Share

บทที่ 442

Author: ชวินเป่ยอี๋
“ไม่ว่าจะรู้ช้าหรือเร็วก็ไม่สำคัญ!”

หงเยี่ยหัวเราะเบา ๆ แล้วขี่ม้าไป “พี่สวีพี่จาง น้องขอตัวไปเดินเล่นก่อน!”

“เฮ้อ ช่างเป็นผู้หญิงที่ดีจริง ๆ ฉลาดและรู้ความมาก!”

เมื่อมองแผ่นหลังของหงเยี่ย ใบหน้าของเฮยเมี่ยนจินกังก็เคร่งขรึม “เจ้าหน้าขาว ข้าขอเตือนเจ้าเลยว่าข้าจองน้องหงเยี่ยแล้ว หากเจ้ากล้าต่อสู้กับข้า ข้าก็จะต่อสู้กับเจ้าแบบไม่ท้อถอย!”

เสี่ยวไท่ซุ่ยดุเขาด้วยความหงุดหงิด “ให้ตายเถอะ ทรัพย์สินของครอบครัวเรากำลังจะถูกคนอื่นผลาญหมดแล้ว แต่เจ้ายังคิดเรื่องผู้หญิงอยู่!”

เฮยเมี่ยนจินกังขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร?”

เสี่ยวไท่ซุ่ยกัดฟัน “ชิงเมี่ยนโช่วนำข้าวสามพันตานมาจากเมืองฝู และบอกว่ามันราคาหนึ่งแสนตำลึงเงิน ให้เราแต่ละคนจ่ายเงินเพิ่มอีกสองหมื่นตำลึง!”

“อะไรนะ!”

เฮยเมี่ยนจินกังกัดฟัน “ให้ตายเถอะ ข้าวสามพันตาน ราคามากกว่าหกหมื่นตำลึง พวกเราแต่ละคนได้จ่ายเงินไปสองหมื่นตำลึงแล้ว และเขายังต้องการให้พวกเราจ่ายเพิ่มอีก!”

“เขาบอกว่ามีสงครามอยู่ทุกหนทุกแห่ง และราคาข้าวก็พุ่งสูงขึ้น เราจึงจำเป็นต้องจ่ายเพิ่ม!”

เสี่ยวไท่ซุ่ยกัดฟันพูดว่า “ไม่เพียงแต่เรื่องเงินเท่านั้น เขายังต้องการให้พวกเรา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 443

    เหลิ่งอวิ๋นโบกมือด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “เฮ้ ข้าเป็นเพื่อนสนิทกับพี่อู่จั้งโหว เจ้าเป็นน้องสาวของเขา ก็เหมือนเป็นน้องสาวของข้าด้วย ไม่สำคัญว่าพี่จะให้ตำแหน่งเจ้าหรือไม่ แต่หากปฏิเสธก็จะเป็นการดูถูกพี่!”หงเยี่ยยิ้มฝืดเฝื่อนแล้วพยักหน้า “ขอบคุณพี่ชายเจ้าค่ะ!”“พี่น้องทั้งหลาย พวกเราก่อกบฏแล้ว จะไม่มีวันหันหลังกลับ!”เหลิ่งอวิ๋นมองไปรอบ ๆ แล้วตะโกน “ตอนนี้เราทำได้เพียงทำงานร่วมกัน เพื่อรีบก้าวไปข้างหน้า! หากเราประสบความสำเร็จ เราทุกคนจะเป็นวีรบุรุษในอนาคต หากเราล้มเหลว ชีวิตของเราก็ไม่ถือว่าสูญเปล่า เพราะสุดท้ายเราก็จะได้ฆ่าเจ้าของที่ดิน พวกผู้ดีและเจ้าหน้าที่ทุจริตที่กดขี่พวกเราได้!”กลุ่มโจรชุดเขียวส่งเสียงตอบรับแผ่วเบา!หลังจากความกระตือรือร้นในการกบฏในตอนแรกเริ่ม สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คือความหวาดกลัว!พวกเขากลัวว่าหากจู่ ๆ ราชสำนักส่งทหารมาโจมตี ไม่เพียงแต่พวกเขาจะตายด้วยข้อหาก่อกบฏ แต่ญาติและเพื่อนของพวกเขาก็จะถูกกวาดล้างด้วย แม้แต่สุนัขทุกตัวที่พวกเขาเลี้ยงที่บ้านก็จะถูกตัดหัวไปด้วย!“ข้าตัดสินใจให้ทุกคนมารวมกัน เพื่อกำหนดตำแหน่งในกองทัพ!”เหลิ่งอวิ๋นหยิบข้อความที่เขาเตรียมไว้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 444

    “อะไรนะ เขาหรือ!”ดวงตาของเหลิ่งอวิ๋นมืดมน จิตสังหารฉายชัดเจ้าหน้าหล่อคนนั้น อาศัยความสามารถในการเขียนบทกวีชั้นเลว เขาไม่เพียงแต่ล่อลวงคุณหนูใหญ่ก่อนหน้านี้เท่านั้น ตอนนี้แม้แต่น้องหงเยี่ยก็ยังตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา!เขาสมควรตายจริง ๆ!หงเยี่ยกล่าวว่า “พี่ชิงเมี่ยน ดูเหมือนว่าท่านจะรู้จักเขา!”เหลิ่งอวิ๋นหัวเราะเบา ๆ “ข้าเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน แต่ข้าไม่เคยพบเขาด้วยตนเอง เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนของเจ้า ข้าย่อมเปิดทางให้!”“พี่ชิงเมี่ยน ท่านเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ใช่เพื่อนของข้า นี่เป็นเพียงข้อตกลงระหว่างข้ากับเขาเท่านั้น!”หงเยี่ยอธิบายและหันกลับมา “อาเจี้ยน ทุกอย่างได้รับการตัดสินแล้ว และข้อตกลงระหว่างข้ากับเขาก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ท่านสามารถกลับไปบอกเขาได้ ส่วนข้าจะกลับไปอีเซี่ยนเทียนด้วยตัวเอง”ผิงเจี้ยนกำหมัดแน่นแล้วหันหลังกลับ!ต้องรีบกลับไปโดยเร็ว เพื่อบอกนายท่านว่าคำสัญญาของชิงเมี่ยนโช่วผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือ เพราะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเขา!“เถียนชี เจ้าจงออกไปบอกพี่น้องทั้งหลาย ว่าอย่าทำให้ชายชื่อหวังหยวนต้องลำบาก!”เหลิ่งอวิ๋นหันไปออกคำสั่ง ดวงตาของเขาเหี้ยมเกรียม ขณะเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 445

    อาจารย์จ้าวหลังค่อมขมวดคิ้ว “ท่านขุนพล ท่านจับผิงเจี้ยนคนนั้น แล้วยังพยายามจะโจมตีหวังหยวนนั่นด้วย!”“ใช่!”เหลิ่งอวิ๋นโบกดาบราชวงศ์ถังด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “ข้าต้องการให้เขามาที่สันเขาเชียนเฮ่อ หากเขามา ข้าจะถือโอกาสฆ่าเขา หากเขาไม่กล้ามา ข้าจะเขียนจดหมายถึงคุณหนูใหญ่ บอกว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด กลัวความตาย ซึ่งคนเช่นนั้นไม่ควรทุ่มเททำงานให้ด้วยซ้ำ และไม่คู่ควรที่นางจะไว้วางใจถึงขั้นฝากชีวิตด้วยตลอดชีวิต!”“...”อาจารย์จ้าวหลังค่อมสะดุ้ง จากนั้นส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ท่านขุนพล ท่านไม่สามารถฆ่าเขาได้!”เหลิ่งอวิ๋นเลิกคิ้วถาม “เหตุใด!”อาจารย์จ้าวหลังค่อมถอนหายใจ “เขาเขียนประโยคทั้งสี่ของหมิงถัน ส่งจ้าวเว่ยหมินเมืองเฟิงไหล ทั้งสองนี้เป็นกลอนสี่บรรทัดที่มีชื่อเสียงตลอดยุคสมัย จึงมีพื้นที่ในโลกวิชาการแล้ว หากท่านฆ่าเขา ท่านจะมีชื่อเสียงไม่ดีทันที ในอนาคต ท่านจะไม่สามารถรับสมัครบัณฑิตมาใช้งานได้! ในการพิชิตโลก ท่านไม่เพียงต้องการขุนพลเท่านั้น แต่ยังต้องมีบัณฑิตด้วย ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้!”“นั่นมันไม่ยากเลย ก็แค่ฆ่าเขาโดยไม่ให้ใครรู้สิ!”เหลิ่งอวิ๋นยกยิ้มกระหยิ่มใจ “อาจารย์จ้าว เขี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 446

    “เจ้าพูดถูก!”อู่จั้งโหวพยักหน้าและโบกมือ “ไปเถอะ ไปพบกับเสนาธิการทหารอย่างจริงใจ เราจะไม่เสแสร้งใด ๆ”...หวังหยวนกลับบ้าน มองไปยังชายชราและวัยรุ่นสองคน “พวกเจ้ามาจากเมืองเฮ่อหรือ?”“นายท่าน ข้าชื่อซานฮั่วฉิน นี่คือลูกชายสองคน ฉินต้าโก่วและฉินเอ้อร์โก่วขอรับ!”ซานฮั่วฉินคุกเข่าลงบนพื้น ชี้ไปยังลูกชายสองคนของเขา แล้วเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น จากนั้นเขาก็เช็ดน้ำตาฉินต้าโก่วและฉินเอ้อร์โก่วมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ รู้สึกประหลาดใจและสับสน!ในความคิดของพวกเขา พวกเขาน่าจะได้เจอเศรษฐีที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่!แต่บ้านหลังนี้ดูดีกว่าบ้านธรรมดาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!แต่นอกบ้านมีบ้านอิฐกระเบื้องหลายหลังที่กำลังก่อสร้าง และมีชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้มมากมาย!นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในพื้นที่ชนบททั่วไป!“ผู้เฒ่า รีบลุกขึ้นเถอะ!”หวังหยวนช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ข้าดีใจมากที่พวกเจ้าสามารถมารายงานข่าวได้!”ทั้งสองแห่งอยู่ห่างกันกว่าหนึ่งร้อยลี้ มันไม่ง่ายเลยที่คนธรรมดาจะเดินทางไกลได้ถึงเพียงนี้!“นายท่าน พี่ผิงเจี้ยนและแม่นางหงเยี่ยถูกพวกโจรจับไป เพียงเพร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 447

    เอ้อหู่พูดตะกุกตะกัก “#หลง #มี อย่ามา!”เขาเพิ่งเรียนรู้การอ่านตัวอักษรเมื่อไม่นานมานี้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถจำตัวอักษรทั้งหมดที่ขีดเส้นใต้ได้ต้าหู่จำตัวอักษรได้เยอะกว่า “ชิงหลง #มีอันตราย #อย่ามา!”หวังหยวนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หุบเขาชิงหลงนั้นมีอันตราย อย่ามา!”ต้าเย่อ่านและเขียนหนังสือในแนวตั้ง!เมื่อครู่นี้เขาเหลือบมองโดยไม่รู้ตัว และเห็นการเขียนบรรทัดในแนวนอนเช่นนี้ เนื่องจากนิสัยการอ่านและการเขียนของเขาในชาติที่แล้วเอ้อหู่จ้องมอง “พี่หยวน จดหมายนี้หมายความว่าอย่างไร? หากดูเผิน ๆ ก็บอกให้ไป แต่ดูดี ๆ กลับไม่อยากให้ไปใช่หรือไม่? แล้วอาเจี้ยนและโจรหญิงหงเยี่ย ก็ไม่ได้อยู่ในขุนเขาเฮยสรงใช่หรือไม่ เหตุใดพวกเขาถึงกลับไปที่หุบเขาชิงหลงอีกแล้ว ที่นั่นเป็นอาณาเขตของชิงเมี่ยนโช่ว!”ต้าหู่ขมวดคิ้ว “พี่หยวน ชิงเมี่ยนโช่วได้ก่อกบฏแล้ว หากอาเจี้ยนอยู่ที่นั่น เหตุใดเขาถึงยอมให้ท่านเสี่ยง ต้องมีบางอย่างผิดปกติกับจดหมายฉบับนี้!”“ข้าเข้าใจ!”สายตาของหวังหยวนเคร่งขรึม “อาเจี้ยนและหงเยี่ยมาถึงหุบเขาชิงหลงแล้ว และจดหมายนี้ถูกส่งมาทีหลัง พวกเขาตกไปอยู่ในมือของชิงเมี่ยนโช่วแล้ว!”ครั้งสุดท้าย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 448

    ชิงเมี่ยนโช่วคนนี้คงกินยาผิดไปแล้ว ถึงได้กล้าโจมตีเสนาธิการทหาร นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายหรือ!เซี่ยซานหู่ก็รีบพูด “ท่านอาจารย์ ข้าก็อยู่ข้างท่านเช่นกันขอรับ!”หวังหยวนหรี่ตายกยิ้ม “เช่นนั้นข้าจะให้พวกเจ้าทำงานบางอย่าง”พวกเขาทั้งสองพูดขณะตัวสั่นเทา “ทำทุกอย่างที่ท่านต้องการขอรับ!”...กัวฉางพาสามคนพ่อลูก ซานฮั่วฉิน ฉินต้าโก่ว และฉินเอ้อร์โก่วไปที่โรงอาหารหลังจากบอกแม่ครัวแล้ว กัวฉางก็พาทั้งสามคนไปยังถังเก็บน้ำที่อยู่ถัดจากโรงอาหารหลังจากเตรียมน้ำร้อนให้สามคนพ่อลูก และหยิบสบู่ออกมา กัวฉางก็สอนวิธีล้างมือให้พวกเขา!ปัจจุบันเป็นธรรมเนียมของหมู่บ้านต้าหวัง ว่าจะต้องล้างมือและใส่ใจเรื่องสุขอนามัยก่อนกินข้าวสามคนพ่อลูกหยิบสบู่มาล้างมือ เมื่อน้ำในอ่างกลายเป็นสีดำ พวกเขาก็ตกตะลึง“สบู่หอมนี้ใช้ง่ายมาก เหตุใดถึงล้างได้สะอาดนัก พวกเจ้าทุกคนใช้สิ่งนี้ล้างหน้าด้วยหรือเปล่า!”ใบหน้าของซานฮั่วฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อคิดดูแล้ว คนในหมู่บ้านต้าหวังมีมือและใบหน้าที่ขาวสะอาดมากกัวฉางยิ้มอ่อน “นี่ไม่ใช่สบู่หอม แต่เป็นสบู่ที่คิดค้นโดยนายท่าน ซึ่งขายในตลาดในราคาสามตำลึงเงินต่อก้อน!”“

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 449

    กัวฉางคลี่ยิ้ม “ไม่ใช่วันพิเศษหรอก นี่คือชีวิตตามปกติของเรา!”“กินเช่นนี้กันทุกวันเลยหรือ?”ซานฮั่วฉินมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ ฉินต้าโก่ว และฉินเอ้อร์โก่วก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน!อาหารนี้อร่อยกว่าที่พวกเจ้าของที่ดินกินเสียอีก คงจะดีไม่น้อยหากคนได้กินข้าวอิ่มทุกวัน จะทำให้ครอบครัวได้กินเนื้อทุกวันเช่นนี้ได้อย่างไร!“ผู้มีพระคุณของข้ากลัวว่าพวกเราจะไม่ยอมกินข้าว จึงสร้างโรงอาหารขนาดใหญ่แห่งนี้ขึ้นมา”กัวฉางอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ดูแลอาหารสองมื้อต่อวัน ผักหนึ่งจาน ซุปหนึ่งอย่าง และเนื้ออย่างน้อยสามตำลึง สามารถกินข้าวฟ่างและซาลาเปาไส้เนื้อได้ตามต้องการ”“อ๊ะ!”ซานฮั่วฉินตกตะลึงหากแค่ฟัง พวกเขาคงไม่เชื่อ แต่หลังจากมองพวกชาวบ้านดี ๆ ก็เชื่อทันที!พวกชาวบ้านใบหน้ามีเลือดฝาดและแก้มอ้วน แตกต่างจากคนหิวโหยที่มีร่างผอมกระหร่องทั่วไปฉินต้าโก่วเม้มปาก แล้วพูดว่า “ไม่น่าแปลกใจเลย ที่มีคนมาทำงานให้กับนายท่านหวังมากมาย อาหารอร่อยมาก ต่อให้จะไม่ได้เงินตอบแทนก็จะมาทำงานที่นี่!”ฉินเอ้อร์โก่วก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน“จ่ายเงินให้ทุกคนด้วย!”กัวฉางรีบแก้ไข “ทุกคนที่ทำงานให้กับนายท่านจะได้รับค่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 450

    ตอนนี้เขาเรียนรู้ จนสามารถอ่านเขียนได้เกือบร้อยตัวอักษรแล้ว เข้าใจวิชาดาบร้อยศึกและวิชาหอกตระกูลอู๋ ที่ผู้มีพระคุณนำกลับมาจากเมืองแล้วเป็นส่วนใหญ่ “โอ้โห!”ความปรารถนาฉายแววเป็นประกายในสายตาของสามพ่อลูก!ในหมู่บ้านต้าหวัง หากทำงาน ก็จะมีอาหารและเสื้อผ้าเพียงพอ และอนาคตก็เต็มไปด้วยความหวัง!ไม่เหมือนหมู่บ้านบนภูเขาที่มีโจรอยู่ข้างหลัง และมีฝ่ายราชการอยู่ข้างหน้า ครอบครัวของพวกเขาทำงานหนักมาเป็นปี ต้องจ่ายภาษีเยอะ ไม่มีอาหารพอให้อิ่มท้อง ซานฮั่วฉินเม้มปาก แล้วพูดว่า “ข้าอิจฉาพวกเจ้าที่มีพระโพธิสัตว์ที่ดีเช่นนายท่านหวังอยู่ในหมู่บ้าน!”กัวฉางยิ้ม “อย่าอิจฉาพวกเราเลย พรุ่งนี้นายท่านจะไปที่สันเขาเชียนเฮ่อ วันชื่นคืนสุขของพวกเจ้ากำลังจะมาในอีกไม่ช้าแล้ว“เป็นไปได้หรือ?”ซานฮั่วฉินไม่อยากจะเชื่อเลย!พูดตามตรง แม้ว่าชาวบ้านจะรวบรวมหยกน้ำ แล้วขนส่งไปยังเมืองถงมู่และเมืองฝูแต่มากที่สุด พวกเขาก็ได้เพียงอาหารและเสื้อผ้าที่เพียงพอ แต่คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ชีวิตแบบคนในหมู่บ้านต้าหวังเช่นนี้ เพราะต้องผ่านอาณาเขตของโจรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ได้แก่ขุนเขาเฮยสรง สันเขาไป๋หู และหุบเขาชิงหลง

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status