Share

บทที่ 577

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เผยเซียนเจิ้งกระวนกระวายใจมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา และกำลังเค้นสมองเพื่อแก้ตัว!

กลุ่มองครักษ์เงาเดินออกมาข้างหน้าถอดหมวกสีดำและเครื่องแบบขุนนางออก แล้วสวมกุญแจมือโซ่ตรวนที่เท้าทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เขากัดลิ้นฆ่าตัวตาย พวกเขาจึงเอาผ้ายัดปาก แล้วลากออกไปในสภาพเหมือนลากสุนัขที่ตายแล้ว!

“ใส่ร้าย นี่เป็นการใส่ร้าย...”

เผยเซียนเจิ้งร้องไห้คร่ำครวญมองไปทางหวังหยวนด้วยความโกรธผสมกับความเสียใจ

เขาไม่เคยคิดเลยว่าราชสำนักจะตัดสินโทษเขา โดยอาศัยแค่คำทำนายสามคำและคำพยากรณ์สามประโยคเท่านั้น

ตอนนี้เขาเสียใจมาก ตั้งแต่แรกไม่น่าโลภ และปล่อยให้หวังหยวนถ่วงเวลาแบบนี้!

ถ้ารู้แต่แรก เขาควรจะฆ่าไอหมอนี่ซะก่อน!

เผยเซียนเจิ้งถูกลากตัวไปเข้าคุก!

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าเมืองหลงหนาน หยวนเกาสิงก็ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าเมือง ได้ดำเนินการพิจารณาคดีของหวังหยวน และตัดสินคดีอย่างรวดเร็ว!

ผู้ตรวจการเฉียวคุนและสายตรวจทั้งสี่นายก่อความผิดร้ายแรง แม้ว่าหวังหยวนจะนำคนของเขาฆ่าคนไปห้าคน แต่มันก็ผิดกฎหมาย แต่เป็นการกระทำผิดเพื่อผดุงความยุติธรรม ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ถือว่าหักล้างกันได้ จึงไม่มีการลงโทษใด

ห้องโ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 578

    "ข้าเข้าร่วมด้วย!"“ข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!”...จู่ ๆ หลายคนก็ยกมือแสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มนี้!บัณฑิตทั้งสี่คนอย่าง หวังไห่เทียน, ​​​​จิ่วเปี้ยน หลวนชิง และถงกู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กันอย่างชัดเจนหากเข้าร่วมกลุ่มนี้ ในอนาคตสามารถพึ่งพิงทั้งสี่คนได้อย่างแน่นอน!"น้องชาย!"วังไห่เทียนหันกลับมาและยิ้ม: "แล้วเจ้าล่ะ?"หวังหยวนกระซิบ: "พี่ชาย พี่ใส่ยาอะไรลงไปในกาเหล้า?"มันดูแปลก ๆ เหล้าไม่ดื่มไม่พูดไม่จา จู่ ๆ ก็จะตั้งกลุ่มวังไห่เทียนหัวเราะเบา ๆ: "อย่าเพิ่งพูดถึงมันตอนนี้ เจ้าจะเข้าร่วมไหมก็ว่ามาเถอะ พี่จะไม่ทำร้ายเจ้าหรอก!""ได้!"หวังหยวนกัดฟันแสดงจุดยืน: "ข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!"ทันใดนั้นบัณฑิตทุกคนก็แสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมด้วย!วังไห่เทียนกล่าวเสริมขึ้นมา: "ถ้าอย่างนั้นเรามาคิดชื่อกลุ่มกันดีกว่า!"“สมาคมยุติธรรม!”“พันธมิตร!”“สมาพันธ์ไห่หลวนจิ่วทง!”“ความรู้อันยิ่งใหญ่!”...ชื่อแปลก ๆ มากมายฝุดขึ้นมา!วังไห่เทียนขมวดคิ้วส่ายหน้าและมองไปทางหวังหยวน: "น้องชาย เจ้าก็คิดมาสักชื่อเถอะ!"หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: "พวกเราเป็นนักวิชาการ อุดมคติสูงสุดค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 579

    หวังหยวนถอนหายใจ: "ข้ารู้ นี่เป็นความตั้งใจที่ดีของพี่ ให้ข้าใช้ชื่อเสียงปกป้องตัวเอง รวมกลุ่มบัณฑิตขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจดจำ!"“เหอะ ๆ แค่เข้าใจความตั้งใจดีของพี่ก็ดีแล้ว นี่ไม่ใช่การใช้ชื่อเสียงปกป้องตัวเจ้าเอง!”หวังไห่เทียนเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างจริงจัง: "เจ้าประสบความสำเร็จอย่างมากในการเอาชนะชาวหวงและเจ้ายังได้เขียนโครงร่างนโยบายทั่วไปอีกด้วย เจ้ายังมีบทกวีที่มีชื่อเสียงหลายบทที่สามารถสืบทอดต่อไปได้ แม้ว่าราชสำนักจะไม่เรียกใช้ บัณฑิตบางคนยังชื่นชมชื่อเสียงของเจ้า และเข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงเรา”หวังหยวนยิ้ม: "แล้วหลังจากนั้น?"“เมื่อเจ้าเป็นประธานสมาพันธ์ต้าถง บัณฑิตที่เข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงก็จะกลายเป็นกระบอกเสียงของเจ้า! เจ้าอยากจะพูดอะไร พวกเขาจะพูดให้เจ้าเอง เจ้าอยากด่าใคร พวกเขาจะด่ามันแทนเจ้าเอง"หวังหยวนยิ้มและกล่าวว่า: "หากมีบัณฑิตเข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงเพียงพอ แม้ว่าราชวงศ์จะไม่ใช้งานเจ้า เจ้าก็ยังคงเป็นเหมือนขุนนางชาวบ้าน และจะไม่มีใครกล้าใช้ทางการจัดการกับเจ้าอีก เหมือนเผยเซียนเจิ้ง! เจ้าสามารถทำกลับกันได้ เจ้าสามารถควบคุมสถานการณ์ปัจจุบันในราชสำนัก!"หวังหยวนโต้ตอบ:

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 580

    ข้อแรกเขาล้มเหลวในการปราบกบฏ และถูกราชสำนักลดขั้นจากแม่ทัพเป็นขุนพล เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาโจมตีหมู่บ้านเยี่ยเจียถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬจับตัวไป เขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวานนี้ คิดว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีได้สักที แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเกี่ยวข้องกับการกบฏต้องโทษประหารเก้าชั่วโคตร!ในรถนักโทษข้างหน้า เผยเซียนเจิ้งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ: "ไอโง่ ข้าเป็นขุนนาง ข้าจะก่อกบฏไปทำไมล่ะ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนอื่นใส่ร้ายข้ากับเจ้าทั้งนั้น เมื่อไปถึงเมืองหลวง เจ้าก็หุบปากซะ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าและข้าหรอก!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เว่ยเฉิงก็ได้สติ: "ใต้เท้าเผยข้ารู้ว่าท่านมีเงินสำรองในเมืองหลวง ท่านสามารถแก้ข้อกล่าวหาของพวกเราได้ใช่ไหม เราจะไม่ถูกตัดหัวใช่ไหม"“ตัดหัว! คิดจะตัดหัวเผยเซียนเจิ้ง ไอหมอนั้นคิดง่ายเกินไปแล้ว!”เผยเซียนเจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา แววตาของเขาเย็นชาคมกริบราวกับใบมีดหลายปีที่ผ่านมา เงินที่เขามอบให้เสนาคลังนั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปทั้งหมด!หลักฐานคำพยากรณ์เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่ราชสำนักจะตัดสินลงโทษเขาตราบใดที่ท่านกู้เกอช่วยพูดให้เขา และมีเสนาขวาช่วยพูดถ้อยคำดี ๆ ต่อฝ่าบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 581

    ในเมื่อการอ้อนวอนขอชีวิตไม่เป็นผล เผยเซียนเจิ้งจึงข่มขู่ก่อนร้องโหยหวน!ฉับ!ตุบ!หวังหยวนฟันลงไปด้วยคมดาบเดียว ไม่นานศีรษะของเผยเซียนเจิ้งก็ตกลงบนพื้นพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดไปไกลหนึ่งจั้งตึง!เว่ยเฉิงที่อยู่ด้านข้างเป็นลมล้มพับไปทันที!ฉับ!หวังหยวนไม่แสดงความเมตตา เขาตัดศีรษะของอีกฝ่ายด้วยคมดาบเดียว จากนั้นแทงดาบลงกับพื้น!หวังหยวนยกศีรษะของทั้งสองคนวางไว้เบื้องหน้าหลุมศพของเยี่ยเทียนก่อนพึมพำ “พี่เยี่ยเทียน คนเหล่านี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวของท่าน ข้าพาพวกมันมาคารวะท่านแล้ว!”หงเยี่ยที่อยู่ด้านข้างมองภาพตรงหน้าอย่างโง่เขลา เจ้าโจรน้อยแตกต่างกับเมื่อก่อนยิ่งนัก!ก่อนหน้านี้เขาทำตัวน่ารังเกียจและไร้ยางอายยิ่งนัก ทั้งเจ้าเล่ห์และมักวางแผนล่อลวงผู้อื่นอยู่เสมอ!ทว่าตอนนี้กลับมีความภักดีและกล้าหาญเสียกว่าพวกอันธพาลที่ตั้งตัวเป็นวีรบุรุษเสียอีก เขาลงมือแก้แค้นแทนเพื่อนที่เคยพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว ทั้งยังกล้าแม้กระทั่งสังหารเจ้าเมืองและแม่ทัพอีกด้วย!เขาเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ!“พี่เยี่ย ถึงเวลาที่ข้าต้องออกเดินทางสู่เฉิงโจวแล้ว ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้า! ท่านไม่ต้อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 582

    หลังจากที่จ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวจบ หวังหยวนก็ชะงักไปชั่วครู่“ความในใจ?”หงเยี่ยมีอะไรต้องการจะพูดกับเขางั้นรึ?“ขอรับ” จ้าวป๋อเซี่ยวหัวเราะเบา ๆ ก่อนชี้ไปข้างหน้า“ท่านผู้นำกำลังรอท่านอยู่ห่างออกไปสองลี้ขอรับ”ท่าทีของจ้าวป๋อเซี่ยวคลุมเครือนัก อีกทั้งสายตาของเขายังแปลกไปไม่น้อย“เข้าใจแล้ว”หวังหยวนคลี่ยิ้มก่อนขี่ม้าออกไป เขามีบางอย่างที่จะพูดกับหงเยี่ยเช่นกันเมื่อหงเยี่ยที่อยู่ในศาลาเห็นหวังหยวนขี่ม้าเข้ามาก็ยิ้มกว้าง “ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าไว้มากมาย เจ้าไม่มีสิ่งตอบแทนให้ข้ารึ?" หวังหยวนลงจากหลังม้าม้าพร้อมฉีกยิ้ม “ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคนมีอิทธิพลแล้ว ยังมีสิ่งใดที่เจ้าไม่ได้ครอบครองอีกรึ?”“เจ้าช่างไม่จริงใจเอาเสียเลย ลืมมันเสียเถิด” หงเยี่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจหวังหยวนระเบิดหัวเราะ ก่อนเปลี่ยนบทสนทนา “เจ้าต้องระมัดระวังในการลงมือครั้งนี้อย่างยิ่ง ราชสำนักอาจจับตามองเจ้าอยู่ก็เป็นได้ พี่น้องของข้าโปรดระวังตัวด้วย”หงเยี่ยพยักหน้า นางเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะบอกก่อนตอบว่า “อืม ข้าเชื่อฟังเจ้า”อย่างไรก็ตามเมื่อหัวข้อบทสนทนาเปลี่ยนไป นางก็เริ่มรู้สึกกังวล“ยังไงก็ตาม ครั้งน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 583

    ครั้งนี้ทุกคนช่วยเหลือเขามากมาย ดังนั้นหวังหยวนจึงไม่ตระหนี่ เขาซื้อของขวัญมากมายให้สมาชิกของสมาคมต้าถงทุกคนแน่นอนว่าเขาไม่ลืมว่าหลี่จ้าวหลินทุ่มเทอย่างมากเพื่อช่วยเหลือตนในครั้งนี้หวังหยวนควัก ‘ตั๋วเงินสองเท่า’ ออกมา และมอบมันให้หลี่จ้าวหลิน“อาหยวน ท่านดูตัวเองสิ เหตุใดถึงให้เงินข้ามากมายเพียงนี้เล่าขอรับ?”เมื่อเห็นตั๋วทองคำเหล่านั้น หลี่จ้าวหลินก็ตกตะลึงทันใด เขารู้ว่าหวังหยวนนั้นร่ำรวย ทว่าไม่คิดว่าจะรวยเพียงนี้!“อย่างไร? ช่วงนี้เจ้ามีค่าใช้จ่ายมากมาย เก็บเอาไว้เถิด” หวังหยวนไม่สนใจแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับมิตรภาพแล้ว เงินเหล่านี้แทบไม่มีค่าเลยเงินเพียงเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบต่อเขาหรอก“ฮ่าฮ่า ในเมื่ออาหยวนพูดเช่นนี้ ข้าก็จะทำตามที่ท่านต้องการก็แล้วกัน แค่ก ๆ”หลี่จ้าวหลินหัวเราะเบา ๆ จากนั้นยื่นมือออกไปตรงหน้า“ตั๋วทองจำนวนมากเกินไป เจ้าอย่าลืมเอาไปแลกเป็นเงินล่ะ”หวังหยวนยังคงย้ำเตือนเขาอีกว่าธนาคารทั่วไปไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมากเพียงนี้ได้“ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านพ่อของข้าเคยบอกว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นคนออกตั๋วเงินเหล่านี้ ซึ่งผู้ที่ใช้ตั๋วเงินเหล่านี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 584

    หลังจากที่หวังหยวนออกคำสั่ง ต้าหู่ก็พูดคุยกับทหารสองคนก่อนปลีกตัวออกไปอย่างลับ ๆคนผู้นี้ระมัดระวังตัวตลอดเวลา เนื่องจากครั้งที่แล้วเขาสามารถหนีไปได้ ครั้งนี้ต้าหู่จึงต้องวางแผนลอบจับตัวอย่างรัดกุมทุกคนยังคงเดินทางต่อไป หลังจากเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ต้าหู่ก็ขี่ม้าตัวใหญ่กลับมา ขณะแบกชายคนหนึ่งที่หมดสติไปนานแล้ว“พี่หยวน ข้าจับตัวเขาได้แล้ว คนผู้นี้หลบหลีกเป็นเลิศ จึงค่อนข้างจับตัวได้ยากยิ่งนัก” ต้าหู่คลี่ยิ้มแล้วโยนชายผู้นั้นลงกับพื้น ขณะมัดร่างเขาไว้ เมื่อถูกโยนอย่างแรง เขาจึงฟื้นคืนสติทันที“ปล่อย... ปล่อยข้า หากกล้าจับตัวข้า พวกเจ้าก็รนหาที่ตายแล้ว!”ทันทีที่คนผู้นี้เปิดปาก เขาก็พูดจาข่มขู่ทุกคนทันที หวังหยวนรู้ว่าอีกฝ่ายมีสถานะที่ไม่ธรรมดา เหลิ่งอวิ๋นคือบุตรชายของอ๋องฝูซาน คนผู้นี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอ๋องฝูซานอย่างแน่นอน“จริงรึ?”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นล้วงปืนคาบศิลาออกมาแล้วยิงที่ขาของชายผู้นั้นเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ต้นขาของชายผู้นั้นก็เกิดรอยแผล ขณะเลือดไหลรินออกมา ขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด!“หวังหยวน! เจ้าฆ่าชิงเมี่ยนโช่ว พวกข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 585

    อย่างไรก็ตาม หวังหยวนคือใคร แม้แต่เจ้าเมืองก็ยังถูกเขาโค่นล้ม ดังนั้นค่ายเล็ก ๆ เช่นค่ายต้าเฟิงจะทำอะไรเขาได้เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แม้จะฆ่าชายผู้นี้ หวังหยวนก็ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย และหากค่ายต้าเฟิงท้าทายเขา หวังหยวนก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนผู้ปกครองขบวนเดินทางเริ่มเคลื่อนขบวนอีกครั้ง หลังจากเดินทางเกือบครึ่งวัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองชิงชวน“พี่หยวน ตอนนี้เมืองชิงชวนอยู่ห่างจากเราเพียงหนึ่งร้อยลี้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรายังอยู่ไม่ไกลจากค่ายต้าเฟิง ท่านโปรดระวังตัวด้วยขอรับ”หวังหยวนพยักหน้าก่อนที่ทุกคนจะเดินทางต่อ...ครึ่งชั่วยามที่แล้ว ณ ค่ายต้าเฟิง ผู้นำสูงสุดค่ายเฟิงเสี้ยวเทียนมองจดหมายในมือพลางแค่นเสียง“หวังหยวน? ชายหนุ่มที่ขวางทางเขาในหุบเขาชิงหลง? ชายผู้นี้กล้ามาเหยียบที่เมืองชิงชวนด้วยรึ น่าสนใจไม่น้อย เอ้อโถวหลางเขียนในจดหมายว่าหวังหยวนผู้นี้ร่ำรวยอย่างมาก เจ้าคิดว่าอย่างไร?”เฟิงเสี้ยวเทียนหรี่ตาลง แม้ว่าจะพูดเช่นนั้น แต่เขายังคงเชื่อว่าหวังหยวนตายแล้ว!ไม่อย่างนั้นหวังหยวนคงฆ่าเหลิ่งอวิ๋นแล้ว!ฆ่านายน้อยของเขา!กลุ่มคนที่นั่งอยู่ด้า

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status