"เอาล่ะ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว!"หวังหยวนตบไหล่บางและปลอบเบา ๆ ด้วยสีหน้าเข้าอกเข้าใจ!ผู้หญิงเวลาลำบากก็ควรมีไหล่ไว้พิงเสมอ!ในฐานะเพื่อน เขาทำได้ดีกว่าซุนปังซะอีก!ในขณะนี้ เอ้อหู่เดินเข้าไปแล้วพูดว่า "พี่หยวน ผู้กำกับซุนมาที่นี่พร้อมกับทหารแล้ว!""คุณชาย!"หูเมิ่งอิ๋งรับปล่อยมืออย่างรวดเร็ว มีร่องรอยของความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ของนาง: แม้ว่าคุณชายจะมีชื่อเสียง แต่เขาไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้ และผู้กำกับซุนยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วย!“เอาเถอะ ไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการเอง!”หลังจากลูบจมูกเล็ก ๆ และลูบหัวอาเป่าแล้ว หวังหยวนก็เดินออกจากบ้าน!จากนั้นพวกเขาก็เห็นผู้กำกับซุนล้อมรอบลานบ้าน พร้อมกับกลุ่มทหารที่ถือหน้าไม้และสวมชุดเกราะหนังเอาไว้หูซานเต๋อซึ่งขาหักตะโกนอย่างบ้าคลั่ง: "ผู้กำกับซุน ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว เจ้าต้องให้ความเป็นธรรมกับข้า ไอสารเลวนี่บุกเข้าไปในห้องหลานของข้า เขาหักขาข้าและเข้ามาข่มเหงหลานสาวของข้า เป็นเรื่องชั่วร้ายมาก ขอให้เจ้าให้ความเป็นธรรมกับข้าด้วย ฮือ ฮือ ฮือ!”“หวังหยวน เจ้าบังอาญมาก!”แววตาผู้กำกับซุนเคร่งเครียด เขาพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า: "ในอดีตเจ้าพ
เพี้ยะ!เอ้อหูไม่พอใจและตบหน้าเขาฉาดใหญ่อีกครั้ง: "ถ้าเจ้ากล้าที่จะดูหมิ่นพี่หยวนอีก ต่อให้ข้าจะลาออกจากตำแหน่งนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!""ขอรับ ขอรับ ขอรับ!"โดนตบไปสองที แก้มด้านซ้ายและด้านขวาอย่างละรอย และรอยนิ้วมือสิบนิ้วมีความสมมาตรพอดีเป๊ะ ผู้กำกับซุนพยักหน้าหงึก ๆท่าทางอ่อนน้อมประจบประแจงนี้ทำให้เอ้อหู่รังเกียจมากขึ้นไปอีก: "ยิ่งมองเจ้ามากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเท่านั้น รีบพาคนของเจ้าออกไปซะ!""ขอรับ ขอรับ ขอรับ!"ผู้กำกับซุนพยักหน้าและโค้งคำนับ นำทหารยามจากไปด้วยความหดหู่ใจในลานบ้าน สีหน้าของหูซานเต๋อดูไม่ได้ เขาคลานไปหาหวังหยวนด้วยความหวาดกลัว: "คุณชายหวัง ข้าผิดไปแล้ว ข้ามีตาแต่หามีแววไม่ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ!"หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ: "ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ให้โอกาสเจ้ามาทำร้ายพวกเราต่อไปงั้นรึ!"“ไม่ ๆ ข้าจะไม่ทำร้ายใครอีก ข้าจะสำนึกผิดอย่างแน่นอน ได้โปรดเมตตาข้าด้วย!”หูซานเต๋อร้องขอชีวิตอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่มีทีท่าอะไรเลยสักนิด เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนไปที่ลานบ้านข้างใน: "เมิ่งอิ๋ง เห็นแก่ลุงรองขอร้องคุณชายหวัง ไว้ชีวิตลุงรองด้วย ลุงรองสำนึกผิด
เขาไม่สนใจแล้ว พอมาถึงห้องสายตรวจ เขารอสายตรวจอยู่ที่นั้น!ตอนนี้เขาสับสน!ตอนนี้หวังพั่วหลู่ได้รับตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกองพันหลักขั้นหก เขากลับยังคงติดตามหวังหยวนในฐานะผู้คุ้มกันจ้าวเว่ยหมินเคยเป็นข้าราชการระดับสูงในราชสำนัก ฟู่ชิงเป็นผู้กำกับตรวจการของราชสำนัก พวกเขาต่างปฏิบัติต่อหวังหยวนอย่างสุภาพมาก!นี่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาอาจเข้าใจผิดหวังหยวน และคาดเดาภูมิหลังของเขาผิดไป!ตอนนี้เขาต้องการความชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนหนามตำใจให้เขาคิดสงสัยอยู่ร่ำไปหลังจากนั้นไม่นาน ผู้ตรวจการสวี่ก็กลับมาที่ว่าการพร้อมกลุ่มเจ้าหน้าที่เมื่อเห็นรอยตบบนใบหน้าของผู้กำกับซุน กลุ่มสายตรวจก็เม้มริมฝีปากกลั้นหัวเราะ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทุกคนรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลหูอยู่แล้วผู้กำกับซุนกล่าวว่า: "ผู้ตรวจการสวี่ ข้ามีอะไรจะถามเจ้าเป็นการส่วนตัว!"ผู้ตรวจการสวี่โบกมือให้สายตรวจรีบออกไปและพูดอย่างสุภาพ: "เชิญนายท่านว่ามาเถอะ!"แม้ว่าจะรู้สึกดูถูกรักษาการแทนนายอำเภอ แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกมาทางสีหน้าได้!ผู้กำกับซุนยกมือคารวะเขา: "ข้าอยากรู้ภูมิหลังของหวังหยวน ได้โปรดให้คำแนะนำข้าด้วย!""นายท
ชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นพูดเร่ง: "รีบพูดเร็ว!"อาจารย์จ้าวหลังค่อมกล่าวว่า: "ท่านแม่ทัพ เดิมทีหวังหยวนเป็นบัณฑิตในหมู่บ้านต้าหวัง เขาแต่งงานกับคุณหนูหลี่จากในเมืองเมื่อสามปีที่แล้ว!""อะไรนะ!"ชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นขมวดคิ้วกำหมัดแน่น: "ที่แท้เขาก็แต่งงานแล้ว!"คุณหนูตกหลุมรักผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ความกล้าหาญกับฝีมือการต่อสู้สูงส่งนั้นกลับไม่เข้าตานาง อาจารย์จ้าวหลังค่อมพยักหน้าและกระซิบต่อว่า: "เดิมที หวังหยวนเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่สองเดือนที่ผ่านมานั้น เขาก็แสดงความสามารถด้านบทกวีของเขาและประพันธ์ 'บทกวีหมิงถัน' เป็นที่ชื่นชอบของจ้าวเว่ยหมินนายอำเภอฝู เขายังได้ทำลายล้างค่ายซานหู่ของเมืองฝู ด้วยการสนับสนุนของจ้าวเว่ยหมิน เขาได้ทำลายตระกูลหลิวที่มีอำนาจในเมืองด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง เขาเดินทางกลับมาครั้งนี้ เขาได้นำยอดฝีมือมากมายมาด้วย ไม่เพียงแต่ทำลายแค่ตระกูลโจวเท่านั้น แต่เขายังฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้สังหารป๋อหม่าเฉียนด้วย!”วันนี้ออกไปข้างนอก ได้พยายามอย่างมากที่จะทำความเข้าใจสถานการณ์ของหวังหยวนอย่างคร่าว ๆ!หลังจากได้รู้ "บทกวีหมิงถัน" เขาที่เรียนหนังสือมาเก
“หูเทียน ข้าไม่ได้เจอเจ้ามาตั้งหลายปีแล้ว ท่าทางฝีมือเจ้าพัฒนาขึ้นมาก!”ชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นหัวเราะพลางบ่นไป จากนั้นก็ชวนคุยเปลี่ยนเรื่องว่า "คุณหนูใหญ่ให้เจ้ามารึ!""ขอรับ!"หูเทียนพูดเข้าประเด็นเลยว่า: "คุณหนูใหญ่บอกว่าไม่สามารถขนอาหารไปยังอำเภอเฮ่อให้ท่านได้ ทำได้แค่วางไว้ในเมืองใกล้ ๆ กับอำเภอเฮ่อเท่านั้น ขอให้ท่านไปรับของเองนะ แต่จำไว้ว่าห้ามทำร้ายใครเด็ดขาด!”ชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นขมวดคิ้ว: "คุณหนูใหญ่จริง ๆ หมายความว่าแบบนี้จริงรึ!"ปล่อยให้เขาไปเอาเองแบบนี้ ก็เท่ากับว่าเป็นการบอกฐานะของเขาอย่างชัดเจนว่าคืออะไร!การที่เขาไปหาหูเมิ่งอิ๋งขอเสบียงนั้น มันมีความหมายบางอย่างแอบแฝงอยู่ เป็นการผูกมัดความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ไว้การได้รับเสบียงแบบนี้ ก็จะไม่มีข้อผูกมัดทั้งสองไว้"...ขอรับ!"หูเทียนพยักหน้าอย่างจริงจังเดิมทีคุณหนูวางแผนที่จะส่งคนของตระกูลหูไปส่งเสบียงให้ แต่ท่านบัณฑิตได้คัดค้านไว้!ชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นฝืนยิ้มออกมา: "เดี๋ยวเถอะหูเทียนเจ้านี่มัน เจ้าโกหกข้าได้จริง ๆ งั้นรึ เจ้าลืมไปแล้วว่าใครสอนวรยุทธ์ให้เจ้า!"หูเทียนรีบอธิบายทันที: "พี่เหลิ่งอว
ชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียด: "หูเทียน ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ถือว่าข้าเป็นพี่ชายแล้วสินะ! ข้าสอนวรยุทธ์ให้เสียเปล่าจริง ๆ!"“พี่อวิ๋น ข้าขอบคุณท่านเสมอที่สอนวรยุทธ์ให้ข้า แต่ข้าขอบคุณคุณหนูใหญ่มากกว่า!”หูเทียนใจสั่นไปหมด เขากัดฟันพูดออกมา: "ท่านได้รับการช่วยเหลือจากคุณหนูใหญ่ให้ฝึกฝนผู้คุ้มกันของนาง ข้าได้รับเลือกจากคุณหนูใหญ่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ข้ากินอยู่ล้วนได้จากคุณหนูใหญ่ทั้งนั้น อะไรก็ตามที่คุกคามความปลอดภัยของคุณหนูใหญ่ ข้าจะปกป้องและอยู่เคียงข้างคุณหนูใหญ่!”"เจ้า!"ดวงตาของชิงเมี่ยนหลาง เหลิ่งอวิ๋นทอประกายเย็นชา เขาก็คว้าด้ามดาบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว!"ท่านแม่ทัพ!"อาจารย์จ้าวหลังค่อมเข้ามาจับเหลิ่งอวิ๋นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "น้องชาย พวกเราจะทำตามที่คุณหนูใหญ่ของเจ้าบอก แค่บอกตำแหน่งที่วางเสบียงก็พอแล้ว เดี๋ยวเราจะเตรียมคนไปขนเอง!"หลังจากเขียนให้ที่อยู่แล้ว หูเทียนก็หันหลังกลับไป: "พี่ชายอวิ๋น ท่านบัณฑิตฝากบอกว่าด้วยเสบียงอาหารนี้ หนี้บุญคุณทุกอย่างของคุณหนูใหญ่ที่เคยติดค้างท่าน ทุกอย่างจะไม่มีอะไรติดค้างกันอีก"“ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก!”เมื่อเห็นหู
“อะแฮ่ม!”หวังหยวนตัวแข็งทื่อ “เจ้ามีเรื่องดี ๆ อะไรจะบอกหรือเปล่า?”ใบหน้าสวยของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นสีแดง “คุณชาย ตั้งแต่กลับมาจากหมู่บ้านต้าหวัง ก็ไม่ได้เจอท่านทุกวัน ยามค่ำคืนข้าพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ”นางไม่รู้ว่าชายคนนี้เติมเต็มทั้งร่างกายและจิตใจของนางตั้งแต่เมื่อใด!กินไม่ได้นอนไม่หลับทุกวัน หากไม่ได้เจอเขาก่อนทำศึกกับชาวหวง นางได้รวบรวมความกล้าที่จะสารภาพรัก แต่ในขณะนั้นนางยังขาดความกล้าหาญตอนนี้นางไม่อยากทนทุกข์อีกต่อไปแล้ว นางต้องการคำตอบที่ชัดเจนแม้ว่าคุณชายจะไม่ชอบนาง แต่นางก็จะแค่ทำงานให้หนัก และจะไม่คิดไร้สาระอีกต่อไปแล้วหวังหยวนตกใจ “เจ้า เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดมาก หรือเครียดจนนอนไม่หลับ?”ผู้หญิงยุคนี้ทุกคนขี้อายมาก มักจะละอายใจแสดงความรู้สึกออกมาคำสารภาพนี้ช่างยากลำบากนัก!“คุณชาย ข้าชอบท่าน!”หูเมิ่งอิ๋งซบหน้าลงบนไหล่กว้าง น้ำตาไหลอาบแก้ม “ข้ารู้ว่าข้าไร้ยางอายมาก! ข้ารู้ว่าท่านกำลังจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผู้หญิงที่เสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นข้า ไม่คู่ควรที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ไม่ต้องพูดถึงการได้รับความโปรดปรานจากท่าน แต่ข้าแค่ควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้
หลังจากกระซิบเสียงแผ่วเบา หูเมิ่งอิ๋งก็ยืนเขย่งเท้า แล้วริมฝีปากสีแดงของนางก็ประทับลงไป!ดวงตาของหวังหยวนเบิกกว้าง เขาถูกจุมพิตอย่างแรง ยังคงรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้น!หลังจากจุมพิต หูเมิ่งอิ๋งก็หน้าแดงก่ำ แล้วหันหลังเตรียมวิ่งหนีไป!ก้าวไปยังไม่ทันถึงสองก้าว นางก็ถูกคว้าตัวดึงกลับไป!“ยังไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงก็ถูกจูบแล้ว ข้าไม่อยากเสียหน้า!”หวังหยวนเรียกร้องความยุติธรรมอย่าง “ร้ายกาจ!”“อืม!”“อื้ม!”ทั้งสองไม่อาจผละจากกันได้ชั่วขณะหนึ่ง ร่างกายแนบชิดดั่งติดกาว สิ้นเสียงอสุนีบาตร ไฟอันเร่าร้อนบนโลกถูกปลุกขึ้น!ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กน้อยดังขึ้น “พี่หยวน พี่สาว พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่”ทั้งสองรีบแยกออกจากกันราวกับถูกไฟฟ้าช็อต!ใบหน้าของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นแดงก่ำจนถึงใบหู นางเขินอายมากจนอยากจะซ่อนตัว “อาเป่า พี่สาวอยู่กำลัง กำลัง ... “หวังหยวนยิ้มอ่อน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อาเป่า พี่สาวของเจ้าฟันผุเพราะกินขนมหวานมากเกินไป พี่หยวนกำลังจะช่วยกัดแมงกินฟันให้นาง จำไว้ว่าต่อไปเจ้าไม่ควรกินขนมหวานมากเกินไป ไม่เช่นนั้นฟันจะผุหมด!”“...พี่หยวน เช่นนั้นท่านก็ช่วยกัดแมงกินฟันให
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห