เมื่อเห็นชื่อบนป้ายชื่อแล้ว หวังหยวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นายท่านฟางเป็นคนแบบใด?”กว่าเขาจะเข้าพักที่นี่ก็มืดมากแล้ว เหตุใดถึงมีคนไม่รู้จักหน้าค่าตาถึงมาหาเขาตั้งแต่เช้าตรู่กัน!เถ้าแก่เหลียนรีบตอบว่า “นายท่านฟางเป็นผู้ใจบุญในเมืองผิงของพวกเรา เขามีจิตใจเมตตายิ่งนัก ทั้งสร้างสะพานและถนน นำโจ๊กมาแจกจ่ายในตอนประสบภัยพิบัติ รับอุปการะแม่ม่ายและเด็กกำพร้า สร้างวัดวาอาราม และทำความดีอีกมากมาย แม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังเคารพยับถือเขามากขอรับ!”หวังหยวนขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “ข้ายากฟังความจริง!”ต้าหู่ที่ยืนอยู่ข้างหลังหยิบแท่งเงินที่มีมูลค่าห้าตำลึงออกมาเมื่อได้รับเงินเถ้าแก่เหลียนก็มีความสุขอย่างมาก ทว่ายังคงสงวนท่าทีเอาไว้ “คุณชายหวัง นายท่านฟางคือผู้มีอิทธิพลในเมืองผิง ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามฟางป้านเฉิง ที่ดินครึ่งหนึ่งในเมืองผิงเป็นของเขา และแม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังอิจฉานายท่านฟาง ข้าได้ยินมาว่าเขามีเส้นสายมากมายในเมืองจวิ้น สิ่งที่ข้ารู้มีเพียงเท่านี้ขอรับ!”ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เช่นนั้น โปรดเชิญเขาเข้ามาเถิด!”เจ้าของโรงเตี๊ยมถ
หวังหยวนแค่นเสียง “เช่นนั้นข้าอยากรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?”ฟางฝูต้งตอบ “ราชสำนักสั่งไม่ให้ท่านเข้าร่วมการสอบคัดเลือกขุนนาง แม้อัครมหาเสนาบดีจะหนุนหลังท่านอยู่ แต่ก็ไม่มีขุนนางคนไหนในเมืองจิ่วซานกล้าสนับสนุนท่าน! และในระหว่างการทำสงครามที่เมืองจิ่วซาน ท่านก็ฉกฉวยทรัพย์สินของตระกูลมากมายไปจากพวกเขา อีกทั้งฉกฉวยเงินนับไม่ถ้วน พวกเขาจะต้องสู้กลับอย่างแน่นอน และวันหนึ่งท่านจะรักษาบ่อเกลือเฟ่ยชางเอาไว้ไม่ได้“ฮ่าฮ่า!”หวังหยวนหัวเราะเยาะชุดหมางเผาถูกเรียกคืนไปแล้ว และราชสำนักก็ออกกฤษฎีกาอีกครั้ง จวิ้นวั่งของแต่ละเมืองคงต้องต่อต้านเขาเป็นแน่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเชื่อมั่นว่าหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเหยียนฟู่กู่ที่ถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการแล้ว อู๋หยวน และเหล่าทหารที่ประจำอยู่ชายแดนจะช่วยเตือนความจำของเหล่าจวิ้นวั่งได้!“หนึ่งปีที่แล้ว ท่านปราบปรามกลุ่มกบฏชิงเมี่ยนโช่วที่เมืองเฮ่อจนทำให้ท่านเป็นที่รู้จัก แต่ความจริงแล้วมันสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงให้ท่านต่างหาก!”ฟางฝูต้งยกยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “ท่านรู้หรือไม่ว่าแม่ทัพแห่งหล่งหนานและเจ้าเมืองถูกลดตำแหน่งเพราะ
“เหล่าขุนนางล้วนกินดีอยู่ดี ข้าเป็นเพียงผู้ส่งสารที่ทำธุระแทนพวกเขา ดังนั้นขอเพียงซุปร้อน ๆ ก็พอแล้ว!”ฟางฝูต้งยิ้มเล็กน้อย “ในขณะที่บ่อเกลือเฟ่ยชางยังอยู่ใต้การบริหารของท่าน จงมอบเงินปันผลรายปีให้ข้า และลดราคาเหลือเป็นห้าเหวินต่อหนึ่งจิน”ในหนึ่งปีเมืองผิงจะได้รับเกลือหนึ่งล้านจิน หากได้รับเกลือในราคาห้าเหวิน เขาก็จะมีรายได้เพิ่มกว่าห้าพันตำลึงแม้จะได้รับเงินน้อยกว่าขุนนางทั้งสองคน แต่อย่างไรเสีย เขาก็เป็นคนส่งสารที่ทำธุระแทนอีกฝ่ายเท่านั้น!ผลตอบแทนเหล่านี้เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับเขาแล้ว อีกทั้งเงินห้าพันตำลึงก็ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยหวังหยวนหรี่ตาลงพลางแค่นเสียง “ถ้าข้าไม่เห็นด้วยล่ะ!”“คุณชายหวัง ข้าขอแนะนำให้ท่านเป็นตัวของตัวเองและชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียให้ละเอียด!”ฟางฝูต้งเงยหน้ามองอีกฝ่ายพลางกล่าวว่า “เหล่าเด็กน้อยต่างถือทองคำเดินไปทั่วเมืองที่พลุกพล่านเพื่อค้นหาเส้นทางของตัวเอง! ท่านไม่อาจเก็บเงินจำนวนมากไว้เพียงลำพัง เพราะไม่มีใครสามารถปกป้องท่านได้ และท่านก็ไม่อาจปกป้องมันได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ ท่านก็คงจะตัดสินใจได้แล้วกระมัง!”หวังหยวนมองดูคนที่อาศัยอำนาจผู้อื่นกดข
ราชสำนักเช่นนี้...“คุณ คุณชายหวัง โปรดอย่าหุนหันพลันแล่น ข้า ข้าแค่มาส่งข่าว!”เมื่อสัมผัสถึงขอบดาบราชวงศ์ถัง และเห็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแผ่รังสีอำมหิต ฟางฝูต้งก็ขนลุกทั้งตัว เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก ใบหน้าก็ซีดเซียวไร้สีเลือด!ไม่ว่าเขาจะเอาชนะชาวหวงได้จริงหรือไม่ก็ตาม แต่เด็กคนนี้ได้ทำลายค่ายซานหู่ในเมืองฝู และชิงเมี่ยนโช่วในเมืองเฮ่อได้จริงแน่นอน ทั้งยังกำจัดสองที่ทรงอำนาจ อย่างตระกูลหลิวและตระกูลโจวในเมืองฝูได้ เป็นคนโหดเหี้ยมที่ทำลายตระกูลใหญ่ได้อย่างง่ายดาย!ตอนแรกเขาจำได้ว่าต้องสุภาพ แต่เมื่อเขาพูดถึงท่านเจ้าเมือง จึงเผลอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!“เช่นนั้นก็ส่งข่าวไปให้คนที่อยากให้เจ้าส่งสิ!”หวังหยวนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าไม่รุกรานใครก่อน เว้นแต่จะถูกทำให้ขุ่นเคือง หากมีใครทำให้ข้าขุ่นเคือง ต่อให้จะเป็นราชาแห่งสวรรค์ ข้าก็ไม่ยอมทนกับนิสัยไม่ดี หากเขาต้องการทำอะไรกับข้า ให้เขาคิดให้รอบคอบ ว่ากล้าที่จะเผชิญกับผลที่ตามมาหรือไม่”“คุณชายหวังกล้าหาญยิ่งนัก ข้าบอกตามความจริง มาดูกันว่าคุณชายหวังจะสามารถทำอะไรได้บ้าง!”ฟางฝูต้งกัดฟันกำหมัดแน่น แล้วเดินสะบัดแขนเสื้อจากไป
เขามีความรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับภูมิหลังของหวังหยวน และเขาก็รู้ด้วยว่ๅาเขามีความดีความชอบจากการเอาชนะชาวหวง!แต่เขาไม่สนใจ การที่ราชสำนักไม่ให้ความดีความชอบนี้ ก็แสดงว่าฮ่องเต้ไม่ยอมรับ!ในเมื่อฮ่องเต้ไม่ยอมรับ ก็ไม่สำคัญว่าเขาได้ทำความดีความชอบหรือไม่!ตอนแรกไม่อยากลงมือ เพราะได้ยินมาว่าฝ่ายซ้ายชอบชายคนนี้มาก!แต่เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ครั้งนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายเสนอให้ลดตำแหน่งเขา!จัดการเจ้าเด็กคนนี้ ทุ่มทุนเข้าร่วมฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวาไปเลยการเลื่อนตำแหน่งและสร้างรายได้จะได้ง่ายขึ้น!“เด็กคนนั้นช่างดื้อรั้นและหยิ่งผยองจริง ๆ นิสัยก้าวร้าวและอารมณ์รุนแรง!”แม่ทัพเว่ยเฉิงพ่นลมหายใจ “ใต้เท้า ท่านอาจส่งกองทหารไปตั้งจุดตรวจ และยึดของของพวกเขาโดยตรง จากนั้นยัดชุดเกราะและหน้าไม้เข้าไปในรถม้าของเขา เพื่อกล่าวหาเขาด้วยข้อหาสะสมชุดเกราะ แล้วก็จับเขาเพื่อควบคุมความเป็นความตายของเขาได้ทันที!”ด้วยวิธีนี้ เขาใช้จัดการกับคนมานักต่อนักแล้วเพราะตามกฎหมายของราชสำนัก การเก็บซ่อนไพร่พลและชุดเกราะเป็นการส่วนตัว เทียบเท่ากับการเป็นกบฏ ซึ่งเป็นโทษร้ายแรงที่ต้องถูกสั่งประหารเก้าชั่วโคตร!“เอาอย่างนี้เ
หวังหยวนส่องกล้องส่องทางไกล แล้วเห็นทหารกลุ่มหนึ่งสวมชุดเกราะ ยืนถือหน้าไม้อยู่ที่สี่แยก ซึ่งอยู่ห่างออกไปห้าลี้ เพื่อตรวจสอบรถบรรทุกของที่ผ่านไปมาปกติจะมีคนมากกว่าสิบหรือยี่สิบคนที่สี่แยก เพื่อคอยตรวจสอบ แต่ที่นี่มีคนมากกว่าสองร้อยคน!และติดอาวุธครบมือ!สายตาตาของหวังหยวนมืดมน “ให้ขบวนรถเลี้ยวกลับไปดูถนนสายอื่นกันเถอะ!”แม้ว่าเขาจะได้เตรียมการแล้ว แต่หวังหยวนก็ยังตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงหากทำได้ขบวนรถม้าและรถบรรทุกหันหลังเดินทางไปอีกหนึ่งชั่วยาม ก่อนจะเลี้ยวไปยังถนนอีกสายหนึ่ง!ต้าหู่ที่ถือกล้องส่องทางไกล ขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่หยวน ที่นี่ก็มีจุดตรวจด้วย คนเยอะกว่าที่นั่นอีก มีสามร้อยคน และพวกเขาก็สวมชุดเกราะและถือธนูด้วย!”สายตาของหวังหยวนเคร่งขรึม “เช่นนั้นก็ไปดูกันว่าพวกเขามาจากไหน!”ช่องทางสองแห่งที่รถม้าสามารถผ่านไปได้ เป็นวิธีเดียวที่จะออกนอกเมือง และทั้งสองแห่งกลับถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาหากบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็คงไม่เชื่อกลุ่มรถม้าเดินหน้าต่อไปทหารกว่าสามร้อยนายเฝ้าทางแยกอย่างเข้มงวดทหารบางคนมีตัวอ้วน หูใหญ่ และหน้ามีเนื้อเต็ม ทำให้ดูสง่างามและทรงพลัง
“เจ้าคือหวังหยวน กำราบชิงเมี่ยนโช่วได้จริงหรือ?”เมื่อมองหวังหยวนหัวจรดเท้า เว่ยเฉิงก็ขมวดคิ้วและไม่อยากจะเชื่อเลยก็แค่เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งกับกลุ่มคนบ้านนอก ก็เอาชนะชิงเมี่ยนโช่วได้จริงหรือ!ปกติเขานำทหารสามพันนายไปจัดการ แต่ก็ยังล้มเหลวในการบรรลุความสำเร็จนี้!“ข้าชื่อหวังหยวน ข้าไม่ได้กำราบชิงเมี่ยนโช่ว แต่เป็นหวังพั่วหลู่ต่างหาก!”หวังหยวนเหลือบมองชายร่างใหญ่สามคนนี้ “หากไม่มีอะไรแล้ว ท่านแม่ทัพโปรดหลีกทางด้วย พวกข้ากำลังรีบเดินทาง!”“รีบเดินทาง เจ้ายังอยากจะรีบเดินทางอยู่หรือ มาจับเจ้าเด็กหน้าขาวคนนี้ให้ข้าหน่อยสิ!”เว่ยเฉิงที่เมาเล็กน้อยโมโหเมื่อได้ยินดังนั้น จึงสั่งจับกุมทันทีเจ้าเด็กหน้าขาวคนนี้ปราบชิงเมี่ยนโช่ว จนทำให้เขาถูกราชสำนักลดตำแหน่ง!เจ้าเมืองส่งคนไปบอกให้เขาจ่ายเงินหนึ่งแสนตำลึง แต่เขายังไม่ได้รับเลยแม้แต่อีแปะเดียว!แต่เขายังอยากรีบเดินทางอยู่อีก!ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ...ทหารกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งมาข้างหน้าดวงตาของหวังหยวนมืดมน คาดไม่ถึงว่าเว่ยเฉิงจะอาจหาญถึงเพียงนี้ เขาไม่ได้อ้างเหตุผลด้วยซ้ำ และแค่อยากจะโค่นเขาลง คิดว่าเขาเป็นพระอิฐพระปูนจริงหรือชิ้ง ชิ้
หวังหยวนพยักหน้า “ใช่ แต่ก็มีแต่เครื่องนอน เสื้อผ้า ของใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ข้างใน และมีเพื่อนของข้าบางคนนั่งอยู่ข้างในนั้น”“ตราบใดที่ยังเป็นของเจ้าก็ต้องค้น!”ดวงตาของเว่ยเฉิงสว่างขึ้น เขามองคนสนิทที่อยู่ข้างหลังเขา “เร็วเข้า พวกเจ้าไปตรวจค้นรถทั้งสิบคัน เพื่อดูว่ามีสิ่งของต้องห้ามซ่อนอยู่ในนั้นหรือไม่!”ทหารกลุ่มหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมขนาดใหญ่ รีบวิ่งเข้าไปราวกับกำลังบิน กลัวว่าพวกเขาจะเสียโอกาสอีกครั้งในการใส่ร้ายทหารกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าไป แบ่งออกเป็นสิบทีม ล้อมรอบรถม้าสิบคัน!ลากคนในรถม้าออกจากรถทันที โดยไม่สังเกตว่าคนที่ถูกลากออกมาโกรธมาก!ทหารเหล่านี้เข้าไปในรถ หยิบชุดเกราะและหน้าไม้ออกมาจากเสื้อคลุม ยัดมันเข้าไปในเครื่องนอนและเสื้อผ้า จากนั้นก็เริ่มแกล้งทำเป็นค้นหา!ในรถทั้งสิบคัน มีการใช้กลอุบายแบบเดียวกัน และคนที่ถูกลากตัวออกมาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้มันเป็นการใส่ร้ายอยู่แล้ว อย่างไรเสียคนพวกนี้ก็จะรู้อยู่แล้ว หากพวกเขาเห็นก็ไม่เป็นอะไร!ในพื้นที่หนึ่งในสามของที่แห่งนี้ เจ้าเมืองและแม่ทัพเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย ไม่มีใครสามารถขัดขวางได้ทหารกลุ่มนั้นไม่ได้สนใจอะไร ส
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“