แน่นอนว่าจุดประสงค์ของหวังหยวนในการทำเช่นนี้ก็เพื่อกระจายข่าวไปยังตระกูลหลี่ด้วย! เขาอยากบอกภรรยาว่าเขามาที่เฉิงโจวเพื่อพานางกลับบ้าน! ตราบใดที่ซื่อหานรู้ข่าวนี้ แผนการของตระกูลหลี่จะต้องแพ้ภัยตัวเอง! เขารู้นิสัยของภรรยาเป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อเขาเห็นท่าทางเช่นนี้ของหลี่อีเหนียน เขาก็ยิ่งมั่นใจในแผนการของตระกูลหลี่มากขึ้น หวังหยวนยิ้มและดื่มในอึกเดียว จากนั้นเขาก็พูดว่า “พี่เขย ข้ารู้ว่าท่านดูถูกข้า ตลอดชีวิตของข้าหวังหยวน ข้าไม่สนใจว่าคนอื่นจะดูถูกข้าหรือไม่” “สิ่งที่ข้าต้องการ คือขอแค่คนที่ข้ารักใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข” “ข้าไม่สนใจราชสำนักหรือชื่อเสียงความมั่งคั่ง ข้าไม่มีความทะเยอทะยาน ท่านเองก็รู้ แทนที่จะเดินบนน้ำแข็งบาง ๆ ไม่สู่ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลไปตลอดชีวิตเสียจะดีกว่า” “ข้าเข้าใจนิสัยของซื่อหาน นางจะไม่ทรยศข้า ข้าหวังหยวนสาบานต่อเทพเจ้าว่าข้าจะไม่ทรยศนางเช่นกัน หากว่าท่านหวังดีกับน้องสาวของท่านจริง ๆ ปล่อยพวกเรากลับบ้านกันเถอะ” หวังหยวนพูดอย่างจริงใจมาก เขารู้ว่าถึงแม้หลี่อีเหนียนจะดูถูกเขา แต่เขาก็รักและเอ็นดูน้องสาวของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นบ
หลี่อีเหนียนยิ้มและพูดว่า “เมื่อครู่เจ้าเจอข้าแต่ไม่เห็นเจ้าเคารพข้าเลย ตอนนี้บรรลุเป้าหมายของเจ้าแล้วกลับสุภาพขึ้นมาทันที” หวังหยวนส่ายหัว “ไม่ โค้งคำนับนี่มาจากความชื่นชมจากใจจริงของข้า ท่านเป็นพี่ชายที่ดี และสมควรได้รับความเคารพ” “สำหรับเมื่อครู่นี้ พี่เขย ข้าขอพูดตามตรงนะ…ถึงปากของข้าไม่ได้พูด แต่ข้ายังดูถูกท่านอยู่ในใจอยู่ดี” ทันใดนั้นหลี่อีเหนียนก็หัวเราะ “เจ้าดูถูกข้าเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า...น่าสนใจจริง ๆ” หวังหยวนกล่าวอย่างราบเรียบว่า “เหตุผลที่ข้าดูถูกก็เพราะท่านเป็นบุตรชาย เป็นเกียรติและความอับอายของตระกูลหลี่ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับบุตรหญิงเลย บุรุษอย่างข้าอยากเผชิญโลกกว้าง เหตุใดต้องพึ่งสตรีเล่า?” หลี่อีเหนียนรู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่า จากนั้นเขาจึงเข้าใจว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ เขารู้สึกตกใจในใจ แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของเขา และมักจะทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ทว่า... เขาพูดถูก! บุรุษควรถือดาบไปรอบ ๆ เหตุใดต้องให้สตรีมารับหน้าแทน? หลี่อีเหนียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นและโค้งคำนับเช่นกัน “วันนี้ ข้าหลี่อีเหนียนได้รับบทเรียนแล้ว” หวังหยวนรีบตอบกลับไป “พี่เขยกล่า
หวังหยวนรู้สึกปิติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับตัวภรรยา ส่วนตระกูลหลี่นั้น ใบหน้าของซ่งชิงเหอน่าเกลียดมาก ในขณะที่หลี่อีเหนียนถอนหายใจ หวังหยวนไม่มีความตั้งใจที่จะกินข้าวที่ตระกูลหลี่ บวกกับหน้าตาไม่รับแขกของซ่งชิงเหอ หลี่อีเหนียนจึงไม่ได้จัดงานเลี้ยงให้กับหวังหยวน ยิ่งไปกว่านั้น เขามีแผนการของเขาในตอนนี้ “หวังหยวน ในเมื่อเจ้าได้รับตัวน้องเล็กแล้ว จากนี้ไป จะไม่มีความขุ่นเคืองระหว่างตระกูลหลี่ของข้าและตระกูลหวังของเจ้าอีก” “น้องเล็ก ในเมื่อเจ้าเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลหวัง เจ้ามีชีวิตเพื่อตระกูลหวัง และตายไปก็เป็นผีของตระกูลหวัง เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลหลี่ของเรา” หลี่อีเหนียนหน้านิ่ง หลังจากพูดเช่นนี้ หลี่ซื่อหานก็ตกตะลึง “พี่ใหญ่...ท่าน...ท่านพูดอะไร” หลี่อีเหนียนไม่พูดอะไรต่อ แต่โบกมือให้หวังหยวนและคนอื่น ๆ ออกไปทันที หลี่ซื่อหานเสียใจมาก แต่หวังหยวนกลับถอนหายใจและเข้าใจเหตุผล หลังจากพาภรรยากลับไปถึงบ้าน และเห็นนางทุกข์ใจมาก หวังหยวนจึงพูดว่า “น้องหญิง เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียใจเกินไป อันที่จริง พี่ชายของเจ้าแค่แสดงต่อหน้าผู้อื่นเท่านั้น” หลี่ซื่อหานตกตะลึงอยู่ครู
หลี่ซื่อหานเอ่ยพูดทันที และคำพูดของนางไม่มีความไม่พอใจสักนิด ซึ่งทำให้หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าหมายถึงอะไร?” หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะถาม หลี่ซื่อหานยิ้มและพูดว่า “ข้าเดาน่ะเจ้าค่ะ” “แล้วเจ้า...ไม่โกรธเหรอ?” หวังหยวนถามอีกครั้ง “ไม่โกรธ ข้าเข้าใจหลักการจริยธรรมของมนุษย์ แน่นอนว่าข้าไม่ใส่ใจ ยิ่งกว่านั้นท่านจะต้องรับอนุในไม่ช้าก็เร็ว หากว่าข้าไม่ยอมรับ ข้าคงจะทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่” “นอกจากนี้ ข้ารู้ว่าท่านมีข้าอยู่ในใจ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว มนุษย์...ไม่ควรโลภเกินไป” หลี่ซื่อหานพูดอย่างเคร่งขรึม ซึ่งทำให้หวังหยวนมีความสุขมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกไร้เหตุผล ท้ายที่สุดแล้วเขาได้รับการศึกษาจากอีกโลกหนึ่งที่มีคู่สมรสคนเดียว ดังนั้นเมื่อมีภรรยาแล้ว และมีความรู้สึกต่อสตรีคนอื่นอีก เขามักจะรู้สึกไม่สบายใจเสมอ แต่หลังจากคำพูดของหลี่ซื่อหาน หวังหยวนก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่พวกเขาไขว่คว้า คือในใจของสามีมีพวกนางอยู่หรือไม่ และนั่นก็เพียงพอแล้ว “น้องหญิง เจ้าสบายใจได้ ชั่วชีวิตนี้ข้ายอมทรยศต่อทุกคนในโลกนี้ แต่ข้าจะไม่ทรยศเจ้า!” คำพูดของหวังหยวนทำให้หลี่ซื่อหานซาบซึ้งใจย
หวังหยวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “นับตั้งแต่เหตุการณ์แคว้นหวงครั้งก่อน ราชสำนักได้ขอให้ผู้ตรวจราชการมณฑลต่าง ๆ เริ่มปรับปรุงเมือง ผู้ตรวจราชการมณฑลเฉิงโจว ใต้เท้าฝูเฉิงเหลียวไปตรวจสอบสามเมืองโดยรอบ และพาบุตรชายไปพร้อมเขาด้วย บัดนี้เขากลับถึงจวนผู้ตรวจราชการมณฑลในเฉิงโจวแล้ว” หลังจากที่หวงเจียวเจียวพูดสิ่งนี้ หวังหยวนก็ประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนอื่น เขาไม่ได้มีข้อขัดแย้งโดยตรงกับผู้ตรวจราชการมณฑล หากว่ามีนั่นก็เป็นเพียงเพราะตระกูลหลี่คิดที่จะให้ภรรยาของเขาแต่งงานกับผู้ตรวจราชการมณฑลเพียงเท่านั้น แต่ตอนนี้ตระกูลหลี่ได้ขีดเส้นแบ่งเรื่องนี้กับตัวเองอย่างเปิดเผยแล้ว แม้ว่าผู้ตรวจราชการมณฑลนั่นต้องการสร้างปัญหาให้เขา เกรงว่าอาจไม่ง่ายขนาดนั้น ส่วนบุตรชายของผู้ตรวจราชการมณฑลเฉิงเหลียวนั้น หวังหยวนก็ไม่ได้กังวลเช่นกัน เขากับหลี่ซื่อหานแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ เป็นไปได้ไหมที่เขายังจะกล้าแย่งชิงนาง? แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซ้ำยังถูกตำหนิด้วยซ้ำ แต่ภูเขาสูง และจักรพรรดิอยู่ห่างไกล หวังหยวนก็มีวิธีป้องกันตัวเองเช่นกัน “ค
“พี่หยวน ผู้ตรวจราชการมณฑลกลับมาแล้ว เป็นไปได้ไหมว่า…” หวังหยวนรู้ว่าเขากังวล แต่ก็ส่ายหัว “ไม่ ไม่ต้องกังวล” หวังหยวนไม่ได้กังวลเกี่ยวกับผู้ตรวจราชการมณฑลมากนัก แต่เรื่องของหวงเจียวเจียวผู้นี้ เขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย! เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่จ้าวหลินหาหวังหยวนจนเจอ เขาพูดด้วยท่าทางกังวลว่า “อาหยวน เกิดเรื่องแล้ว ดูเหมือนว่าวังฉงโหลวจะถูกคนเล่นงาน!” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หวังหยวนก็สะดุ้งทันที และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ถูกเล่นงาน เกิดอะไรขึ้น?” จากนั้นหลี่จ้าวหลินก็เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ วังฉงโหลวมาที่เฉิงโจว เพราะเขามีสัญญาแต่งงานกับตระกูลซุนในเฉิงโจว บรรพบุรุษของตระกูลซุนหาเลี้ยงชีพด้วยการทำผ้า และครอบครัวของพวกเขาก็เจริญรุ่งเรืองหลังจากทำธุรกิจมาหลายชั่วอายุ พวกเขาจึงมีอำนาจเช่นทุกวันนี้ เดิมทีผู้สนับสนุนตระกูลซุนคือตระกูลหวัง แต่ตระกูลซุนเกือบจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของวังไห่เทียน ดังนั้นตั้งแต่นั้นมาจึงไม่มีใครกล่าวถึงเรื่องการแต่งงานอีก บวกกับที่เด็กทั้งสองคนยังอายุไม่มากพอที่จะพูดคุยการแต่งงานได้ แต่คราวนี้ เมื่อวังฉงโหลวมาถึงตระกูลซุน ไม่เพียงแต่เขาไม่เจอคุณห
วังฉงโหลวไม่ได้พูดอะไร แต่ถึงแม้จะไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจ! เสนาบดีฝ่ายขวาทั้งกลุ่ม! ขณะนั้นอารองเป็นกุนซืออยู่ข้างแม่ทัพมู่ ทันทีที่มีการออกคำสั่งให้แม่ทัพมู่ถึงแก่ชีวิต ไม่นานหลังจากนั้น อารองก็ถูกปลดให้เกษียณด้วย! ต่อมากลุ่มเสนาบดีฝ่ายขวามีอำนาจมากขึ้นในราชสำนัก บัดนี้ฮ่องเต้ได้สร้างเสนาบดีฝ่ายซ้ายขึ้นมาแล้ว! ภายใต้เรื่องราวนี้ มีใครบ้างที่มองไม่ออก? เพียงแต่ว่าทุกคนหลีกเลี่ยงคำต้องห้ามบางอย่างเท่านั้น! แม้ว่าวังฉงโหลวจะไม่ได้ระบุชื่อโดยตรง แต่ใต้เท้าผู้ตรวจราชการมณฑลก็มาจากฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวา หากคำพูดเหล่านี้เข้าหูเสนาบดีฝ่ายขวา เขาจะต้องมีโทสะอย่างแน่นอน! เพราะเขารู้ดีว่าคนที่ถูกพูดถึงก็คือตัวเขา! “แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนทำ แต่... การใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้ ใครบ้างจะไม่รู้ วังฉงโหลว มันไม่ง่ายเลยที่มรดกสามรุ่นของตระกูลซุนของข้าได้มาถึงจุดนี้ ในวันนี้จะถูกตระกูลวังของเจ้าทำเสียหายไม่ได้!” “ถึงแม้ว่าอารองของเจ้าจะมาเข้าพบด้วยตนเอง ข้าก็จะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!” ซุนเต๋อไห่พูดทันที เดิมทีเขากำลังมองหาโอกาสที่จะยุติการแต่งงา
ซุนเต๋อไห่รู้สึกประหลาดใจทันที เป็นไปได้ไหมที่หวังหยวนมาที่นี่เพื่อทำกิจการนี้กับเขา? “คุณชายหวัง ถ้วยคริสตัลนี้ดีจริง ๆ ทว่า...ท่านคงไม่คิดที่จำทำกิจการนี้กับข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่?” หลังจากที่ซุนเต๋อไห่พูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้า “ถูกต้อง ข้าเพิ่งมาใหม่ และต้องการประมูลผลิตภัณฑ์คริสตัลหลายอย่าง แต่ข้ายังขาดหุ้นส่วน หากว่าเถ้าแก่ซุนเต็มใจ ข้าอยากจะใช้เส้นสายของท่านเพื่อจัดการประมูลระดับสูงในเฉิงโจว” “ผลิตภัณฑ์คริสตัลทั้งหมดจะถูกประมูลในเวลานั้น และท่านจะได้รับสองส่วนของราคาประมูล อย่างไรเล่า?” สองส่วน... ดูเหมือนไม่มาก! แต่มูลค่าของสิ่งนี้มีมูลค่าสูงยิ่งนัก! เพียงแค่ถ้วยคริสตัลนี้ก็สามารถประมูลได้ในราคาหลายพันเหรียญทอง! ซุนเต๋อไห่กลืนน้ำลายลงไป นั่นเป็นเหรียญทองหลายร้อยตำลึง! “คุณชายหวัง... ไม่ทราบว่าท่านมีผลิตภัณฑ์แก้วพวกนี้กี่ชิ้น…” หวังหยวนกล่าวว่า “ไม่มากนัก มีเพียงยี่สิบชิ้นเท่านั้น” ครั้งแรกหวังหยวนไม่ได้เอามามากนัก ทว่าของที่หายากย่อมมีราคาแพง หากผลิตมากเกินไปราคาก็จะลดลง ยี่สิบชิ้นเรียกได้ว่าสามารถขายได้ในเฉิงโจว “ยี่สิบชิ้น...” ซุนเต๋อไห่ได้เริ่มคำนวณ