แชร์

บทที่ 190

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หวังหยวนเฝ้าดูตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหูเมิ่งอิ๋ง!

การต่อรองของหูเมิ่งอิ๋งทำให้เขารู้สึกแปลกใจ!

เมื่อพบกันครั้งแรก นางเสนอเงินหนึ่งพันก้วนเพื่อซื้อสบู่ และตอนที่อยู่อีเซี่ยนเทียน นางเสนอเงินหนึ่งพันก้วน เพื่อให้โจรส่งผู้บาดเจ็บกลับบ้าน นางดูสงบนิ่งและใจกว้าง ไม่ยุ่งยาก!

ตอนนี้ดูเหมือนนางจะกลายเป็นคนละคนแล้ว!

ทุกคนมาที่บ้านตระกูลเว่ย!

บ้านขนาดสิบไร่ มีทางเข้าสามทาง และทางออกสามทาง มีเพียงคนรับใช้ชราเท่านั้นที่คอยดูแล

เมื่อสิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วง ทุกอย่างไร้ชีวิตชีวา ใบไม้สีเหลืองร่วงหล่นอยู่ทุกหนทุกแห่งในลานบ้าน

หวังหยวนเห็นว่าบ้านหลังนี้ ดูเหมือนบ้านโบราณที่ตกทอดกันมาหลายรุ่น

ต้าหู่ กัวเหลียง และหวังซื่อไห่ตกตะลึง

พวกเขาไม่เคยเห็นบ้านที่สร้างได้สวยงามถึงเพียงนี้!

สายตาของหูเมิ่งอิ๋งเต็มไปด้วยความรังเกียจ “เสาแปดต้นในบ้านแตกร้าว จำเป็นต้องซ่อมแซม จะมีค่าใช้จ่ายอีกอย่างน้อยสิบสองก้วน ค่าเช่าจะลดลงหนึ่งก้วนเป็นเวลาหนึ่งเดือน!”

ดวงตาของอวี๋ว่านสิงเต็มไปด้วยน้ำตา “คุณหนู ท่านได้บอกว่าจะไม่ต่อราคาอีกไม่ใช่หรือขอรับ!”

“เจ้าบอกเองว่าสามารถเข้าอย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 191

    ทันใดนั้นรถม้าก็เงียบลง ทั้งสองไม่รู้จะพูดคุยอะไรกันความจริงแล้ว ช่วงนี้ทั้งสองคนแทบไม่ได้คุยกันเลย หากไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเพราะคนหนึ่งแต่งงานแล้ว และอีกคนหนึ่งแต่งงานเป็นครั้งที่สาม หากไม่มีเหตุจำเป็น พวกเขาจะไม่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง!“อ๊ะ!”“ฮี้ ฮี้!”ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องของคนและม้าดังขึ้น แล้วรถม้าก็หยุดกะทันหัน ราวกับว่ามีคนมาขวางไว้ต้าหู่กล่าวว่า “พี่หยวน จู่ ๆ คนเมาก็รีบวิ่งมาล้มหน้ารถม้า!”“แกล้งถูกชนเพื่อจะเรียกเงิน!”หวังหยวนแหวกม่านลงจากรถม้า หูเมิ่งอิ๋งก็เดินตามไปด้วยชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าซูบผอมบาง มีกลิ่นสุราคลุ้งเต็มตัวนอนอยู่หน้ารถม้า ถือขวดสุราอยู่ในมือ และยังคงกระดกเข้าปากแม้จะเมามายหวังหยวนช่วยพยุงชายวัยกลางคนให้ลุกขึ้น “ท่านลุง เป็นอย่างไรบ้าง!”“มีเรื่องใหญ่ ข้ามีปัญหาใหญ่ แต่น่าเสียดายที่เจ้าช่วยข้าไม่ได้!”หวังหยวนลุกขึ้นยืน ชายวัยกลางคนยืนโซเซ ก้มหน้าลงมองพื้น“ท่านลุง ระวัง!”หูเมิ่งอิ๋งที่เข้ามาจากด้านหลัง คว้าตัวชายวัยกลางคนไว้ทัน ป้องกันไม่ให้เขาล้ม“คุณหนู เจ้างดงามนัก หากข้าอายุน้อยกว่านี้สักยี่สิบปี ข้าจะส่งแม่สื่อไปที่บ้านเจ้าแน่นอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 192

    ชายวัยกลางคนที่มีคนรับใช้แปดคน ยืนอยู่หน้าโรงเตี๊ยมด้วยสีหน้าดุร้าย มองหวังหยวนเหมือนหมาจิ้งจอกจ้องกินคน!หวังหยวนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เจ้าเป็นใคร?”หูเมิ่งอิ๋งกล่าวว่า “เขาเป็นนายท่านรองของตระกูลหลิว หลิวจื้อผิง อาของหลิวเจี้ยนเย่!”เมื่อได้ยินดังนั้น ต้าหู่และกัวเหลียงก็รีบไปยืนปกป้องหวังหยวนทางซ้ายและขวา หวังซื่อไห่ถอยกลับไปที่รถม้าเงียบ ๆ แล้วหยิบดาบราชวงศ์ถังสองเล่มออกมาให้พวกเขาหวังหยวนโต้ตอบอย่างไม่สุภาพ “หากมีอะไรจะพูดก็พูดมาเร็ว ๆ หากจะพูดเหลวไหลก็ไปให้พ้น!”“เจ้าเด็กสกุลหวัง เจ้าทำลายธุรกิจที่เป็นมรดกของตระกูลหลิว ที่ตกทอดมาถึงสามชั่วอายุคน ส่งพี่ชายคนโตของข้าเข้าคุก และฆ่าเจี้ยนเย่หลานชายของข้า ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะบดขยี้เจ้าให้เป็นเถ้าถ่าน!”หลิวจื้อผิงกัดฟัน ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธ และเส้นเลือดก็ปูดออกมาจากกำปั้นของเขาเขาไม่คาดคิดมาก่อนจริง ๆ ว่าพี่ชายคนโตและหลานชายคนโตของเขาจะล้มลงเพราะเงื้อมมือของชายหนุ่มคนนี้หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจ “หลิวเจี้ยนเย่ตายแล้วหรือ?”ดวงตาของกัวเหลียงสั่นไหว ตัวเกร็งโดยไม่รู้ตัว พยายามอย่างเต็มที่ที่จะแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 193

    ผู้สูงศักดิ์ประจำถิ่นนั้นเหมือนผู้มีอำนาจที่ยั่วยุไม่ได้ พวกเขามักมีคนในครอบครัวเป็นข้าราชการ ในฝ่ายราชการเมื่อฝ่ายราชการเจอผู้สูงศักดิ์ประจำถิ่น ก็ยังต้องให้เกียรติ ไม่กล้ารุกรานง่าย ๆ!อาจกล่าวได้ว่าถึงขั้นมือเดียวใช้ปิดท้องฟ้าได้ คนธรรมดาไม่อาจต่อกรได้!ผู้มีพระคุณยังเด็กและมีพลัง คงไม่เคยติดต่อกับผู้สูงศักดิ์ประจำถิ่นมาก่อน จึงไม่รู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด!“เจ้าหนูผู้หยิ่งผยอง หากไม่เชื่อก็ลองดู อีกไม่นานเจ้าจะได้รู้ว่ามันหนักหนาเพียงใด!”หลิวจื้อผิงโกรธมาก จนอดไม่ได้ที่จะเดินจากไป!เขามาเพื่อเปิดเผยความคิดของตระกูลหยาง และอยากเห็นหวังหยวนหวาดกลัว ร้องขอความเมตตาด้วยความกลัวและความสิ้นหวังสุดท้ายหวังหยวนก็ไม่สนใจ ซ้ำยังด่าตระกูลหยางด้วยซ้ำ บังอาจยิ่งนัก!น่าโมโหมาก!แต่เมื่อถึงคราวที่เด็กคนนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน เขาจะได้รู้ว่าตระกูลหยางแข็งแกร่งเพียงใด!เมื่อถึงเวลานั้น จะต้องมาคุกเข่าหน้าคฤหาสน์ตระกูลหยาง หรือแม้แต่คุกเข่าแทบเท้าเขา เพื่อขอความเมตตาแน่นอน!คงต้องหุบปากสนิทเป็นแน่!หน้าโรงเตี๊ยม!ต้าหู่ กัวเฉียงหวังซื่อไห่ และหูเมิ่งอิ๋งต่างเป็นกังวล“ตระกูลหยางทำให

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 194

    หวังหยวนช่วยพยุงชายทั้งสองคนให้ลุกขึ้น แล้วพูดว่า “แต่พวกเจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าแม่ ภรรยา และลูก ๆ ของเจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างไร หากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า แน่นอนว่าแม้ข้าจะให้เงิน เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเจ้า แต่เงินก็ช่วยได้เพียงเรื่องอาหารและเสื้อผ้า ไม่อาจแทนที่ความเป็นลูกชาย สามี และพ่อ รวมถึงความรับผิดชอบของพวกเจ้าได้”“ผู้มีพระคุณ พวกเราผิดไปแล้วขอรับ!”กัวเฉียงและกัวเหลียงน้ำตาไหลในเวลานี้ผู้มีพระคุณยังคงคิดถึงพวกเขาอยู่อีก ช่างเป็นคนที่มีเมตตาดั่งพระโพธิสัตว์จริง ๆการฆ่าชายสกุลหลิวนั้นคุ้มค่า ต่อให้จะต้องถูกฝ่ายราชการจับกุมหรือตัดศีรษะก็ตาม!หวังหยวนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกเจ้าทำอะไรผิด? วันนั้นพวกเจ้าไม่ได้พาแม่ไปหาหมอหรอกหรือ! แต่กลับหลงทาง และหาหมอไม่เจอ”“เอ๊ะ อืม!”สองพี่น้องพยักหน้าด้วยความตกใจ!หวังหยวนพูดอย่างจริงจัง “จำไว้ว่าต่อจากนี้ แม้ว่าพระโพธิสัตว์จะมาถาม พวกเจ้าก็ต้องพูดแบบเดียวกันเช่นนี้!”“เข้าใจแล้วขอรับ!”สองพี่น้องกัดฟันตอบ และพยักหน้าอย่างหนักข้าแต่พระโพธิสัตว์ ข้าขอโทษ ในเมื่อผู้มีพระคุณของข้าพูดเช่นนั้น ข้าก็ไม่อาจยอมรับได้แม้ชีวิตจะหาไม่!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 195

    หากไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง การขึ้นสู่ระดับสามได้ภายในสิบปีนั้น แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!“ต้องมีสิ!”หูเมิ่งอิ๋งเม้มปากและหัวเราะเบา ๆ “ฮ่องเต้องค์ก่อนต้องการปฏิรูประบบราชการ และท่านไห่เทียนก็เดินหน้าดำเนินการ ทุกที่ที่เขาไป เขาได้โค่นล้มเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ผู้สูงศักดิ์ประจำถิ่น และตระกูลชนชั้นสูง ทำให้ทุกคนในราชสำนักบาดหมางกัน เขาถูกกล่าวโทษตลอดทั้งวัน เป็นเพราะได้รับความคุ้มครองจากฮ่องเต้องค์ก่อน จึงทำให้เขารอดพ้นจากอันตราย!”หวังหยวนเดาะลิ้น “น่าทึ่งยิ่งนัก!”ในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในราชสำนัก การปราบปรามจากล่างขึ้นบน และยังคงหลบหนีได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะทำได้แน่นอนหูเมิ่งอิ๋งกล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากลาออก ท่านไห่เทียนก็เริ่มให้ความรู้ เขามักจะทดสอบลูกศิษย์ของเขาสามคน เมื่อบัณฑิตมาที่เมืองจิ่วซาน ทุกคนก็ต้องการไปเยี่ยมท่านไห่เทียน และขอเคล็ดลับในการสอบจอหงวนจากเขา”หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ดูเหมือนท่านจะรู้จักท่านไห่เทียนเป็นอย่างดี!”ใบหน้าสวยของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเป็นเศร้า “เขาเป็นแบบอย่างของพ่อข้า พ่อของข้ามักจะเล่าเรื่องราวของเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 196

    ในจวนมีคนรับใช้และสาวใช้ไม่มากนัก ทุกคนแต่งกายด้วยผ้าฝ้ายเนื้อหยาบมีศาลากลางบ้านที่ปูเสื่อบนพื้นและวางโต๊ะเตี้ยไว้คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา มีขมับเป็นสีดอกเลานั่งอยู่บนพื้น หาวและยืดตัว!อีกคนเป็นชายรูปหล่อที่วางมาดเป็นผู้อาวุโส กำลังคุกเข่าลงบนเสื่อและรินชาให้อีกฝ่าย!ชายหนุ่มผู้วางมาดเป็นผู้อาวุโสทำหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์ ข้าอยู่เมืองจิ่วซานมาสองปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเชิญข้ามาที่จวน ท่านมีคำสั่งอะไรหรือขอรับ?”วังไห่เทียนกลอกตา “เสี่ยวเหยียน เจ้าก็เป็นขุนนางตำแหน่งถงจือ เหตุใดรองเจ้าเมืองถึงทำตัวเหมือนเด็กสาวไม่พอใจกันเล่า!”เหยียนฟู่กู่ถอนหายใจเบา ๆ “เพราะท่านอาจารย์ทำให้ข้าโกรธ ข้าเป็นศิษย์ของท่าน ข้าทำงานที่เมืองจิ่วซานมาสามปีแล้ว แต่ท่านอาจารย์กลับไปมองข้าเลย ข้ารู้ว่าท่านกำลังพยายามหลีกเลี่ยงความสงสัย แต่มันมากเกินไปขอรับ ทีนี้คนนอกที่ไม่รู้ก็เข้าใจว่าท่านแก่แล้ว จึงอารมณ์แปรปรวนไล่ข้าออกจากสำนัก… โอ๊ย”ท่านไห่เทียนตบท้ายทอยของเหยียนฟู่กู่ แล้วดุว่า “บ่นไม่กี่คำก็เพียงพอแล้ว แต่ยังไม่ยอมจบ ข้าบอกให้เจ้ามาที่นี่ในครั้งนี้เพื่อด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 197

    เหยียนฟู่กู่พูดด้วยสีหน้าเศร้า “ท่านอาจารย์ ท่านกำลังให้ข้าโกงหรือ?”วังไห่เทียนยกมือขึ้นจะตบท้ายทอยเขาอีกครั้งเหยียนฟู่กู่รองบังคับบัญชาคนที่สองของเมืองจิ่วซาน หันหลังวิ่งหนีไปราวกับกระต่าย...หน้าประตูจวนวังมีคนแน่นไปหมดแล้ว มีทั้งบัณฑิต คนหาบเร่ และพวกอันธพาลหน้าตาดุร้ายมากมาย สรุปแล้วดูเหมือนว่ามีคนจากกลุ่มที่มีความรู้ด้านวิชาการมากมาย และหลากหลายช่วงอายุ!“ข้าสงสัยว่าคราวนี้ท่านไห่เทียนจะถามคำถามอะไร?”“จำคำถามสามข้อที่ท่านไห่เทียนถามเมื่อเดือนที่แล้วได้หรือไม่ เจ้าเป็นใคร? มาจากไหน? จะไปไหน? ไม่มีสักคนเดียวที่ตอบถูก!”“คำถามเมื่อสองเดือนที่แล้วก็ด้วย ธรรมชาติของมนุษย์ดีหรือชั่วโดยเนื้อแท้? ข้าได้ยินมาว่าคนขายเนื้อจางที่ฆ่าหมูตอบถูก จึงได้รับคำเชิญจากท่านไห่เทียน เขาบอกว่าท่านไห่เทียนชวนเขาไปดื่ม และก่อนที่จะจากไป ก็มอบเงินสิบตำลึงให้เขา แล้วบอกว่าได้เรียนรู้บางอย่างจากเขา!”“สามปีที่แล้ว เย่เซียงหลิวก็ตอบคำถามได้ถูกต้องเช่นกัน ท่านไห่เทียนยังเลี้ยงอาหารเขา และมอบเงินให้เขาสิบตำลึงด้วย ทำให้อวดทุกคนที่เขาพบทันที โดยบอกว่าเขาได้กินดื่มกับบัณฑิตอันดับหนึ่ง เขาคุยโวเรื่องนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 198

    หวังหยวนรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “พี่รอง อย่าเข้าใจข้าผิด นางถูกอีจั้งหงจับตัวมัดอยู่ในอีเซี่ยนเทียน ข้าเดินทางผ่านไปพอดีจึงช่วยนางไว้ แล้วพาร่วมทางเข้ามาด้วย!”หลี่ซานซือเยาะเย้ย “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือ มีโจรห้าถึงหกร้อยคนอีเซี่ยนเทียน หากนางถูกลักพาตัวจริง เจ้าจะช่วยนางได้หรือ?”หูเมิ่งอิ๋งสะอึกเพราะคำพูดนั้นคงไม่มีใครเชื่อ เว้นแต่จะได้เห็นด้วยตาตนเองหวังหยวนพาคนไปสิบคน ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตนางเท่านั้น แต่ยังจับนายท่านรองหงเย่ รีดไถทองคำสามพันตำลึง ทำให้พวกโจรต้องหลั่งน้ำตาหวังหยวนกางแขน “ในเมื่อท่านไม่เชื่อข้า จึงไม่มีประโยชน์ที่ข้าจะอธิบาย!”“ได้! ได้! ได้!”หลี่ซานซือกัดฟัน “เมื่อข้ากลับไปเมืองฝู ข้าจะบอกซื่อหานแน่นอน ว่าเจ้าทำเรื่องดี ๆ อะไรไว้ที่นี่! มาดูกันว่านางจะยังคงอุทิศตนเพื่อเจ้าเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่!”หวังหยวนขมวดคิ้ว “ท่านอย่าหว่านความขัดแย้ง!”“ข้า....”ขณะที่หลี่ซานซือกำลังจะพูด ชายวัยกลางคนก็เข้ามาหา “น้องซานซือ สองคนนี้คือ!”“คนผ่านทาง!”หลี่ซานซือเดินจากไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ราวกับว่าเขากลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับหวังหยวน“ฮ่าฮ่า!”

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status