Share

บทที่ 40

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อเห็นการสนับสนุนของหวังหยวน เอ้อหู่ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

แปะ แปะ แปะ…

ชาวบ้านก็ปรบมือเบา ๆ

พวกเขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากได้มัน แต่เป็นเพราะคนจนไม่มีคุณสมบัตินั้น

ตราบใดที่สามารถทำเงินได้ ต่อให้ขาหักก็ไม่สำคัญ

หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ด้วยวิธีนี้ กลุ่มขายปลาจะขยายเป็นสามสิบคน แล้วแบ่งออกเป็นสามกลุ่มทุกวัน กลุ่มหนึ่งจะไปประจำที่เทศบาล กลุ่มที่สองจะไปตลาด และกลุ่มที่สามจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน โดยจะไปที่เทศบาลทุก ๆ สามวัน จำนวนเกวียนล่อก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นสามเล่ม เมื่อออกไปให้ใช้สองเล่มขนปลา ทุกคนผลัดกันนั่งในเกวียนเล่มหนึ่ง เมื่อทุกคนกลับมาแล้วก็ขึ้นเกวียน จะสามารถลดระยะทางเดินได้สามสิบลี้ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเหนื่อยมาก”

“ไม่ ไม่ได้ นี่มันดีเกินไป ไม่จำเป็นต้องพักระหว่างทำงานก็ได้!”

“การสรรหาคนเพิ่มอีกยี่สิบคนจะต้องใช้เงินเยอะขึ้น หวังหยวน เจ้าทนได้หรือ?”

“คนชนบทอย่างพวกเราไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น ต่อให้ต้องเดินเพิ่มอีกแปดลี้ สิบลี้ก็ไม่หวั่น”

ชาวบ้านถึงกับหลั่งน้ำตาคัดค้าน

นี่เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับพวกเขา ดีจนพวกเขาไม่กล้าแม
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 41

    ชาวบ้านทั้งหมดเงียบกริบ มีสถานที่ขายปลาเพียงสองแห่งเท่านั้น คือตลาดและเทศบาลมีสิบสามเขตในเมืองฝู แต่ละเขตจะมีตลาดจัดขึ้นทุก ๆ สองวัน จึงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถซื้อปลาได้ขายปลาไม่ง่ายเหมือนขายที่เทศบาลหากการขายปลาในเทศบาลมีปัญหา หากพวกเขาจับปลาได้เยอะก็จะขายไม่ออกหวังหยวนหรี่ตา “น่าวซานเจียงเล่นไม่ซื่ออีกแล้วหรือ?”หวังซื่อไห่ส่ายหน้า “น่าวซานเจียงตกต่ำไปแล้ว ตลาดปลาค่อนข้างวุ่นวาย เมื่อสามวันก่อนที่ตลาดปลา น่าวซานเจียงถูกหักขาในตลาดปลา พวกลูกสมุนของเขาก็ย้ายฝั่ง และเริ่มเก็บค่าคุ้มครองอีกครั้งในตลาดตงซื่อ คนผู้นั้นยังบอกด้วยว่าจะไม่ทำร้ายเรา แต่บอกเราว่าไม่ให้พูดเรื่องเหลวไหลกับคนนอก”“ฝานเจียงหลง!”หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ “เป็นเพียงลูกสมุน แต่ยังคงเป็นตัวแทนของสิงซาน!”“น่าจะเป็นเช่นนั้น!”เนื่องจากทุกวันนี้มีประสบการณ์มากขึ้น และได้รับความรู้มากมาย หวังซื่อไห่จึงเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น “แม้ว่าฝานเจียงหลงจะบอกเราว่า เขาจะไม่เก็บค่าคุ้มครอง แต่เราขายปลาได้เยอะทุกวัน ตาของเขาจึงเริ่มแดง ข้าเดาว่าอีกไม่นานเขาคงทนไม่ไหว สองวันที่ผ่านมา หลังจากที่เราขายปลาหมด ก็มีคนแอบติดตามเรามา สง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 42

    หวังหยวนมองเหล่าชาวบ้าน “มีใครสามารถทำบัญชีได้บ้าง?”ชาวบ้านทุกคนส่ายหน้าพวกเขาสามารถทำงานหนักได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำบัญชีจริง ๆ พวกเขายังถือพู่กันไม่ค่อยเป็นเลยด้วยซ้ำ“เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอ่านอย่างไร!”“หัวหน้าตระกูลอ่านออกเขียนได้ จึงสามารถทำบัญชีได้ เหตุใดเราไม่ให้หัวหน้าตระกูลเป็นคนทำบัญชีล่ะ?”“สายเลือดหัวหน้าตระกูลนั้นสูงส่ง ต้องน่าอายเป็นแน่!”ชาวบ้านพูดคุยกันด้านนอกกำแพงบ้าน หัวหน้าตระกูลที่กำลังฟังอยู่ที่กำแพง ก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะใช่ เขาไม่อาจเสียหน้าได้ การออกไปคลุกคลีกับพวกบ้านนอกจำนวนมาก จะทำให้บัณฑิตอับอายขายหน้าหวังหยวนคนนี้ยังเด็กเกินไป จึงไม่เข้าใจว่าคนเป็นเจ้าคนนายคนต้องวางตัวอย่างไร คนจนต้องได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ทำงานหนัก และจะคดโกงเมื่อมีโอกาสหากดีกับพวกเขามากไปเช่นนี้ ก็รอดูได้เลย จะต้องถูกคนจนเหล่านี้ตบหน้าแน่นอน“พี่หยวนก็เรียนมาเยอะมาก ต้องทำบัญชีได้แน่นอน เหตุใดไม่ให้พี่หยวนทำบัญชีล่ะ!”“จะให้เจ้านายเป็นคนทำบัญชีเองได้อย่างไร!”“หากจ้างคนทำบัญชี เราก็อาจจะได้ค่าจ้างน้อยลง!”ชาวบ้านเริ่มพูดคุยถกเถียงกันหวังหยวนก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 43

    มีหลายเรื่องที่ไม่อาจพูดในที่สาธารณะได้ และหวังหยวนก็มีบางอย่างที่จะอธิบายให้ทั้งสี่คนฟังด้วยเข้าไปในนั่งในห้องโถงหวังหยวนพูดตามตรง “ลุงหานซาน มีใครในกลุ่มจับปลาที่ดูสองจิตสองใจบ้างหรือเปล่า?”แม้ว่ากระบวนการจับปลาจะมีขั้นตอน แต่วิธีการนั้นง่ายดาย คนฉลาดย่อมสามารถเข้าใจได้ หลังจากทำไปสักสองสามวันแล้วหวังหานซานส่ายหน้า “ไม่มี!”“ดี!”หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจค่าจ้างกลุ่มประมงไม่สูงนัก และสามารถขายปลาได้สี่สิบหรือห้าสิบจินก่อนจะสอนให้คนรู้จักจารีตและความละอาย ควรให้เขาได้กินอิ่มนุ่งอุ่นเสียก่อน ชาวบ้านที่ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม จะไม่พอใจได้อย่างไรหวังซื่อไห่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “พี่หยวน ท่านส่งหลิวโหย่วไฉไปแล้ว ต้าหู่กับเอ้อหู่ต่างก็สู้เก่งมาก แม้ว่าทุกคนจะรู้เคล็ดลับการจับปลา แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกจากกลุ่ม ใครจะไม่กลัวถูกจับสักแล้วส่งเข้ากองทัพบ้าง!”หวังหานซานกล่าวเสริมว่า “แม้จะมีคนขายปลาและชาวประมง อยู่ตามตลาดและเทศบาล แต่ชาวบ้านมีความซื่อสัตย์มาก จึงไม่กล้าติดต่อกับคนเหล่านั้น”“เช่นนี้แล!”หวังหยวนยกยิ้ม แล้วส่ายหน้า เขาคาดไม่ถึงเลยหวังซื่อไห่กระซิบ “พี่หยว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 44

    ใบหน้าของต้าหู่และเอ้อหู่เปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากสร้างบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาควรจะมีภรรยาหวังซื่อไห่ยิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากสร้างบ้านอิฐแล้ว เขาก็สามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้แล้วจริง ๆ“ช่วงนี้ยุ่งมาก พรุ่งนี้ข้าจะสั่งอิฐ ไม้และหาช่างมา”หวังหานซานก็ตื่นเต้นมากเช่นกันหลังจากสร้างบ้านให้ลูกชายสองคน และให้พวกเขาแต่งงานแล้ว ภารกิจส่วนใหญ่ของเขาก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว“หากหาวัสดุและกำลังคนได้เยอะ ข้าก็อยากจะสร้างบ้านสี่หลังบนพื้นที่สิบหมู่!”หวังหยวนแจ้งข่าวใหญ่อีกเรื่อง ซึ่งทำให้ทั้งสามคนตกตะลึงหลังจากพูดคุยกันสักพัก ทั้งสี่ก็ออกไป!แต่เมื่อพวกเขาเพิ่งออกไป ทั้งสี่คนก็กลับมาอีกครั้ง โดยพาสามพี่น้องสกุลกัวเข้ามาด้วยกัวฉางอุ้มแกะที่ถูกถลกหนังแล้ว กัวเหลียงอุ้มกระต่าย และกัวเฉียงอุ้มไก่ฟ้าฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!ทันทีที่เห็นหวังหยวนออกมา ทั้งสามก็คุกเข่าลงและก้มหัวลงชิดกับพื้น“ทำอะไรกัน ลุกขึ้น!”หวังหยวนทนไม่ไหว เขาจึงรีบไปช่วยพยุงทั้งสามคน พวกเขาเงยหน้าขึ้นหวังหานซาน, ต้าหู่ และเอ้อหู่ก็รีบเข้าไปช่วยพยุงทั้งสามขึ้นมา“ผู้มีพระคุณ พวกเราขอโทษกับท่าน ท่านเพิกเฉยต่อความคับข้องใจในอดีต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 45

    ประชุมเสร็จแล้ว!เมื่อคนทั้งเจ็ดออกจากลานบ้าน ชาวบ้านก็รวมตัวเดินเบียดเสียดกันไปหาหวังหานซานพวกผู้หญิงขอเป็นแม่ครัวรายได้ต่อเดือนของแม่ครัวถึงแม้จะไม่เยอะเท่าผู้ชาย แต่ก็ยังสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ผู้ชายทุกคนอยากเข้าร่วมกลุ่มขายปลาด้วยเงินสองก้วนต่อเดือน และอาหารที่มีเนื้อสัตว์สองมื้อต่อวัน แม้แต่นักเลงก็สามารถมีภรรยาได้หากได้เข้ากลุ่มเมื่อไม่สามารถเข้าทางฝั่งหวังหานซานได้ ชาวบ้านจึงเข้าไปหารองหัวหน้าทั้งสาม หวังซื่อไห่ ต้าหู่และเอ้อหู่ โดยหวังว่าพวกเขาจะช่วยวิงวอนให้มีคนเยอะเกินไป ทั้งสามคนไม่กล้ารับคำแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะกลัวจะทำให้คนอื่นขุ่นเคือง!สามพี่น้องสกุลกัวมีความรู้สึกผสมปนเปกัน มีผู้คนมากมายในหมู่บ้านต้าหวัง ที่ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มจับปลา แต่พวกเขาทั้งสามที่มาจากหมู่บ้านอื่น กลับถูกหวังหยวนเลือกทุกคนในกลุ่มมองไปที่หวังหานซานเขาต้องมีแม่ครัว ต้องเพิ่มคนในกลุ่มขายปลาอีกราวยี่สิบห้าคน ใครได้งานก็จะสบายขึ้น!หวังหานซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม “กลุ่มขายปลาไม่เพียงแต่ต้องขายปลาเท่านั้น แต่ยังต้องฝึกวิทยายุทธ์เพื่อปกป้องหมู่บ้านด้วย พรุ่งนี้เช้า คนหนุ่มสาวอายุที่อายุมากกว่าสิบสา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 46

    ทั้งสองต่างตอบสนองกลับมา วาจานี้ย่อมต้องคล้ายกับสูตรลับการประมง ที่น่าจะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล!“ข้าจะไม่ไปบอกผู้ใด ต่อให้พี่ใหญ่ข้ามาถาม ข้าก็จะเก็บไว้ให้มิดชิด!”หวังเสี่ยวซานรีบรับปาก!“หากข้าพูดเรื่องนี้ต่อผู้ใด ก็ขอให้ข้าอัสนีห้าสวรรค์ผ่าจนไม่ได้ตายดี!”หวังชิงซานยิ่งลั่นคำสาบานที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเพียงแค่สูตรลับการประมง ก็เลี้ยงปากท้องคนในหมู่บ้านมากมายขนาดนี้ได้ สูตรลัดเช่นนี้มีหรือที่จะง่ายดายได้หวังหยวนที่ไว้ใจพวกเขาให้มาทำ มีหรือที่จะปล่อยให้เขาผิดหวังได้“ตั้งใจทำงาน แล้วชีวิตก็จะดีขึ้นได้เอง!”เมื่อตบไปที่บ่าของทั้งคู่ หวังหยวนก็โบกมือ: “กลับไปแล้วค่อยปลดปล่อยความสุขเถอะ ไว้รอให้กลุ่มพ่อค้าซื้อปลากลับมา พวกเจ้าก็ค่อยมาทำงานอีกรอบ ยามค่ำจึงเป็นไปได้ที่จะต้องยุ่งกันอีกสักคืน”ทั้งคู่จึงจากไปด้วยจิตใจที่เบิกบาน จนไม่หลงเหลือความหดหู่ใจเหมือนอย่างตอนที่มาอีกเมื่อได้ทานข้าวเช้า หวังหยวนก็เดินทอดน่องไปรอบหมู่บ้าน โดยใช้หกเหวินในมูลค่าที่ดินหนึ่งมู่เพื่อซื้อที่ดินหกมู่มา เพื่อที่จะใช้สร้างเป็นบ้านหลังใหญ่บนที่ดินผืนนี้ช่วงกลางวันก็กรมการประเมินที่ดินลุงหานซานได้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 47

    “กินปลาในตอนเช้า กินกากหมูเหลือในช่วงบ่าย แม้แต่ผู้พิพากษายังไม่ได้กินดีถึงเพียงนี้!”“เหลวไหล ผู้พิพากษามีกับข้าวแปดจาน มีซุปสี่อย่างต่อมื้อ ดีกว่าอาหารที่เรากินมาก!”“ก็ใช่ ผู้พิพากษาเป็นรับผิดชอบดูแลเมือง แม้ว่าอาหารของเราจะไม่ดีเท่าของผู้พิพากษา แต่ก็เทียบได้กับพวกเจ้าของที่ดินและพวกเจ้าหน้าที่แน่นอน!”“แน่นอน ผู้นำกลุ่มของเราก็เป็นเจ้าของที่ดินเช่นกัน ส่วนใหญ่ได้กินเนื้อสัตว์กันเดือนละครั้ง เมื่อก่อนครอบครัวของหลิวโหย่วไฉคงจะรวยมาก แต่พวกเขาก็ได้กินเนื้อสัตว์ทุก ๆ สิบวัน ซึ่งถือว่าแย่กว่าเรามาก”“หวังหยวนนั้นเป็นคนใจพระจริง ๆ!”“หวังหยวนกำลังทำอะไรอยู่ที่บ้าน มีต้าหู่และเอ้อหู่เฝ้าประตูอยู่ด้วยหรือ?”“อย่าถามคำถามที่ไม่ควรถาม แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีก็พอ แล้วหวังหยวนจะไม่ปฏิบัติต่อเราอย่างเลวร้าย”ในเวลากลางคืน กลุ่มประมงรับประทานอาหารเย็นกากหมูสองร้อยจินถูกนำมาทำซาลาเปา ปากของคนในกลุ่มจับปลาทุกคนมันเยิ้มบางคนหยุดกินหลังจากกินไปสองชิ้น แล้วเก็บซาลาเปาที่ได้รับไว้ เพื่อนำกลับไปให้ครอบครัวที่บ้านช่วงตรุษจีนอาจไม่มีซาลาเปาเนื้อที่บ้านให้กินด้วยซ้ำ!หลายคนมองไปที่บ้านของหวังหยวนตั้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 48

    แต่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับชำระล้าง!“สามี นี่คือสบู่หอมหรือ?”หลี่ซื่อหานเดินออกจากห้อง แล้วรู้สึกประหลาดใจ เมื่อนางได้กลิ่นสบู่ในมือของหวังหยวน “กลิ่นหอมมาก!”“หอมแล้วมีประโยชน์อะไร? มันกินไม่ได้แล้ว!”หวังชิงซานและหวังเสี่ยวซานก้มหน้าลง ยังคงรู้สึกผิดที่ทำลายของดีไปหวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “นี่คือสบู่ที่ทำความสะอาดได้ดีกว่าจ่าวโต้วหรือสบู่หอม!”ต้าเย่ก็มีอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด เช่น จ้าวเจี่ยว จ่าวโต้วและสบู่หอมโดยทั่วไปนั้น จ้าวเจี่ยวใช้ในการซักผ้าจ่าวโต้ว คนรวยนิยมใช้ ทำมาจากถั่ว สมองหมูและเครื่องเทศสบู่หอมทำจากตับหมู ขี้เถ้าพืชและเครื่องเทศ มีแต่พวกขุนนางระดับสูงเท่านั้นที่ใช้“อ๊ะ จริงด้วย ล้างสะอาดกว่าจ่าวโต้วกับสบู่หอม ทั้งยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย!”หลี่ซื่อหานลองใช้ แล้วยื่นมือขาวอ่อนนุ่มของนางออกมาตรงหน้าหวังหยวน“มือของเจ้าขาวเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว หลังจากล้างมือแล้ว ไม่ค่อยมีความแตกต่างมากนัก!”หวังหยวนคว้ามือเล็ก ๆ ขาวผ่องและนุ่มนวลของนางมากุมไว้“มีคนอยู่!”หลังจากชำเลืองมองสามีแล้ว หลี่ซื่อหานก็ก้มหน้าลง แล้วดึงมือเล็ก ๆ ของตนออกมาอย่างไม่เต็มใจเมื่อเห็นคนสองคนอารมณ์ไม่ด

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1853

    “มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1852

    “ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1851

    “หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1850

    “การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า

DMCA.com Protection Status