หลังจากออกจากตำหนักไป๋แล้ว หวังหยวนก็มีสีหน้าเคร่งเครียด เสวี่ยเชียนหลงเป็นห่วงความรู้สึกของหวังหยวนในเวลานี้เป็นอย่างมากราชสำนักวุ่นวายและใกล้จะเกิดสงครามแล้ว ไม่รู้ว่าหวังหยวนจะอยู่ฝ่ายใด“สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เจ้ามีแผนการอย่างไร?”พี่ชิงอีถามหวังหยวนเกี่ยวกับแผนการอย่างไรต่อไปหวังหยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“เวลานี้ข้ายังไม่มีแผนการใดเลย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้แผนการทั้งหมดที่วางไว้ก่อนหน้านี้ต้องพังทลายลง ตอนนี้ทำได้เพียงคิดใหม่ขอรับ”หลังจากได้ยินคำพูดของหวังหยวน พี่ชิงอีก็ลูบไหล่เขาเพื่อปลอบใจเพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และผู้ที่รู้สึกไม่ดีไม่ใช่แค่หวังหยวนเพียงคนเดียวถึงเวลาอาหารแล้ว พวกเขามาที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งใกล้ ๆ ที่นี่สามารถรับประทานอาหารและใช้โอกาสนี้ในการสืบหาข่าวสารได้ด้วย“เฮ้อ พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ว่าอาณาจักรต้าเป่ยดูเหมือนจะเริ่มส่งทหารมาโจมตีอาณาจักรต้าเย่ของเราแล้ว!”“พวกเขาเพิ่งจะเปลี่ยนฮ่องเต้ไปไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงรีบมาโจมตีอาณาจักรต้าเย่ของเรา พวกเขาคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นเลยรึ!”“ใช่ ใครจะไปร
หลังจากพี่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้า ทั้งสองดื่มเหล้านารีแดงหมดไหไปในคราวเดียว ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองจะดื่มดีถึงเพียงนี้เสวี่ยเชียนหลงยังคงเป็นห่วงหวังหยวนเป็นอย่างมาก จึงคอยยืนอยู่เคียงข้างเขาเพราะหากหวังหยวนยืนไม่ไหว นางก็จะได้ยื่นมือออกไปประคองหวังหยวนได้แต่หวังหยวนไม่เพียงแต่ยืนได้อย่างมั่นคงเท่านั้น แต่ยังพูดจาชัดเจนอีกด้วยไม่นานทั้งสามก็รับประทานอาหารเสร็จ และเตรียมตัวกลับหมู่บ้านต้าหวังระหว่างทาง คนทั้งสามต่างก็มีเรื่องต้องคิดในใจหวังหยวนคิดว่าต่อไปนี้เขาควรเลือกสถานะของตนเองอย่างไร ควรเลือกเส้นทางที่ตนเองจะเดินต่อไปอย่างไรส่วนเสวี่ยเชียนหลงก็เต็มไปด้วยความคิดเรื่องเกี่ยวกับหวังหยวนและนักพรตชิงอีคิดถึงซานไว่ซานกับเทียนไว่เทียนซานไว่ซานเป็นฝ่ายฉีกสัญญาก่อนด้วยการเริ่มแทรกแซงเรื่องราวในราชสำนัก ย่อมต้องมีความทะเยอทะยานที่ชั่วร้าย เทียนไว่เทียนไม่สามารถนิ่งเฉยได้!แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นจอมยุทธ์ และความสามารถของพวกเขาก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงไม่สามารถปล่อยให้ซานไว่ซานครองอำนาจได้เพียงลำพังระหว่างทางที่ทั้งสามกำลังกลับไปหมู่บ้านต้าหวังก็ได้พบกับนักพรตเฒ่าชุดดำ
นักพรตชิงอีคำรามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เสวี่ยเชียนหลงก็ตามมาติด ๆ แล้วมายืนอยู่ด้านข้าง“นี่คือคนจากซานไว่ซานหรือเจ้าคะ?”เสวี่ยเชียนหลงกระซิบถามหวังหยวนอย่างระมัดระวัง หวังหยวนพยักหน้ารับชายชราตรงหน้ามีจิตสังหารรุนแรง เผยให้เห็นวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้อื่นรู้สึกกดดันอย่างมากเสวี่ยเชียนหลงขมวดคิ้วเมื่อมองไปที่ชายชราตรงหน้า นางรู้สึกว่าคนผู้นี้คุ้นเคยมาก แต่คิดไม่ออกว่าเคยพบเจอที่ใดเมื่อรู้แล้วว่าเป็นคนจากซานไว่ซาน แม้ว่าจะต่อสู้กันก็คงไม่มีปัญหาใด เพราะเป็นซานไว่ซานที่ก้าวล่วงมาก่อน!“คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนที่นี่ ดูเหมือนว่าเทียนไว่เทียนของท่านจะมีเจตนาแอบแฝงมานานแล้ว อยากจะแทรกแซงกิจการของราชวงศ์ใช่หรือไม่ แต่ก็เพียงแค่ยังไม่มีใครจับได้เท่านั้น!”เมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำเห็นเสวี่ยเชียนหลงก็พูดจาเสียดสีทันที หวังหยวนเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะพูดให้ตนเองเป็นฝ่ายถูกด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถประกาศต่อสาธารณชนได้ว่า เทียนไว่เทียนเป็นฝ่ายแทรกแซงกิจการของราชวงศ์ก่อน ดังนั้นซานไว่ซานจึงคิดว่าสามารถติดต่อกับคนของราชวงศ์ได้“อย่าคิดจะโยนความผิดให้ข้า เร
“พวกเจ้าจะเป็นอะไรได้นอกจากขยะ? สามคนรุมคนแก่อย่างข้าเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้กันมาตั้งนานก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คาดว่าเทียนไว่เทียนของพวกเจ้าคงจะรู้สึกว่าด้อยกว่าซานไว่ซานของเรากระมัง!”เมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำหยุดนิ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยหวังหยวนและอีกสองคนไม่ได้ตอบโต้เพราะคนผู้นี้เก่งกาจยิ่งนัก เขามีวิธีการโจมตีเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง“ความสามารถของเจ้าไม่ได้สูงส่งอันใด แต่กลับปากเก่งนัก มาที่นี่คนเดียว คงคิดจะฆ่าพวกเราสามคนเพียงลำพัง แต่ผ่านมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ว่าเสียแรงเปล่าหรือ?”พี่ชิงอีเผยรอยยิ้มหยันบนใบหน้า คนผู้นี้ช่างโอหังและในที่สุดก็จะต้องตายเพราะความเย่อหยิ่งของตนเอง“จะเสียแรงเปล่าหรือไม่นั้น รอให้ถึงตอนนั้นค่อยรู้ก็ได้ไม่ใช่หรือ? ข้าเป็นเพียงคนชรา หากพวกเจ้าสามคนถูกข้าสังหารก็คงจะน่าอับอายยิ่งนัก แถมยังมีสตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปอย่างง่ายดายแน่นอน!”เดิมทีตอนแรกที่เขามาที่นี่ก็เพียงเพื่อฆ่าหวังหยวนเท่านั้น ส่วนคนอื่นจะตายหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เพราะเพียงแค่ฆ่าหัวหน้าได้ ลูกสมุนก็จะแตกพ่ายไปด้วยแต่เมื่
หวังหยวนและเสวี่ยเชียนหลงซ่อนตัวเงียบกริบอยู่ในป่าลึกตอนนี้นักพรตเฒ่าชุดดำได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้มีพิษหรือไม่ แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเขามีลางสังหรณ์ไม่ดี หากยังคงต่อสู้ต่อไปจะถูกศัตรูเอาชนะเขาได้หรือไม่?แม้ว่านักพรตเฒ่าชุดดำจะมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธลับแล้ว เคล็ดวิชาที่ชอบธรรมทั้งมวลก็แทบจะไร้ประโยชน์พี่ชิงอีไม่ได้ให้โอกาสเขาพัก เขาโจมตีอย่างสุดกำลัง นักพรตเฒ่าชุดดำจึงจำใจหยิบอาวุธของตนขึ้นมาต่อสู้กับพี่ชิงอีอีกครั้งหวังหยวนที่รอคอยจัวหวะอยู่ด้านข้าง เขาไม่รู้ว่าหวังหยวนและภรรยาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน นั่นหมายความว่ามีอันตรายลึกลับกำลังรอเขาอยู่“พวกเจ้าช่างกล้าได้กล้าเสียจริง ๆ แค่ข้าไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด พวกเจ้าจึงเริ่มย่ามใจกันแล้วใช่หรือไม่? หวังหยวน เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าอยู่ที่ไหน? อย่างไรเสียก็ไม่พ้นซ่อนตัวอยู่ในป่าเป็นแน่ เจ้าคอยอยู่เถิด ข้าจะตามจับเจ้ามาเดี๋ยวนี้แหละ!”นักพรตเฒ่าชุดดำผลักพี่ชิงอีออกไปอย่างแรง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว และนั่นเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการหวังห
“ท่านนักพรต ท่านไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่ากลศึกย่อมไม่เกี่ยงวิธีบ้างหรือ? ข้าไม่ได้คิดจะทำร้ายท่าน ตราบใดที่ท่านแลกเปลี่ยนข้อมูลบางอย่างกับข้า แล้วข้าจะปล่อยท่านไป”หวังหยวนเป็นคนยุติธรรมเสมอ เมื่อได้ยินคำพูดของหวังหยวน นักพรตเฒ่าชุดดำก็พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ก่อนหันหน้าไปทางอื่นอย่างดื้อรั้น และไม่ตอบคำถามของหวังหยวนเมื่อเห็นท่าทางแข็งขืนของเขา หวังหยวนจึงวางแผนที่จะทิ้งเขาไว้ที่นี่เพียงลำพังจากนั้นหวังหยวนก็ลุกขึ้นยืนพูดคุยกับเสวี่ยเชียนหลงและพี่ชิงอีสองสามคำ แล้วหันหลังเตรียมจะจากไปนักพรตเฒ่าชุดดำเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเขากำลังจะถูกทอดทิ้ง หวังหยวนจะไม่พาเขาไปด้วยอย่างแน่นอน และจะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆเชือกเหล่านี้ทายาพิษไว้ ร่างกายของเขาอ่อนแรงจนไม่สามารถขยับได้ หากมีสัตว์ป่ามาที่นี่แล้วกินเขา เขาก็ไม่สามารถต่อต้านได้เลยยิ่งไปกว่านั้น ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลง ซึ่งเป็นเวลาที่สัตว์ป่าออกหากิน“น่าเสียดายนัก ฝีมือยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ แต่สุดท้ายต้องกลับมาตายที่นี่ ช่างน่าเศร้าเสียจริง แต่เจ้าวางใจได้ เมื่อข้ากลับไป ข้าจะเล่าเรื่องการสละชีพอย่างกล้าหาญของเจ้าให้สำนักซานไว่ซานฟัง เจ้าไม่ต
“ท่านแน่ใจหรือว่าจะไม่ยอมบอกความจริง? หากท่านไม่ยอมบอก พวกข้าก็จะไม่คาดคั้น ข้อมูลเหล่านี้ข้าสามารถไปสืบหาเองได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องการให้โอกาสท่านเท่านั้น ท่านควรใช้โอกาสนี้ให้ดี”เมื่อเห็นว่านักพรตเฒ่าชุดดำไม่ยอมให้ความร่วมมือ หวังหยวนก็หันหลังทำท่าเตรียมจะจากไปทันทีนักพรตเฒ่าชุดดำรู้สึกตื่นตระหนก เขาถอนหายใจก่อนจะเปิดเผยความจริงออกมา“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเจ้าแต่แรกอยู่แล้ว ความจริงเป็นเช่นนี้ ตามข้อตกลงของเรา ไป๋ชิงชางควรจะฆ่าไป๋เฟยเฟยไปเสีย แต่ด้วยความที่เขาไม่กล้าลงมือ จึงได้กักขังน้องสาวของเขาไว้ และรับปากกับพวกข้าว่าจะไม่ปล่อยนางออกมาเด็ดขาด และสิ่งที่ไป๋เฟยเฟยรู้ก็จะไม่มีใครได้รู้อีก!”ไม่น่าเชื่อว่าคนจากซานไว่ซานจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ถึงกับจะให้ไป๋ชิงชางฆ่าน้องสาวของตัวเองได้ลงคอเรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร? พี่น้องทั้งสองคนรักใคร่กันมากเสมอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไป๋ชิงชางเลือกที่จะกักขังน้องสาวของตนไว้ในวังหลวงตลอดชีวิต แทนที่จะปล่อยให้นางตาย!มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ทนอยู่ยากลำบากก็ยังดีกว่าสิ้นลมแท้จริงแล้วหวังหยวนเคยไม่เข้าใจความหมายของคำกล่าวนี้ แต่บัดนี้เขาเข้าใจ
“ใต้เท้า ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้าทำไปเพียงเพื่อเอาตัวรอด จึงได้พูดเรื่องเหล่านั้นออกมา หากข้ารู้ว่าเรื่องเหล่านั้นจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อพวกพ้อง ข้าจะไม่กล้าพูดออกมาเด็ดขาด ขอใต้เท้าโปรดเมตตา ให้โอกาสข้าได้ชดเชยความผิดด้วยเถิดขอรับ!”นักพรตเฒ่าชุดดำพูดคำเหล่านี้ออกมาแบบไม่หยุดหายใจ แต่ในวินาทีต่อมา เลือดแดงฉานก็สาดกระเซ็นไปทั่วผู้เป็นหัวหน้าไม่คิดจะให้โอกาสเขาได้อธิบาย เพราะเขาได้ทรยศต่อพวกพ้องไปแล้ว จะไถ่โทษอย่างไรได้อีกหลังจากจัดการศพของนักพรตเฒ่าชุดดำแล้ว เป้าหมายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปที่หวังหยวนอีกครั้งหวังหยวนรู้เรื่องมากเกินไป จึงต้องฆ่าพวกเขาและจับตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนมาให้ได้!“พวกเจ้ายังยืนงงอยู่เพื่ออะไร? รีบไปจับตัวพวกเขากลับมาเดี๋ยวนี้ ฆ่าพวกผู้ชายทุกคนได้ แต่ต้องจับเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ กลับมา เข้าใจหรือไม่?”หัวหน้าไม่สนใจความปลอดภัยของผู้อื่น เขาต้องการเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เพราะเมื่อได้สตรีศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว พวกเขาจะมีไพ่ตายไว้ต่อกรกับเทียนไว่เทียนบัดนี้พวกเขาได้เปิดศึกกับเทียนไว่เทียนแล้ว และอีกฝ่ายก็รู้ถึงแผนการของพวกเขา