แชร์

บทที่ 496

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
หลี่ซื่อหานใจสั่นสะท้าน แต่นางก็โต้กลับอย่างรวดเร็ว “สามีของข้าไม่รู้ว่าข้าอยู่ที่ไหนในเมืองโจว และมีคาราวานจากเมืองฝูมาที่เมืองโจวไม่มากนัก!”

สะใภ้ใหญ่ของตระกูลหลี่พ่นลมหายใจ “เจ้าก็ยังคงแก้ตัวให้เขาอยู่อีก ข้าคิดว่าเขาคงได้ภรรยาใหม่ไปแล้ว ส่วนเจ้าก็ยังรอเขาอยู่ที่นี่อย่างโง่เขลา!”

หลี่ซื่อหานขมวดคิ้ว “ไม่ สามีของข้าไม่ใช่คนเช่นนั้น พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านหยุดพูดได้แล้ว!”

“ซื่อหาน พี่สะใภ้ใหญ่กำลังทำเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง เจ้าอยากให้พี่สะใภ้เพิกเฉยต่อเจ้าหรือ!”

สะใภ้แห่งตระกูลหลี่กัดฟัน แล้วพูดว่า “หากเจ้าแต่งงานกับลูกชายของผู้ตรวจราชการมณฑล เจ้าอาจได้เป็นภรรยาขุนนางในอนาคต แต่หากยังรอชายบ้านนอกคนนั้นต่อไป อย่างมากเจ้าก็ได้เป็นแค่ภรรยาเจ้าของที่ดิน!”

หลี่ซื่อหานขมวดคิ้ว “ข้าไม่ได้อยากเป็นภรรยาขุนนาง ตราบใดที่สามีของข้าเต็มใจมีข้า ข้าก็ยินดีที่จะเป็นภรรยาเจ้าของที่ดิน!”

“เจ้าเต็มใจ แต่เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าพ่อของเจ้าเต็มใจหรือไม่ และจะรับเขาเป็นลูกเขยของตระกูลหลี่หรือไม่!”

สะใภ้ใหญ่ของตระกูลหลี่ถอนหายใจ “ท่านพ่อไม่อยากยอมรับเขา ตั้งแต่ตอนที่เขายังเรียนอยู่ ตอนนี้เขาเป็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
พระเอกส่งเมียกลับไปอยู่กับครอบครัวคงนึกว่าจะปลอดภัยสุดอันตรายหลายเท่ากว่าอยู่ในหมู่บ้านต้าหวังสะอีก เหมือนพระเอกโยนเมียลงไปในดงไฮยีน่าที่จะคอยรุมทึ้งทันทีที่เข้าไป ครอบครัวแบบนี้นืากลัว
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
ไป๋เฟยเฟยน่าจะส่งข่าวบอกพระเอกหน่อย พระเอกจะได้รีบมาช่วยนางเอก
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
ว่าแล้วมันต้องเป็นแบบนี้ หวังว่าพระเอกจะไปช่วยนางเอกได้ทัน นี่พี่สะใภ้เล่นจะส่งนางเอกให้ผู้ชายคนอื่นก่อนพระเอกจะมาอีก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 497

    หวังหยวนหันไปเห็นชิงเหอ ลูกพี่ลูกน้องที่น่ารักของเขาที่สวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ไปดูมาตั้งหลายครั้งแล้ว เจ้ายังดูไม่พออีกหรือ?”“ไม่ ข้ายังดูไม่พอ ท่านพี่จะไปกับข้าหรือไม่!”หลังจากอาการบาดเจ็บที่นิ้วหายแล้ว จ้าวชิงเหอก็จับแขนของหวังหยวนแล้วเขย่าต่อไป!“หยุดเขย่าได้แล้ว กลัวเจ้าแล้ว!”หวังหยวนกลอกตามองหญิงสาว แล้วรีบดึงแขนออก ใบหน้าแดงก่ำเล็กน้อยยายตัวแสบคนนี้ ไม่รู้หรือว่าตัวเองโตแล้ว ยังจะมากอดแนบชิดอีก!ตอนนี้ซื่อหานไม่อยู่ เขากับเมิ่งอิ๋งก็วางตัวตามมารยาท และเขาก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นด้วยการฝึกฝน จึงทนต่อการถูกกระตุ้นไม่ได้“เถอะน่าท่านพี่!”จ้าวชิงเหอไม่ได้สังเกตเห็น และยังคงกอดแขนของหวังหยวนอีกครั้ง แล้วเอาตัวมาเบียดเขาอย่างไม่ลดละเนื่องจากได้รับการช่วยเหลือจากหวังหยวนเมื่อครั้งที่แล้ว นางจึงไม่มีความขุ่นเคืองใด ๆ กับเขาอีกต่อไปทั้งสองกลับมารักกันเหมือนตอนเด็ก ๆ แล้ว!ทั้งสองมาถึงโรงงานหมายเลขห้า!เพื่อความปลอดภัยและการรักษาความลับ หวังหยวนได้แบ่งฐานการผลิตในปัจจุบันออกเป็นห้าโรงงาน!โรงงานแห่งที่หนึ่งผลิตเหล็ก ทำดาบราชวงศ์ถัง และหล่อเครื่องมือที่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 498

    นี่คือวิธีการสร้างคริสตัลที่หายากและล้ำค่า“ไม่เลว!”หวังหยวนดูอย่างเบื่อหน่ายด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันของต้าเย่ การสร้างแก้วใสคงเป็นเรื่องยากมาก!แต่ไม่มีปัญหาสำหรับเขา!มีเบ้าหลอมแกรไฟต์ดินเหนียว ที่สามารถเข้าถึงจุดหลอมเหลวสูงพอที่จะหลอมแก้วได้ แก้วใสสามารถผลิตได้ด้วยการใช้หินแก้ว และโซเดียมคาร์บอเนตที่มีความบริสุทธิ์สูง!นอกจากนี้เขายังทำท่อเหล็กขึ้นมา แล้วสอนคนเหล่านี้เป่าแก้วและทำงานฝีมือแต่เวลานั้นมีน้อยเกินไป ช่างเหล่านี้จึงทำได้เพียงเป่าแก้วด้วยทักษะปัจจุบันเท่านั้นแต่เขาไม่ได้รีบร้อนในยุคนี้ ตราบใดที่สร้างสิ่งประดิษฐ์จากแก้วใสได้ ก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่าแล้วเพียงแค่ทำลูกปัดแก้ว ถ้วยแก้ว และกระจกขึ้นมา ให้ตรงตามความต้องการของตลาดก็พอแล้ว“ท่านพี่ ท่านเก่งสุดยอด ท่านสร้างคริสตัลขึ้นมาได้อย่างไร!”ดวงตากลมโตของจ้าวชิงเหอเต็มไปด้วยความชื่นชมในตอนแรก นางรู้สึกว่าค่อนข้างสิ้นเปลือง เมื่อหวังหยวนไปที่เมืองเฮ่อเพื่อจัดตั้งกลุ่มขุดแร่!ตอนนี้เมื่อเห็นแก้วคริสตัล ก็เข้าใจทันทีว่ามูลค่าของมันสูงกว่าของดาบราชวงศ์ถังกัวเจิ้งไฉและช่างเป่าแก้วก็มองหวังหยวน แล้วรู้สึกชื่นชมยินด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 499

    ขาตั้งรองรับลำกล้องตั้งอยู่เงียบ ๆ บนชั้นสามหูเมิ่งอิ๋งถามด้วยความสงสัย “นี่คืออะไร?”“กล้องส่องฟ้า!”หวังหยวนชี้ไปยังช่องมองภาพ แล้วพูดว่า “เมื่อเจ้ามองผ่านจุดนี้ เจ้าจะมองเห็นดวงดาวและดวงจันทร์ บนท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ชัดเจน”ด้วยหยกน้ำ กระจกใสจึงถูกสร้างขึ้นมาได้ แล้วหวังหยวนก็สร้างเลนส์นูนและเลนส์เว้ามากมาย!ใช้เวลากว่าครึ่งเดือน ในการสร้างกล้องโทรทรรศน์ดาราศาสตร์ ที่มีกำลังขยายถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อให้คนในยุคนี้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เขาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นกล้องส่องฟ้า“น่าทึ่งมาก!”หูเมิ่งอิ๋งถามด้วยความประหลาดใจ “นี่เหมือนกับกล้องส่องทางไกล ที่ห้ามมองดวงอาทิตย์หรือเปล่า?”นางใช้กล้องส่องทางไกล มองเห็นทิวทัศน์ที่อยู่ห่างออกไปหลายลี้ และรู้ว่าจะต้องไม่ส่องดวงอาทิตย์หวังหยวนโอบเอวบางของนาง ดมกลิ่นผอมจากผมยาวสีดำขลับ แล้วตอบเบา ๆ “อืม มันจะทำให้เจ้าเจ็บตา แต่การดูดวงจันทร์และดวงดาวในตอนกลางคืนนั้นไม่เป็นอะไร!”หูเมิ่งอิ๋งรู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งตัว นางทิ้งตัวไว้ในอ้อมแขนของหวังหยวน หัวใจพลันเต้นเร็วขึ้น “คุณชาย ดวงจันทร์มีลักษณะเป็นอย่างไร มันเป็นไข่มุกเรืองแสงที่ส่องแสงยามค่ำค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 500

    “คุณชาย ข้าเปล่านะ!”หูเมิ่งอิ๋งหายใจถี่ แล้วหันหน้าหนีด้วยความยากลำบาก “ช่วงนี้ธุรกิจไปได้ดี สบู่กับน้ำตาลคริสตัลถูกขายให้กับเมืองหล่งหนานแล้ว พ่อค้าจากสองแห่งต้องการเจรจาเป็นตัวแทนขาย และต้องการให้เราเพิ่มกำลังการผลิตน้ำตาลคริสตัล ตอนนี้ใกล้ปีใหม่แล้ว น้ำตาลคริสตัลเป็นที่ต้องการสูง!”สบู่และน้ำตาลคริสตัลขายในเมืองจิ่วซานมานานแล้วทันทีที่ชิงเมี่ยนโช่ว ถูกกำจัดในเมืองเมืองหล่งหนานและเมืองเฮ่อ กองคาราวานก็มุ่งหน้าลงไปเปิดตลาดทางใต้ทันทีราคาขายส่งสบู่ก้อนละหนึ่งตำลึง และขายปลีกก้อนละสามตำลึง เป็นที่นิยมมากในหมู่ครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยขายน้ำตาลคริสตัลในราคาสามสิบก้วน สำหรับการขายส่ง และขายปลีกราคาหนึ่งร้อยก้วน มันถูกขายหมดทันทีที่ไปถึงตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ปีใหม่ สมบัติล้ำค่าอย่างขนมคริสตัล ที่จะนำไปเป็นของขวัญก็ขาดแคลนหวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ระงับแรงกระตุ้นตามสัญชาตญาณ “เจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว ข้าเชื่อในความคิดทางธุรกิจของเจ้า หากเจ้าต้องการเพิ่มกำลังการผลิต ก็เพียงแค่บอกโรงงาน!”เขาไม่ได้มีความสนใจเรื่องธุรกิจ ดังนั้นด้วยความช่วยเหลือของหูเมิ่งอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 501

    “สหายน้อย อารมณ์ของเขายังไม่เย็นลง เขายังต้องเรียนรู้อีกมาก!”หยางเฟิ่งกั๋วยื่นสมุดพับไปข้างหน้าพร้อมกล่าว “ผู้เฒ่าหยวน อ่านสมุดพับเล่มนี้สิ เสนาบดีกรมขุนนางแถลงข่าวอย่างเป็นทางการให้เลื่อนตำแหน่งขุนนางสามคนโดยอ้างอิงจากการประเมิน จากนั้นลดตำแหน่งเจ้าเมืองและแม่ทัพแห่งเมืองหลงหนานด้วยความผิดที่ว่าแม้แต่กบฏตัวเล็ก ๆ ก็ไม่อาจจัดการได้”ราชเลขานุการรับสมุดพับแล้วส่งต่อเจ้ากรมขุนนางหยวนกวนหลวนผู้มีหน้าที่เลื่อนตำแหน่งขุนนางทั่วแผ่นดินมองสมุดพับพลางหัวเราะเล็กน้อย “ท่านเสนาบดีฝ่ายซ้าย หวังพั่วหลู่ผู้นี้เป็นเฉียนจ๋ง แม้เราจะต้องการกำจัดเขา แต่ถ้าดูจากความดีความชอบในการปราบกบฏครั้งนี้แล้ว พวกเราจำต้องเลื่อนตำแหน่งให้เขาเสียก่อน ส่วนรักษาการนายอำเภอซุนไป๋ชวนจะได้เลื่อนขั้นเป็นนายอำเภอ และผู้ตรวจการสวีต้าโหย่วจะได้เลื่อนขั้นเป็นนายอำเภอเช่นกัน! สุดท้ายแล้วเจ้าเมืองหล่งหนานเหลียวชิงเจี๋ยและแม่ทัพเว่ยเฉิงก็จะถูกลดตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหยางจงกั๋วพยักหน้า!หยวนกวนหลวนเขียนบางอย่างลงบนสมุดพับก่อนยื่นให้ราชเลขานุการส่งต่อ!ในตอนนี้ชะตากรรมของคนทั้งห้าได้รับการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางเสียงหั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 502

    สีหน้าของฮ่องเต้พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกล่าว “หวังหยวนผู้นั้นมีบุญคุณก็จริง เขาให้การร่วมมือด้วยการคิดค้นหน้าไม้ซานกงฉวน และสร้างอาวุธวิเศษที่สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดายราวกับตัดโคลนตม ซึ่งช่วยให้สถานการณ์ของเราได้เปรียบอย่างมาก ถึงกระนั้นความดีงามเหล่านี้ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้ได้รับตำแหน่ง!”“หา!”อู๋หลิงมุ่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ฝ่าบาท เขาไม่เพียงแต่สร้างอาวุธเท่านั้น แต่กลยุทธ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เราชนะสงครามล้วนเป็นการวางแผนของท่านเสนาธิการทหารทั้งนั้น หากไม่มีเขา กองทัพของเราคงถูกโจมตีมากมายจนยากที่จะป้องกัน นับประสาอะไรกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ฝ่าบาทโปรดพิจารณา และให้ความเป็นธรรมแก่ท่านเสนาธิการทหารด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สาส์นกราบทูลหลายฉบับล้วนบันทึกความดีความชอบของเสนาธิการทหารไว้อย่างชัดเจน ทว่าฮ่องเต้กลับเพิกเฉยต่อความดีของเขาอู๋หลิงตั้งใจเดินทางเข้ามาในพระราชวังเพื่อเผชิญหน้ากับฮ่องเต้ เขาตัดสินใจแล้วว่าตนจะสาธยายข้อดีของเสนาธิการทหารผู้นี้ แม้จะต้องโทษประหารก็ตามเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านโหว แต่เสนาธิการทหารกลับถูกมองข้าม ซึ่งทำให้รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยตึง!ดวงตา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 503

    ฮ่องเต้ซิงหลงเยาะเย้ย “สาบานด้วยชื่อเสียงของบิดาเจ้างั้นรึ เขาเป็นทั้งหัวขโมยแล้วยังก่อกบฏอีก!”“ฝ่าบาท...”ดวงตาของอู๋หลิงแดงก่ำ ราวกับว่ามันจะระเบิดออก ขณะกำหมัดจนเส้นเลือดปูดโปน “บิดาผู้ล่วงลับของข้าเสียชีวิตไปนานแล้ว ได้โปรดอย่าหยามหยันเขาเลยพ่ะย่ะค่ะ!” ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง...ห่างออกไปยี่สิบจั้ง กลุ่มทหารองครักษ์รีบรุดไปข้างหน้าพลางชักดาบออกมา!“ถ้าข้าจะเหยียดหยามเขาเล่า เจ้ากล้าฆ่าฮ่องเต้งั้นรึ!”ฮ่องเต้ซิงหลงหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา จากนั้นก้าวถอยหลังออกห่างจากอีกฝ่ายพลางสาปแช่ง “ในตอนนั้นวังไห่เทียนเป็นเจ้าปัญญา ส่วนพ่อของเจ้าเป็นผู้บัญชาการทหาร ทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกับอ๋องติ้งลอบวางแผนชั่วเพื่อยึดบัลลังก์ของข้า ดังนั้นพวกมันจึงถูกข้าเปิดโปงและกำจัดทีละคน หากพวกมันไม่ใช่โจรกบฏ แล้วจะเป็นอะไรเล่า?”“ฝ่าบาท!”อู๋หลิงหลับตาพร้อมกัดฟัน “บิดาของกระหม่อมจงรักภักดีต่อราชสำนัก และไม่มีเจตนาใดแอบแฝง ในตอนที่อ๋องติ้งเขียนจดหมายถึงบิดากระหม่อมเพื่อขอให้ยกทัพไปช่วย แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะปฏิเสธ หากบิดาของกระหม่อมมีเจตนาแอบแฝงและเต็มใจช่วยอ๋องติ้งยึดบัลลังก์จริง ๆ กองทัพของราชสำนักคงไม่สามาร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 504

    เมื่อครู่ฮ่องเต้ซิงหลงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะลูกของขุนนางกบฏผู้นี้กล้าเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่กลัวเกรงหากไม่ใช่เพราะคำโน้มน้าวของเหล่าขุนนาง อีกฝ่ายคงถูกคุมขังและถูกประหารไปนานแล้ว เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตเมื่อเห็นสีหน้าของฮ่องเต้ซิงหลง อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหยางเฟิ่งกั๋วก็ดึงอู๋หลิงเข้ามาหาตนแล้วตำหนิว่า “อู๋หลิง เหตุใดเจ้าถึงทำให้ฝ่าบาทขุ่นเคืองพระทัย? หนำซ้ำยังไม่ร้องขอความเมตตาอีก เจ้ากลับมายังเมืองหลงไม่ถึงปีด้วยซ้ำ แต่อยากให้แม่และพี่น้องต้องทนทุกข์กับปัญหาที่เจ้าเป็นคนก่อรึ?”เมื่อตระหนักถึงมารดา น้องชาย และน้องสาวที่กำลังป่วย อู๋หลิงพลันรู้สึกขมขื่นไม่น้อย เขาคุกเข่าลงขณะที่ในใจแหลกสลายเป็นผุยผงไปแล้ว “กระหม่อมหยิ่งทะนงในความสำเร็จของตนเองมากเกินไปจนล่วงเกินพระองค์ แต่กระหม่อมไม่เคยคิดร้ายกับพระองค์เลย โปรดพระราชทานอภัยให้กระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาท!”หยางเฟิ่งกั๋ว หยวนกวนหลวน และฉินจ้านต่างจ้องมองภาพตรงหน้า!“ขุนนางเป็นคนตรงไปตรงมา และอุทิศตนเพื่อจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่ ดังนั้นข้าจะอภัยให้เจ้า!”ใบหน้าของฮ่องเต้ซิงหลงยังคงเฉยเมยราวกับกำลังมองดูศพ จากนั้นหันหลังกล

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status