“ข้าไปเองขอรับ!”เอ้อหู่กล่าวพลางตบหน้าอก“ตลอดช่วงเวลานี้ ข้าอยู่แต่ในบ้าน ข้าเบื่อจนกระดูกจะขึ้นสนิมแล้ว!”“โอกาสดีเช่นนี้ พวกเจ้าอย่ามาแย่งข้าเลย!”ต้าหู่และคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างหัวเราะ“วางใจเถิด ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก!”ต่งอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้มหวังหยวนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ข้ารู้จักนิสัยของเจ้า เจ้ามักจะหุนหันพลันแล่นเสมอ แต่ครั้งนี้ห้ามเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด!”“เจ้าอย่าลืมว่าถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไปยังดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย แต่บัดนี้เราทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข หากก่อเรื่องในเวลานี้ คงยากที่จะแก้ไข…”“ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้าใจเรื่องนี้ดีใช่หรือไม่?”“อย่าก่อเรื่องให้ข้าเดือดร้อน”หวังหยวนไม่ได้กลัวอาณาจักรต้าเป่ย แต่ต้องการให้ประชาชนในดินแดนทั้งเก้าได้พักผ่อนสงครามที่ยืดเยื้อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้ประชาชนยากจนข้นแค้นมากพออยู่แล้วเพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากอดอยากจนถึงแก่ความตาย…หวังหยวนไม่อยากเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกบัดนี้การพักฟื้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่มีใครสามารถทำลายความสมดุลนี้ได้!เอ้อหู่กล่าวอย่างเร่งรีบ “พี่หยวนวางใจได้
ถึงขั้นนี้แล้วแต่เขายังคงไม่ยอมจำนนต่อหวังหยวน“ฮึ”หวังหยวนไม่ได้โกรธเกรี้ยว แต่กลับยกยิ้มเย้ยหยัน แล้วพูดอย่างสงบว่า “เอาล่ะ เจ้าอย่ามาทำท่าอวดดีต่อหน้าข้า และไม่จำเป็นต้องเอ่ยถ้อยคำที่ฟังดูสูงส่งเหล่านี้”“ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้วว่าที่นี่ข้าเป็นใหญ่ ก็จงตามข้าไปเถิดเพื่อไม่ให้เจ็บตัว!”“ข้าเพียงต้องการข้อมูลจากปากของเจ้าเท่านั้น หากเจ้าสารภาพความจริง ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้า”หวังหยวนพูดจบก็โบกมือไปยังเหล่าผู้คนเบื้องหลัง ต้าหู่จึงก้าวออกมา ส่วนบุคคลลึกลับผู้นั้นไม่ได้ขัดขืน จำต้องตามหวังหยวนเข้าเมืองไปก่อน!เพราะหากขัดขืนในเวลานี้ ผลลัพธ์สุดท้ายก็คงไม่เปลี่ยนแปลง…เพียงแต่จะได้รับความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้นซึ่งไม่คุ้มค่าเลยครึ่งชั่วยามต่อมา หวังหยวนและคณะได้กลับมาถึงหมู่บ้านต้าหวังแล้วณ ห้องในเรือนหลังหนึ่ง หวังหยวนนั่งอยู่กลางห้อง ส่วนบุคคลลึกลับที่เพิ่งถูกนำตัวมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามต้าหู่ เกาเล่อ และคนอื่น ๆ ต่างนั่งยืนอยู่ข้างกายเขาบรรยากาศภายในห้องราวกับมีดินปืนอยู่เต็มไปหมดแม้บุคคลลึกลับผู้นั้นจะคิดหาวิธีหลบหนี แต่ก็ไม่กล้ากระทำการอันใด จึงได้แต่รอคอยหวังหยวนแต่ห
“เช่นนั้นเลยหรือ!”บุคคลลึกลับผู้นั้นระเบิดเสียงหัวเราะ แล้วกล่าวว่า “ท่านยังคิดจะกำจัดผู้ที่อยู่เบื้องหลังข้าอีกหรือ?”“แต่ข้าขอเตือนท่านไว้ก่อน ว่าท่านคงไม่มีความสามารถเช่นนั้นหรอก!”“พูดให้ถูกต้องคือไม่เพียงแต่ท่านทำไม่ได้เท่านั้น ทั่วทั้งแผ่นดิน แม้แต่สามกองกำลังที่เหลือก็ทำไม่ได้เช่นกัน!”“เจ้านายของข้าเก่งกาจเพียงใด!”“ว่านเชียนซานคงได้บอกท่านแล้วว่าราชวงศ์ที่เจ้านายของข้าปกครองมีอายุนานหลายร้อยปี!”“เปลี่ยนผู้นำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน!”“แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ล้วนเป็นผู้มีความสามารถในการปกครองบ้านเมือง!”บุคคลลึกลับผู้นั้นหัวเราะลั่น แล้วหยิบมีดออกมาจากแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว!ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเขาจะลงมืออย่างฉับพลันเช่นนี้!แต่เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายผู้ใด กลับใช้มีดแทงตัวเองที่หน้าอก!นี่คือการฆ่าตัวตาย!“หากข้าไม่อนุญาตให้เจ้าตาย เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ตาย!”สีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไป รีบหยิบปืนคาบศิลาออกมาอย่างว่องไว ครั้นเสียงปืนดังขึ้น กระสุนก็พุ่งตรงไปยังใบมีดอย่างแม่นยำ!บุคคลลึกลับผู้นั้นรู้สึกเจ็บปวดที่มือ มีดจึงตกลงสู่พื้นต้าหู่และเกาเล่อรีบเข้าไปจัดการ คนหนึ่งจ
เหล่าสาวกแห่งพรรคทมิฬล้วนเป็นผู้ยากไร้ แม้แต่การอิ่มหนำสำราญยังยากเย็น แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับใช้จุดอ่อนนี้แจกจ่ายเงินทองและเสบียงอย่างเหลือล้น เพื่อดึงดูดใจให้ผู้คนเข้าร่วม!นั่นหมายความว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ขาดแคลนเงินทองเลยแม้แต่น้อย!และผู้ที่อยู่เบื้องหลังหลินจิ่วฉวนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับหลายร้อยปี ในระหว่างนั้นย่อมได้สร้างคนอย่างว่านเชียนซานขึ้นมาอีกมากมายดังนั้นเงินทองของพวกเขาน่าจะมากมายเหลือคณานับด้วยเหตุนี้หวังหยวนจึงต้องการทดสอบดูและเขาก็เดาถูกเสียด้วย“เจ้ากำลังหลอกลวงข้าอยู่…”หลินจิ่วฉวนฉุกคิดได้ เขามองหวังหยวนด้วยสายตาอาฆาต แล้วตะโกนด้วยความโกรธแค้นเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าหวังหยวนจะต่ำช้าถึงเพียงนี้!แม้จะไม่รู้เรื่องใด แต่กลับทำเป็นลึกลับและใช้คารมมาหลอกลวงเขา!“ข้าได้รู้สิ่งที่ข้าต้องการรู้แล้ว”“ต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของเจ้า”สายตาของหวังหยวนตกลงบนต้าหู่ แล้วตบไหล่เขาพลางกล่าวว่า “ข้าต้องการเพียงข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขาจากปากของเขาเท่านั้น”“เขาคงแตกต่างจากสาวกธรรมดา ถึงแม้จะไม่ใช่ระดับสูง แต่ก็คงเป็นระดับกลาง”“ย่อมรู้ที่อยู่ของพรรคทมิฬ!”หลิน
“หมู่บ้านต้าหวังช่างเป็นสถานที่ที่ยอดนิยมจริง ๆ…”“ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดต่างก็ปรารถนาจะมาอาศัยอยู่ที่นี่”เมื่อส่งว่านเชียนซานไปแล้ว เกาเล่อก็กลับมาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“แน่นอนอยู่แล้ว”“ที่นี่ปลอดภัยเป็นพิเศษ และมีคนของเราอยู่ทุกหนทุกแห่ง นับว่าเป็นศูนย์กลางสำคัญ การได้พำนักอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใดอีก”“ถึงแม้ว่าภายนอกจะเกิดสงคราม แต่ที่นี่ก็ยังคงสงบสุขร่มเย็น”หวังหยวนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แต่คาดว่าอีกไม่นานทั้งเมืองหลิงก็จะกลายเป็นเช่นนี้”หวังหยวนมีความมั่นใจอย่างยิ่ง“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”ขณะนั้นเองมีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้อง ปรากฏว่าว่านซิ่วเอ๋อร์เดินเข้ามาสายตาของหวังหยวนมองไปที่นางแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”ว่านซิ่วเอ๋อร์เป็นสตรีที่ฉลาดหลักแหลม มีเหตุผลและได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากครอบครัวอย่างดีตั้งแต่เด็กบัดนี้หวังหยวนกำลังจัดการเรื่องสำคัญอยู่ ดังนั้นหากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ว่านซิ่วเอ๋อร์ก็คงไม่มาที่นี่เกาเล่อจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นพวกท่านสนทนากันก่อนเถิดขอรับ” “ข้าขอตัวไปจัดการธุระก่อน”หวังหยวนพยักหน้า เกาเล่อจึงจากไปว่านซิ่วเอ๋อร์เดินม
“ข้าก็ไม่คาดคิดเลยว่าชายคนนี้จะดื้อด้านถึงเพียงนี้!”“เดิมทีข้าเกือบจะล้วงเอาความลับจากปากมันแล้ว แต่มันกลับใช้จังหวะที่ข้าอาหารมาให้ ทุบจานแตกแล้วใช้เศษจานฆ่าตัวตายสำเร็จ!”“ทำให้เราไม่ได้อะไรเลย…”แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของต้าหู่เพียงผู้เดียว“เอาล่ะ ในเมื่อคนตายไปแล้วก็ปล่อยไปเถิด”“เจ้าไปบอกเกาเล่อ ให้เขาสืบหาเรื่องราวของพรรคทมิฬต่อไป”“บัดนี้เราทำได้เพียงหวังพึ่งพาเขาเพียงผู้เดียว”ดูเหมือนว่ายังต้องพึ่งพาองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของเกาเล่อต้าหู่พยักหน้า แล้วจากไปด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด เมื่อสูญเสียข่าวสารเกี่ยวกับพรรคทมิฬไป หวังหยวนไม่ได้รู้สึกดีนัก ขณะนี้เขากำลังนั่งดื่มสุราอยู่ที่ลานบ้านเงียบ ๆการปรากฏตัวของพรรคทมิฬ ทำให้หวังหยวนตระหนักถึงวิกฤตการณ์เป็นครั้งแรก“สามี ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”“หรือว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจหนัก?”ไม่รู้ว่าหวงเจียวเจียวเดินมาอยู่ข้างหลังหวังหยวนตั้งแต่เมื่อใด แล้วนางก็เอ่ยถามหวังหยวนถอนหายใจยาว ดื่มสุราในถ้วยหมดแล้วขมวดคิ้ว “แน่นอนว่ามีเรื่องไม่คาดฝันนิดหน่อย”“เดิมทีได้สืบหาเรื่องราวของพรรคทมิฬแล้ว แต่ผ่านไปเพียงเวลาอันสั้
ค่ำคืนนั้นเมื่อเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนเพิ่งหลับลงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้อง ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูอย่างรวดเร็ว“พี่หยวน ท่านหลับหรือยังขอรับ?”หวังหยวนสวมเสื้อ แล้วเดินออกมาจากห้อง สายตามองไปยังเกาเล่อที่ยืนอยู่หน้าประตูขณะนี้เกาเล่อมีสีหน้าเคร่งเครียด“เกิดอะไรขึ้น?”บัดนี้เป็นเวลากลางดึก เกาเล่อมาหาเขาในเวลานี้ นั่นหมายความว่าอาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น!“เกิดเรื่องอะไรกับตระกูลว่านหรือ?”หวังหยวนถามอย่างไม่รู้ตัว“ไม่ได้เกิดเรื่องใดกับตระกูลว่านขอรับ”“ที่นั่นมีต้าหู่คอยดูแล ไม่ต้องกังวลเลยขอรับ”“แต่เกิดเรื่องกับเอ้อหู่…”เกาเล่อกัดฟัน แล้วรีบอธิบายสถานการณ์อย่างรวบรัดปรากฏว่าเมื่อบ่ายวานนี้ เอ้อหู่ได้หายตัวไปก่อนออกเดินทาง เนื่องจากหวังหยวนกังวลว่านิสัยใจร้อนของเอ้อหู่จะก่อให้เกิดปัญหา จึงให้เกาเล่อคอยดูแลเพราะองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของเกาเล่อได้แทรกซึมเข้าไปในดินแดนทั้งเก้าแล้ว ทุกหนทุกแห่งล้วนมีคนของพวกเขา!แม้แต่เมืองปิงก็เช่นกัน!ดังนั้นเมื่อเอ้อหู่เข้าไปในเมืองปิง คนของเกาเล่อก็ได้ไปรับเอ้อหู่ แล้วพวกเขาก็รีบไปหาช่างทำอาวุธเหล่านั้น!แต่เมื่อถึงตอนก
เกาเล่อรีบชี้แจงถึงความสำคัญของเรื่องราวใบหน้าของหวังหยวนเคร่งเครียดยิ่งนัก เขายกมือขึ้นแตะขมับตัวเอง เห็นได้ชัดว่ากำลังครุ่นคิดหาวิธีที่จะรับมือกับสถานการณ์!ต้องยอมรับว่าคำพูดของเกาเล่อมีความสมเหตุสมผลบัดนี้เขามีอิทธิพลอย่างมาก และชีวิตของประชาชนในเมืองหลิงและหมู่บ้านต้าหวังล้วนขึ้นอยู่กับเขา หากเขาประสบปัญหา ย่อมก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ครั้งใหญ่!ผลที่ตามมาไม่อาจคาดเดาได้แต่เขามีความกังวลว่าเกาเล่อจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้!หากไป๋ชิงชางเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องราวคงจะไม่ง่ายอย่างแน่นอน!“เช่นนี้”“ข้าจะไปเมืองปิงด้วยตัวเอง!”“แต่ก่อนจะไป ข้าจะปลอมตัวเพื่อไม่ให้ถูกอีกฝ่ายจับได้!”“และจะนำยอดฝีมือไปด้วย พร้อมกับให้คนของเจ้าคอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง!”“เช่นนั้นจึงจะสามารถรับประกันความปลอดภัยได้!”หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว หวังหยวนจำเป็นต้องไปเมืองปิง!เมื่อเกาเล่อเห็นว่าหวังหยวนแน่วแน่จึงพยักหน้ารับหลังจากที่ทั้งสองแยกจากกันแล้ว เกาเล่อจึงไปคัดเลือกผู้คน ส่วนหวังหยวนก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง“ท่านกำลังจะไปไหนหรือเจ้าคะ?”ตลอดสองวันที่ผ่านมา ว่านซิ่วเอ๋อร์อ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ