วังไห่เทียนชี้ไปที่หลี่จ้าวหลินพร้อมกล่าว “น้องชาย พาจ้าวหลินไปด้วยสิ ตระกูลหลี่เป็นถึงจวิ้นวั่งเมืองหล่งหนาน เขาจึงมีเส้นสายมากมายในติ้งโจว หากเจ้าไปกับเขาคงจะสะดวกในการจัดการกับเหล่าเจ้าหน้าที่มากกว่า!”หวังหยวนประสานหมักพลางกล่าว “ขอบคุณพี่ชายยิ่งนัก!”“ระหว่างข้ากับเจ้าไม่จำเป็นต้องกล่าวคำนี้!”วังไห่เทียนดึงวังฉงโหลวเข้ามาใกล้ “ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ต้องเดินทางไปแต่งงานที่เมืองโจว แต่ก็ยังต้องการไปเที่ยวหอนางโลมที่เมืองจิ่วซาน หากเดินทางถึงเมืองโจวแล้ว เจ้าช่วยข้าจับตาดูเขาหน่อยเถิด หากทำตัวนอกลู่นอกทาง เจ้าก็หักขาเขาได้เลย!”หวังหยวนตอบด้วยรอยยิ้ม “ขอรับ!”วังไห่เทียนเผยสีหน้าบึ้งตึง!หวังหยวนโบกมือก่อนที่รถม้าจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้า ๆ โดยมีเหล่าผู้ร่วมเดินทางตามไปติด ๆ!ถึงกระนั้นเหล่าชาวบ้านก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม!การเดินทางไกลในยุคสมัยนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นญาติมิตรจึงจำต้องแวะมาส่งพวกเขาออกเดินทาง!ผู้คนมากมายต่างมาอำลาพวกเขา แม้ทุกคนจะมาพร้อมหน้ากันแล้ว แต่ท่านลุงและจู่ปันกลับยังมาไม่ถึง!เมื่อเห็นขบวนรถม้ากำลังจะออกจากหมู่บ้าน จ้าวชิงเหอก็เริ่มวิตกกังวล “ท่า
เมืองหล่งหนาน!กลุ่มทหารม้ามุ่งหน้าไปยังที่ทำการประจำเมือง ซึ่งนำโดยรองแม่ทัพเว่ยเฉิงที่สวมชุดเกราะสีสดเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินไปที่สวนด้านหลังที่ทำการอยางรวดเร็ว จากนั้นโค้งคำนับขุนนางที่แต่งการด้วยเสื้อคลุมสีแดงชาด ปักลวดลายธรรมชาติ “ใต้เท้า ข้าได้รับว่าว่าหวังหยวนกำลังเดินทางมาที่เมืองหล่งหนาน เพื่อทำธุรกิจขอรับ!”หลายปีก่อนราชสำนักไม่เพียงออกกฤษฎีกาประณามว่าเขาไร้ความสามารถเท่านั้น แต่ยังถูกลดตำแหน่งจากแม่ทัพเป็นรองแม่ทัพอีกด้วย!เขาพยายามต่อสู้ดิ้นรนจากตำแหน่งรองแม่ทัพมาสู่ตำแหน่งแม่ทัพ โดยใช้เวลาห้าปีและสูญเงินไปกว่าห้าพันตำลึงในแต่ละเมืองมีกบฏเกิดขึ้นมากมาย ทว่าแม่ทัพประจำเมืองกลับเอาชนะกบฏเหล่านั้นไม่ได้!หากไม่ใช่เพราะหวังหยวนนำกองกำลังทหารประจำเมืองเข้าปราบปรามชิงเมี่ยนโช่ว เขาก็คงไม่กลายเป็นคนไร้ความสามารถและถูกลดตำแหน่งเช่นนี้ทุกวันนี้เขากัดฟันทนและพยายามหาโอกาสล้างแค้นให้ได้!ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่เจ้าเมืองก็ถูกลดตำแหน่งจากขั้นสี่ระดับสูงเป็นขั้นสี่ระดับธรรมดาเจ้าเมืองหล่งหนานเผยเซียนเจิ้งที่ยืนอยู่ข้างหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้รับข่าวนี้มาเช่นกัน แล้วท่า
เมื่อเห็นชื่อบนป้ายชื่อแล้ว หวังหยวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นายท่านฟางเป็นคนแบบใด?”กว่าเขาจะเข้าพักที่นี่ก็มืดมากแล้ว เหตุใดถึงมีคนไม่รู้จักหน้าค่าตาถึงมาหาเขาตั้งแต่เช้าตรู่กัน!เถ้าแก่เหลียนรีบตอบว่า “นายท่านฟางเป็นผู้ใจบุญในเมืองผิงของพวกเรา เขามีจิตใจเมตตายิ่งนัก ทั้งสร้างสะพานและถนน นำโจ๊กมาแจกจ่ายในตอนประสบภัยพิบัติ รับอุปการะแม่ม่ายและเด็กกำพร้า สร้างวัดวาอาราม และทำความดีอีกมากมาย แม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังเคารพยับถือเขามากขอรับ!”หวังหยวนขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “ข้ายากฟังความจริง!”ต้าหู่ที่ยืนอยู่ข้างหลังหยิบแท่งเงินที่มีมูลค่าห้าตำลึงออกมาเมื่อได้รับเงินเถ้าแก่เหลียนก็มีความสุขอย่างมาก ทว่ายังคงสงวนท่าทีเอาไว้ “คุณชายหวัง นายท่านฟางคือผู้มีอิทธิพลในเมืองผิง ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามฟางป้านเฉิง ที่ดินครึ่งหนึ่งในเมืองผิงเป็นของเขา และแม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังอิจฉานายท่านฟาง ข้าได้ยินมาว่าเขามีเส้นสายมากมายในเมืองจวิ้น สิ่งที่ข้ารู้มีเพียงเท่านี้ขอรับ!”ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เช่นนั้น โปรดเชิญเขาเข้ามาเถิด!”เจ้าของโรงเตี๊ยมถ
หวังหยวนแค่นเสียง “เช่นนั้นข้าอยากรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?”ฟางฝูต้งตอบ “ราชสำนักสั่งไม่ให้ท่านเข้าร่วมการสอบคัดเลือกขุนนาง แม้อัครมหาเสนาบดีจะหนุนหลังท่านอยู่ แต่ก็ไม่มีขุนนางคนไหนในเมืองจิ่วซานกล้าสนับสนุนท่าน! และในระหว่างการทำสงครามที่เมืองจิ่วซาน ท่านก็ฉกฉวยทรัพย์สินของตระกูลมากมายไปจากพวกเขา อีกทั้งฉกฉวยเงินนับไม่ถ้วน พวกเขาจะต้องสู้กลับอย่างแน่นอน และวันหนึ่งท่านจะรักษาบ่อเกลือเฟ่ยชางเอาไว้ไม่ได้“ฮ่าฮ่า!”หวังหยวนหัวเราะเยาะชุดหมางเผาถูกเรียกคืนไปแล้ว และราชสำนักก็ออกกฤษฎีกาอีกครั้ง จวิ้นวั่งของแต่ละเมืองคงต้องต่อต้านเขาเป็นแน่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเชื่อมั่นว่าหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเหยียนฟู่กู่ที่ถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการแล้ว อู๋หยวน และเหล่าทหารที่ประจำอยู่ชายแดนจะช่วยเตือนความจำของเหล่าจวิ้นวั่งได้!“หนึ่งปีที่แล้ว ท่านปราบปรามกลุ่มกบฏชิงเมี่ยนโช่วที่เมืองเฮ่อจนทำให้ท่านเป็นที่รู้จัก แต่ความจริงแล้วมันสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงให้ท่านต่างหาก!”ฟางฝูต้งยกยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “ท่านรู้หรือไม่ว่าแม่ทัพแห่งหล่งหนานและเจ้าเมืองถูกลดตำแหน่งเพราะ
“เหล่าขุนนางล้วนกินดีอยู่ดี ข้าเป็นเพียงผู้ส่งสารที่ทำธุระแทนพวกเขา ดังนั้นขอเพียงซุปร้อน ๆ ก็พอแล้ว!”ฟางฝูต้งยิ้มเล็กน้อย “ในขณะที่บ่อเกลือเฟ่ยชางยังอยู่ใต้การบริหารของท่าน จงมอบเงินปันผลรายปีให้ข้า และลดราคาเหลือเป็นห้าเหวินต่อหนึ่งจิน”ในหนึ่งปีเมืองผิงจะได้รับเกลือหนึ่งล้านจิน หากได้รับเกลือในราคาห้าเหวิน เขาก็จะมีรายได้เพิ่มกว่าห้าพันตำลึงแม้จะได้รับเงินน้อยกว่าขุนนางทั้งสองคน แต่อย่างไรเสีย เขาก็เป็นคนส่งสารที่ทำธุระแทนอีกฝ่ายเท่านั้น!ผลตอบแทนเหล่านี้เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับเขาแล้ว อีกทั้งเงินห้าพันตำลึงก็ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยหวังหยวนหรี่ตาลงพลางแค่นเสียง “ถ้าข้าไม่เห็นด้วยล่ะ!”“คุณชายหวัง ข้าขอแนะนำให้ท่านเป็นตัวของตัวเองและชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียให้ละเอียด!”ฟางฝูต้งเงยหน้ามองอีกฝ่ายพลางกล่าวว่า “เหล่าเด็กน้อยต่างถือทองคำเดินไปทั่วเมืองที่พลุกพล่านเพื่อค้นหาเส้นทางของตัวเอง! ท่านไม่อาจเก็บเงินจำนวนมากไว้เพียงลำพัง เพราะไม่มีใครสามารถปกป้องท่านได้ และท่านก็ไม่อาจปกป้องมันได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ ท่านก็คงจะตัดสินใจได้แล้วกระมัง!”หวังหยวนมองดูคนที่อาศัยอำนาจผู้อื่นกดข
ราชสำนักเช่นนี้...“คุณ คุณชายหวัง โปรดอย่าหุนหันพลันแล่น ข้า ข้าแค่มาส่งข่าว!”เมื่อสัมผัสถึงขอบดาบราชวงศ์ถัง และเห็นทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแผ่รังสีอำมหิต ฟางฝูต้งก็ขนลุกทั้งตัว เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก ใบหน้าก็ซีดเซียวไร้สีเลือด!ไม่ว่าเขาจะเอาชนะชาวหวงได้จริงหรือไม่ก็ตาม แต่เด็กคนนี้ได้ทำลายค่ายซานหู่ในเมืองฝู และชิงเมี่ยนโช่วในเมืองเฮ่อได้จริงแน่นอน ทั้งยังกำจัดสองที่ทรงอำนาจ อย่างตระกูลหลิวและตระกูลโจวในเมืองฝูได้ เป็นคนโหดเหี้ยมที่ทำลายตระกูลใหญ่ได้อย่างง่ายดาย!ตอนแรกเขาจำได้ว่าต้องสุภาพ แต่เมื่อเขาพูดถึงท่านเจ้าเมือง จึงเผลอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!“เช่นนั้นก็ส่งข่าวไปให้คนที่อยากให้เจ้าส่งสิ!”หวังหยวนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าไม่รุกรานใครก่อน เว้นแต่จะถูกทำให้ขุ่นเคือง หากมีใครทำให้ข้าขุ่นเคือง ต่อให้จะเป็นราชาแห่งสวรรค์ ข้าก็ไม่ยอมทนกับนิสัยไม่ดี หากเขาต้องการทำอะไรกับข้า ให้เขาคิดให้รอบคอบ ว่ากล้าที่จะเผชิญกับผลที่ตามมาหรือไม่”“คุณชายหวังกล้าหาญยิ่งนัก ข้าบอกตามความจริง มาดูกันว่าคุณชายหวังจะสามารถทำอะไรได้บ้าง!”ฟางฝูต้งกัดฟันกำหมัดแน่น แล้วเดินสะบัดแขนเสื้อจากไป
เขามีความรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับภูมิหลังของหวังหยวน และเขาก็รู้ด้วยว่ๅาเขามีความดีความชอบจากการเอาชนะชาวหวง!แต่เขาไม่สนใจ การที่ราชสำนักไม่ให้ความดีความชอบนี้ ก็แสดงว่าฮ่องเต้ไม่ยอมรับ!ในเมื่อฮ่องเต้ไม่ยอมรับ ก็ไม่สำคัญว่าเขาได้ทำความดีความชอบหรือไม่!ตอนแรกไม่อยากลงมือ เพราะได้ยินมาว่าฝ่ายซ้ายชอบชายคนนี้มาก!แต่เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ครั้งนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายเสนอให้ลดตำแหน่งเขา!จัดการเจ้าเด็กคนนี้ ทุ่มทุนเข้าร่วมฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวาไปเลยการเลื่อนตำแหน่งและสร้างรายได้จะได้ง่ายขึ้น!“เด็กคนนั้นช่างดื้อรั้นและหยิ่งผยองจริง ๆ นิสัยก้าวร้าวและอารมณ์รุนแรง!”แม่ทัพเว่ยเฉิงพ่นลมหายใจ “ใต้เท้า ท่านอาจส่งกองทหารไปตั้งจุดตรวจ และยึดของของพวกเขาโดยตรง จากนั้นยัดชุดเกราะและหน้าไม้เข้าไปในรถม้าของเขา เพื่อกล่าวหาเขาด้วยข้อหาสะสมชุดเกราะ แล้วก็จับเขาเพื่อควบคุมความเป็นความตายของเขาได้ทันที!”ด้วยวิธีนี้ เขาใช้จัดการกับคนมานักต่อนักแล้วเพราะตามกฎหมายของราชสำนัก การเก็บซ่อนไพร่พลและชุดเกราะเป็นการส่วนตัว เทียบเท่ากับการเป็นกบฏ ซึ่งเป็นโทษร้ายแรงที่ต้องถูกสั่งประหารเก้าชั่วโคตร!“เอาอย่างนี้เ
หวังหยวนส่องกล้องส่องทางไกล แล้วเห็นทหารกลุ่มหนึ่งสวมชุดเกราะ ยืนถือหน้าไม้อยู่ที่สี่แยก ซึ่งอยู่ห่างออกไปห้าลี้ เพื่อตรวจสอบรถบรรทุกของที่ผ่านไปมาปกติจะมีคนมากกว่าสิบหรือยี่สิบคนที่สี่แยก เพื่อคอยตรวจสอบ แต่ที่นี่มีคนมากกว่าสองร้อยคน!และติดอาวุธครบมือ!สายตาตาของหวังหยวนมืดมน “ให้ขบวนรถเลี้ยวกลับไปดูถนนสายอื่นกันเถอะ!”แม้ว่าเขาจะได้เตรียมการแล้ว แต่หวังหยวนก็ยังตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงหากทำได้ขบวนรถม้าและรถบรรทุกหันหลังเดินทางไปอีกหนึ่งชั่วยาม ก่อนจะเลี้ยวไปยังถนนอีกสายหนึ่ง!ต้าหู่ที่ถือกล้องส่องทางไกล ขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่หยวน ที่นี่ก็มีจุดตรวจด้วย คนเยอะกว่าที่นั่นอีก มีสามร้อยคน และพวกเขาก็สวมชุดเกราะและถือธนูด้วย!”สายตาของหวังหยวนเคร่งขรึม “เช่นนั้นก็ไปดูกันว่าพวกเขามาจากไหน!”ช่องทางสองแห่งที่รถม้าสามารถผ่านไปได้ เป็นวิธีเดียวที่จะออกนอกเมือง และทั้งสองแห่งกลับถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาหากบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็คงไม่เชื่อกลุ่มรถม้าเดินหน้าต่อไปทหารกว่าสามร้อยนายเฝ้าทางแยกอย่างเข้มงวดทหารบางคนมีตัวอ้วน หูใหญ่ และหน้ามีเนื้อเต็ม ทำให้ดูสง่างามและทรงพลัง