เผยเซียนเจิ้งกระวนกระวายใจมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา และกำลังเค้นสมองเพื่อแก้ตัว!กลุ่มองครักษ์เงาเดินออกมาข้างหน้าถอดหมวกสีดำและเครื่องแบบขุนนางออก แล้วสวมกุญแจมือโซ่ตรวนที่เท้าทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เขากัดลิ้นฆ่าตัวตาย พวกเขาจึงเอาผ้ายัดปาก แล้วลากออกไปในสภาพเหมือนลากสุนัขที่ตายแล้ว!“ใส่ร้าย นี่เป็นการใส่ร้าย...”เผยเซียนเจิ้งร้องไห้คร่ำครวญมองไปทางหวังหยวนด้วยความโกรธผสมกับความเสียใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าราชสำนักจะตัดสินโทษเขา โดยอาศัยแค่คำทำนายสามคำและคำพยากรณ์สามประโยคเท่านั้นตอนนี้เขาเสียใจมาก ตั้งแต่แรกไม่น่าโลภ และปล่อยให้หวังหยวนถ่วงเวลาแบบนี้!ถ้ารู้แต่แรก เขาควรจะฆ่าไอหมอนี่ซะก่อน!เผยเซียนเจิ้งถูกลากตัวไปเข้าคุก!ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าเมืองหลงหนาน หยวนเกาสิงก็ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าเมือง ได้ดำเนินการพิจารณาคดีของหวังหยวน และตัดสินคดีอย่างรวดเร็ว!ผู้ตรวจการเฉียวคุนและสายตรวจทั้งสี่นายก่อความผิดร้ายแรง แม้ว่าหวังหยวนจะนำคนของเขาฆ่าคนไปห้าคน แต่มันก็ผิดกฎหมาย แต่เป็นการกระทำผิดเพื่อผดุงความยุติธรรม ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ถือว่าหักล้างกันได้ จึงไม่มีการลงโทษใดห้องโ
"ข้าเข้าร่วมด้วย!"“ข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!”...จู่ ๆ หลายคนก็ยกมือแสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มนี้!บัณฑิตทั้งสี่คนอย่าง หวังไห่เทียน, จิ่วเปี้ยน หลวนชิง และถงกู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กันอย่างชัดเจนหากเข้าร่วมกลุ่มนี้ ในอนาคตสามารถพึ่งพิงทั้งสี่คนได้อย่างแน่นอน!"น้องชาย!"วังไห่เทียนหันกลับมาและยิ้ม: "แล้วเจ้าล่ะ?"หวังหยวนกระซิบ: "พี่ชาย พี่ใส่ยาอะไรลงไปในกาเหล้า?"มันดูแปลก ๆ เหล้าไม่ดื่มไม่พูดไม่จา จู่ ๆ ก็จะตั้งกลุ่มวังไห่เทียนหัวเราะเบา ๆ: "อย่าเพิ่งพูดถึงมันตอนนี้ เจ้าจะเข้าร่วมไหมก็ว่ามาเถอะ พี่จะไม่ทำร้ายเจ้าหรอก!""ได้!"หวังหยวนกัดฟันแสดงจุดยืน: "ข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!"ทันใดนั้นบัณฑิตทุกคนก็แสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมด้วย!วังไห่เทียนกล่าวเสริมขึ้นมา: "ถ้าอย่างนั้นเรามาคิดชื่อกลุ่มกันดีกว่า!"“สมาคมยุติธรรม!”“พันธมิตร!”“สมาพันธ์ไห่หลวนจิ่วทง!”“ความรู้อันยิ่งใหญ่!”...ชื่อแปลก ๆ มากมายฝุดขึ้นมา!วังไห่เทียนขมวดคิ้วส่ายหน้าและมองไปทางหวังหยวน: "น้องชาย เจ้าก็คิดมาสักชื่อเถอะ!"หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: "พวกเราเป็นนักวิชาการ อุดมคติสูงสุดค
หวังหยวนถอนหายใจ: "ข้ารู้ นี่เป็นความตั้งใจที่ดีของพี่ ให้ข้าใช้ชื่อเสียงปกป้องตัวเอง รวมกลุ่มบัณฑิตขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจดจำ!"“เหอะ ๆ แค่เข้าใจความตั้งใจดีของพี่ก็ดีแล้ว นี่ไม่ใช่การใช้ชื่อเสียงปกป้องตัวเจ้าเอง!”หวังไห่เทียนเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างจริงจัง: "เจ้าประสบความสำเร็จอย่างมากในการเอาชนะชาวหวงและเจ้ายังได้เขียนโครงร่างนโยบายทั่วไปอีกด้วย เจ้ายังมีบทกวีที่มีชื่อเสียงหลายบทที่สามารถสืบทอดต่อไปได้ แม้ว่าราชสำนักจะไม่เรียกใช้ บัณฑิตบางคนยังชื่นชมชื่อเสียงของเจ้า และเข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงเรา”หวังหยวนยิ้ม: "แล้วหลังจากนั้น?"“เมื่อเจ้าเป็นประธานสมาพันธ์ต้าถง บัณฑิตที่เข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงก็จะกลายเป็นกระบอกเสียงของเจ้า! เจ้าอยากจะพูดอะไร พวกเขาจะพูดให้เจ้าเอง เจ้าอยากด่าใคร พวกเขาจะด่ามันแทนเจ้าเอง"หวังหยวนยิ้มและกล่าวว่า: "หากมีบัณฑิตเข้าร่วมสมาพันธ์ต้าถงเพียงพอ แม้ว่าราชวงศ์จะไม่ใช้งานเจ้า เจ้าก็ยังคงเป็นเหมือนขุนนางชาวบ้าน และจะไม่มีใครกล้าใช้ทางการจัดการกับเจ้าอีก เหมือนเผยเซียนเจิ้ง! เจ้าสามารถทำกลับกันได้ เจ้าสามารถควบคุมสถานการณ์ปัจจุบันในราชสำนัก!"หวังหยวนโต้ตอบ:
ข้อแรกเขาล้มเหลวในการปราบกบฏ และถูกราชสำนักลดขั้นจากแม่ทัพเป็นขุนพล เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาโจมตีหมู่บ้านเยี่ยเจียถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬจับตัวไป เขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวานนี้ คิดว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีได้สักที แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเกี่ยวข้องกับการกบฏต้องโทษประหารเก้าชั่วโคตร!ในรถนักโทษข้างหน้า เผยเซียนเจิ้งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ: "ไอโง่ ข้าเป็นขุนนาง ข้าจะก่อกบฏไปทำไมล่ะ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนอื่นใส่ร้ายข้ากับเจ้าทั้งนั้น เมื่อไปถึงเมืองหลวง เจ้าก็หุบปากซะ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าและข้าหรอก!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เว่ยเฉิงก็ได้สติ: "ใต้เท้าเผยข้ารู้ว่าท่านมีเงินสำรองในเมืองหลวง ท่านสามารถแก้ข้อกล่าวหาของพวกเราได้ใช่ไหม เราจะไม่ถูกตัดหัวใช่ไหม"“ตัดหัว! คิดจะตัดหัวเผยเซียนเจิ้ง ไอหมอนั้นคิดง่ายเกินไปแล้ว!”เผยเซียนเจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา แววตาของเขาเย็นชาคมกริบราวกับใบมีดหลายปีที่ผ่านมา เงินที่เขามอบให้เสนาคลังนั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปทั้งหมด!หลักฐานคำพยากรณ์เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่ราชสำนักจะตัดสินลงโทษเขาตราบใดที่ท่านกู้เกอช่วยพูดให้เขา และมีเสนาขวาช่วยพูดถ้อยคำดี ๆ ต่อฝ่าบ
ในเมื่อการอ้อนวอนขอชีวิตไม่เป็นผล เผยเซียนเจิ้งจึงข่มขู่ก่อนร้องโหยหวน!ฉับ!ตุบ!หวังหยวนฟันลงไปด้วยคมดาบเดียว ไม่นานศีรษะของเผยเซียนเจิ้งก็ตกลงบนพื้นพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดไปไกลหนึ่งจั้งตึง!เว่ยเฉิงที่อยู่ด้านข้างเป็นลมล้มพับไปทันที!ฉับ!หวังหยวนไม่แสดงความเมตตา เขาตัดศีรษะของอีกฝ่ายด้วยคมดาบเดียว จากนั้นแทงดาบลงกับพื้น!หวังหยวนยกศีรษะของทั้งสองคนวางไว้เบื้องหน้าหลุมศพของเยี่ยเทียนก่อนพึมพำ “พี่เยี่ยเทียน คนเหล่านี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวของท่าน ข้าพาพวกมันมาคารวะท่านแล้ว!”หงเยี่ยที่อยู่ด้านข้างมองภาพตรงหน้าอย่างโง่เขลา เจ้าโจรน้อยแตกต่างกับเมื่อก่อนยิ่งนัก!ก่อนหน้านี้เขาทำตัวน่ารังเกียจและไร้ยางอายยิ่งนัก ทั้งเจ้าเล่ห์และมักวางแผนล่อลวงผู้อื่นอยู่เสมอ!ทว่าตอนนี้กลับมีความภักดีและกล้าหาญเสียกว่าพวกอันธพาลที่ตั้งตัวเป็นวีรบุรุษเสียอีก เขาลงมือแก้แค้นแทนเพื่อนที่เคยพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว ทั้งยังกล้าแม้กระทั่งสังหารเจ้าเมืองและแม่ทัพอีกด้วย!เขาเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ!“พี่เยี่ย ถึงเวลาที่ข้าต้องออกเดินทางสู่เฉิงโจวแล้ว ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้า! ท่านไม่ต้อ
หลังจากที่จ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวจบ หวังหยวนก็ชะงักไปชั่วครู่“ความในใจ?”หงเยี่ยมีอะไรต้องการจะพูดกับเขางั้นรึ?“ขอรับ” จ้าวป๋อเซี่ยวหัวเราะเบา ๆ ก่อนชี้ไปข้างหน้า“ท่านผู้นำกำลังรอท่านอยู่ห่างออกไปสองลี้ขอรับ”ท่าทีของจ้าวป๋อเซี่ยวคลุมเครือนัก อีกทั้งสายตาของเขายังแปลกไปไม่น้อย“เข้าใจแล้ว”หวังหยวนคลี่ยิ้มก่อนขี่ม้าออกไป เขามีบางอย่างที่จะพูดกับหงเยี่ยเช่นกันเมื่อหงเยี่ยที่อยู่ในศาลาเห็นหวังหยวนขี่ม้าเข้ามาก็ยิ้มกว้าง “ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าไว้มากมาย เจ้าไม่มีสิ่งตอบแทนให้ข้ารึ?" หวังหยวนลงจากหลังม้าม้าพร้อมฉีกยิ้ม “ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคนมีอิทธิพลแล้ว ยังมีสิ่งใดที่เจ้าไม่ได้ครอบครองอีกรึ?”“เจ้าช่างไม่จริงใจเอาเสียเลย ลืมมันเสียเถิด” หงเยี่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจหวังหยวนระเบิดหัวเราะ ก่อนเปลี่ยนบทสนทนา “เจ้าต้องระมัดระวังในการลงมือครั้งนี้อย่างยิ่ง ราชสำนักอาจจับตามองเจ้าอยู่ก็เป็นได้ พี่น้องของข้าโปรดระวังตัวด้วย”หงเยี่ยพยักหน้า นางเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะบอกก่อนตอบว่า “อืม ข้าเชื่อฟังเจ้า”อย่างไรก็ตามเมื่อหัวข้อบทสนทนาเปลี่ยนไป นางก็เริ่มรู้สึกกังวล“ยังไงก็ตาม ครั้งน
ครั้งนี้ทุกคนช่วยเหลือเขามากมาย ดังนั้นหวังหยวนจึงไม่ตระหนี่ เขาซื้อของขวัญมากมายให้สมาชิกของสมาคมต้าถงทุกคนแน่นอนว่าเขาไม่ลืมว่าหลี่จ้าวหลินทุ่มเทอย่างมากเพื่อช่วยเหลือตนในครั้งนี้หวังหยวนควัก ‘ตั๋วเงินสองเท่า’ ออกมา และมอบมันให้หลี่จ้าวหลิน“อาหยวน ท่านดูตัวเองสิ เหตุใดถึงให้เงินข้ามากมายเพียงนี้เล่าขอรับ?”เมื่อเห็นตั๋วทองคำเหล่านั้น หลี่จ้าวหลินก็ตกตะลึงทันใด เขารู้ว่าหวังหยวนนั้นร่ำรวย ทว่าไม่คิดว่าจะรวยเพียงนี้!“อย่างไร? ช่วงนี้เจ้ามีค่าใช้จ่ายมากมาย เก็บเอาไว้เถิด” หวังหยวนไม่สนใจแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับมิตรภาพแล้ว เงินเหล่านี้แทบไม่มีค่าเลยเงินเพียงเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบต่อเขาหรอก“ฮ่าฮ่า ในเมื่ออาหยวนพูดเช่นนี้ ข้าก็จะทำตามที่ท่านต้องการก็แล้วกัน แค่ก ๆ”หลี่จ้าวหลินหัวเราะเบา ๆ จากนั้นยื่นมือออกไปตรงหน้า“ตั๋วทองจำนวนมากเกินไป เจ้าอย่าลืมเอาไปแลกเป็นเงินล่ะ”หวังหยวนยังคงย้ำเตือนเขาอีกว่าธนาคารทั่วไปไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมากเพียงนี้ได้“ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านพ่อของข้าเคยบอกว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นคนออกตั๋วเงินเหล่านี้ ซึ่งผู้ที่ใช้ตั๋วเงินเหล่านี
หลังจากที่หวังหยวนออกคำสั่ง ต้าหู่ก็พูดคุยกับทหารสองคนก่อนปลีกตัวออกไปอย่างลับ ๆคนผู้นี้ระมัดระวังตัวตลอดเวลา เนื่องจากครั้งที่แล้วเขาสามารถหนีไปได้ ครั้งนี้ต้าหู่จึงต้องวางแผนลอบจับตัวอย่างรัดกุมทุกคนยังคงเดินทางต่อไป หลังจากเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ต้าหู่ก็ขี่ม้าตัวใหญ่กลับมา ขณะแบกชายคนหนึ่งที่หมดสติไปนานแล้ว“พี่หยวน ข้าจับตัวเขาได้แล้ว คนผู้นี้หลบหลีกเป็นเลิศ จึงค่อนข้างจับตัวได้ยากยิ่งนัก” ต้าหู่คลี่ยิ้มแล้วโยนชายผู้นั้นลงกับพื้น ขณะมัดร่างเขาไว้ เมื่อถูกโยนอย่างแรง เขาจึงฟื้นคืนสติทันที“ปล่อย... ปล่อยข้า หากกล้าจับตัวข้า พวกเจ้าก็รนหาที่ตายแล้ว!”ทันทีที่คนผู้นี้เปิดปาก เขาก็พูดจาข่มขู่ทุกคนทันที หวังหยวนรู้ว่าอีกฝ่ายมีสถานะที่ไม่ธรรมดา เหลิ่งอวิ๋นคือบุตรชายของอ๋องฝูซาน คนผู้นี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอ๋องฝูซานอย่างแน่นอน“จริงรึ?”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นล้วงปืนคาบศิลาออกมาแล้วยิงที่ขาของชายผู้นั้นเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ต้นขาของชายผู้นั้นก็เกิดรอยแผล ขณะเลือดไหลรินออกมา ขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด!“หวังหยวน! เจ้าฆ่าชิงเมี่ยนโช่ว พวกข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่