เผยเซียนเจิ้งกระวนกระวายใจมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา และกำลังเค้นสมองเพื่อแก้ตัว!กลุ่มองครักษ์เงาเดินออกมาข้างหน้าถอดหมวกสีดำและเครื่องแบบขุนนางออก แล้วสวมกุญแจมือโซ่ตรวนที่เท้าทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เขากัดลิ้นฆ่าตัวตาย พวกเขาจึงเอาผ้ายัดปาก แล้วลากออกไปในสภาพเหมือนลากสุนัขที่ตายแล้ว!“ใส่ร้าย นี่เป็นการใส่ร้าย...”เผยเซียนเจิ้งร้องไห้คร่ำครวญมองไปทางหวังหยวนด้วยความโกรธผสมกับความเสียใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าราชสำนักจะตัดสินโทษเขา โดยอาศัยแค่คำทำนายสามคำและคำพยากรณ์สามประโยคเท่านั้นตอนนี้เขาเสียใจมาก ตั้งแต่แรกไม่น่าโลภ และปล่อยให้หวังหยวนถ่วงเวลาแบบนี้!ถ้ารู้แต่แรก เขาควรจะฆ่าไอหมอนี่ซะก่อน!เผยเซียนเจิ้งถูกลากตัวไปเข้าคุก!ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าเมืองหลงหนาน หยวนเกาสิงก็ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าเมือง ได้ดำเนินการพิจารณาคดีของหวังหยวน และตัดสินคดีอย่างรวดเร็ว!ผู้ตรวจการเฉียวคุนและสายตรวจทั้งสี่นายก่อความผิดร้ายแรง แม้ว่าหวังหยวนจะนำคนของเขาฆ่าคนไปห้าคน แต่มันก็ผิดกฎหมาย แต่เป็นการกระทำผิดเพื่อผดุงความยุติธรรม ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ถือว่าหักล้างกันได้ จึงไม่มีการลงโทษใดห้องโ
"ข้าเข้าร่วมด้วย!"“ข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!”...จู่ ๆ หลายคนก็ยกมือแสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มนี้!บัณฑิตทั้งสี่คนอย่าง หวังไห่เทียน, จิ่วเปี้ยน หลวนชิง และถงกู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กันอย่างชัดเจนหากเข้าร่วมกลุ่มนี้ ในอนาคตสามารถพึ่งพิงทั้งสี่คนได้อย่างแน่นอน!"น้องชาย!"วังไห่เทียนหันกลับมาและยิ้ม: "แล้วเจ้าล่ะ?"หวังหยวนกระซิบ: "พี่ชาย พี่ใส่ยาอะไรลงไปในกาเหล้า?"มันดูแปลก ๆ เหล้าไม่ดื่มไม่พูดไม่จา จู่ ๆ ก็จะตั้งกลุ่มวังไห่เทียนหัวเราะเบา ๆ: "อย่าเพิ่งพูดถึงมันตอนนี้ เจ้าจะเข้าร่วมไหมก็ว่ามาเถอะ พี่จะไม่ทำร้ายเจ้าหรอก!""ได้!"หวังหยวนกัดฟันแสดงจุดยืน: "ข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!"ทันใดนั้นบัณฑิตทุกคนก็แสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมด้วย!วังไห่เทียนกล่าวเสริมขึ้นมา: "ถ้าอย่างนั้นเรามาคิดชื่อกลุ่มกันดีกว่า!"“สมาคมยุติธรรม!”“พันธมิตร!”“สมาพันธ์ไห่หลวนจิ่วทง!”“ความรู้อันยิ่งใหญ่!”...ชื่อแปลก ๆ มากมายฝุดขึ้นมา!วังไห่เทียนขมวดคิ้วส่ายหน้าและมองไปทางหวังหยวน: "น้องชาย เจ้าก็คิดมาสักชื่อเถอะ!"หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: "พวกเราเป็นนักวิชาการ อุดมคติสูงสุดค
หวังหยวนถอนหายใจ: "ข้ารู้ นี่เป็นความตั้งใจที่ดีของพี่ ให้ข้าใช้ชื่อเสียงปกป้องตัวเอง รวมกลุ่มบัณฑิตขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจดจำ!"“เหอะ ๆ แค่เข้าใจความตั้งใจดีของพี่ก็ดีแล้ว นี่ไม่ใช่การใช้ชื่อเสียงปกป้องตัวเจ้าเอง!”หวังไห่เทียนเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างจริงจัง: "เจ้าประสบความสำเร็จอย่างมากในการเอาชนะชาวหวงและเจ้ายังได้เขียนโครงร่างนโยบายทั่วไปอีกด้วย เจ้ายังมีบทกวีที่มีชื่อเสียงหลายบทที่สามารถสืบทอดต่อไปได้ แม้ว่าราชสำนักจะไม่เรียกใช้ บัณฑิตบางคนยังชื่นชมชื่อเสียงของเจ้า และเข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงเรา”หวังหยวนยิ้ม: "แล้วหลังจากนั้น?"“เมื่อเจ้าเป็นประธานสมาพันธ์ต้าถง บัณฑิตที่เข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงก็จะกลายเป็นกระบอกเสียงของเจ้า! เจ้าอยากจะพูดอะไร พวกเขาจะพูดให้เจ้าเอง เจ้าอยากด่าใคร พวกเขาจะด่ามันแทนเจ้าเอง"หวังหยวนยิ้มและกล่าวว่า: "หากมีบัณฑิตเข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงเพียงพอ แม้ว่าราชวงศ์จะไม่ใช้งานเจ้า เจ้าก็ยังคงเป็นเหมือนขุนนางชาวบ้าน และจะไม่มีใครกล้าใช้ทางการจัดการกับเจ้าอีก เหมือนเผยเซียนเจิ้ง! เจ้าสามารถทำกลับกันได้ เจ้าสามารถควบคุมสถานการณ์ปัจจุบันในราชสำนัก!"หวังหยวนโต้ตอบ:
ข้อแรกเขาล้มเหลวในการปราบกบฏ และถูกราชสำนักลดขั้นจากแม่ทัพเป็นขุนพล เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาโจมตีหมู่บ้านเยี่ยเจียถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬจับตัวไป เขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวานนี้ คิดว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีได้สักที แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเกี่ยวข้องกับการกบฏต้องโทษประหารเก้าชั่วโคตร!ในรถนักโทษข้างหน้า เผยเซียนเจิ้งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ: "ไอโง่ ข้าเป็นขุนนาง ข้าจะก่อกบฏไปทำไมล่ะ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนอื่นใส่ร้ายข้ากับเจ้าทั้งนั้น เมื่อไปถึงเมืองหลวง เจ้าก็หุบปากซะ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าและข้าหรอก!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เว่ยเฉิงก็ได้สติ: "ใต้เท้าเผยข้ารู้ว่าท่านมีเงินสำรองในเมืองหลวง ท่านสามารถแก้ข้อกล่าวหาของพวกเราได้ใช่ไหม เราจะไม่ถูกตัดหัวใช่ไหม"“ตัดหัว! คิดจะตัดหัวเผยเซียนเจิ้ง ไอหมอนั้นคิดง่ายเกินไปแล้ว!”เผยเซียนเจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา แววตาของเขาเย็นชาคมกริบราวกับใบมีดหลายปีที่ผ่านมา เงินที่เขามอบให้เสนาคลังนั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปทั้งหมด!หลักฐานคำพยากรณ์เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่ราชสำนักจะตัดสินลงโทษเขาตราบใดที่ท่านกู้เกอช่วยพูดให้เขา และมีเสนาขวาช่วยพูดถ้อยคำดี ๆ ต่อฝ่าบ
ในเมื่อการอ้อนวอนขอชีวิตไม่เป็นผล เผยเซียนเจิ้งจึงข่มขู่ก่อนร้องโหยหวน!ฉับ!ตุบ!หวังหยวนฟันลงไปด้วยคมดาบเดียว ไม่นานศีรษะของเผยเซียนเจิ้งก็ตกลงบนพื้นพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดไปไกลหนึ่งจั้งตึง!เว่ยเฉิงที่อยู่ด้านข้างเป็นลมล้มพับไปทันที!ฉับ!หวังหยวนไม่แสดงความเมตตา เขาตัดศีรษะของอีกฝ่ายด้วยคมดาบเดียว จากนั้นแทงดาบลงกับพื้น!หวังหยวนยกศีรษะของทั้งสองคนวางไว้เบื้องหน้าหลุมศพของเยี่ยเทียนก่อนพึมพำ “พี่เยี่ยเทียน คนเหล่านี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวของท่าน ข้าพาพวกมันมาคารวะท่านแล้ว!”หงเยี่ยที่อยู่ด้านข้างมองภาพตรงหน้าอย่างโง่เขลา เจ้าโจรน้อยแตกต่างกับเมื่อก่อนยิ่งนัก!ก่อนหน้านี้เขาทำตัวน่ารังเกียจและไร้ยางอายยิ่งนัก ทั้งเจ้าเล่ห์และมักวางแผนล่อลวงผู้อื่นอยู่เสมอ!ทว่าตอนนี้กลับมีความภักดีและกล้าหาญเสียกว่าพวกอันธพาลที่ตั้งตัวเป็นวีรบุรุษเสียอีก เขาลงมือแก้แค้นแทนเพื่อนที่เคยพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว ทั้งยังกล้าแม้กระทั่งสังหารเจ้าเมืองและแม่ทัพอีกด้วย!เขาเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ!“พี่เยี่ย ถึงเวลาที่ข้าต้องออกเดินทางสู่เฉิงโจวแล้ว ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้า! ท่านไม่ต้อ
หลังจากที่จ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวจบ หวังหยวนก็ชะงักไปชั่วครู่“ความในใจ?”หงเยี่ยมีอะไรต้องการจะพูดกับเขางั้นรึ?“ขอรับ” จ้าวป๋อเซี่ยวหัวเราะเบา ๆ ก่อนชี้ไปข้างหน้า“ท่านผู้นำกำลังรอท่านอยู่ห่างออกไปสองลี้ขอรับ”ท่าทีของจ้าวป๋อเซี่ยวคลุมเครือนัก อีกทั้งสายตาของเขายังแปลกไปไม่น้อย“เข้าใจแล้ว”หวังหยวนคลี่ยิ้มก่อนขี่ม้าออกไป เขามีบางอย่างที่จะพูดกับหงเยี่ยเช่นกันเมื่อหงเยี่ยที่อยู่ในศาลาเห็นหวังหยวนขี่ม้าเข้ามาก็ยิ้มกว้าง “ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าไว้มากมาย เจ้าไม่มีสิ่งตอบแทนให้ข้ารึ?" หวังหยวนลงจากหลังม้าม้าพร้อมฉีกยิ้ม “ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคนมีอิทธิพลแล้ว ยังมีสิ่งใดที่เจ้าไม่ได้ครอบครองอีกรึ?”“เจ้าช่างไม่จริงใจเอาเสียเลย ลืมมันเสียเถิด” หงเยี่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจหวังหยวนระเบิดหัวเราะ ก่อนเปลี่ยนบทสนทนา “เจ้าต้องระมัดระวังในการลงมือครั้งนี้อย่างยิ่ง ราชสำนักอาจจับตามองเจ้าอยู่ก็เป็นได้ พี่น้องของข้าโปรดระวังตัวด้วย”หงเยี่ยพยักหน้า นางเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะบอกก่อนตอบว่า “อืม ข้าเชื่อฟังเจ้า”อย่างไรก็ตามเมื่อหัวข้อบทสนทนาเปลี่ยนไป นางก็เริ่มรู้สึกกังวล“ยังไงก็ตาม ครั้งน
ครั้งนี้ทุกคนช่วยเหลือเขามากมาย ดังนั้นหวังหยวนจึงไม่ตระหนี่ เขาซื้อของขวัญมากมายให้สมาชิกของสมาคมต้าถงทุกคนแน่นอนว่าเขาไม่ลืมว่าหลี่จ้าวหลินทุ่มเทอย่างมากเพื่อช่วยเหลือตนในครั้งนี้หวังหยวนควัก ‘ตั๋วเงินสองเท่า’ ออกมา และมอบมันให้หลี่จ้าวหลิน“อาหยวน ท่านดูตัวเองสิ เหตุใดถึงให้เงินข้ามากมายเพียงนี้เล่าขอรับ?”เมื่อเห็นตั๋วทองคำเหล่านั้น หลี่จ้าวหลินก็ตกตะลึงทันใด เขารู้ว่าหวังหยวนนั้นร่ำรวย ทว่าไม่คิดว่าจะรวยเพียงนี้!“อย่างไร? ช่วงนี้เจ้ามีค่าใช้จ่ายมากมาย เก็บเอาไว้เถิด” หวังหยวนไม่สนใจแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับมิตรภาพแล้ว เงินเหล่านี้แทบไม่มีค่าเลยเงินเพียงเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบต่อเขาหรอก“ฮ่าฮ่า ในเมื่ออาหยวนพูดเช่นนี้ ข้าก็จะทำตามที่ท่านต้องการก็แล้วกัน แค่ก ๆ”หลี่จ้าวหลินหัวเราะเบา ๆ จากนั้นยื่นมือออกไปตรงหน้า“ตั๋วทองจำนวนมากเกินไป เจ้าอย่าลืมเอาไปแลกเป็นเงินล่ะ”หวังหยวนยังคงย้ำเตือนเขาอีกว่าธนาคารทั่วไปไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมากเพียงนี้ได้“ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านพ่อของข้าเคยบอกว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นคนออกตั๋วเงินเหล่านี้ ซึ่งผู้ที่ใช้ตั๋วเงินเหล่านี
หลังจากที่หวังหยวนออกคำสั่ง ต้าหู่ก็พูดคุยกับทหารสองคนก่อนปลีกตัวออกไปอย่างลับ ๆคนผู้นี้ระมัดระวังตัวตลอดเวลา เนื่องจากครั้งที่แล้วเขาสามารถหนีไปได้ ครั้งนี้ต้าหู่จึงต้องวางแผนลอบจับตัวอย่างรัดกุมทุกคนยังคงเดินทางต่อไป หลังจากเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ต้าหู่ก็ขี่ม้าตัวใหญ่กลับมา ขณะแบกชายคนหนึ่งที่หมดสติไปนานแล้ว“พี่หยวน ข้าจับตัวเขาได้แล้ว คนผู้นี้หลบหลีกเป็นเลิศ จึงค่อนข้างจับตัวได้ยากยิ่งนัก” ต้าหู่คลี่ยิ้มแล้วโยนชายผู้นั้นลงกับพื้น ขณะมัดร่างเขาไว้ เมื่อถูกโยนอย่างแรง เขาจึงฟื้นคืนสติทันที“ปล่อย... ปล่อยข้า หากกล้าจับตัวข้า พวกเจ้าก็รนหาที่ตายแล้ว!”ทันทีที่คนผู้นี้เปิดปาก เขาก็พูดจาข่มขู่ทุกคนทันที หวังหยวนรู้ว่าอีกฝ่ายมีสถานะที่ไม่ธรรมดา เหลิ่งอวิ๋นคือบุตรชายของอ๋องฝูซาน คนผู้นี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอ๋องฝูซานอย่างแน่นอน“จริงรึ?”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นล้วงปืนคาบศิลาออกมาแล้วยิงที่ขาของชายผู้นั้นเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ต้นขาของชายผู้นั้นก็เกิดรอยแผล ขณะเลือดไหลรินออกมา ขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด!“หวังหยวน! เจ้าฆ่าชิงเมี่ยนโช่ว พวกข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่
ดูเหมือนว่าเมืองหลิงจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในดินแดนทั้งเก้า!ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นที่หมายปองของทุกคน!เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านของหวังหยวน พวกหลี่ซื่อหานได้สั่งให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว หวังหยวนจึงแนะนำหลิ่วหรูเยียนให้เหล่าภรรยารู้จักพวกนางชินกับเรื่องแบบนี้แล้วบุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ไม่นานพวกนางก็สนิทสนมกันดั่งพี่สาวน้องสาวเนื่องจากไป๋ลั่วหลีอยู่ที่นี่ด้วย หวังหยวนจึงไม่อาจอยู่พูดคุยกับภรรยาได้ เพราะต้องไปดูแลไป๋ลั่วหลีก่อนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหวังหยวนกลับมานั่งที่โต๊ะ หลังจากดื่มกับไป๋ลั่วหลีสองสามจอกแล้วจึงกล่าวว่า “คุณหนูไป๋เดินทางมาไกล คงไม่ใช่แค่มาขอบคุณข้ากระมัง?”“ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็บอกมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม! ข้าไม่ใช่คนใจแคบ! หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ข้าก็ยินดี”หวังหยวนเป็นคนใจกว้างไป๋ลั่วหลีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง ๆ!หวังหยวนมีสายตาเฉียบแหลม แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่มีความคิดใดหลบเลี่ยงสายตาเขาไปได้!“ในเมื่อท
“ทุกท่านดื่มกันเถิด!”“ไม่ต้องสนใจข้า!”“ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ปราบพรรคทมิฬได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เมืองอู่เจียงเจริญรุ่งเรือง เส้นทางคมนาคมทางน้ำก็เปิดใช้งานแล้วทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความร่วมมือของพวกท่าน!”หวังหยวนยกจอกสุราขึ้นดื่มกับทุกคนวันนี้มีสุรา วันนี้ก็เมามาย ช่างรื่นรมย์ยิ่งนัก!เมื่อฟ้าสาง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ เช้าวันรุ่งขึ้น หวังหยวนออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านต้าหวังภายในค่ำวันนั้น หวังหยวนก็กลับมาถึงหมู่บ้านต้าหวัง“ท่านหวัง! ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ!”“กำลังนึกถึงท่านพอดีเลยเจ้าค่ะ!”เมื่อหวังหยวนเข้าเมืองหลิงก็เห็นไป๋ลั่วหลีเดินเข้ามาหาได้พบเพื่อนเก่า หวังหยวนรู้สึกยินดี รีบลงจากม้าเดินไปหาไป๋ลั่วหลี แล้วถามว่า “คุณหนูไป๋มาที่นี่ได้อย่างไร?”“ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อขอบคุณท่าน!”“หากไม่ใช่เพราะว่าท่านมอบปืนไรเฟิลซุ่มยิงให้ ข้าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ยิ่งกว่านั้น ครั้งก่อนที่เมืองอู่เจียง ท่านยังช่วยชีวิตข้าด้วย บัดนี้ข้าหายดีแล้ว จึงต้องมาขอบคุณท่านด้วยตัวเองเจ้าค่ะ!”พี่น้องต้าหู่และเอ้อหู่ได้รออยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองยืนต้อนรับอยู่ข้าง ๆ ด
ทุกคนต่างพยักหน้าแต่ในใจก็รู้สึกอาลัยการได้อยู่เคียงข้างหวังหยวนนับเป็นโชคดี ใครบ้างอยากจากเขาไป?เพราะการได้อยู่ใกล้ชิดหวังหยวนย่อมมีโอกาสก้าวหน้า!แต่น่าเสียดาย ในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว พวกเขาได้แต่ทำตาม“ข้าจะไปล่องเรือต่อ!”“พวกท่านกลับเข้าเมืองกันก่อนเถิด!”“งานเลี้ยงเตรียมพร้อมแล้ว เมื่อขึ้นฝั่งก็ไปที่วังของข้า แล้วข้าจะรีบตามไป ไม่ต้องรอพิธีรีตอง!”ทุกคนรับคำ แล้วลงเรือเล็กมุ่งหน้ากลับเมืองอู่เจียง!ทางด้านหวังหยวนก็พาหลิ่วหรูเยียนและต่งอวี่ล่องเรือชมแม่น้ำต่อ“ลั่วเฉินเป็นอย่างไรบ้าง?”“ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ได้ยินว่าเขายังคงปากแข็งได้อีกหรือ?”หวังหยวนมองไปที่ต่งอวี่แล้วถามขึ้นดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีวาสนาได้ทรัพย์สมบัติของพรรคทมิฬ จึงเสียเวลามากมายไปโดยเปล่าประโยชน์!“ข้าละอายใจนักขอรับ!”“ข้าตัดนิ้วเขาไปหลายนิ้ว ใช้วิธีทรมานไปมากมาย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากพูด เหมือนกับปากทำด้วยเหล็กเลยขอรับ!”“ข้าคิดว่าแม้จะให้เวลาข้าอีกหนึ่งสัปดาห์ ข้าก็คงเปิดปากเขาไม่ได้...”“คนผู้นี้ช่างดื้อรั้นนัก!”ต่งอวี่ถอนหายใจ แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้!แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู
“ไม่ใช่เช่นนั้น!”หลิ่วหรูเยียนส่ายหน้า ในเมื่อหวังหยวนซื่อสัตย์กับนาง นางก็ไม่ควรปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้ามีใจให้ท่านมานานแล้ว แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่ข้าเริ่มหลงรักท่าน!”“ข้าแค่กลัวว่าคนรอบข้างท่านจะรับข้าไม่ได้!”“เพราะก่อนหน้านี้ข้าทำเรื่องไม่ดีกับท่านไว้มากมาย...”“ซ้ำยังเกือบฆ่าท่านด้วย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจากใจจริง นี่คือสิ่งที่นางกังวลหวังหยวนหัวเราะ ก่อนส่ายหน้ากล่าวว่า “เจ้าพูดผิดแล้ว! คนรอบข้างข้าล้วนเชื่อฟังข้า จะน่ากลัวอย่างที่เจ้าคิดได้อย่างไร?”“ส่วนภรรยาของข้าไม่ใช่คนชอบสร้างปัญหา ไม่เช่นนั้นข้าจะวางใจปล่อยให้พวกนางอยู่ข้างหลังได้อย่างไร?”“บ้านของข้าจะสงบสุขได้อย่างไร?”หลิ่วหรูเยียนตกตะลึง แต่ก็เป็นเช่นนั้นจริง!หวังหยวนเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก การมีสตรีอยู่รอบกายหลายคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ได้เป็นฮ่องเต้ แต่เขาก็มีคุณสมบัติของผู้นำเทียบเท่าฮ่องเต้ทั้งสาม!การมีภรรยาหลายคนจะเป็นอะไรไป?“ในเมื่อท่านไม่รังเกียจ ข้าก็ยินดีอยู่เคียงข้างท่าน!”“เป็นผู้หญิงของท่าน!”หลิ่วหรูเยียนกล่า
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ