ทั้งสองต่างตอบสนองกลับมา วาจานี้ย่อมต้องคล้ายกับสูตรลับการประมง ที่น่าจะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล!“ข้าจะไม่ไปบอกผู้ใด ต่อให้พี่ใหญ่ข้ามาถาม ข้าก็จะเก็บไว้ให้มิดชิด!”หวังเสี่ยวซานรีบรับปาก!“หากข้าพูดเรื่องนี้ต่อผู้ใด ก็ขอให้ข้าอัสนีห้าสวรรค์ผ่าจนไม่ได้ตายดี!”หวังชิงซานยิ่งลั่นคำสาบานที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเพียงแค่สูตรลับการประมง ก็เลี้ยงปากท้องคนในหมู่บ้านมากมายขนาดนี้ได้ สูตรลัดเช่นนี้มีหรือที่จะง่ายดายได้หวังหยวนที่ไว้ใจพวกเขาให้มาทำ มีหรือที่จะปล่อยให้เขาผิดหวังได้“ตั้งใจทำงาน แล้วชีวิตก็จะดีขึ้นได้เอง!”เมื่อตบไปที่บ่าของทั้งคู่ หวังหยวนก็โบกมือ: “กลับไปแล้วค่อยปลดปล่อยความสุขเถอะ ไว้รอให้กลุ่มพ่อค้าซื้อปลากลับมา พวกเจ้าก็ค่อยมาทำงานอีกรอบ ยามค่ำจึงเป็นไปได้ที่จะต้องยุ่งกันอีกสักคืน”ทั้งคู่จึงจากไปด้วยจิตใจที่เบิกบาน จนไม่หลงเหลือความหดหู่ใจเหมือนอย่างตอนที่มาอีกเมื่อได้ทานข้าวเช้า หวังหยวนก็เดินทอดน่องไปรอบหมู่บ้าน โดยใช้หกเหวินในมูลค่าที่ดินหนึ่งมู่เพื่อซื้อที่ดินหกมู่มา เพื่อที่จะใช้สร้างเป็นบ้านหลังใหญ่บนที่ดินผืนนี้ช่วงกลางวันก็กรมการประเมินที่ดินลุงหานซานได้
“กินปลาในตอนเช้า กินกากหมูเหลือในช่วงบ่าย แม้แต่ผู้พิพากษายังไม่ได้กินดีถึงเพียงนี้!”“เหลวไหล ผู้พิพากษามีกับข้าวแปดจาน มีซุปสี่อย่างต่อมื้อ ดีกว่าอาหารที่เรากินมาก!”“ก็ใช่ ผู้พิพากษาเป็นรับผิดชอบดูแลเมือง แม้ว่าอาหารของเราจะไม่ดีเท่าของผู้พิพากษา แต่ก็เทียบได้กับพวกเจ้าของที่ดินและพวกเจ้าหน้าที่แน่นอน!”“แน่นอน ผู้นำกลุ่มของเราก็เป็นเจ้าของที่ดินเช่นกัน ส่วนใหญ่ได้กินเนื้อสัตว์กันเดือนละครั้ง เมื่อก่อนครอบครัวของหลิวโหย่วไฉคงจะรวยมาก แต่พวกเขาก็ได้กินเนื้อสัตว์ทุก ๆ สิบวัน ซึ่งถือว่าแย่กว่าเรามาก”“หวังหยวนนั้นเป็นคนใจพระจริง ๆ!”“หวังหยวนกำลังทำอะไรอยู่ที่บ้าน มีต้าหู่และเอ้อหู่เฝ้าประตูอยู่ด้วยหรือ?”“อย่าถามคำถามที่ไม่ควรถาม แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีก็พอ แล้วหวังหยวนจะไม่ปฏิบัติต่อเราอย่างเลวร้าย”ในเวลากลางคืน กลุ่มประมงรับประทานอาหารเย็นกากหมูสองร้อยจินถูกนำมาทำซาลาเปา ปากของคนในกลุ่มจับปลาทุกคนมันเยิ้มบางคนหยุดกินหลังจากกินไปสองชิ้น แล้วเก็บซาลาเปาที่ได้รับไว้ เพื่อนำกลับไปให้ครอบครัวที่บ้านช่วงตรุษจีนอาจไม่มีซาลาเปาเนื้อที่บ้านให้กินด้วยซ้ำ!หลายคนมองไปที่บ้านของหวังหยวนตั้
แต่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับชำระล้าง!“สามี นี่คือสบู่หอมหรือ?”หลี่ซื่อหานเดินออกจากห้อง แล้วรู้สึกประหลาดใจ เมื่อนางได้กลิ่นสบู่ในมือของหวังหยวน “กลิ่นหอมมาก!”“หอมแล้วมีประโยชน์อะไร? มันกินไม่ได้แล้ว!”หวังชิงซานและหวังเสี่ยวซานก้มหน้าลง ยังคงรู้สึกผิดที่ทำลายของดีไปหวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “นี่คือสบู่ที่ทำความสะอาดได้ดีกว่าจ่าวโต้วหรือสบู่หอม!”ต้าเย่ก็มีอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด เช่น จ้าวเจี่ยว จ่าวโต้วและสบู่หอมโดยทั่วไปนั้น จ้าวเจี่ยวใช้ในการซักผ้าจ่าวโต้ว คนรวยนิยมใช้ ทำมาจากถั่ว สมองหมูและเครื่องเทศสบู่หอมทำจากตับหมู ขี้เถ้าพืชและเครื่องเทศ มีแต่พวกขุนนางระดับสูงเท่านั้นที่ใช้“อ๊ะ จริงด้วย ล้างสะอาดกว่าจ่าวโต้วกับสบู่หอม ทั้งยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย!”หลี่ซื่อหานลองใช้ แล้วยื่นมือขาวอ่อนนุ่มของนางออกมาตรงหน้าหวังหยวน“มือของเจ้าขาวเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว หลังจากล้างมือแล้ว ไม่ค่อยมีความแตกต่างมากนัก!”หวังหยวนคว้ามือเล็ก ๆ ขาวผ่องและนุ่มนวลของนางมากุมไว้“มีคนอยู่!”หลังจากชำเลืองมองสามีแล้ว หลี่ซื่อหานก็ก้มหน้าลง แล้วดึงมือเล็ก ๆ ของตนออกมาอย่างไม่เต็มใจเมื่อเห็นคนสองคนอารมณ์ไม่ด
อันธพาลประมงคนใหม่ของตงซื่อคือฝานเจียงหลง ชายวัยยี่สิบกลาง ๆ ใบหน้าอ้วนท้วน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า หางตาตกดูเป็นคนละโมบและชั่วร้าย!เมื่อเขามาที่ตลาดปลา แล้วแย่งตำแหน่งของน่าวซานเจียง เดิมทีเขาต้องการทำตามคำแนะนำของสิงซาน ด้วยการไม่เก็บค่าคุ้มครองแต่เมื่อเห็นคนจากหมู่บ้านต้าหวังขายปลาได้มากมายทุกวัน ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปสิงซานขมวดคิ้วเขารู้ว่าหมู่บ้านต้าหวัง จับปลาและขายปลาได้ทีละเยอะมากเท่านั้น แต่คงไม่ใช่ทุกวันเมื่อนึกถึงปลาห้าถึงหกร้อยจินทุกวัน เขาก็นึกเสียดาย!ตามปกตินั้น อันธพาลประมงจะส่งเงินให้ร้อยละเจ็ดสิบ โดยร้อยละหกสิบจะต้องส่งมอบให้กับพวกองครักษ์แม้ว่าจะเหลือเพียงร้อยละสิบเท่านั้น แต่ก็ยังมีเงินถึงยี่สิบก้วนต่อเดือน ซึ่งไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย“ทำเถอะขอรับ นายท่านสิง!”ฝานเจียงหลงฉลาด “นายท่านสิง ข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร ข้าส่งคนไปสืบเรื่องชายคนนั้นในหมู่บ้านต้าหวังแล้ว เขาหยุดเรียนไปนานแล้ว และจะไม่มีวันได้เป็นขุนนางอีกในอนาคต ส่วนหวังพั่วหลู่ แม้ว่าเขาจะมีวรยุทธ์ที่ทรงพลัง แต่หากท่านส่งเจ้าหน้าที่ศาลสักสองสามคน ไปล้อมเขาด้วยดาบ และมีนักธนูสองสามคนมาช่วยด้วย ต่อใ
กลุ่มทำสบู่เพิ่มเป็นสิบคน ตั้งหม้อขนาดใหญ่สามใบพร้อมกัน ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากวันละหนึ่งร้อยก้อน เป็นสามร้อยก้อนทันทีนอกจากนี้ยังมีเทียนไขสามร้อยเล่มทุกวัน แต่หวังหยวนไม่คิดจะขายมัน!ตะเกียงน้ำมันมีควันมากเกินไป และอาจทำร้ายดวงตาได้ หากใช้นานเกินไป แต่เทียนมีควันน้อยกว่าและสว่างกว่าหวังหยวนแจกสบู่และเทียนให้กับสมาชิกกลุ่มประมง เพื่อเป็นสวัสดิการหลังจากสามวันของการผลิตอย่างต่อเนื่อง หวังหยวนก็รวบรวมสบู่ได้หนึ่งพันก้อน แล้วออกเดินทางสู่เทศบาลไม่ไปไม่ได้ เมื่อวานซื้อรถม้ามาในราคายี่สิบก้วนขายน้ำตาลได้มาหกร้อยก้วน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่สิบก้วนเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงการสร้างบ้านขนาดสิบหมู่หรอก ไม่พอแม้แต่จะซื้ออิฐด้วยซ้ำสถานการณ์ที่ตลาดปลาก็ไม่ค่อยเป็นไปด้วยดีเช่นกัน หวังซื่อไห่ก็รู้สึกว่าฝานเจียงหลงกำลังจะมาอีกแล้วด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เอ้อหู่และสามพี่น้องสกุลกัว ต่างก็ติดตามไปด้วย พร้อมเตรียมเอกสารเรื่องสำคัญที่สุด คือหลี่ซื่อหานต้องการกลับไปที่บ้านพ่อแม่ของนาง!ต้าหู่ขับรถม้า ส่วนหวังหยวนและหลี่ซื่อหานนั่งอยู่ในรถม้า ทั้งสามคนออกเดินทางสายกว่ากลุ่มประมง และออกเดินทางตอนร
ใบหน้างามของหลี่ซื่อหานเปลี่ยนไป นางแอบมองหวังหยวนด้วยความรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่สามีมา สาวใช้จะไม่เรียกเขาว่าท่านเขย แต่จะเรียกว่าชายคนนั้นสามีจึงมักจะโกรธทุกครั้งหวังหยวนแอบถอนหายใจแต่งงานกันมาสามปีแล้ว แต่คนตระกูลหลี่ยังคงเรียกเขาเช่นนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าของร่างเดิมจะถูกกระตุ้นหลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวคนหนึ่งและสาวใช้สองคน ก็เดินออกจากประตูอย่างรวดเร็ว!สาวใช้สวมชุดผ้าฝ้าย ส่วนหญิงสาวสวมกระโปรงยาวผ้าแพร ไม่ค่อยใส่เครื่องประดับมากนักนิสัยของนางอ่อนโยนรักสงบ เหมือนกุลสตรีหญิงสาวกอดหลี่ซื่อหานแล้วหลั่งน้ำตา “น้องสาว พี่สะใภ้รู้แล้วว่าเจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน”สาวใช้ทั้งสองจ้องมองหวังหยวนคนรับใช้สองคนถือท่อนไม้อยู่ในมือ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองประหนึ่งว่าทันทีที่หญิงสาวออกคำสั่ง พวกเขาจะรีบรุดเข้ามาทุบตีเขาอย่างหนักต้าหู่รีบไปยืนอยู่ข้างหวังหยวนหลี่ซื่อหานรู้สึกกังวล “พี่สะใภ้ ท่านรู้แล้วหรือ แต่ตอนนี้สามีของข้าดีกับข้ามาก”หญิงสาวจ้องมองหวังหยวน “น้องสาว เขาใช้เจ้าเป็นหลักประกันในเอกสารกู้ยืมเงินคนอื่น เหตุใดเจ้าถึงยังมาพูดแทนผู้ชายที่โหดเหี้
หญิงสาวสะดุ้ง แล้วถอนหายใจ “เจ้าฉลาดพอ ๆ กับพี่ชายของเจ้า เขาก็พูดถึงหลิวเจี้ยนเย่เช่นเดียวกัน”หลี่ซื่อหานขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “แล้วเหตุใดท่านกับท่านพี่ถึงพยายามชักชวนข้าเช่นนี้อีก”หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ “ประการแรก มันเป็นเพราะเจ้า เจ้าคนเสเพลคนนั้นทุบตีเจ้าทุกวัน ซ้ำยังนำเจ้าไปเป็นหลักประกันกู้เงินอีกด้วย พี่ชายของเจ้าจะโล่งใจหายห่วงได้อย่างไร!”“ตอนนี้สามีของข้าดีกับข้ามาก ไม่เคยทุบตีข้าอีกเลย!”หลี่ซื่อหานอธิบายอีกครั้งแต่นางก็รู้ว่ามันยากที่พี่ชายและพี่สะใภ้ของนางจะเชื่อ แม้แต่ตัวนางเองก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่“ประการที่สองคือเพื่อช่วยท่านพ่อ!”หญิงสาวทำหน้าเศร้า “แม้ว่าท่านพ่อจะมีความสามารถพอ แต่การกลับมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ราชสำนักเต็มไปด้วยกลอุบาย ทุกอย่างต้องได้รับการดูแล ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะถูกขัดขวาง ท่านพ่อเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ ตระกูลหลี่มีฐานะทางการเงินที่อ่อนแอ จึงต้องการการสนับสนุนจากตระกูลที่เชื่อถือได้ เราเป็นมิตรกับตระกูลหลิวมานานหลายชั่วอายุคน แม้ว่าจะมีเหตุการณ์พลิกผัน ก่อให้เกิดความบาดหมางกันหลายครั้ง แต่หากเจ้าตกลงปลงใจกับห
คนรับใช้สองคนรีบวิ่งเข้าไปตีขาของหวังหยวนด้วยท่อนไม้ โดยลืมเงินเมื่อครู่นี้ไปจนสิ้นสัญญาการซื้อขายตัวอยู่ในจวนหลี่ พวกเขารับใช้จวนหลี่ จึงไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งได้หวังหยวนไม่หลบไม่ได้!ไม่ว่าใครก็คงโกรธมาก หากน้องสาวของตนถูกใช้เป็นหลักประกันกู้เงินฟึ่บ! ฟึ่บ!ในช่วงเวลาวิกฤติ เอ้อหู่รีบวิ่งไปด้านหน้าหวังหยวน นั่งยอง ๆ แล้วหักไม้ของทั้งสองคน!โครม!ต้าหู่เดินตามหลังหวังหยวนไป ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขาของเขามั่นคงราวกับเสาไม้คนรับใช้ทั้งสองถือไม้ครึ่งท่อน รู้สึกหวาดกลัว!หลิวเจี้ยนเย่จ้องมองต้าหู่ นัยน์ตาสั่นไหว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“เอาล่ะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กล้าบุกมาจวนหลี่อย่างบ้าคลั่ง ปรากฏว่าพาจอมยุทธ์มาด้วยนี่เอง!”หลี่ซานซือยิ้มเย้ยหยัน แล้วหันไปมองคนรับใช้ “ไปที่ว่าการอำเภอ แล้วเรียกเจ้าหน้าที่มา ให้พวกเขาสวมชุดเกราะแล้วถือธนูมาด้วย มาดูกันว่าใครจะกล้าหาญกว่ากัน”คนรับใช้ทั้งสองเตรียมออกเดินทาง!สีหน้าของต้าหู่เปลี่ยนไปทันที หากเป็นการสู้ด้วยมือเปล่า จะแปดคนสิบคนก็ไม่มีปัญหาแต่ทหารสวมชุดเกราะที่ถือมีดและธนู สามหรือห้าคนก็สามารถล้อมสังหารเขาได้แล้วหวังหยวนยก