวลเล็กน้อย!”“หากนางไม่ได้วางยาพิษฝ่าบาท เหตุใดถึงกังวลนักเล่า?”ใบหน้าของเซิ่งฟางสี่ยิ่งเคร่งขรึม เขาพยักหน้าและพูดเบา ๆ “มีความเป็นไปได้เพียงสองประการ”“ประการแรก ตระกูลไป๋ไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร มันก็บังเอิญเกินไป ความบังเอิญนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”“ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ก็ปล่อยให้ฝ่าบาทมีชีวิตต่อไปอีกสักหน่อย ยังไม่ต้องทำอะไร”เซิ่งฟางสี่นิ่งไปชั่วขณะ จึงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อีกประการหนึ่ง เรื่องนี้เป็นฝีมือของตระกูลไป๋”“พวกเขาโง่มากที่ลงมือตอนนี้ ทำตัวเองแท้ ๆ นอกจากจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ แล้ว ยังเป็นการช่วยเราอีกต่างหาก!”เซิ่งฟางสี่ยิ้มเล็กน้อย พ่นลมหายใจออกมาอย่างภาคภูมิ“หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เหล่าขุนนางจะต้องเป็นกังวลเป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 841

    ฮ่องเต้ซิงหลงรู้สึกหนักใจอย่างยิ่ง อดพูดไม่ได้ว่า “เกิดอะไรขึ้นกับข้าหรือ?”ดวงตาของไป๋เหยียนเฟยแดงก่ำ นางเริ่มพูด “ฝ่าบาท พระองค์ทรงกังวลเรื่องกิจการบ้านเมืองมากเกินไป หมอหลวงบอกว่าพระองค์ชี่และเลือดเสียสมดุล ไม่ใช่อาการป่วยร้ายแรง พระองค์แค่ต้องดูแลพระวรกายให้ดีเพคะ”“สาวใช้ของข้าปรุงยาบำรุงให้พระองค์แล้ว ดื่มให้รู้สึกดีขึ้นเถิดนะเพคะ”ฮ่องเต้ซิงหลงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ยังคงรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อยแท้จริงแล้ว เขามีความสงสัยในใจว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้“เรียกหมอหลวงมา ข้าอยากถามเรื่องอาการของข้า”ไป๋เหยียนเฟยย่อมไม่ใส่ใจ นางได้เชิญหมอหลวงทุกคนในราชสำนักมามากถึงเจ็ดหรือแปดคนพวกเขาทั้งหมดมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ซิงหลง หลังจากตรวจชีพจรของเขาแล้ว ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ!เป็นเพียงชี่และเลือดเสียสมดุลเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากความเหนื่อยล้า“ฝ่าบาท การสูญเสียพละกำลังของพระองค์ อาจเกิดจากความเหนื่อยล้าหรือโหมงานมากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง แค่ต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังเท่านั้น พระองค์ก็จะหายดีพ่ะย่ะค่ะ”หมอหลวงทั้งหลายพูดอย่างเร่งรีบ พูดจบ ฮ่องเต้ซิงหลงก็พยักหน้า“เหตุใดอากา

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status